[ข่าวมาแรง] - สส.ก้าวไกล พร้อมติดตามคำสัญญา รบ. แก้ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว-ส้ม

สส.ก้าวไกล พร้อมติดตามคำสัญญา รบ. แก้ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว-ส้ม

<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-10-17 17:44</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ที่มา: ทีมสื่อพรรคก้าวไกล และ My Train Pix</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>"สุรเชษฐ์" สส.ก้าวไกล มองตัวชี้วัดความสำเร็จนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อยู่ที่การแก้ปัญหาสายสีเขียว และสายสีส้ม คอยติดตามคำสัญญารัฐบาล ขอเวลา 2 ปีทำ "ค่าโดยสารร่วม" หลากสี</p>
<p> </p>
<p>17 ต.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานวันนี้ (17 ต.ค.) สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีมติคณะรัฐมนตรีปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง จาก 14-42 บาท เป็น 14-20 บาท และสายสีแดง จาก 12-42 บาท เป็น 12-20 บาท เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.)</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53264673686_744b18e101_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ</span></p>
<p>โดยสุรเชษฐ์ ระบุว่า การปรับลดดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่และยังไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามที่รัฐบาลเคยหาเสียง ดำเนินการสำเร็จแล้ว เพราะตัวชี้วัดที่แท้จริงอยู่ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีส้ม ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขาดทุนของทั้ง 2 สายที่ขาดทุนอยู่แล้ว ให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณปีละ 267 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าไม่มาก เนื่องจาก 2 สายนี้ไม่ค่อยมีผู้ใช้บริการ</p>
<p>สุรเชษฐ์ อธิบายต่อไปว่า การลดราคาค่าโดยสารใน 2 สายนี้สามารถทำได้ง่าย เพราะเป็นของรัฐและก็เคยมีการลดค่าโดยสารแบบนี้มาแล้ว โดยสายสีม่วง เคยลดราคาให้เหลือสูงสุดไม่เกิน 20 บาทในช่วงวันที่ 25 ธ.ค. 2562 จนถึง 31 ม.ค. 2564 และสายสีแดงเคยให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในช่วง ก.ค. จนถึง 28 พ.ย. 2564 แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากปัญหาหลักอยู่ที่การเข้าถึงสถานี ซึ่งประชาชนเดินทางมาเชื่อมต่อกับสถานีได้ยากลำบากและแพงมาก</p>
<p>อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยคาดหวังจากการดำเนินนโยบาย 20 บาทตลอดสาย คือการนำมาใช้กับสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน เพราะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากที่สุด รวมถึงการทำให้เป็นระบบ "ค่าโดยสารร่วม" กรณีเดินทางข้ามสายและข้ามบริษัทผู้ให้บริการ เช่น ขึ้นสายสีเขียวแล้วไปต่อสายสีน้ำเงิน ให้ค่าโดยสารร่วมสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดเส้นทาง ซึ่งในประเด็นนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเคยกล่าวเอาไว้ว่าขอเวลา 2 ปี จะดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่หาเสียงไว้</p>
<p>สุรเชษฐ์ ยังกล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญที่สังคมควรจับตาคือกรณีสายสีเขียว และสายสีส้ม ซึ่งมีความพัวพันกับผลประโยชน์มหาศาล และเป็นปัญหาที่ค้างคามายาวนาน ดังที่ตนเคยได้อภิปรายไปเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 เพราะ 2 สายนี้คือแกนหลัก สายสีเขียวในแนวเหนือ-ใต้ และสายสีส้มในแนวตะวันตก-ตะวันออก ที่รถไฟฟ้าแทบทุกสายต้องไปเชื่อมต่อ</p>
<p>"ดังนั้น ตัวชี้วัดความสำเร็จของนโยบาย 20 บาทตลอดสายจึงอยู่ที่การแก้ปัญหาสายสีเขียวและสายสีส้ม ว่าจะเจรจากำหนดโครงสร้างค่าโดยสารร่วม 20 บาทตลอดทางได้จริงตามที่หาเสียงไว้หรือไม่" สุรเชษฐ์ กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข�https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>

https://prachatai.com/journal/2023/10/106394