พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม)
วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
ชื่อเดิมจรัญ จรรยารักษ์
เกิดวันพุธ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ตรงกับวันพุธที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ปีมะโรง เวลา ๐๗.๑๐ น. ณ ๑๕ บ้านตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
บิดาชื่อ
แพ จรรยารักษ์
อุปสมบท
วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีชวด ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พระครูพรหมจริยคุณ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมเฮง วัดพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ วัดพรหมบุรี เป็นอนุศาสนาจารย์
วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๔๘๗
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนสุวิทดารามาศ จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ. ๒๔๙๒
สอบไล่ได้นักธรรมโท ณ สำนักเรียนวัดแจ้งพรหมนคร อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี สามัญศึกษา
พ.ศ.๒๔๙๓
ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน กับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพธิ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
พ.ศ.๒๔๙๔
ศึกษาปฏิบิติธรรมฐาน กับหลวงพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ และท่านเจ้าคุณอริยคุณาธร (เส็ง ปุสโส) วัดเขาสวนกวาง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
พ.ศ.๒๔๙๕
ศึกษาทำเครื่องลางของขลัง น้ำมันมนต์ กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและ พระครูวินิจสุตคุณ (หลวงพ่อสนั่น) วัดเสาธงทอง จังหวัดอ่างทอง และ หลวงพ่อจาด วัดบ้างสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
พ.ศ.๒๔๙๖
ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน กับท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชย์พระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพ
พ.ศ.๒๔๙๘
ศึกษาพระอภิธรรม กับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) ณ วัดระฆัง กรุงเทพฯ
- ศึกษาการพยากรณ์ จากสมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ กรุงเทพฯ
- ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับ พ.อ.ชม สุคันธรัต
- เดินธุดงค์รอนแรมหาที่สงบ เพื่อจำศีลภาวนาตามป่าเขตลำเนาไพรทางภาคเหนือ (เป็นต้น)
สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๕๐๐
รักษาการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
พ.ศ.๒๕๐๑
ได้รับสมณศักดิ์เป็น ที่พระครูปลัดจรัญ ฐิตธมฺโม ในฐานานุกรมของท่านเจ้าคุณ สุนทรธรรมประพุทธ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๑
พ.ศ.๒๕๑๑
ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
พ.ศ.๒๕๑๖
เลื่อนเป็นพระครู เทียบผู้ช่วยพระอารามหลวงชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน
พ.ศ.๒๕๑๗
รักษาการตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ.๒๕๑๘
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมบุรี
พ.ศ.๒๕๑๙
ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.๒๕๒๕
ได้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก
พ.ศ.๒๕๓๑
ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระภาวนาวิสุทธิคุณ เมื่อวันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑
พ.ศ.๒๕๓๕
ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระราชสุทธิญาณมงคล เมื่อวันพุธที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕
พ.ศ.๒๕๔๑
ได้รับแต่งตั้งเป็น รองเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๑
พ.ศ.๒๕๔๒
ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒
พ.ศ.๒๕๔๕
ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระเทพสิงหบุราจารย์ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๔
ได้ประพันธ์หนังสือธรรมะไว้เป็นจำนวนมากเช่น
๑. แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา
๒. พัฒนามารยาท คำกลอนสอนจิต และมารยาท - ในสังคม
๓. หลักการฝึกสมาชิกเพื่อการศึกษา
๔. กรรม
๕. คำแนะนำเกี่ยวกับอาจาระ ของพระภิกษุสามเณร
๖. บทสวดมนต์
๗. อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ
๘. กรรม กับอดีตแห่งกาลมรณะ
๙. พระธรรมเทศนา
๑๐.ระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม
นับตั้งแต่ท่านได้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ จนกระทั่งได้รับ พระราชทานสมณศักดิ์ และมีสิทธิเข้าครองตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยสมบูรณ์เมื่อ ๕ ธ.ค. ๒๕๑๑ เป็นระยะเวลายาวนานถึง ๑๑ ปี แต่ท่านมิได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อบริหารงานวัดนี้และช่วยเหลือวัดอื่น ๆ ให้เจริญก้าวหน้ามีสิ่งอำนวยความสะดวก ให้เหมาะสมตามกาลสมัย
ท่านเข้าถึงจิตใจคน เป็นนักแสดง (เทศน์) ซาบซึ้งตรึงใจแก่ผู้ได้ฟังธรรม เป็นนักเสี่ยงในการก่อสร้างปฏิสังขรณ์ในเมื่อไม่มีทุนอยู่ในกำมือ เป็นนักเสียสละทรัพย์สินที่มีอยู่อุทิศเพื่อการกุศล และแจกเป็นทานให้ลูกศิษย์วัด ปัจจัย
นอกจากนั้นท่านเป็นนักแก้ปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยนิมนต์ภิกษุชาวต่างประเทศมาแสดงธรรมที่วัด แล้วนำจตุปัจจัยที่ได้ชดใช้หนี้โรงไม้ ร้านก่อสร้างต่าง ๆ บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องไปยืมเงินจากโยมมารดา หรือไม่ก็ญาติพี่น้องเป็นต้น ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์และวิปัสสนาจารย์พร้อมกันเสร็จดังนี้ ท่านจึงมีผลงานในทุก ๆ ปี มากมายจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปอาทิ
พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้รับโล่เกียรติคุณนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นในสาขาสังคมสงเคราะห์อาสาสมัครฝ่ายกิจการพระศาสนา
พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ กรุงเทพฯ วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ในฐานะผู้ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ด้านส่งเสริมชักชวนให้มาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้รับมอบเข็มเกียรติคุณนักพัฒนาดีเด่นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองจาก ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๒๙ จึงนับได้ว่า ท่านได้ทุ่มเทชีวิตในการพัฒนาสังคมให้เจริญรุ่งเรือง และเป็นที่พึ่งอันสำคัญแก่พุทธศาสนิกชนให้เขตท้องถิ่นทั้งใกล้และไกลมาเป็นเวลานาน
ที่มา : ฟังธรรม ดอท คอม