สา - ระ - ขัน คติธรรมในขำขัน คนใจร้อน - เอาเรื่องโจ๊ก..โจ๊ก..มาเล่า
หนุ่มเลือดร้อนเข้าไปนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ทันไรก็ตะโกนว่า "ทำไมยังไม่ยกก๋วยเตี๋ยวมาสักที จะให้รอถึงชาติหน้าหรือไง"
สักประเดี๋ยวเจ้าของร้านก็ออกมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวเต็มชาม แต่พอถึงโต๊ะพ่อหนุ่มก็เทก๋วยเตี๋ยวกองบนโต๊ะแล้วบอกว่า "ฉันต้องรีบใช้ชาม คุณเองก็รีบกินเข้า จะต้องรีบใช้โต๊ะ"
ชายหนุ่มเดือดดาลมาก กลับถึงบ้านก็เล่าให้ภรรยาฟังแล้วบอกว่า "ฉันเนี่ยโกรธตายเลย" ภรรยาได้ฟังดังนั้นก็รีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้วพูดว่า "เนื่องจากเธอตายแล้ว ฉันจะไปแต่งงานใหม่"
วันรุ่งขึ้นหลังจากภรรยาแต่งงานใหม่ เจ้าบ่าวคนใหม่ก็ขอหย่าโดยให้เหตุผลว่า "ก็เธอไม่ยอมมีลูกสักที" คนใจร้อนมักหงุดหงิดเวลาเจอคนที่ใจเย็น หรือเชื่องช้ากว่าตน แต่ลองได้เจอคนที่ใจร้อนและเร็วกว่าตน ก็จะรู้ว่ามันแย่กว่ามาก เวลาเราคาดคั้นเร่งรัดใคร เราไม่รู้ดอกว่าเราสร้างความทุกข์แก่เขาแค่ไหน ต่อเมื่อถูกคนอื่นคาดคั้นเอากับเราบ้าง จึงจะรู้ซึ้งแก่ใจว่าคนใจร้อนนั้นน่ารำคาญเพียงใด
ทุกวันนี้ใครต่อใครดูเร่งรีบกันไปหมด เพราะเราพากันเชิดชูบูชาความเร็ว จะทำอะไรต้องให้เสร็จไว ๆ ถ้าจะเปิดปุ๊บก็ต้องติดปั๊บ ถ้าจะกินกาแฟก็ต้องเป็นอินแสตนต์คอฟฟี่ ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเป็นมาม่าไวไวถึงจะถูกใจ แม้กระทั่งเวลาทำสมาธิ ก็อยากบรรลุในวันนี้วันพรุ่ง
เราต่างถูกสอนว่าเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง ดังนั้นจึงพยายามใช้เวลาอย่างประหยัดที่สุด ทุกอย่างต้องให้เสร็จในเวลาน้อยที่สุด จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น แต่น่าแปลกที่ว่ายิ่งรีบเท่าไร ยิ่งประหยัดเวลามากเท่าไร เวลาว่างกลับเหลือน้อยลง วันแล้ววันเล่า ชีวิตก็ยังยุ่งเหยิงตั้งแต่เช้ามืดจรดดึกดื่น
เป็นเพราะคอยไม่เป็น เราจึงเย็นไม่ได้เสียที นั่นยังไม่เท่าไรหากว่าคนอื่น ๆ ใจเย็นกว่าเรา แต่ถ้าคนรอบตัวล้วนใจร้อนพอ ๆ กัน โลกนี้ก็คือนรกดี ๆ นี่เอง
ลองช้าลงสักนิด เย็นลงสักหน่อย เราจะมีความสุขกว่านี้มาก อย่างน้อยตัวเราก็จะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ไม่เหมือนกับผู้จัดการในเรื่องข้างล่าง
จันทร์ต้นเดือนเริ่มด้วยความอลหม่าน ผู้จัดการเอียงคอหนีบหูโทรศัพท์ขณะสั่งงานเลขาฯ ส่วนมือก็กดแป้นคอมพิวเตอร์ไวเป็นระวิง ประเดี๋ยวก็รีบไปคว้าแฟ้มในตู้ พลิกเอกสารอย่างรวดเร็วแล้วกลับมาโทรศัพท์ต่อ ครั้นวางหูโทรศัพท์เสร็จก็สั่งงานเลขาฯ ต่อ ส่วนมือหนึ่งก็เปิดบัญชีขึ้นมาดู แต่ไม่ทันไรก็หยุด พร้อมส่ายตามองหาอะไรสักอย่างบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารกองสุ่มอยู่เต็ม ด้วยความหวังดี เลขาฯ จึงเอ่ยถามว่า
"หาอะไรอยู่หรือคะ เผื่อดิฉันจะช่วยหาได้"
"ดินสอของผมหายไปไหน"
"เหน็บอยู่ที่หูของท่านไงคะ"
"หูข้างไหนล่ะ บอกมาเร็ว ผมไม่มีเวลามากหรอกนะ"
ขอบคุณที่มา
http://www.fwdder.com/topic/275971