TripAdvisor เผย 10 อันดับเมืองยอดแย่ ที่เสี่ยงโดน "ล้วงกระเป๋า" ที่สุดในโลกเว็บไซต์ด้านการเดินทางท่องเที่ยว
TripAdvisor เผย 10 อันดับเมืองยอดแย่
ที่นักท่องเที่ยวมีความเสี่ยงเรื่องโดน "ล้วงกระเป๋า" มากที่สุดในโลก ผลสำรวจ
ดังกล่าวเกิดจากการลงความเห็นของบรรดานักท่องเที่ยวที่เคยตกเป็นเหยื่อ
ของพวกมิจฉาชีพขณะเดินทาง ซึ่งต่างก็ยกให้เมืองในแถบยุโรปครองแชมป์
ในเรื่องดังกล่าว และเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่ง
การ "ล้วงกระเป๋า" หรือไปเที่ยวแล้วมีโอกาสโดนล้วงกระเป๋ามากที่สุดในโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านดังอย่างถนน "ลา รัมบลา" ที่เหล่ามิจฉาชีพล้วนมี
ความชำนาญ และเป็นโจรมืออาชีพ ขณะที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือว่ามี
ความเสี่ยงเป็นอันดับสอง โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวชมน้ำพุเทรวี่ หรือมหาวิหารแพนธีออน
เว็บไซต์ดังกล่าวจึงออกมาเตือนว่า หากใครคิดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยัง 10 เมือง
ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ ควรระมัด ระวังตัวมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่
ท่ามกลางฝูงชน และ อย่ามัวชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวเพลินจนลืมระมัดระวังทรัพย์สินมีค่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องถ่ายรูป และกระเป๋าเงิน ที่สำคัญ อย่างหลงเชื่อพวก 18 มงกุฏ
ที่มักสร้างสถานการณ์หรือเบี่ยงเบนความสนใจของนักท่องเที่ยว เพราะทันทีที่ละสายตา
ออกจากกระเป๋าถือหรือตกหลุมพรางของพวกมิจฉาชีพ เงินทองของมีค่าอาจถูกสอยไป
โดยไม่รู้ตัว เหยื่อรายหนึ่งเล่าว่า วิธีที่มิจฉาชีพใช้กับตนขณะเที่ยวชมเมืองบัวโนส ไอเรส
ประเทศอาร์เจนตินา คือ การสร้างสถานการณ์เข้าใจว่ามีอึนก (สีเหมือนมัสตาร์ด) ตกลง
มาใส่ จากนั้นหนึ่งในมิจฉาชีพจะทำทีว่าเป็นเจ้าบ้านที่ดี ด้วยการเข้ามาประชิดตัวแล้วนำ
ผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดทำความสะอาดให้
สำหรับเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมีความเสี่ยง
เรื่องโดน "ล้วงกระเป๋า"มากที่สุดในโลก
อันดับที่ 10 เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม
อันดับที่ 9 กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
อันดับที่ 8 เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อันดับที่ 7 เมืองบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า
อันดับที่ 6 เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 5 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อันดับที่ 4 เมืองมาดริด ประเทศสเปน
อันดับที่ 3 เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
อันดับที่ 2 กรุงโรม ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 1 เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
เป็นไงกันบ้าง รู้แล้วว่าเมืองไหนประเทศไหนอันตรายก็อย่าลืมดูแลตัวเอง
อย่าเชื่อคำหลอกลวงต่างๆ จากคนแปลกหน้า
ที่มา
http://www.voicetv.co.th/