ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องที่มาของประเพณีการตักบาตรดอกไม้ให้ฟังก่อนนะคะ … มีเรื่องเล่าสืบมาจากพุทธตำนานว่า พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์ผู้ครองราชย์คฤห์ โปรดดอกมะลิมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ ทุกๆวันพระองค์จะได้รับดอกมะลิจากนายมาลาการวันละ 8 กำมือ
จนวันหนึ่งขณะที่นายมาลาการกำลังเก็บดอกมะลิเพื่อนำไปถวายพระเจ้าพิมพิสารตามปรกติ เขามองเห็นพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์จำนวนหนึ่งออกบิณฑบาต .. นายมาลาการจึงนำดอกมะลิที่เก็บได้ทั้ง 8 กำมือนั้น ถวายเป็นพุทธบูชา โดยไม่กลัวว่าจะต้องอาญา เพราะไม่มีดอกไม้ไปถวายพระราชาเช่นเคย
แต่ก่อนที่นายมาลาการจะถวายมะลิสด เขาได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า … สิ่งต่างๆที่พระราชาพระราชทานให้เขานั้น เป็นเพียงเพื่อเลี้ยงชีพตามสมควรในภพนี้ แต่การที่เขานำดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชาแก่องค์พระศาสดานั้น ให้ประโยชน์สูงสุดทั้งในภพนี้และภพหน้า .. แล้วหากเขาต้องถูกสั่งประหารชีวิต หรือต้องโทษเพราะไม่มีดอกไม้ไปถวายพระราชา เขาก็ยอม …
เมื่ออธิษฐานแล้ว จึงตักบาตรด้วยดอกมะลิดังตั้งใจ
เมื่อภรรยาของนายมาลาการรู้เรื่อง ก็กลัวว่าสามีจะต้องถูกลงโทษเพราะไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ แล้วตัวเองจะลำบากด้วย เลยทิ้งสามี และหนีออกจากบ้าน
แต่ …. เรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่ใครๆคิด … เพราะเมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบเรื่อง กลับพอพระราชหฤทัยมากในสิ่งที่นายมาลาการทำไป จึงพระราชทานบำเหน็จรางวัล ความดีความชอบให้นายมาลาการ เป็นสิ่งของต่างๆอย่างละ 8 คือ
ช้าง 8 เชือก ม้า 8 ตัว
ข้าทาสบริวาร 8 คน เครื่องประดับชุดใหญ่ 8 ชุด
กหาปณะ 8 พัน นารี 8 นาง
บ้านสวย 8 หลัง
ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของนายมาลาการดีขึ้น และมีแต่ความสุขด้วยอานิสงส์จากการนำดอกมะลิถวายบูชาพระพุทธเจ้าแทนการตักบาตร
… จากนั้น จึงมีประเพณีตักบาตรดอกไม้ต่อๆมา …
ในเมืองไทย … ชาวอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เป็นผู้นำประเพณีตักบาตรดอกไม้มาเผยแพร่ และทำเป็นประจำทุกปี โดยกำหนดเอาวันเข้าพรรษา หรือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เป็นวันประเพณีตักบาตรดอกไม้
เมื่อก่อนชาวบ้านจะนิยมเอาดอกไม้ที่ที่ออกดอกในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้นมาใส่บาตร เรียกกันว่าดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหิน … ลักษณะคล้ายดอกกระวาน หรือดอกขมิ้นชัน สูงประมาณ 1 คืบเศษๆ ดอกมีสีเหลือง สีขาว บางต้นก็มีสีม่วง จะขึ้นตามไหล่เขาในเขตอำเภอพระพุทธบาท คนส่วนใหญ่จะนิยมตักบาตรด้วยดอกเข้าพรรษาสีขาว เพราะหมายถึงความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา และสีเหลือง เพราะหมายถึงสีแห่งพระสงฆ์ สาวกแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าในหนึ่งดอกมีสีเหลืองกับสีขาวอยู่ในดอกเดียวกันจะเป็นการยิ่งดี โดยเฉพาะสีเหลืองแต้มสีขาวจะดียิ่งขึ้น
แต่ต่อมาประเพณีนี้เป็นที่แพร่หลาย ดอกไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ก็เลยมีการใช้ดอกไม้ต่างๆชนิดอื่นๆตามใจของผู้ทำบุญ
สำหรับในกรุงเทพ … เท่าที่ทราบก็มีวัดที่จัดประเพณีตักบาตรดอกไม้อยู่หลายวัด คือวัดราชบพิธ วัดบวรนิเวศน์วิหาร วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม และวัดพระรามเก้า กาญจนาภิเษก
สิ่งที่ควรเตรียมไปตักบาตรดอกไม้ … แน่นอนค่ะต้องมีดอกไม้ ธูป เทียน .. ดอกไม้จะจัดเป็นช่อๆพองาม หรือหากเป็นดอกไม้ดอกโตหน่อยก้านแข็งๆ ก็เตรียมเป็นดอกๆไป แต่จะเป็นแบบพวงมาลัยก็ได้ค่ะ พวงเล็กๆสวยงามดี
หากคนในบ้านช่วยกันเตรียม ช่วยกันจัด ช่วยกันร้อยดอกไม้มาทำบุญด้วยกัน ก็ยิ่งดีมากขึ้นค่ะ … เป็นการทำกิจกรรมของคนในครอบครัว เหมือนเมื่อสมัยเราเด็กๆที่เวลามีการทำบุญกันที่ไหน .. จะมีการนั่งล้อมวงกันจัดดอกไม้ พูดคุย ถามไถ่เรื่องราวต่างๆในชุมชน .. ได้ทั้งบุญกุศลและอัพเดทความเป็นไปในสังคมค่ะ
ทราบมาว่า ที่วัดราชบพิธ มีการจัดเตรียมดอกไม้ไว้ส่วนหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมดอกไม้มาเอง ทำบุญกับทางวัด แล้วรับดอกไม้ไปตักบาตรก็ได้ค่ะ รายได้จะได้มอบให้ทางวัดไปทั้งหมด
รอบๆพระอุโบสถ จะมีเก้าอี้ที่ทางวัดนำมาวางเรียงไว้รอบๆ สามารถเลือกมุมที่ชอบได้ค่ะ … ใครไปก่อนก็เลือกได้ก่อนนะคะ บางมุมก็เป็นที่หลบความร้อนจากแสงแดดได้ด้วย หากยังไม่แดดร่ม ลมยังไม่ตก
ขณะที่รอเวลาที่พระสงฆ์ยังไม่เดินลงมารับบิณฑบาต ก็อาจจะถือโอกาสเดินชมดอกไม้ของเพื่อนๆ และผู้คนที่นำมาตักบาตร เอาไว้เป็นไอเดียสำหรับเตรียมการปีต่อไปก็ได้ค่ะ
ในช่วงเย็นๆ .. เมื่อแดดร่ม ราว 5 โมงเย็น พระสงฆ์ที่จำพรรษาที่วัดราชบพิตรก็จะเดินแถวลงจากโบสถ์ออกรับบิณฑบาตดอกไม้ โดยมีหนุ่มๆเดินตามพระเณรแต่ละองค์ เพื่อช่วยถ่ายดอกไม้จากถุงย่ามของท่านใส่ในถัง
พระท่านจะเดินวนขวาไปตามทางรอบพระอุโบสถ … เมื่อใส่บาตรเสร็จก็ไปรอรับน้ำมนต์ที่หน้าพระอุโบสถ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
ดอกไม้ที่พระแต่ละรูปได้รับบิณฑบาต ท่านจะนำไปบูชาพระพุทธรูป และที่เก็บอัฐิของอดีตเจ้าอาวาสทั้งสี่องค์ แล้วค่อยกระจายไปตามกุฏิต่างๆจนหมด
พุทธศาสนิกชนเชื่อกันว่า การตักบาตรดอกไม้นอกจากจะทำให้เกิดความร่มเย็นในจิตใจ และความเป็นสิริมงคลของชีวิตแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน และช่วยอนุรักษ์ความเป็นไทยได้อีกวิธีหนึ่ง
หากมีโอกาสจึงอยากจะเชิญชวนให้ทุกท่านที่ยังอยู่ในกรุงเทพในช่วงเวลาเข้าพรรษา ไปร่วมกันตักบาตรดอกไม้ที่วัดด้วยค่ะ เชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านจะประทับใจกับบรรยากาศและภาพที่ได้เห็น … อิ่มใจ อิ่มบุญกลับไปพร้อมรอยยิ้ม .. พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าปีหน้าจะไม่พลาดแน่นอน
สำหรับผู้เขียน ปีนี้ต้องกลับบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานี … ทำให้ไม่มีโอกาสจะไปทำบุญตักบาตรดอกไม้ … แต่ก็หวังว่าจะได้เห็นภาพ พร้อมบทความจากเพื่อนๆที่ไปค่ะ … แล้วจะนำภาพบรรยากาศงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่อุบลราชธานีมาฝาก และอาจจะมีซีรีย์ยาวๆ (อีกแล้ว) มาให้อ่านกันค่ะ .. ติดตามนะคะ
NOTE : ทราบว่าการตักบาตรดอกไม้ที่วัดราชบพิธ ปกติจะมีพิธีในตอนเย็นก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน หากจะเดินทางไปร่วมทำบุญตักบาตรดอกไม้ที่วัด ก็ลองตรวจสอบวัน เวลาที่แน่นอนจากทางวัดด้วยนะคะ
ขอบคุณ … เนื้อความและภาพประกอบบางส่วนจากนิตยสารพลอยแกมเพชร
[/size]
Credit by :
http://www.oknation.net/blog/supawan/page21อนุโมทนาค่ะ