ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553 21:32:20 » |
|
HAARP(High Frequency Active Auroral Research Project) คืออะไร??
- HAARP คือศูนย์วิจัยไอโอโนสแฟร์ (ionosphere คือชั้นบรรยากาศช่วงที่อยู่ห่างระหว่าง 80-1000 กิโลเมตรจากพื้นผิวโลก) ในเมือง Gakona รัฐ Alaska ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัย Alaska, Massachusetts, Stanford, Penn State, Tulsa, Clemson, Maryland, Cornell, UCLA และ MIT ในการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อศึกษาคุณสมบัติการสะท้อน (resonant properties) ของโลกและชั้นบรรยากาศของโลก
HAARP ตั้งอยู่บนแนวคิดของนาย Bernard Eastlund เจ้าของสิทธิบัตรสามใบที่จดในอเมริกา ชื่อของสิทธิบัตรของเขาได้แก่: วิธีการและเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงบริเวณในชั้นบร รยากาศของโลก, วิธีการและเครื่องมือในการสร้างเครื่องเครื่องเร่งอิ เล็คตรอนไซโคลตรอน (electron cyclotron) ด้วยความร้อนพลาสมา, วิธีการผลิตอนุภาคสัมพัทธภาพ (relativistic particles) เหนือพื้นผิวโลก ซึ่งจริงๆแล้วทฤษฏีเหล่านี้ เป็นการค้นคว้าต่อจากทฤษฏีของนาย Nicola Tesla นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่โลกลืม ชาว Croatia แทบทั้งนั้น(และแล้วเราก็นอกเรื่องอีกจนได้)
มันคืออะไร?
มันคือโครงการณ์ลับของอเมริกาที่อเมริกาออกมาอ้างว่ามันคือเสาส่งกระแสไฟฟ้าหาคลื่นใต้ดินเพื่อหาแหล่งน้ำมันแต่รู้โดยทั่วไปว่ามันคืออาวุธทำลายล้างชนิดใหม่ที่บังคับสภาพดินฟ้าอากาศได้!!
หลักการคือยิงคลื่นแม่เหล็กหลาย พันล้านโวลต์ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ซึ่งส่งผลให้ชั้นบรรยากาศ บริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงและมีผลกับกระแสแม่เหล็กโลกจนทำให้เกิดพายุหรือแผ่นดินไหว!!
ที่มา board.upmaxclub.com/index.php?topic=27418.0 www.thaigaming.com/forward-mail/39041.htm รู้สึกว่ามันจะใช้การยิงเลเซอร์ ไปที่ไอออนบนท้องฟ้า โดยการยิงจาก ดาวเทียมที่โคจรรอบโลกน่ะครับ รู้สึกว่าอเมริกามันจะรู้ว่าการไปยุ่งเกี่ยวกับ ชั้นบรรยากาศโลกชั้นอะไรซักอย่างนี่แหละ ไอโอโนสเฟียร์มั้งครับ โดยการ ยิงเลเซอร์ไปยกชั้นบรรยากาศชั้นนั้นขึ้น มันส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้น่ะครับ นี่ก็เท่าที่รู้มาคร่าวๆน่ะครับ ตอนนี้กำลังค้นคว้าโครงการนี้มากกว่าอ่ะครับ เพราะรู้สึกว่าโครงการนี้ Project blue beam มันจะมีอะไรแอบแฝงไว้เยอะกว่าที่จะคาดคิด ไว้มากนะครับ อาทิ ในอนาคตอเมริกาจะใช้ศาสนาทำอะไรซักอย่างน่ะครับ แบบว่าใช้ดาวเทียมยิงเลเซอร์ไปบนท้องฟ้าเป็นรูปพระเจ้า พระเยซู หรือ พระเจ้าของชาวมุสลิม ทำให้มันดูน่าเชื่อถือ แล้วอาจใช้อาวุธสภาพอากาศ โจมตีโลก โดยให้พวกเราเข้าใจว่าเป็นการลงทัณฑ์จากพระเจ้า และอาจจะ ตั้งให้ที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้เป็นศูนย์กลางของมนุษยชาติ แล้วตั้งมนุษย์กลุ่มหนึ่ง ขึ้นมาปกครอง ซึ่งแน่นอนพวกรัฐบาลอเมริกันกับนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิจากทั่วโลก จากเหตุนี้เองทำให้การที่พวกนั้นจะทำการทดลองใดๆจะไม่มีการคัดค้านได้ ทำให้วิวัทนาการมนุษย์ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดได้สูง และนำมาซึ่งยุคอวกาศ แบบไวกว่าที่คิด เท่าที่รู้ก็แบบนี้แหละครับ พวกนั้นพยายามเชื่อมโยงศาสนามาใช้ เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ซึ่งเป็นไปได้มากๆว่ากำหนดการนั้นคือเดือนธันวาคม ในปี 2012 ครับ โปรดสังเกตุให้มองลึกๆครับ ช่วง 5 -6 ปีมานี้มีการฮือฮา เป็นอย่างมากถึงการทำนายจากทั่วทุกมุมโลกไม่เว้นแม้แต่ใบเบิ้ล(รหัสลับใบเบิ้ล) ว่าในปี2012นี้จะเกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่จนถึงขั้นมนุษย์อาจสูญพันธุ์เลยที่เดียวครับ ก็อยากให้ช่วยกันค้นคว้าข้อมูลนี้เยอะๆพร้อมทั้งช่วยอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบัน ไปด้วยอ่ะครับ ตอนนี้มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ทั้งดาร์คและไวท์กำลังพยายามรวบรวมข้อมูล มาเผยแพร่ต่อสาธารณะชนอยู่ครับ แต่ไม่ทราบว่ากำหนดลงในเว็ปไซต์ไหน ใครสนใจก็ช่วยๆกันนะครับ เรื่องนี้อาจใหญ่กว่าที่พวกเราจะทันคิดได้ซะอีกนะครับ บางทีกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว ที่มา โดย fernezzo
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มีนาคม 2554 23:38:48 โดย Mckaforce »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:03:39 » |
|
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบที่มา:กุญแจไขปริศนา?
นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีแกมม่า) นี้ได้ในบริเวณ ขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 5 ปีมาแล้ว และหลังจากเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ได้พบว่าปริมาณคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก ได้เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนความถี่ และความรุนแรง
ท้องฟ้าในบริเวณขั้วโลกเหนือที่ปกติมืดมิดตลอดเวลาในช่วงฤดูหนาว ปัจจุบัน กลับมีแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นประจำ "ขอบฟ้าถูกยกสูงเหมือนกับชูขึ้นด้วยมือของ พระเป็นเจ้า" นายเดวิดสันกล่าว เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแคนาดา ซึ่งประจำการอยู่ที่สถานีตรวจสอบอากาศเมืองเรซาลูด เบย์ ทวีปอาร์คติก
นักวิทยาศาสตร์หลายฝ่ายเชื่อว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับนี้ คือต้นเหตุของ ความวิปริตทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีงานวิจัยของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐที่พบว่า อิทธิพลรังสีแกมม่า สามารถทำให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน โลกเย็นลง ฝนกรดและการเกิดเมฆหมอกได้
ผลของงานวิจัยนี้ได้ถูกยืนยันอีกครั้ง โดยการค้นพบของทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมัน จากสภาบันนิวเคลียร์ฟิสิกส์แมกส์ แพลงค์ สถาบันเลื่องชี่อของโลกในปี 2545
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:05:23 » |
|
ไม่เพียงแต่รังสีแกมม่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทาง ภูมิอากาศเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานแม่เหล็กจึงส่งผลต่อ สนามแม่เหล็กโลก และอาจสามารถกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวหรือ ภูเขาไฟระเบิดได้อีกด้วย
ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ ประจำสภาบันภูมิฟิสิกส์ประเทศจอร์เจีย จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบเป็นเวลา 30 ปี จากปี 2501 - 2531 สรุปว่าปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็ก เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้น ให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงกว่า 6 ริกเตอร์ขึ้นไป
ในส่วนของจำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้นมากผิดปกติในปีที่แล้วก็เช่นกัน แม้จะยังไม่มี ผลงานวิจัยในด้านนี้อยู่เลยก็ตาม แต่นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกหลายคน ก็เริ่มตั้งข้อสันนิษฐานว่า มีความเป็นไปได้ที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจเกี่ยวข้องกับ จำนวนดาวตกที่เพิ่มขึ้น
คลื่นพลังงานแม่เหล็กเหล่านี้มาจากไหน?
ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึงที่มาของคลื่นพลังงานแม่เหล็กลึกลับ ซึ่งยังคงสร้าง ความวิปริตทางธรรมชาติทั่วโลกในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งคาดว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ น่าจะมาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา หรือดาวฤกษ์ ที่กำลังจะดับสูญชื่อ SN1987a เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างจากโลก 12,000 ล้านปีแสง เมื่อปี2530 การระเบิดครั้งนั้นถือเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในจักรวาล เป็นอันดับสอง รองจากการระเบิดที่เรียกว่าบิ้กแบงในปี2540
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:08:33 โดย ไอย »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:10:31 » |
|
"การระเบิดของดาว SN1987a ปลดปล่อยพลังงานอภิมหาศาล ในหนึ่งวินาที เทียบได้กับพลังงานของดาวฤกษ์ทั้งหมดในจักรวาลรวมกัน" สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ทั้งนี้คาดว่าโลกจะสามารถแลเห็นการระเบิดนี้ได้ก่อนปี2553
ทั้งนี้ ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกส่วนหนึ่ง ที่เชื่อว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าปริศนานี้ มีที่มาจากในโลกนี้เองและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ หลายฝ่ายชี้ชัด มายังอาวุธในโครงการของกองทัพสหรัฐที่มีชื่อว่าฮาร์พ(High Frequency Active Auroral Reseach Program) หรือ HAARP
ฮาร์พเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์การริเริ่มป้องกันทารทหาร ของกระทรวง กลาโหมสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการสตาร์วอร์ ฮาร์พถูกริเริ่มขึ้นในยุคของ ประธานาธิบดีเรแกน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อศึกษา "การใช้ไอโอโนสเฟีย (ชั้นบรรยากาศระดับสูง) เพื่อเป้าหมายของกระทรวงกลาโหม"
นายอีสแมน เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการนี้ กล่าวถึงฮาร์พว่า "สามารถรบกวนระบบโทรคมนาคมทั้งหมดในพื้นที่ขนาดใหญ่มากบนโลก... เบี่ยงเบนทิศทางหรือทำลายจรวดและเครื่องบิน... ปรับเปลี่ยนภูมิอากาศ..."
ดอกเตอร์เมกิช นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งที่ติดตามโครงการฮาร์พ อธิบายถึง การทำงานของอาวุธนี้ว่า ฮาร์พ "อาศัยเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุพลังมหาศาล เพื่อยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบน (ไอโอโนสเฟีย) ของโลกขึ้น โดยเล็ง พลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้นจนร้อน( หลอมละลาย จนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์ที่สามารถรับส่งคลื่นได้) จากนั้น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:12:00 » |
|
อะไรที่ชี้ว่าเทคโนโลยีในการบังคับดินฟ้าอากาศมีจริง
หลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด อยู่ที่การยอมรับเกี่ยวกับเทคโนโลยี ในการบังคับดินฟ้าอากาศ ของบุคคลสำคัญ สถาบันและองค์กร ชั้นนำระดับโลกต่างๆ อาทิเช่น เอกสารชื่อ "กองทัพอากาศสหรัฐ 2025" ที่ประกาศใช้ในปี 2539 ได้ระบุเป้าหมายในอนาคตของกองทัพอากาศสหรัฐว่า "การเปลี่ยนแปลง ดินฟ้าอากาศ จะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคง ทั้งในและระหว่าง ประเทศและสามารถกระทำได้แบบเอกภาคี... มันเป็นไปได้ทั้งเชิงการรุก และรับหรือกระทั่งในการข่มขู่ศัตรู... ความสามารถในการทำฝน หมอกและ พายุหรือเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก... และการสร้างดินฟ้า อากาศต่างๆ นี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีแบบบูรณาการ ซึ่งสร้างเสริม ศักยภาพให้กับสหรัฐหรือลดทอนศักยภาพของศัตรู..."
จริงอยู่ที่ข้อความข้างต้นนี้เป็นเพียงเป้าในอนาคต แต่ก็หมายถึงว่า ก่อนหน้า การประกาศ สหรัฐได้ทำเริ่มลงทุนพัฒนาและทดลองเทคโนโลยีการควบคุม ดินฟ้าอากาศ เป็นประจำมาเป็นเวลาช้านาน จนกว่าจะมั่นใจได้ว่าสามารบรรลุ ภาระกิจที่ตั้งไว้ได้
ปี 2539 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานคำพูดของนายวิเลียม โคเฮน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่กล่าวถึงการก่อการร้าย ณ มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ตอนหนึ่งมีใจความว่า "การป้องกันเกี่ยวกับอาวุธที่ไม่ธรรมดาจะต้องเพิ่มมากขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายพัฒนาอาวุธเคมีและเชื้อโรค และกรรมวิธีทางพลังงานแม่เหล็ก ที่สามารถเปิดรูโหว่ ในชั้นโอโซนหรือกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดได้"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:13:38 » |
|
เป็นไปได้หรือที่กลุ่มผู้ก่อการร้าย จะสามารถค้นคิดอาวุธร้ายแรงเหล่านี้ ได้ด้วยตัวเอง ? เพราะตลอดมาพวกเขามีศักยภาพเพียงการลอกเลียน และประยุกต์อาวุธขึ้นจากเทคโนโลยี ที่มีบรรดาประเทศมหาอำนาจได้ ค้นคิดพัฒนาและใช้การได้จริงแล้วทั้งสิ้น
ปี2544 วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอนาย เดนิส คูชินิชได้ เสนอร่างกฎหมาย เลขที่ HR2977 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธในอวกาศ ตอนหนึ่งของร่างนี้กล่าวถึง "อาวุธทางภูมิอากาศหรืออาวุธทางรอยเลื่อนของชั้นแผ่นดิน" เป็นไปได้หรือ ที่ผู้ที่เป็นถึงวุฒิสมาชิกสหรัฐ จะกล้าเสนอกฎหมายนี้หากปราศจากหลักฐาน ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธเหล่านี้
นอกจากบุกคลสำคัญและองค์กรของสหรัฐเองจะกล่าวถึงการพัฒนาและ ทดลอง อาวุธที่เปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศแล้ว บุคคลสำคัญและ องค์กร ในระดับโลกต่างๆก็ได้เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธนี้ด้วย
ที่ประชุมใหญ่องค์กรสหประชาชาติประจำปี 2540 ได้มีการลงนามใน อนุสัญญา "การห้ามใช้เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศเพื่อการทหาร และการรุกราน ที่สร้างผลกระทบที่กว้างขวาง ยาวนานและรุนแรง" ทั้งนี้ นิยามของ "เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ" หมายถึง "เทคโนโลยี ที่จงใจเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธรรมชาติ การเคลื่อนไหว องค์ประกอบ โครงสร้างของโลกรวมถึงชั้นบรรยากาศต่างๆหรืออวกาศ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:15:27 » |
|
หลักฐานที่ชี้ถึงแสนยานุภาพของฮาร์พ
ในปี 2546 สมาชิกของคณะกรรมาธิการถึงสี่คณะ ของสภาสูงสุด รัสเซียหรือสภาดูม่า และสมาชิกสภาทั้งหมด 90 ท่าน ได้ร่วมกันลงชื่อ ในรายงานเสนอต่อประธานาธิบดีวลาดีเมีย ปูติน องค์กรสหประชาชาติ และประเทศสมาชิก องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ผู้นำและรัฐสภาทุกประเทศ องค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและสื่อมวลชนชั้นนำของโลก เพื่อ เรียกร้องให้ประชาคมโลกมีมติห้ามสหรัฐทดลองอาวุธที่มีแสนยานุภาพสูงนี้ ในรายงานนี้ปรากฏข้อความดังนี้ "ภายใต้โครงการฮาร์พ สหรัฐกำลังสร้าง อาวุธใหม่ทางธรณีฟิสิกส์ ซึ่งอาจสามารถส่งอิทธิพลต่อชั้นบรรยากาศใกล้โลก ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง"
"แสนยานุภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้ อาจเปรียบเทียบได้กับการเปลี่ยนแปลง จากอาวุธมีคมสู่อาวุธปืน หรือจากอาวุธธรรมดาสู่อาวุธนิวเคลียร์"
รายงานนี้ยังระบุอีกว่าสหรัฐกำลังสร้างอาวุธฮาร์พนี้ในพื้นที่สามแห่ง แห่งแรก ที่รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา แห่งที่สองที่กรีนแลนด์และที่สามในประเทศนอร์เว ทั้งนี้สหรัฐเตรียมที่จะเริ่มทดลองอย่างเต็มที่ได้ตั้งแต่ต้นปี 2546
"เมื่ออุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศจาก อลาสก้า นอร์เวและกรีนแลนด์ ความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมายพร้อมกับอานุภาพอันมหัศจรรย์ จะนำไป สู่ความสามารถอันแท้จริงในควบคุมชั้นบรรยากาศใกล้โลก" รายงานของสภาดูม่าสรุป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:17:05 » |
|
ก่อนหน้านี้ในปี 2541 คณะกรรมมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ ความมั่นคงและนโยบายการทางทหาร ก็ได้เคยร้องเรียนต่อรัฐสภา สหภาพยุโรป จากกรณีที่สหรัฐปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ในการเปิดเผยข้อมูล และอนุญาตให้องค์กรอิสระนานาชาติ เข้าไปตรวจสอบโครงการฮาร์พ อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐสภายุโรปร่างสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วย ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมจากกิจกรรมทางการทหารอีกด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศว่า ปัจจุบันโครงการฮาร์พกำลังอยู่ในชั้นตอนสุดท้าย ของการขยายกำลังส่ง และคาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ให้ใช้การได้เต็มที่ ในราวปี 2549 (ปัจจุบัน แน่นอนคงใช้ได้อย่างเต็มที่แล้ว)
สรุป
ในวันนี้คงไม่มีประโยชน์อันใด ที่จะพยายามติดตามค้นหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุ ของวิปริตทางธรรมชาติ ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เชื่อว่า เป็นฝีมือของธรรมชาติ หรือฝั่งที่เชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า มวลมนุษยชาติกำลังจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ใหญ่หลวงในอนาคตอันใกล้นี้ แต่แน่นอนการคาดการณ์ของพวกเขาอาจะผิดก็ได้
สิ่งที่สังคมไทยน่าจะพิจารณาก็คือ ในอนาคตอันใกล้นี้ มีความเป็นไปได้ที่ สังคมไทยจะต้องเผชิญกับมหันตภัยทางธรรมชาติต่างๆ ที่รุนแรงและใหญ่หลวง เสียยิ่งกว่าคลื่นยักษ์สึนามิที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โอกาสที่ ประชาชนคนไทยจะต่อสู้จนได้รัฐบาลที่ดี พอที่เรียกได้ว่าพวกเขาคือตัวแทน ของพวกเรานั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย และต่อให้ความฝันนี้เป็นจริง พวกเขาก็มิอาจ ปกป้องช่วยเหลือพวกเราจากภัยพิบัติต่างๆเหล่านี้ได้เลย
ฉะนั้นวันนี้ การคิดแต่เพียงการต่อสู้ทางการเมืองจึงไม่เพียงพอเสียแล้ว เพื่อไม่ประมาท เราควรต้องเริ่มคิดอ่านเตรียมการ เพื่อความอยู่รอดของพวกเรากันเองด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 00:19:10 » |
|
มีเอกสารอีกมากมายที่ถูกแอบนํามาเปิดเผย ซึ่งทางกลุ่มของผู้อยู่เบื้องหลัง ไม่กังวลใจเท่าใดนัก เพราะเชื่อว่าผู้คนบนโลกที่ได้รับทราบเรื่องนี้ต้องไม่เชื่อ แล้วก็โทษฟ้าดิน โทษพระเจ้าไป ว่าทําให้เกิดภัยธรรมชาติ (หรือบางประเทศก็จะโทษเวรโทษกรรม) ทางกลุ่มจะสามารถดําเนินการต่อไปได้เรื่อยๆ
สรุป(เพิ่มเติม)
การดําเนินงานเป็นไปเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ของแผนการประเทศมหาอํานาจ เพื่อจะครอบครองและควบคุมจุดยุทธศาสตร์ต่างๆในโลกนี้ ในทางการเมือง การทหาร และโดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติ หรือแหล่งอาหารโลก จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ
การเกิดจะเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ และไม่เว้นแม้แต่ชาติตนเอง เช่น กรณีเฮอริเคนคาทริน่าที่เจาะจงเลือกนิวออร์ลีนให้ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นที่ที่มีคนผิวสีอยู่มากที่สุด การควบคุมจะเป็นไปโดยง่าย และประเทศอื่นๆก็จะค่อยๆได้รับผลกระทบต่อไป ซึ่งดูจากยุทธศาสตร์ทางการทหารอีกที จนกระทั่งถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะเกิดการ Last clear ขึ้น ระหว่างนี้ก็จะมีการ Propraganda ต่างๆทางสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวันสิ้นโลกไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่จะสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
ขณะนี้มีการวางตัวผู้จรรโลงโลกไว้แล้ว ซึ่งเป็นผลผลิตจากกระบวนการทางเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย ผมและคุณอาจจะได้เห็นบุคคลที่ perfect ในอนาคตนี้ เพื่อจะมาแทนที่ หลังการ big clear ซึ่งสามารถเข้ามาควบคุมโลกและปกครองโลกได้อย่างสบายๆ หลัง จากที่ขณะนี้มีกระบวนการ สร้างความเชื่อว่าจะมีผู้วิเศษปรากฏกาย หลังจากวันสิ้นโลก ค่อยๆดําเนินงานมาเรื่อยๆโดยอ้างจากคําทํานายใน ศาสนาต่างๆเช่น เมซซิอาห์ ในศาสนาคริสต์ นบีอิซา ในอิสลาม พระศรีอาริเมตไตร ในศาสนาพุทธ กัลกี-พระวิษณุ ในศาสนาฮินดู ฯลฯ ผู้จรรโลงโลกจะเข้าสวมแทนที่ได้อย่างทันท่วงทีหลังจากการดําเนินงานเสร็จ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:17:07 » |
|
7.0 ริกเตอร์ ที่ความลึก 10 กิโลเมตรใต้มหาสมุทรแปซิฟิก 7.9ริกเตอร์ของชิลี รอยเลื่อนซานแอนเดรียแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพาดผ่าน แอลเอและ ซานฟรานซิสโก ฮัมมาหลายเดือนก่อนหน้าซึนามิ นักธรณีวิทยาส่วนใหญ่แปลกใจที่ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขึ้นมาอยู่ ระดับผิวเปลือกโลกหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนซึนามิ มีแผ่นดินไหวใกล้ออสเตรเลีย และมีปลาวาฬเกยตื้นตาย ไปจำนวนมาก แผ่นดินไหวในอินโดเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ฝ่ายกบฎอาเจะห์ มาพร้อมๆกับอาฟเตอร์ช็อคที่ตอนเหนือของพม่าซึ่งน่าจะเป็นพื้นที่ของ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพม่าเช่นกัน(มีชิ้นส่วนด้านอวกาศของกลาโหมสหรัฐ ตกลงมาในพื้นที่ประเทศไทย)เกิดเป็นรูป3เหลี่ยม แผ่นดินไหวเปิดแผล เปลือกโลกในอินโดทั้ง 2 ลูกที่ระดับความลึก 40-30 กม.9.2 ริกเตอร์ ระดับความลึกของแผ่นดินไหวในย่านนี้ปรกติอยู่ที่ความลึก 60-70กม โดยข้อมูลจากนักธรณีวิทยาหลายทีมที่มาศึกษารอยเลื่อนเปลือกโลก บริเวณนี้อย่างต่อเนื่องหลายปี
การที่มีปลาวาฬเกยตื้นจำนวนมากมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดจาก สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือคลื่นโซนาร์ หลัง26ธ.ค.47 ปี2004 มีรายงานความเสียหายของเรือดำน้ำยูเอสเอสซานฟรานซิสโกว่า ”เกยตื้น”ในย่านแปซิฟิก ระบบนำร่องน้ำลึกเสียหาย ต้องขึ้นลอยเหนือน้ำ และมี”ลูกเรือเกิดอาการวิกลจริต”
ทำไมสหรัฐฯถึงส่งเรือรบเข้าไปคล้ายกับการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ ทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ของฝ่ายกบฎอาเจะห์ ส่วนสร้าง ความเสียหายให้ฝ่ายกบฎอาเจะห์เป็นอันมากจนต้องเจรจายุติการสู้รบ และทำไมผู้บัญชาการอาวุโสในอิรัก ต้องเดินทางไปที่นั่น
ส่วนออสเตรเลียก็มีการเข้าไปสำรวจแนวจุดเกิดเหตุในภาคพื้นมหาสมุทร ทวีปออสเตรเลีย มีอัตราการเคลื่อนที่มุดซ้อนเข้ามาที่เพลทยูเรเซียในระดับสูง มีการปะทะของเพลทอินโด-ออสเตรเลียกับเพลทยูเรเซีย ทำให้ขอบด้านเหนือ ของเพลทอินโด-ออสเตรเลียมุดลงใต้ขอบด้านใต้ของเพลทยูเร เซีย ตามแนวร่องลึกในทะเลอันดามัน และมีชายฝั่งทวีปออสเตรเลียบางด้าน เกิดการยกตัวขึ้นหลายสิบเมตร
>ศูนย์ต่างชาติแจ้งเตือนไปในประเทศที่อยู่ในเครือข่ายของตนเอง และอ้างว่าไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับประเทศที่อยู่ในแนวแผ่นดินไหวได้ ศูนย์สหรัฐได้แจ้งไปยังกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ฐานทัพเรือของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรอินเดีย แถบหมู่เกาะดิเอโก การ์เซีย ได้รับการแจ้งเตือนและ สามารถเอาตัวรอดได้อย่างไร้รอยขีดข่วน \”ทำไมชาวประมงในอินเดียศรีลังกา และประเทศไทย จึงไม่ได้รับการเตือนภัยในแบบเดียวกัน \”ออสเตรเลียพยายามเตือนไทยด้วยข้อมูลด้านแผ่นดินไหว แต่ผู้เชี่ยวชาญถูกชักเชิญไปสัมนาทีประจวบหมด
26ธ.ค.47เกิดที่ระดับความลึก 40ก.ม.และ 28มี.ค.48 เกิดที่ระดับ ความลึก30ก.ม..>แผ่นดินไหวทั้ง2ครั้งนี้ส่งผลให้ลดแรงสะสมต่อ รอยเลื่อนในแนววงแหวนไฟชายฝั่งด้านฝั่งทวีปอเมริกา แอลเอ แนวแคลิฟอร์เนีย ลดแรงสะสมลงและน่าจะลดแรงต้านในแนวแอตแลนติก ที่มีต่อทวีปอเมริกาและทวีปยุโรปด้วยแต่รอยเลื่อนแนวชายแดนไทยพม่า น่าจะเกิดแรงสะสมมากขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:20:46 » |
|
หลังซึนามิที่มีผลต่อผู้คนมหาศาล นิวซีแลนด์ก็ออกมายอมรับต่อชาวโลกว่าเป็นผู้จัดหาสารฝนเหลือง ให้สหรัฐในสงครามเวียดนาม
**ขณะนี้อินเดียติดต่อซื้อเทคโนโลยีด้านขุดเจาะจากรัสเซียแล้ว บริษัทรัสเซียที่อินเดียซื้อมายังติดศาลล้มละลายอยู่ทีสหรัฐ (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นยูแกนต์) บ.สัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ จากอเมริกาที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลว่าไทย มีน้ำมันอยู่เท่าไหร่
สำรวจประมาณปี2516 พบว่าไหล่ทวีปแถบอันดามันมีลักษณะ เป็นหน้าผา ถ้าได้รับการกระตุ้นหรือหน้าผาถล่ม จะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ได้ ปี2005 บริษัทขุดเจาะ สำรวจ ก๊าซ น้ำมัน ในแนวใกล้รอยเลื่อน ในเอเชียในหลายๆประเทศ ยูโนแคล ของอเมริกา ถูกปิด โดยมี ซีนูคบริษัทจีนทาบซื้อเทคโนโลยีด้านขุดเจาะจากบ.ยูโนแคล ในแคลิฟอร์เนีย และมีข้อมูลภูมิศาสตร์ในภูมิภาคนี้มากที่สุด ในราคา18,500 ล้านดอลลาร์ แต่สภาสหรัฐฯลงมติไม่ให้ รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขายบริษัทยูโนแคล ให้กับบริษัทต่างชาติจีน ด้วยปัญหาด้านความมั่นคง บริษัทเชฟรอนจึงซื้อยูโนแคลไปด้วย เงินสด+หุ้น ในราคาแค่ 16,300 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งเป็น ข้อที่ทำให้เกิดข้อสงสัยเป็นอันมากเนื่องจาก ยูโนแคลมีกำลัง การผลิตในอเมริกาเพียงวันละไม่ถึงหกหมื่นบาร์เรล ซึ่งนับว่าน้อยมาก ที่จะกระทบถึงความมั่นคง ประจวบกับสหรัฐมีกฎหมายฉบับนึง ที่สั่งห้ามการขุด เจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเอาไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สหรัฐมีการระมัดระวังการขุดเจาะที่อาจกระทบความมั่นคง เป็นอันมาก ยูโนแคลมีการขุดเจาะได้ลึกเร็วระดับสถิติโลก มีกิจการในอินโดนิเซีย ไทย พม่า บังกลาเทศ อาเซอร์ไบจาน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา และอีกหลายประเทศ
IBM ที่มีทั้ง HardwareและSoftwareด้านอุตุและฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ และญี่ปุ่นเคยทุ่มการลงทุนศึกษาเทคโนโลยีด้านการขุดเจาะแต่ไมสำเร็จ มาปีนี้จะทุ่มให้การศึกษากลไกของแผ่นดินไหวให้เป็น1ใน10อันดับแรก ที่จะต้องทำของประเทศ
สิงห์คโปร์และมาเลเซียก็เตรียมการเพื่อศึกษาด้านนี้แล้ว นักธรณีวิทยาด้านชั้นหินใต้ทวีปที่เก่งๆส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ สหรัฐมีเทคโนโลยีการเร่งอนุภาคนิวเคลียร์ที่นำหน้ายุโรปนับสิบปี เช่น Fermi Lab
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:24:46 » |
|
หลังซึนามิไม่นาน อิหร่านก็มีมีรายงานการจับกุมกล่มสายลับ ของสหรัฐได้และหลังจากนั้น ก็มีแผ่นดินไหวเกิดซ้ำที่อิหร่านอีก และที่กลางขั้วโลกเหนือก็มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอย่างผิดปรกติ และมีหิมะจำนวนมากกลายเป็นไอ เข้าใจว่าจะพยายามแก้ไข สภาพอากาศที่แปรปรวนในสหรัฐที่เกิดต่อเนื่องจากการที่ซึนามิ ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้แตกกระจาย แต่เกิดความชื้นสูงในอากาศโลก พร้อมเอื้อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในวงกว้างแทน
อาวุธสิ่งแวดล้อมมีการใช้ประโยชน์ จากทฤษฎีกายา และการเคลื่อนที่ของทวีป แผนทีโลกอันใหม่ เร่งสารละลายโลหะในแมกม่า หรือแกนโลก ด้วยสนามแม่เหล็กแรงสูงหรือไม่ >> ซึนามิระเบิดแผ่นดินไหว มันเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว26 ธันวาคม 2003 ที่เมืองบัมในอิหร่านพอดีซึ่งมีผู้เสียชีวิต 30,000 คน
การทดลอง อาวุธสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้ ด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กเรโซแนนซ์ผสมสนามไฟฟ้าเขย่าชั้นหินในระยะไกล หลายวันก่อนเกิดเหตุ มีเสียงระเบิดขึ้นกลางอากาศน่านฟ้าอินโดนีเชีย คล้ายเสียงอุกกาบาต โดยที่เรดาร์ไม่สามารถตรวจจับวัตถุได้
อเมริกาเป็นประเทศที่มีความลํ้าหน้าด้านเทคโนโลยีแผ่นดินไหว ประวัติศาตร์ธรณีวิทยา ข้อมูลและเทคโนโลยีการขุดเจาะแหล่งแร่และนํ้ามัน เรือดำน้ำ การทดลองระเบิดใต้ภิภพ Softwareจำลองแผ่นดินไหวและจำลองการเกิดคลื่น เทคโนโลยีนิวเคลียร์รูปแบบใหม่ที่สะอาดขึ้น เทคโนโลยีด้านพลังงานรูปแบบอื่นๆ รวมทั้งมีคลื่นดาวเทียม . จารกรรมวงโคจรตํ่าจำนวนมากและมีขนาดใหญ่พอที่จะบรรทุกอาวุธได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:28:29 » |
|
ช่วงที่สหรัฐทำการตกลงด้านความมั่นคงกับอินเดีย โดยมีอดีตประธานาธิบดี บุช ผู้พ่อ ไปร่วมพิธี ทั้งๆที่อินเดียไม่เข้าร่วมในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยาย อาวุธนิวเคลียร์นั้น ได้มีวัตถุดิบด้านนิวเคลียร์หายไปจากสถาบันในอินเดียจำนวนนึง
ก่อนหน้านี้1-2 ปี มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักวิทยาศาตร์-ธรณีวิทยา ที่บริเวณแนวรอยเลื่อนนี้มาก จนนักข่าวไทยรัฐนำไปลงหน้า5 เรื่องโอกาส ที่จะเกิดมีการพูดถึงการเตือนและตกใจอพยพครั้งก่อน และมีการถาม ไปยังกรมฯเรื่องมาตรการการระบบเตือนภัย ก็ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบาย คนในกรมฯคงจะติดตามข่าวแนวรอยเลื่อนนี้อยู่ แต่เพราะอยู่กลางทะเลลึก และถูกตัดงบที่ขอสำรวจร่องนี้หลายครั้งจึงN/A
ผลกระทบ 2 องศาของโลก ต่อเขตอากาศภูมิศาตร์กระแสน้ำโลก ความเร็ววงโคจรโลก ผลกระทบต่อดวงจันทร์ แนวแสงอาทิตย์ และแนววงโคจรของอุกาบาต งานนี้เป็นการเร่งแรงดันการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกให้เกิดแรงในเวลา และสถานที่ที่กำหนด ให้เกิดก่อนก่อนเวลา>>ก่อนเกิดเหตุไม่นาน มีความเคลื่อนไหวทางศาสนาพลังชีวิต กรีนการ์ด ลดงบองค์กรมูลนิธิ ความช่วยเหลือในพม่าขนคนไป US ผ่าน UN
อินโดนีเชียเป็นประเทศอิสลามขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ต้องบริโภคไก่ในราคาที่แพงขึ้น
กำหนดเวลานี้ชาว+Xที่เคร่ง ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในการโจมตีโดยใช้ธรรมชาติครั้งนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:30:38 » |
|
การโฆษณาโครงการพลังชีวิตในหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ก่อนหน้าซึนามิเพียงไม่นานพร้อมงบประมาณสำหรับซื้อโฆษณา และจ้างบ.คอลเซ็นเตอร์มหาศาล การที่ชาวสวีเดนซึ่งเป็นดินแดนที่ฟรี ไม่ได้รับการแจ้งเตือนภัยเฝ้าระวังการ ก่อการร้ายพร้อมคำแนะนำ ห้ามเดินทางมายังเอเชียในช่วงนั้นเหมือนประเทศอื่นๆ
ฝ่ายกบฎทมิฬในศรีลังกาได้รับความเสียหายจากซึนามิน้อยมาก เมื่อเทียบกับฝ่ายศรีลังกาซึ่งมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งอาจจะเป็นได้ว่าชาวทมิฬมีความคุ้นเคยกับท้องทะเล ซึ่งเป็น แหล่งทำมาหากิน หรืออาจเป็นได้ว่าได้รับการเตือนจากโครงข่าย คนของกลาโหมสหรัฐในนอร์เวย์ซึ่ง เป็นถิ่นที่ชาวทมิฬไปรับจ้าง แรงงานเป็นอันมาก แสดงให้เห็นความน่าจะเกี่ยวข้องของ คนในกลาโหมสหรัฐ กับองค์กรลับที่พยายามแทรกตัวในระบบของวาติกัน
1.อินโดนีเซียมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวติมอร์ 2.การก่อการร้ายวางระเบิดในบาหลีที่มีรายงานว่ามุ่งเป้าไปที่ชาวออสเตรเลีย 3.การจลาจลทำร้ายชาวคริสต์ และชาวจีน อาจจะเป็นกุญแจสาเหตุที่ทำให้มี การวางยุทธศาสตร์ต่ออินโดนีเซีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:33:14 » |
|
แกนโลก ฤดูกาล http://tasboard.piesoft.net/message.php?MsgCode=6044
การศึกษาใหม่พบว่าแกนโลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โครงการ Swarm http://www.foosci.com/node/219
2012 ดวงอาทิตย์พลิกกลับขั้วแม่เหล็ก แผ่นดินไหว พายุฟ้าผ่า พายุสุริยะ รังสีคอสมิก มะเร็งและคลื่นความร้อน สเถียรภาพการโคจรของโลก หายนะจากการเปลี่ยนทิศทางการหมุนของโลก http://seedang.com/stories/25684
สนามแม่เหล็กโลกในรัฐแคลิฟอร์เนียเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับสูง รัฐแคลิฟอร์เนียเผชิญพายุฟ้าผ่า ก่อให้เกิดไฟป่ากว่า 800 จุด 25/6/2008 มีรายงานว่าในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดพายุฟ้าผ่า เกือบ 8,000 ครั้งในพื้นที่ป่าแห้งผากทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย http://www.ch7.com/news/sbnews.aspx?NwType=03&SbType=00&SeqNo=52739 http://www.dek-d.com/board/view.php?id=941568
กำหนดการทดลองด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์ขององค์การร่วมยุโรป Cern
ญี่ปุ่นมีแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวว่าอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน ประมาณ 10 กิโลเมตรหลายครั้งแล้ว เช่นเดียวกับที่กรีซ และจีน เทคโนโลยีการขุดเจาะในระดับความลึก10 กิโลเมตรนี้ มีเพียงสหรัฐกับ นอร์เวย์ เท่านั้นที่ทำได้ แสดงให้เห็นว่า องค์กรที่อยู่เบื้องหลังกำลังเร่งมือ ปรับโมเมนตัมของเปลือกโลก ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับมุมจุดหมุนของแกนโลก สภาพอากาศและชั้นบรรยากาศ ซึ่งเคยมีรายงานในก่อนหน้านี้มาหลายปีแล้ว ว่าขั้วแม่เหล็กโลกมีการเคลื่อน ตัวค่อนข้างสูง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ ยุทธศาสตร์ ทางทหาร-อาวุธ-น้ำมัน-พลังงาน-เทคโนโลยี-ชีวภาพ-ยา- อาหาร-สิ่งแวดล้อม-เพลท- สภาพอากาศ-การเงิน-ค่าเงิน-กองทุน- ประกัน-อสังหาสหรัฐฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:36:04 » |
|
เขื่อน แรงกด เปลือกโลก โมเมนตัม ธนาคารโลก คนของสหรัฐ อัตราการละลายของน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย เอเชีย ทะเลสาบ จากน้ำแข็งละลายสะสม น้ำท่วม ความแห้งแล้ง การขาดน้ำ
มีโครงการที่จะทดลองในอวกาศ ลดมวลของดวงจันทร์ลง โดยการระเบิด ผิวดวงจันทร์ เพื่อเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ต่อแกนโลก
การควบคุมสภาพบรรยากาศ ตามหลักการแล้วคลื่นโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้แค่ทำให้อุ่นขึ้นได้ ทั้งน้ำ และสมองครับ โดยเฉพาะการใช้คลื่นความถี่ 2 คลื่นมาเรโซแนนซ์กัน ให้เกิดความถี่ย่านที่เกิด ความร้อนของน้ำ ก็จะเกิดความร้อนได้มากที่สุด แต่คงไม่ถึงกับทำให้น้ำเดือด และตามหลักการแล้วถ้าสามารถควบคุมระบบ IN ของค่ายโทรศัพท์มือถือได้สัก 2 ความถี่ก็น่าจะสามารถควบคุมสภาพอากาศได้ ในระดับนึง โดยส่งคลื่นติดต่อไปยังโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก ๆ พร้อม ๆ กัน ให้เกิดสนามความถี่ เขย่าความชื้นในอากาศให้อากาศอุ่นขึ้นเกิดการเคลื่อนลอยตัว ของสภาพอากาศ ในระดับที่ต้องการเพื่อดึงดูดหรือเหนี่ยวนำสภาพบรรยากาศใน บริเวณรอบข้างให้ เกิดการเคลื่อนตัวตามได้
การสร้างพายุด้วยคลื่นไมโครเวฟ
การเติมสารเคมีเพื่อเพิ่มขนาดความรุนแรงของพายุด้วยเครื่องบินสมรรถนะสูง
พม่าและจีนมีการละเมิดสิทธิมนุษชน อันเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้มีการดำเนินการโจมตีในทางยุทธศาสตร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:39:34 » |
|
แผนการควบคุมสภาพจิตใจ
Mind Map Patterns
แผนการเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจ
โนอาห์ รัฐบาลนอร์เวย์ และ โกลบอล คร็อป ไดเวอร์ซิตี้ ทรัสต์ องค์กรไม่แสวงหากำไร สร้าง สวาลบาร์ด โกลบอล ซี้ด วาลต์ (Svalbard Global Seed Vault) http://www.junjaowka.com/webboard/showthread.php?t=30206
7sector
โครงการไซด์คิก ออรอร่า ฮาร์พ สตาร์วอร์
HAARP http://www.nokkrob.org/index.php?&obj=forum.view(cat_id=wt-wt,id=50) http://at1.seedang.com/stories/25547
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6815328/X6815328.html
Re: China Earthquake caused by HAARP weapon 引发地震的证据 (The video's owner prevents external embedding)
ลมสุริยะ รังสีแกมม่า รูโหว่ในชั้นโอโซน ผลต่อสนามแม่เหล็กโลก ปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็ก กระตุ้นให้เกิด แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
ในที่ประชุมสาธารณสุขของประชาชนในเดือนธันวาคมปี 2000 ที่กรุงดาคา บังคลาเทศ ดร.โรซาลี เบอร์เทล ได้เปิดให้ผู้ฟังต้องตกใจและแทบไม่เชื่อว่า ? อาวุธล่าสุดของกองทัพสหรัฐคือโลกใบนี้เอง และอากาศจะเป็นหนึ่งในอาวุธ ทำลาย ร้ายแรงที่สุดในปี 2025?
ดร.เบอร์เทล กำลังอ้างถึงวิธีการที่แผ่นดินไหวและเกิดพายุทอร์นาโด ที่ถูกสร้างขึ้นสามารถ สร้างความหายนะให้แก่ประชาชนและชาติต่างๆได้อย่างไร ตามหนังสือของเธอ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า ? มีความสามารถที่จะส่งการระเบิด และผลกระทบอื่นๆ เช่น การก่อให้เกิดแผ่นดินไหวข้ามทวีปไปยังเป้าหมาย ที่ถูกคัดเลือกไว้บนโลกใบนี้ ได้ด้วยระดับพลังที่เท่ากับการระเบิดนิวเคลียร์ ครั้งใหญ่? การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำในการทดลองเปลี่ยนแปลงอากาศ คลื่นเหล่านี้สามารถผ่านเข้าไปยังผืนโลกที่แข็งและในมหาสมุทรและ ได้ถูกกองทัพใช้เพื่อตรวจสอบบรรยากาศเบื้องบนและโครงสร้างภายในของโลก คลื่นความถี่ต่ำเหล่านี้สามารถที่จะนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดผลทางด้านกลไกและ ความสั่นในระยะไกลทั่วโลก พวกเขาสามารถที่จะควบคุมอากาศ สร้างพายุและ ฝนตกหนักเหนือพื้นที่ใดก็ได้ลมสุริยะ รังสีแกมม่า รูโหว่ในชั้นโอโซน ผลต่อสนามแม่เหล็กโลก ปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็ก กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 20:19:33
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:43:07 » |
|
คลื่นเหล่านี้มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนของแผ่นดิน ? มันสามารถที่จะไปรบกวนภูเขาไฟและแผ่นเปลือกโลกซึ่งจะย้อนกลับมา มีผลต่อสภาพ อากาศได้? เธอกล่าว ตัวอย่างเช่น เป็นที่รู้กันว่าแผ่นดินไหว มีปฏิสัมพันธ์กับบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ (บรรยากาศที่อยู่สูงขึ้นไปจาก พื้นโลกประมาณ 50-373 ไมล์) ความจริงแล้ว แผ่นดินไหวหลายครั้งที่เกิดขึ้น ในปีหลังๆนี้เกิดขึ้นหลังจากปรากฏการณ์ บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้? ดร.เบอร์เทลกล่าว บางตัวอย่างในหนังสือของเธอมีทั้งแผ่นดินไหวที่ถังชานในจีน ซึ่งเกิดขึ้นใน วันที่ 28 กรกฎาคม 1976 และทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 650,000 คน เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนั้นเกิดขึ้น หลังการทดลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ เพื่อทำให้บรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นมาโดยสหภาพโซเวียต อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโก ดร.เบอร์เทลกล่าวว่า ในวันที่ 12 กันยายน 1989 มีการตรวจจับคลื่นอุลตราความถี่ต่ำได้ในแคลิฟอร์เนีย คลื่นเหล่านี้เพิ่มความแรงขึ้นและในที่สุดก็หายไปในวันที่ 5 ตุลาคม แต่ต่อมาใน วันที่ 17 ตุลาคมก็ปรากฏขึ้นอีกด้วยสัญญาณที่แรงจนเลยมาตรวัดไป หลังจากนั้น อีกสามชั่วโมงก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น
ความจริงแล้ว หนังสือพิมพ์วอชิงตันไทม์สในเดือนมีนาคม 1992 ได้กล่าวว่า ตัวเซนเซอร์ดาวเทียมและที่ภาคพื้นดินได้ตรวจจับคลื่นวิทยุลึกลับ หรือกิจกรรม ทางไฟฟ้าและแม่เหล็กได้ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนียนตอนใต้ อาร์มีเนีย ญี่ปุ่นและแคลิฟอร์เนียเหนือระหว่างปี 1986 และ 1989 แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในลอสแองเจลิสเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1994 ก็เกิดขึ้นหลังจาก ที่มีคลื่นวิทยุผิดปกติและเสียงโซนิกบูมสองครั้ง ?ความบังเอิญอันแปลกประหลาดเหล่านี้ ยังไม่ได้มีการอธิบายมันดูเหมือนมี ความเป็นไปได้อย่างสูงที่แผ่นดินไหวเหล่านี้บางครั้ง จะเกิดขึ้นจากการกระทำ ของมนุษย์ ไม่ใช่พลังทางธรรมชาติ? ดร.เบอร์เทล กล่าว
ในปี 1997 รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่องค์การ ก่อการร้าย ได้ข่มขู่ว่าจะใช้วิธีการแบบธรรมชาติที่พวกตนสามารถเปลี่ยนแปลง สภาพอากาศ การสร้างแผ่นดินไหวและการทำให้ภูเขาไฟระเบิดจากทางไกล โดยการใช้คลื่นแม่ เหล็กไฟฟ้า
วันที่ 1 ธันวาคม 2547 เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบแหล่งที่มา วัดความรุนแรง ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ไหลเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก ยังผลให้เกิดปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ กล่าวคือ ทำให้ พื้นที่กว่า 220,000 ตารางกิโลเมตรในประเทศจีนถูกหมอกหนาปกคลุมในวันถัดมา จนทำให้การคมนาคมแทบทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง และยังเกิดเหตุการณ์หมอกหนาจัด ปกคลุมพื้นที่มหาศาลขึ้นอีก 2 ครั้งในวันที่ 14 และ 21 เดือนเดียวกันในประเทศจีน และอินเดียตอนเหนืออีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:45:23 » |
|
ผลของพลังงานแม่เหล็กอันไม่ทราบที่มานี้ ยังส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ พิศดารอื่นๆอีกทั่วซีกโลกเหนือ เช่น เกิดลมพายุที่มีความรุนแรงเทียบเท่า พายุเฮอรีเคนในผรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ แคนาดา รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งส่งผลให้อุณหภูมิลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่อีกด้วย
เดือนสิงหาคมและกันยายน เฮอริเคนอเล็กซ์ ไอแวน ฟรานซิส ชาลี และ จีน เฮอริเคนถึงสี่ลูกกับอีกหนึ่ง พายุโซนร้อนได้ก่อตัวขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ในแถบแคริบเบียนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยังผลให้มีผู้คนหลายพันคน ใน 6 ประเทศต้องถึงแก่ชีวิตและอีกหลายแสนคนต้องปราศจากที่อยู่อาศัย
เดือนสิงหาคมที่จีน เกิดพายุไต้ฝุ่นรานามิน พายุที่มีความรุนแรงที่สุด ในรอบ 48 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิต164 คน บาดเจ็บกว่า1,800 คน และ คาดว่าถึงกว่า13 ล้านคนได้รับผลกระทบ
เพียงในระยะเวลา 5เดือนหลังของปีที่แล้ว มีรายงานการเห็นลูกไฟ อุกาบาตมากถึงกว่า 50 ครั้ง ทั่วโลก ในขณะที่สมาคมอุกาบาตของ สหรัฐระบุว่า แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเห็นลูกไฟอุกาบาต เกินกว่าเพียงปีละไม่กี่ครั้ง
หน้าร้อนปี 2547 ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นมากครั้งที่สุดเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยแล้วหนึ่งลูกทุกสัปดาห์ตลอดฤดูกาล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:47:45 » |
|
มีนาคม เป็นครั้งแรกที่มีพายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นในมหาสมุทร แอตแลนติกตอนใต้ ทำลายทฤษฎีที่เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด พายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นในบริเวณนี้ ด้วยลมพายุความเร็วถึง 150 กม./ชม. ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบคนในบราซิล นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ผิดธรรมชาติต่างๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นทั่วไป ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เช่น ร้อนที่สุด หนาวที่สุด ฝนตกมากที่สุด แล้งที่สุด ภูเขาไฟปะทุขึ้นพร้อมกัน แผ่นดินไหว ลมพายุรุนแรงฯลฯ
คลื่นพลังงานแม่เหล็กเหล่านี้มาจากไหน?
ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึงที่มาของคลื่นพลังงานแม่เหล็กลึกลับ ซึ่งยังคง สร้างความวิปริตทางธรรมชาติทั่วโลกในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่ง คาดว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ น่าจะมาจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา หรือดาวฤกษ์ที่กำลังจะดับสูญชื่อ SN1987a เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่าง จากโลก 12,000 ล้านปีแสง เมื่อปี2530 การระเบิดครั้งนั้นถือเป็น การระเบิดที่รุนแรงที่สุดในจักรวาล เป็นอันดับสองรองจากการระเบิด ที่เรียกว่าบิ้กแบงในปี2540
การระเบิดของดาว SN1987a ปลดปล่อยพลังงานอภิมหาศาลในหนึ่งวินาที เทียบได้กับพลังงานของดาวฤกษ์ทั้งหมดในจักรวาลรวมกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ทั้งนี้คาดว่าโลกจะสามารถแลเห็นการระเบิดนี้ ได้ก่อนปี2553
มีงานวิจัยของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐที่พบว่า อิทธิพลรังสีแกมม่า สามารถทำให้เกิดรูโหว่ในชั้นโอโซน โลกเย็นลง ฝนกรดและ การเกิดเมฆหมอกได้ผลของงานวิจัยนี้ได้ถูกยืนยันอีกครั้ง โดยการค้นพบของทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมัน จากสภาบันนิวเคลียร์ ฟิสิกส์แมกส์ แพลงค์ สถาบันเลื่องชี่อของโลกในปี 2545
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2553 13:50:48 » |
|
ไม่เพียงแต่รังสีแกมม่าน่าจะเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ทางภูมิอากาศ เท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานแม่เหล็ก จึงส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก และอาจสามารถกระตุ้นให้เกิด แผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดได้อีกด้วย
ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ ประจำสภาบันภูมิฟิสิกส์ ประเทศจอร์เจีย จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบเป็นเวลา 30 ปี จากปี 2501 สรุปว่าปฏิกิริยาระหว่างโลกกับสนามพลังงานแม่เหล็ก เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงกว่า 6 ริกเตอร์ขึ้นไป อาวุธในโครงการของกองทัพสหรัฐที่มีชื่อว่าฮาร์พ (High Frequency Active Auroral Reseach Program) หรือ HAARP
ฮาร์พเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์การริเริ่มป้องกันทารทหารของ กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการสตาร์วอร์ ฮาร์พถูกริเริ่มขึ้นในยุคของประธานาธิบดีเรแกน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อศึกษา การใช้ไอโอโนสเฟีย (ชั้นบรรยากาศระดับสูง) เพื่อเป้าหมายของกระทรวงกลาโหม
นายอีสแมน เจ้าของลิขสิทธิ์เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการนี้ กล่าวถึงฮาร์พว่า สามารถรบกวนระบบโทรคมนาคมทั้งหมดในพื้นที่ขนาดใหญ่มากบนโลก เบี่ยงเบนทิศทางหรือทำลายจรวดและเครื่องบิน ปรับเปลี่ยนภูมิอากาศ
ดอกเตอร์เมกิช นักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งที่ติดตามโครงการฮาร์พ อธิบายถึงการทำงานของอาวุธนี้ว่า ฮาร์พ อาศัยเทคโนโลยีการส่ง คลื่นวิทยุพลังมหาศาล เพื่อยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบน (ไอโอโนสเฟีย) ของโลกขึ้น โดยเล็งพลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้น จนร้อน( หลอมละลายจนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์ที่สามารถ รับส่งคลื่นได้) จากนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและ ทะลุทะลวงทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...