[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 15:10:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 2 [3] 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตัวเลขและเหตุการณ์สำคัญของอิสราเอล คาดการณ์วาระสิ้นโลก คศ.2017  (อ่าน 65223 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 19:57:51 »


ตัวเลขและเหตุการณ์สำคัญของอิสราเอล คาดการณ์วาระสิ้นโลก คศ.2017

ทฤษฏีทั้งหมดที่นำเสนอนี้ เป็นเพียงการวิเคราะห์ทางตัวเลขเพือหาความสัมพันธ์
ทางตัวเลขระหว่างพระเจ้า กับอิสราเอล
ด้วยที่ว่าพระเจ้าในพระคัมภีร์ทรงเป็นพระเจ้าของอิสราเอล(และของคนทุกชาติ)
คงต้องมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกันได้
ถ้าจะใช้คำว่า "แม้วเก้าชีวิต" กับอิสราเอลนั้นก็คงถูกเพียงเสี้ยวเดียว
ที่ถูกมากกว่าน่าจะเป็น "แมวอมตะ" มากกว่า นอกจากนั้นอิสราเอล
ประเทศเล็ก ๆ หรือเล็กมากก็เหมือนหนามเสี้ยนตำโลกนี้ก็ว่าได้
เพราะอยู่ในจุดที่ส่งผลทำให้โลกทั้งหมดนี้สั่นสะเทือนได้
เรามาเริ่มกันเลย แบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ ของทฤษฏีวิเคราะห์นี้

ส่วนที่ 1 ตัวเลขปีของเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับอิสราเอล
1. 1897
หรือ ปีแห่งการประชุมเพื่อริเริ่มขบวนการไซออนนิสต์หรือ
ขบวนการกู้ชาติอิสราเอลนั่นเอง
2. 1917
หรือ ปีที่นายพล Allenby ของอังกฤษได้ยกพล
บุกยึดเยรูซาเล็มได้
บันทึกการเข้า
 
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:15:59 »


Rapture” คือการรับผู้เชื่อตัวจริงหรือเจ้าสาวของพระคริสต์ (มัธทิว 24:40-41)
(มัธทิว 25:1-11) ออกไปจากโลกก่อนการพิพากษาโลกและน่าจะเกิด
ในวันสะบาโต ดั่งที่พระเจ้ารับเอโนคขึ้นไปสวรรค์ก่อนน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์
(ปฐมกาล 5:24) (ฮีบรู 10:5) ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีที่แสดงให้เห็น
มี 4 ความเห็นในเรื่องนี้คือ

1. Rapture ก่อน 7 ปี
2. Rapture ก่อน 3 ½ ปี
3. มีทั้งสองช่วง
4. ไม่มี Rapture

ถ้าหากมี ผู้เชื่อที่ไม่ถูก Rapture ไปก็คือ “Left Behind” ที่ต้องเผชิญ
กลียุคไปตลอดจนครบวาระ หลังจาก Rapture จะเกิดภัยธรรมชาติและ
สงครามใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่กำเนิดโลกมาอย่าง “ทันที”
โดยที่คนในโลกไม่ทันตั้งตัวเพราะเขาคิดว่าสงบสุขแล้ว (ลูกา 17:26-30)
พร้อม ๆ กับ Anti-Christ ที่มีอำนาจปกครองโลกจะปรากฎตัว (Anti-Christ
ในความหมายปกติคือผู้ที่ปฏิเสธการไถ่บาปที่กางเขนของพระเมสิยาห์)
วันและเวลา Rapture นั้นยังไม่รู้จริงและเกิดแบบชั่วพริบตา (1 โครินธ์ 15:52)
ซึ่งในความจริงแล้วพระคัมภีร์ มัธทิว 24:36 ตอนนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ Rapture
ไม่ใช่การกลับมาครั้งที่ 2 เพื่อพิพากษาโลกหรือสิ้นสุดโลก ส่วนการทำนาย
ลงลึกในรายละเอียดกว่านี้จะไม่ขอกล่าวถึง แต่ให้ท่านสังเกตได้จากช่วงสะบาโต
และเทศกาลของยิวที่สำคัญเป็นหลัก เพราะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่คำพยากรณ์ต่าง ๆ
จะต้องสำเร็จในช่วงเทศกาลสำคัญเหล่านี้ (ไม่สำเร็จก่อนหรือหลัง)


           http://i617.photobucket.com/albums/tt252/aiandyai/yodam.jpg
ตัวเลขและเหตุการณ์สำคัญของอิสราเอล คาดการณ์วาระสิ้นโลก คศ.2017


หากท่านต้องการบทความนี้ในแบบไฟล์ pdf
เป็นเล่มสมบูรณ์แบบ ติดต่อขอมาที่

jesuscomingthailand@gmail.com

 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 1:04:03 น. 
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:21:08 »


เกร็ดความรู้เทศกาล (Feasts) และวันสำคัญของชาวยิว
เพื่อการพยากรณ์อนาคต

เทศกาลที่สำคัญเหล่านี้ นอกจากจะมีความหมายในเชิงจิตวิญญาณแล้ว
ยังมีความหมายในด้านการพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญในอนาคตที่จะ
เกิดขึ้นด้วย เช่น การ Rapture การพิพากษาโลก การกลับมาของพระคริสต์ ฯลฯ

1. The Feast of Trumpets (เทศกาลระลึกด้วยเสียงแตร)

เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร ซึ่งแตรนี้ทำจาก
เขาแกะตัวผู้ อ้างอิงจากพระคัมภีร์ที่มี เช่น (เลวีนิติ 23:24) (กันดารวิถี 29:1)
เริ่มในวัน 1 เดือนที่ 7 เป็นที่รู้กันอีกชื่อหนึ่ง คือวันศักดิ์สิทธิ์ของยิวที่เรียกว่า
วัน “Rosh Hashanah” ในการตีความแบบยิวก็เรียกวันพิพากษา
"The Day of Judgment" (Yom ha-Din) หรือวันแห่งการระลึก
"The Day of Remembrance" (Yom ha-Zikkaron) เทศกาลฉลองนี้
เป็นเหมือนหมายสำคัญแห่งช่วงปลายยุคก็ว่าได้ โดยเฉพาะสำหรับการทำนาย
คำพยากรณ์ และเชื่อว่าเป็นวันฉลองเพื่อเริ่มชนชาติ เริ่มปักเขตแดนอาณาเขต
หรือเป็นวันปีใหม่ของยิวก็ได้
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:22:56 »



วันนี้ตรงกับวันแรกของเดือน Tishrei และตรงกับเดือนกันยายนหรือ
ตุลาคมตามปฏิทินสมัยใหม่ จะมีการฉลองไปยาวถึง 2 วันตามปฏิทินฮีบรู
วันในปฏิทินฮีบรูจะเริ่มเมื่อพระอาทิตย์ตกดินซึ่ง Rosh Hashanah
จะเริ่มเมื่อพระอาทิตย์ ตกดินของสิ้นวันที่ 29 ในเดือน Elul หลายคน
เชื่อว่านี้คือวันแห่งพระผู้เป็นเจ้า "The Day of the LORD" (โยเอล 2)
คือวันเริ่มต้นเทการพิพากษาสู่โลก และเป็นวันเป่าแตรเพื่อรับผู้เชื่อหรือ
Rapture ไปด้วยซึ่ง Rosh Hashanah มีอีกชื่อหนึ่งว่า Yom HaKeseh
หมายถึงวันแห่งการหลบซ่อน "The Day of the Hiding" หรือ
"The Hidden Day" และเริ่มต้น กลียุคแห่ง 7 ปีสุดท้ายตามที่พยากรณ์ไว้
(ดาเนียล 9:27) วัน Rosh Hashanash ที่จะเกิดขึ้นอีกที่ตรงกับ
ปฏิทินปกติ (Gregorian calendar) มีดังนี้

ปียิว 5771 : จากพระอาทิตย์ตกดิน 8 กันยายน 2010 ถึง หัวค่ำ 10 กันยายน 2010
ปียิว 5772 : จากพระอาทิตย์ตกดิน 28 กันยายน 2011 ถึง หัวค่ำ 30 กันยายน 2011
ปียิว 5773 : จากพระอาทิตย์ตกดิน 16 กันยายน 2012 ถึง หัวค่ำ 18 กันยายน 2012
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:25:00 »


2. Day of Atonement (Yom Kippur)

ถือว่าเป็นวันบริสุทธิ์ที่สุดของชาวยิว งานเกือบทุกประเภทถูกห้ามทำ
มีศูนย์กลางที่การชำระชดเชยและกลับใจจากบาป (เลวีนิติ 16:29,23:27)
เป็นวันที่ต้องสารภาพบาปและแก้ไขตนเอง คือวันที่ 10 ของเดือน Tishrei
งานฉลองเริ่มเมื่อพระอาทิตย์ตกดินจนถึงหัวค่ำของวันถัดไป เริ่มต้นด้วย
การสวดมนต์ก่อนหัวค่ำ เมื่อสิ้นสุดก็จะทำการเป่าแตร หรือนับจากวัน
Rosh Hashanah จะมาสิ้นสุดที่ Yom Kippur และถือว่าเป็นวันที่โมเสส
ได้รับบัญญัติสิบประการในครั้งที่สอง ภายหลังจากครบ 40 วันที่รับพระบัญญัติ
จากพระเจ้า และเป็นวันหยุดตามกฎหมายของอิสราเอลในปัจจุบัน

3. Feasts of Tabernacles (เทศกาลอยู่เพิงถวาย)

หรือ Feast of Booths หรือ “Sukkot” คำว่า Sukkot เป็นพหูพจน์ของ
คำว่า Sukkah หมายถึงเพิง อ้างอิงจากพระคัมภีร์ที่มี เช่น (เลวีนิติ 23:34)
(เฉลยธรรมบัญญัติ 16:13) (เศคาริยาห์ 14:16-19) (ยอห์น 7:2)
(เนหะมีย์ 8:14) เพื่อระลึกถึงครั้งที่ได้ออกจากอียิปต์อพยพไปในถิ่นทุรกันดาร
 เริ่มในวันที่ 15 เดือน 7 เป็นการอยู่เพิงถวาย 7 วัน หลังสิ้นสุดเทศกาลจะ
ตามมาด้วยวันที่ 8 ที่เป็นวันอันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “The Eighth Day”
(เลวีนิติ 23:36-39) (ยอห์น 7:37) เป็นวันประชุมอันบริสุทธิ์
วันนี้เริ่มในวันที่ 15 ของเดือน Tishrei ในปฏิทินฮีบรูซึ่งตรงกับเดือนตุลาคม
เป็นเทศกาลวันหยุดที่ยาวนานที่สุด และคาดว่าน่าจะเป็นช่วงวันเกิดที่แท้จริง
ของพระคริสต์ คริสเตียนบางกลุ่มเชื่อว่าพระคริสต์ได้ทรงทำการรักษาถือ
เทศกาลนี้ด้วย (ยอห์น 7:8-26) เพราะพระคริสต์ไม่ได้มาเพื่อล้มเลิก
ธรรมบัญญัติ (มัทธิว 5:17-19)
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:26:58 »


มีช่วงระหว่าง Rosh Hashanah ถึง Yom Kippur คือ 10 วัน
ซึ่งน่าจะเกี่ยวพันกับใน วิวรณ์ 2:10 คือช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก
เราตั้งข้อสังเกตุได้ว่ามีช่วงเวลา Rosh Hashanah หรือเป่าแตร 2 วัน
กับอีกหนึ่งวันของ Yom Kippur ที่เหลืออีก 7 วันก็คือช่วงแห่งความยากลำบาก
ลองเปรียบเทียบภาพในพระคัมภีร์เหล่านี้คือ ปฐมกาล 29:22-28 และ
ผู้วินิจฉัย 14 และ วิวรณ์ 19 ที่กล่าวถึงเรื่องเจ้าสาวและการสมรส
ในพิธีสมรสของชาวยิวจะมีสัปดาห์ของเจ้าสาว “Bridal week” ซึ่งเจ้าบ่าว
จะมารับตัวเจ้าสาวแยกตัวไปอยู่ในห้องเฉพาะเป็นส่วนตัว และเจ้าบ่าวจะมารับ
เจ้าสาวไปยังบ้านของบิดาเจ้าบ่าวโดยไม่บอกล่วงหน้าให้รู้วันเวลาที่แน่นอนด้วย
พระคัมภีร์ที่ให้เปรียบเทียบกันนี้กล่าวถึงงานเลี้ยงและความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น
พร้อมกันในช่วง 7 ปี ในเวลาที่มีงานเลี้ยงฉลองสมรสก็มีความทุกข์ยากด้วย

The Feast of Trumpets จึงเป็นเหมือนการมารับเจ้าสาวของพระเมสิยาห์
ไปจากโลกในขณะที่บนโลกจะเกิดกลียุคเวทนาพร้อมกันด้วยเป็นเวลา 7 สัปดาห์
หรือเป็นเวลา 7 สัปดาห์ของงานมงคลสมรส การพิพากษานั้นไม่ได้มีไว้เพื่อ
เจ้าสาวของพระเมสิยาห์แต่มีไว้สำหรับผู้ไม่กลับใจหรือเจ้าสาวที่ไม่พร้อมจะ
ถูกรับไป ความคิดที่ว่าคริสตจักรทั้งหมดต้องผ่านกลียุคไปจนวาระสุดท้ายนั้น
จึงน่าจะเข้าใจผิด หรือที่ว่าพระเจ้าจะปกป้องผู้ที่เป็นเจ้าสาวแท้จริงของพระเมสิยาห์
ในช่วง กลียุคโดยไม่มีการรับออกไป (Rapture) แต่ให้อยู่ในโลกต่อไปจนสิ้นสุด
ก็ดูขัดกับธรรมเนียมของชาวยิวและข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวมา ซึ่งไม่มีเหตุผลที่เจ้าสาว
จะต้องแยกตัวออกไปจากคนอื่น ๆ เพื่อไปอยู่ในที่เฉพาะเช่นนั้น

Day of Atonement ความหมายแท้จริงก็ไม่ใช่เวลาแห่งการทดสอบผู้เชื่อที่เป็น
เจ้าสาวที่พร้อมเข้าพิธีงานเลี้ยงสมรสของพระเมสิยาห์อีกต่อไป แต่เป็นเวลาแห่ง
การพิพากษาไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าสาวของพระเมสิยาห์ต้องทนอยู่มีส่วนร่วมใน
การพิพากษานี้ด้วย เพราะจุดประสงค์และวิธีการต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือ
Rapture เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง


Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:40:09 »


นิมิตรเหตุการณ์วันสิ้นโลกโดย ซาร่า ฮอฟแมน


ก็ขอนำเสนอโดยเทียบกับต้นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจที่สมบูรณ์
และมีขยายความเพิ่มบางส่วนเพื่อความเข้าใจ อาจแปลไม่ตรงบ้าง

Tuesday, March 14, 2006
Vision of the End of the World
เขียนเมื่อ วันที่ 14 มีนาคม 2006 นิมิตรของวันสิ้นโลก

Sarah Hoffman committed suicide in 1979 and was told
she had to come back and finish her earth life but first
she was shown the end of the world…
ซาร่า ออฟแมน ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อปี 1979 (แต่ไม่สำเร็จ)
เธอกล่าวว่าเธอจำต้องฟื้นกลับขึ้นมาและทำบางสิ่งในชีวิตให้สำเร็จ แต่สิ่งแรกก็คือ
เธอได้รับการสำแดงเกี่ยวกับวาระสิ้นโลก (หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม
คนที่คิดฆ่าตัวตายอย่าง ซาร่า ถึงได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ได้เห็นนิมิตร
พระเจ้าทรงมีหนทางในแบบที่เราไม่อาจคาดคิดได้ ดังตัวอย่างหลาย ๆ ตอน
ในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าไม่ได้เลือกคนที่เราคิดว่าดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ)

This panoramic view of the earth came into view and then
came closer and closer like I had been out into space and
was flying towards it.

ต่อไปนี้คือภาพมุมกว้างของโลกที่ข้าพเจ้าเห็นจากมุมกว้างและแคบใกล้
เข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนกับเราอยู่นอกโลก ในอวกาศและกำลังบินเข้ามาใกล้โลก
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:42:08 »


I knew that this was to help me make my decision
to go back to earth, to my terrible life, because part
of me wanted to go back to the beautiful spirit world
or paradise and part of me felt the need to go back
into my body and change my life. It was kind of a tug
of war and what I was going to see was to help me ี
understand what I would go through if I went back
into my clay body.

ข้าพเจ้ารู้ว่านี้คือสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องตัดสินใจกลับมายังโลก(ฟื้นขึ้นมา)
กลับมาสู่ชีวิตที่น่าระทมอีกครั้ง ร่างกายส่วนหนึ่งข้าพเจ้าต้องการไปสู่โลก
ฝ่ายวิญญาณหรือสวรรค์

แต่อีกส่วนหนึ่งก็อยากกลับไปสู่ร่างกายเดิมและดำเนินชีวิตใหม่ ความรู้สึก
ภายในเหมือนว่ากำลังชักเย่อกันอยู่ และสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะไปพบเห็นนั้น
ก็ช่วยให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องไปบอกเมื่อข้าพเจ้าได้กลับมา
ยังกายเดิม (จิตวิญญาณกลับมาเข้าสู่ร่าง)

It played out again just like a video tape in fast forward
motion and yet again I could assimilate and see everything
clearly and perfectly. As the world zoomed up to me I saw
the whole world and then the various countries.

ทุกอย่างวนกลับมาอีกเหมือนเล่นวีดีโอเทปไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและ
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ซึมซับเห็นทุกสิ่งอย่างชัดแจ้งและสมบูรณ์ ขณะที่โลก
เคลื่อนใกล้เข้ามาข้าพเจ้าได้เห็นโลกทั้งใบและเห็นหลาย ๆ ประเทศ
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:44:24 »


I don't know the countries of the world very well,
but as I looked at these lands I instinctively knew
what countries they were. I was looking at the Middle East
and watched as a missile flew from Libya and hit Israel
with a big mushroom cloud. I knew that the missile
was actually from Iran but people from Iran had been
hiding it in Libya and fired it. I knew that it was a
nuclear bomb. Almost immediately missiles started flying
from one country to another, quickly spreading to all over
the world. I also saw that many nuclear explosions did not
come from missiles but from ground bombs of some kind.
I knew that in the future there would be a nuclear war
throughout the world and this is how it would start.

ข้าพเจ้าไม่รู้จักประเทศต่าง ๆ ดีนัก แต่ขณะที่ได้มองเห็นผืนแผ่นดินก็พอจะรู้ว่า
เป็นประเทศอะไรบ้าง ข้าพเจ้ามองไปที่ตะวันออกกลางได้เห็นมิสไซต์พุ่งออก
จากลิเบียพุ่งเข้าโจมตีอิสราเอลเกิดระเบิดเป็นรูปดอกเห็ดใหญ่โตมาก
ข้าพเจ้ารู้ว่ามิสไซต์นั้นแท้จริงแล้วเป็นของอิหร่านที่ได้แอบนำมาซ่อนเก็บไว้
ที่ลิเบีย นั่นคือระเบิดนิวเคลียร์ และเกือบในทันทีทันใด

ก็มีมิสไซต์พุ่งออกจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง มิสไซต์พุ่งข้ามไปมา
ทั่วทั้งโลก ข้าพเจ้าได้เห็นการระเบิดของนิวเคลียร์ที่ไม่ได้มาจากมิสไซต์
อย่างมากมายแต่เป็นการระเบิดจากใต้ดินชนิดหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้ว่าในอนาคตจะมี
สงครามนิวเคลียร์แน่นอนทั่วทั้งโลก และต่อไปนี้คือภาพการเริ่มต้นของ
สงครามว่าเริ่มต้นได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:48:45 »


Then, my focus changed from the Middle East to America.
I understood that I was about to see some of the things
that would lead up to the nuclear holocaust I had just witnessed.
ข้าพเจ้าเปลี่ยนการเพ่งมองจากตะวันออกกลางไปที่อเมริกา และกำลัง
จะได้เห็นสิ่งที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
ซึ่งข้าพเจ้าจะเป็นพยานถึงสิ่งนี้

As I looked upon the continent of North America,
I zeroed in on the East Coast and then to New York.
I saw New York with all of its buildings and people.
Then I saw some tall buildings crashing to the earth
with tremendous smoke, debris and dust
everywhere (World Trade Towers?). I saw a woman
holding a little girl’s hand, running from the crashing
buildings. The lady had long dark hair past her shoulders,
curled inward a little. She had on a beige business suit,
heels of a slightly darker color, perhaps a tan color.
No glasses. The little girl appeared to
be about 6-7 years old with short brown hair, below
the chin, in a sort of a pageboy haircut. They were
holding hands and running together from the falling
buildings in the heavy smoke and dust and they were
forced to let go of hands and thereby they got separated.
The little girl was terrified and I could hear the little girl
screaming “mommy, mommy” over again and again.
I don't know if they lived or died. I can still see the face
of the lady clearly and could identify her if I saw a picture
...or could describe her to an artist to draw her. I asked if
an earthquake caused the buildings to fall down
and the impression was ‘no,’ but I don't know what
caused them to fall.

ขณะที่มองดูไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือนั้น ข้าพเจ้าได้เพ่งดูไปที่แถวชายฝั่ง
ตะวันออกขึ้นไปจนถึงนิวยอร์ก ได้เห็นตึกมากมายและผู้คน และก็ได็เห็น
ตึกสูงกำลังพังทลายลงมาที่พื้นดินมีควันกระจายอย่างน่ากลัว ซากปรักหักพัง
ฝุ่งคลุ้งไปทั่ว (เธอเห็นภาพตึกเวิร์ดเทรดถล่มหรือเปล่า?) ข้าพเจ้าเห็น
ผู้หญิงอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนวิ่งหนีจากจากตึกที่ถล่ม
ผู้หญิงผมยาวสีดำ หยิกเล็กน้อยพาดไหล่ ใส่ชุดสูทผ้าขนสัตว์สีแดง
ปลายสีเข้มหรือออกสีเปลือกไม้ ไม่ใส่แว่นตา เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดูอายุ
ประมาณ 6-7 ปีผมสั้นเลยคางสีน้ำตาลทรงผู้หญิง พวกเขาจับมือกันวิ่งหนี
จากตึกสูงที่กำลังถล่มลงมา ฝุ่นควันหนาทึบมากและทำให้พวกเขาแยกจากกัน
เด็กร้องอย่างตกใจกลัวหาแม่หลายครั้ง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า พวกเขาจะเป็นหรือตาย
ข้าพเจ้าเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจนและระบุตัวถ้าหากได้เห็น
รูปของเธอ หรือบอกให้นักวาดรูปวาดภาพของเธอได้ ข้าพเจ้าสงสัยว่า
ตึกถล่มเพราะแผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ในความรู้สึกที่เห็นก็คือ ไม่ใช่
แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดแน่
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:51:05 »


The next thing that I felt more than I saw was that
shortly after this there was no commerce, no shopping,
buying, and was impressed that there was no economy.
The economy had almost failed completely and no one
had any money.

สิ่งต่อมาก็คือข้าพเจ้ารู้สึกได้มากกว่าที่เห็นแม้จะช่วงสั้น ๆ คือหลังจาก
เหตุการณ์นี้ไม่นาน การค้าขาย การซื้อขายก็หยุดชงักหรือกล่าวได้ว่า
เศรษฐกิจยุติลง หรือเกือบล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครมีเงินถืออยู่เลย

The next thing I saw was people being sick and dying.
I saw this particularly in four cities: New York, Los Angeles,
San Francisco and Salt Lake. The disease started by having
white blisters, some the size of dimes appear on their hands,
arms and face. This quickly developed into white puffy sores
and blisters. People would stumble about and fall and then
many died within a short time, maybe 24 hours. I also saw
other people with blood coming from their nose, mouth, eyes
and ears. It started like a flu virus and it spread very quickly,
faster than the other white blister disease. The people who had
this disease died even faster. This was more wide spread across
the entire United States. There were hundreds of thousands
of people stricken with these two diseases.

ต่อมาข้าพเจ้าเห็นผู้คนล้มป่วยและค่อย ๆ ตายไป สิ่งที่เห็นนี้เจาะจงลงไปยัง
เมืองใหญ่ ๆ 4 เมืองคือ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และ ซอร์ลเลค
เชื้อโรคก็เริ่มแพร่กระจายโดยเกิดตุ่มสีขาว ๆ ไปทั่วตัวคน บางตุ่มก็ขนาดเท่า
เหรียญบาทอยู่บนมือ แขนและหน้า และพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นตุ่ม
พองฟูสีขาวอย่างน่ากลัว

ผู้คนเริ่มเดินสะดุดหกล้มลงและตายในเวลาอันรวดเร็วอย่างมากมาย หรือภายใน
 24 ชม. ข้าพเจ้าเห็นบางคนมีเลือดออกมาจากจมูก ปากตา และหู
มันเริ่มต้นคล้ายไว้รัสไข้หวัดใหญ่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าเชื้อผุพอง
สีขาวที่เห็น ประชาชนที่ได้รับเชื้อโรคนี้ตายเร็วกว่าเดิมเสียอีก สิ่งนี้แพร่กระจาย
ไปทั่วทั้งอเมริกา คนหลายแสนเริ่มอ่อนแอเจ็บป่วยด้วยเชื้อโรคสองชนิดนี้
(ถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีชีวภาพ?)
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:53:21 »


I knew that the diseases, and there were several
different kinds, but at first primarily these two,
came from small containers that had been brought
into the United States. These containers were like
quart jars and I was impressed that the people carrying
them would just drop them on the ground in large crowds
of people and the people would become infected without
realizing it.

ข้าพเจ้ารู้ว่ามันคือเชื้อโรค และมีหลายชนิดมาก แต่สองตัวแรกบรรจุใส่ภาชนะ
ขนาดเล็ก ๆ ที่ขนเข้ายังอเมริกา มันมีลักษณะคล้ายกับเหยือกเบียร์ และข้าพเจ้า
เห็นเหมือนกับมีคนถือมันและนำมันไปลงบนพื้นในที่ ๆ มีฝูงชนเยอะ ๆ
และคนก็ติดเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว

In these cities as the disease spread, the people tried to flee
from the cities out to the countryside. There was complete
chaos in these cities and a breakdown of normal society.
There was no electricity in them either, but I don't know why
or how that came to be. There were cars piled up everywhere,
blocking roadways and most people then had to walk out
with nothing. The disease started to spread beyond
these initial cities.

ในเมืองเหล่านี้ที่บอกมามีเชื้อโรคกระจายไปทั่ว ประชาชนก็พยายามหนี
ออกจากเมืองไปนอกเมือง มีจราจลวุ่นวายาทั้งเมือง สังคมแตกสาแหรกขาด
ไม่มีไฟฟ้าอีกต่อไป โดยข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ว่าจะมีได้อย่างไร
มีรถยนต์เต็มไปหมดขวางกั้นถนนและคนจำนวนมากได้เดินเท้าเปล่า
เชื้อโรคกระจายออกไปทั่วโดยเริ่มต้นที่เมืองเหล่านี้
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:55:35 »


As these people were fleeing the cities, there were gangs
attacking them and killing them. In the cities that were
struck with the disease, there was complete chaos,
looting, rioting, murdering, a complete breakdown.
Many people seemed to go absolutely crazy.
I sensed that the electricity had failed everywhere now
and that nothing was running, there was no communication
or anything anywhere in the country. Nothing worked,
no radios or TVs. I watched people throw rocks and break
windows to steal TVs which I thought was really crazy
because they wouldn't work.

ประชาชนเริ่มหนีไปยังเมืองอื่น ๆ และก็มีแก็งอันธพาลโจมตีและฆ่าประชาชน
ในเมืองที่ถูกโจมตีด้วยเชื้อโรคนั้นก็จราจลวุ่นวายทั้งเมือง มีการปล้นสะดม
ฆาตกรรม พังพินาศสิ้นคนจำนวนมากดูเหมือนกับเสียสติบ้าคลั่ง
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าระบบไฟฟ้าล้มเหลวไปทั้งเมืองและไม่มีอะไรนอกจาก
การวิ่งหนีวุ่นวาย ไม่มีการติดต่อสื่อสารหรืออะไรเลยไม่ว่าที่ไหนในประเทศ
ไม่มีการทำงาน ไม่มีการออกอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ ข้าพเจ้าเห็นประชาชน
ขว้างปาก้อนหินใส่กระจก หน้าต่าง เพื่อขโมยทีวีในร้าน ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า
มันเป็นความบ้าคลั่งจริง ๆ เพราะขโมยทีวีไปก็ใช้ไม่ได้
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:58:02 »


Immediately, as I watched this happen in the United States,
I jumped back to the Middle East and saw the same thing
in Israel, the same sores, and I realized that it was the same
types of disease or sickness happening there. I knew somehow that
whatever diseases had been used in the United States
were also being used in Israel.

ในทันใดนั้น ในขณะที่ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกา ข้าพเจ้าก็
กระโดดกลับมามองแถวตะวันออกกลางและได้เห็นบางสิ่งในอิสราเอล
เป็นความเลวร้ายเช่นเดียวกัน คือข้าพเจ้าได้เห็นเชื้อโรคบางชนิดหรือ
โรคร้ายบางอย่างที่นั่น ข้าพเจ้ารู้โดยไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเชื้อโรคที่ใช้ใน
อเมริกานั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่นำมาใช้ในอิสราเอลด้วย

This lasted for only an instant and I was back in
the United States. There was a tremendously long winter
that lasted into summer. It caught everyone by surprise
and started the full famine. Actually, I realized that
the long winter actually just increased the famine greatly
to its full measure, because the famine had already been
in progress because of the storms, droughts, floods and
other plagues that had been happening over the few years
leading up to the long winter. .

ในชั่วขณะหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้พุ่งกับมาที่อเมริกา ได้เกิดฤดูหนาวที่น่ากลัว
อย่างยาวนานขึ้นซึ่งยาวไปจนถึงหน้าร้อน นั่นทำให้หลายคนประหลาดใด
และเป็นจุดเริ่มต้นของความอดอยากขาดแคลนอาหารอย่างเต็มที่
แต่จริง ๆ แล้วที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเพิ่งจะเริ่มความอดอยากครั้งยิ่งใหญ่
อย่างเต็มขนาด เพราะความอดอยากได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่เกิดเพราะพายุ
ความแห้งแล้ว น้ำท่วมหรือโรคระบาด ซึ่งเกิดมาเป็นเวลาหลายปีนำหน้า
ฤดูหนาวที่ยาวนานนี้แล้ว
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:00:31 »


It seemed then that the year following the long winter
was when everything started to go down hill very quickly
or things piled up one on top of the other without any breaks.
The sense of time though was not very clear because I was
seeing several things that seemed to happen all at
the same time or very close together.

มันดูเหมือนเป็นปีที่ตามมาด้วยฤดูหนาวที่ยาวนาน เริ่มเมื่อทุกสิ่งเริ่มต้น
ล่มสลายลงอย่างรวดเร็วหรือ ทุกสิ่งพังทลายหักทับถมกันโดยไม่มีสิ้นสุด
ข้าพเจ้าไม่แน่ใจเรื่องเวลาชัดเจนนักเพราะข้าพเจ้าเห็นหลาย ๆ สิ่ง
ดูเหมือนเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในเวลาใกล้เคียงกันมาก

During and after the long winter, the disease spread
everywhere and increased in severity. The economy
was completely gone and the electricity was also gone.
There was complete chaos and anarchy all over
the United States. There was no government,
just a total breakdown. There was no food at all.
I saw people trying to get food and were completely
panicked because there was no food. I saw people
digging in the ground for worms and eating them because
they were so hungry.

ในช่วงระหว่างและหลังจากฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ เชื้อโรคได้แพร่กระจาย
ไปทุกที่ และเพิ่มความเลวร้ายขึ้นอีก เศรษฐกิจล่มสลายอย่างสมบูรณ์
พร้อมทั้งระบบไฟฟ้าด้วยมีการจราจล ไร้กฎหมายบ้านเมืองอย่างสมบูรณ์
ทั่วทั้งอเมริกา ไม่มีรัฐบาลเพราะทุกอย่างล่มสลาย ไม่มีอาหารอีกต่อไป
ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนพยายามค้นหาอาหารและประสาทเสียอย่างสุดขีด
เพราะไม่มีอาหารกิน และได้เห็นประชาชนขุดดินเพื่อหาหนอนกิน
เพราะความหิวอย่างมาก
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:02:35 »


Also, during this time I became aware that there was
very little water and that almost all of the water had
become poisoned so that if a person drank the water
they would get the disease and die. Many did even
knowing that they would die, because they were so thirsty.

ในระหว่างนี้ข้าพเจ้าได้คิดถึงเกี่ยวกับน้ำ เพราะมีน้ำอยู่เพียงน้อยนิด
และน้ำที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นพิษหากว่ามีใครดื่มเข้าไปก็จะติดเชื้อและตาย
คนจำนวนมากไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะตายเพราะพวกเขาหิวน้ำอย่างมาก

Some of the people seemed to go crazy and went around
in gangs killing people just for the sake of killing. Others killed
for food or for things but the people who killed just to kill
were absolutely terrible. They seemed like beasts, animals
completely out of control as they raped, looted, burned
and butchered people. I saw them go into people's homes
and drag families out who were hiding there and rape
them and butcher them.

ประชาชนบางส่วนดูเหมือนจะบ้าคลั่งเสียสติ และเข้าร่วมไปกับแก็งอันธพาลต่าง ๆ
เพื่อไล่ฆ่าคนอื่น ๆ โดยเหตุผล เพราะอยากฆ่า ซึ่งเป็นความเลวร้ายสุดขีด
ในขณะที่บางส่วนก็ฆ่าฟันคนอื่นเพราะต้องการอาหาร พวกเขาดูเหมือนสัตว์ร้าย
สัตว์ป่าที่ไร้ซึ่งการควบคุมตนเองอย่างสิ้นเชิง มีการขมขื่น ปล้นสะดม เผาทำลาย
ไล่ฆ่าสับประชาชนข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเข้าไปยังบ้านของคนต่าง ๆ
และเข้าไปฉุดลากคนในบ้านที่ซ่อนตัวออกมาและข่มขืน และฆ่าสับพวกเขา
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:09:07 »


There was such a fear and hatred that came upon
the people -- families, wives, husbands -- loving ties
no longer mattered; it became survival only.
Husbands would kill their wives and children for food
or water. Mothers would kill their children.
It was absolutely horrible beyond description.

ดูเหมือนกับความกลัวและความเกลียดชังได้พุ่งออกมาจากตัวของคน
ครอบครัว ภรรยา สามิ ความรักระหว่างกันไม่มีเหลืออีกต่อไป มีแต่
ความอยู่รอดเท่านั้น สามีจะฆ่าภรรยาและลูก ๆ ของเขาเพื่ออาหารและน้ำดื่ม
แม่จะฆ่าลูก ๆ เป็นความเลวร้ายอย่างถึงที่สุดเกินจะบรรยายได้

The air seemed to be filled with smoke as many buildings
and cities burned and no one put them out. As I looked
upon the scene of chaos, destruction and smoke, I noticed
that there were these little pockets of light scattered all over
the United States. There were, I would guess, about twenty
or thirty of them. I noticed that most of these places of light
were in the western part of the United States, with only three
or four in the East.

ในอากาศดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมอกควันและตึกจำนวนมากถูกเผาทำลาย
ไม่มีใครดับไฟ ในขณะที่ข้าพเจ้ามองดูฉากแห่งความวุ่นวาย การพังทลายและ
หมอกควัน ก็สังเกตุเห็นกลุ่มแสงกระจายไปทั่วอเมริกา ข้าพเจ้าคาดว่าน่าจะ
ประมาณยี่สิบหรือสามสิบ และส่วนมากจะวางอยู่บริเวณตะวันตกของอเมริกา
เพียงสามหรือสี่กลุ่มอยู่ทิศตะวันออก
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:11:34 »


These places of light seemed to shine through the darkness
and caught my attention and so I concentrated on them,
asking, "What are these things?"

กลุ่มแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะส่องผ่านความมืดออกมาและทำให้ข้าพเจ้า
รู้สึกสนใจและเพ่งดู สงสัยว่ามันคืออะไร

I could then see that they were people who had gathered
together and they were on their knees and they were praying.
The light was coming from them and I understood that it
represented their goodness and love. I understood that
they had gathered together for safety and that they cared
more for each other than for themselves. Some of the groups
were small, with only a hundred people or so, but in other
groups there were what seemed several thousand.

ข้าพเจ้าได้เห็นว่ามันคือกลุ่มของประชาชนที่รวมตัวกันและคุกเข่าอฐิษฐาน
แสงเหล่านี้ออกมาจากตัวพวกเขา ข้าพเจ้านึกได้ทันทีว่ามันคือความดีและ
ความรักของพระเจ้าข้าพเจ้าเข้าใจว่าพวกเขาคงมารวมตัวกัน เพื่อความปลอดภัย
และห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเอง บางกลุ่มเล็ก ๆ มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แต่บางกลุ่มก็มีคนหลายพันคน
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:14:19 »


I realized that somehow many, if not most of these cities
of light had been established just before the disease attack
and that they were very organized. It was like they had known
what was coming and had prepared for it. I didn't see who
or what had organized them, but I saw many people struggling
to get to them with nothing but what they could carry.

ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะส่วนใหญ่ของเมืองนี้รวมตัวกันก่อนการโจมตี
ด้วยเชื้อโรคและพวกเขามีการจัดเตรียมการอย่างดีแล้ว ก็ดูเหมือนพวกเขารู้ว่า
จะเกิดอะไรขึ้นและได้เตรียมรับมือไว้ ข้าพเจ้าไม่เห็นมีผู้นำหรืออะไรควบคุม
แต่เห็นคนจำนวนมากเกาะติดพวกเขา แม้ไม่มีอะไรแต่อะไรทำให้พวกเขายึดถือไว้ได้

These cities of light had food and were sharing their food
with those who joined them in their groups. There was
peace and safety in the groups. They were living in
tents, all kinds of tents, many of which were just blankets
covering poles. I noticed that the gangs left these groups
alone, choosing to pick on easier targets and unprotected
people. They also preyed on the people who were trying
to get to the cities of light. Many people in these cities
of light had guns to defend themselves with and so the gangs
left them alone but it seemed that the gangs just
didn't want to come against them.

ในเมืองแห่งแสงสว่างนี้มีอาหารและการแบ่งปันอาหารให้คนที่เข้ามาร่วม
ในกลุ่ม มีสันติและความปลอดภัย พวกเขาอาศัยอยู่ในเต้นท์ มีเต้นท์หลายชนิด
ส่วนมากจะเป็นผ้าห่มคลุมขึงกับเสา ข้าพเจ้านึกถึงพวกแก็งอันธพาลที่ไม่ยุ่งกับ
กลุ่มประชาชนเหล่านี้ แต่จะเลือกโจมตีประชาชนที่ไร้การป้องกัน พวกเขา
ยังคงอธิษฐานต่อผู้ที่พยายามจะมายังเมืองแห่งแสงสว่างนี้ คนจำนวนมาก
ในเมืองนี้มีปืนเพื่อป้องกันตนเองจากพวกแก็งและดูเหมือนพวกแก็งไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขา
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:16:10 »


I realized that these cities of light, which is what
I began to think of them, were only for a short time
and then the people in them would go somewhere else;
however, I don't know where they went but I seem
to think that they gathered to the mountains, to the high places.

ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองแห่งแสงสว่างเหล่านี้ นับแต่แรก ๆ ที่ข้าพเจ้าคิดถึง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นประชาชนในกลุ่มก็เริ่มออกไปยังที่ต่าง ๆ
ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหนแต่ดูเหมือนพวกเขาจะรวมตัวกันที่ภูเขาหรือที่สูง

As I was looking at the cities of light, I then saw missiles
coming and hitting some cities and mushroom clouds
started happening all over the United States. Some were
from missiles that I knew came from Russia and others
were not from missiles, but were from bombs that were
already in the United States. They were hidden in trucks
and in cars and were exploded.

ขณะที่ข้าพเจ้ามองดูเมืองแห่งแสงสว่างนี้ ก็เห็นมิสไซร์พุ่งออกมาและโจมตี
บางเมืองและมีควันรูปดอกเห็ดพุ่งขึ้นเกิดขึ้นทั่วอเมริกา บางส่วนเป็นมิสไซร์
ซึ่งข้าพเจ้ารู้ว่ามาจากรัสเซียแต่บางส่วนเป็นระเบิดที่อยู่ในอเมริกาแล้วนั่นเอง
พวกเขานำมาซ่อนไว้ในรถบรรทุกหรือรถยนต์และระเบิด
บันทึกการเข้า
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: leet


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553 23:18:42 »


I specifically saw Los Angeles, Las Vegas and
New York hit with bombs. New York was hit with
a missile, but I think that Los Angeles was hit by
a truck bomb or actually several, because I didn't see
any missile. I also saw north of Salt Lake City have
a mushroom cloud, a small one, but no missile.

ข้าพเจ้ามองอย่างเจาะจงไปที่ ลอส แองเจลิส ลาสเวกัส และนิวยอร์ก
ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิด นิวยอร์กถูกโจมตีด้วยมิสไซร์ แต่ ลอสแองเจลิส
ดูเหมือนถูกโจมตีด้วยระเบิดในรถบรรทุกหรือหลาย ๆ อย่าง
แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นมิสไซร์ ส่วนทางเหนือของเมือง ซอล์ค เลค
มีระเบิดดอกเห็ดกลุ่มหนึ่งแต่ไม่มีมิสไซร์

In the darkness I also saw little fireballs. I don't know
if this happened just before or during the mushroom
clouds, but there were millions falling everywhere.
They were very hot, of different sizes with most about
the size of golf balls. As they fell from the sky they left
a streak of flame and smoke behind them. Whatever
they touched they started on fire: people, buildings,
trees, grass, it didn't matter. I didn't ask what they
were or where they came from, because by this time
I was getting sick of the whole scene and so I just
observed and didn't ask many questions..

ในความมืดมิดข้าพเจ้าเห็นลูกไฟเล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าสิ่งนี้
อาจเกิดก่อนหรือหลังกลุ่มควันดอกเห็ด แต่มีลูกไฟเป็นล้าน ๆ ตกลงทุกที่
และร้อนมาก มีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ ขณะที่มันตกลงมาจากฟ้า
มันก็มีสายเปลวไฟเป็นหางมีควันตามหลัง และไม่ว่ามันตกกระทบอะไร
ก็จะเกิดไฟลุก ไม่ว่าจะตัวคน ตึก ต้นไม้ กระจก และทุกสิ่ง
ข้าพเจ้าไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไรหรือมาจากไหน เพราะในเวลานี้ข้าพเจ้ารู้สึก
เหมือนคนป่วยที่ต้องได้เห็นภาพเหล่านี้และเพียงได้แต่มองโดยไม่สามารถถามอะไรได้
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  1 2 [3] 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.199 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 05 ธันวาคม 2567 22:00:28