05 ธันวาคม 2567 02:19:39
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ไปเที่ยว
.:::
ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ (อ่าน 12551 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5774
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
«
เมื่อ:
24 สิงหาคม 2557 20:22:40 »
Tweet
.
วัดพระแท่นศิลาอาสน์
ที่ประดิษฐาน "พระแท่นศิลาอาสน์" ปูชนียวัตถุสถานสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์
อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
•
เมืองลับแล
เมืองลับแล
(อำเภอลับแล) มีเมืองเก่าอยู่ ๒ เมือง คือ เมืองทุ่งยั้งตั้งอยู่ริน้ำยกเก่า จากการสันนิษฐานในด้านประวัติศาสตร์ของกรมศิลปากร เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาติละว้าเพราะขุดพบกลองมโหระทึกและพร้าสัมฤทธิ์ได้ในบริเวณนี้ ต่อมาได้มีพวกไทยอพยพมาทางใต้ ก่อนสมัยกรุงสุโขทัยเข้ามาอยู่แทน และในสมัยสุโขทัยเมืองทุ่งยั้งเป็นเมืองหน้าด่านชั้นนอกของเมืองสุโขทัย โดยขึ้นอยู่กับเมืองเชลียง อีกเมืองหนึ่งคือเมืองลับแล ตั้งขึ้นในสมัยอยุธยาเดิมเป็นตำบลที่ชาวเมืองเหนือหนีความเดือดร้อนอพยพมาอยู่กัน ภายหลังได้ตั้งขึ้นเป็นเมืองเรียกว่าเมืองลับแล
มูลเหตุที่เรียกกันว่า เมืองลับแล เนื่องจากสภาพภูมิประเทศประกอบด้วยดงทึบ มีภูเขาและเนินดินสูงๆ ต่ำๆ สลับซับซ้อนอยู่โดยรอบ อยู่ในหุบเขายากแก่การเข้าออก ท้องที่มีลำห้วยลำธารไหลผ่านช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นในการประกอบอาชีพทางเรือกสวน ไร่ นา จึงปรากฏว่าอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและผลไม้นานาชนิด โดยมากผู้ที่เข้าไปอยู่ไม่ค่อยอยากจากไปด้วยความพึงพอใจของธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า
ลับแล
•
วัดพระแท่นศิลาอาสน์
วัดพระแท่นศิลาอาสน์
เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตินิกาย เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
พระแท่นศิลาอาสน์เป็น
พุทธเจดีย์
เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์ ซึ่งแสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์นี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่องในพระพุทธศาสนามายาวนาน ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง ๘ ฟุต ยาวประมาณ ๑๐ ฟุต สูง ๓ ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑป ศิลปะเชียงแสนครอบ อยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า พระแท่นศิลาอาสน์อาจมีมาก่อนแล้วช้านาน ก่อนที่พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา เสด็จไปบูชา เพราะพระแท่นศิลาอาสน์อยู่ริมเมืองทุ่งยั้งซึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งสมัยอาณาจักรเชียงแสนก่อนสุโขทัย และบางทีชื่อทุ่งยั้งนั้นเอง จะเป็นนิมิตให้เกิดมีพระแท่น เป็นที่พระพุทธเจ้าประทับยับยั้ง เมื่อเสด็จผ่านมาทางนั้น ในทางตำนานมีคติที่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จยังประเทศต่างๆ ภายนอกอินเดียด้วยอิทธิฤทธิ์ฌานสมาบัติ และได้ประดิษฐานเจดีย์ หรือตรัสพยากรณ์อะไรไว้ในประเทศเหล่านั้น เป็นคติที่เกิดในลังกาทวีป และประเทศอื่นได้รับเอาไปเชื่อถือด้วย จึงเกิดมีเจดีย์วัตถุและพุทธพยาการณ์ ที่อ้างว่าพระพุทธองค์ได้ทรงประดิษฐานเจดีย์ไว้ มากบ้าง น้อยบ้างทุกประเทศ เฉพาะเมืองไทย มีปรากฏในพงศาวดารโดยลำดับมาว่า พบรอยพระพุทธบาท ณ ไหล่เขาสุวรรณบรรพต เมื่อรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม รัชกาลพระเจ้าเสือได้เสด็จไปบูชาพระพุทธฉาย ณ เขาปัถวี และพระเจ้าบรมโกศ เสด็จไปบูชาพระแท่นศิลาอาสน์
มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า นายช่างที่สร้างวิหาร วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระฝาง และวัดสุทัศน์ เป็นนายช่างคนเดียวกัน บานประตูเก่าของพระวิหารเป็นไม้แกะสลักฝีมือดี แกะไม้ออกมาเด่น เป็นลายซ้อนกันหลายชั้น แม่ลายเป็นก้านขด ปลายเป็นรูปภาพต่าง ๆ เป็นลายเดียวกับลายบานมุขที่วิหารพระพุทธชินราช อาจสร้างแต่ครั้งพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านนา เคียงคู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ในสมัยนั้น
ต่อมาพระเจ้าบรมโกศมีพระราชศรัทธา ให้ทำประตูมุขตามลายเดิมถวายแทน แล้วโปรดให้เอาบานเดิมนั้นไปใช้เป็นบานวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ประตูวิหารเก่าบานดังกล่าวได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อ วันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ ไฟป่าลุกลามไหม้เข้ามาถึงวัด ไฟไหม้ครั้งนั้น เหลือกุฏิซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักรอยู่เพียงหลังเดียว ต่อมาพระยาวโรดมภักดีศรีอุตรดิตถ์นคร (อั้น หงษนันท์) เจ้าเมืองอุตรดิตถ์ ได้เรี่ยไรเงินสร้างและซ่อมแซมวิหาร ภายในวิหารมีซุ้มมณฑปครอบพระแท่นศิลาอาสน์ไว้
...
วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี
•
ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์
ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์แน่ชัด
ว่าค้นพบหรือสร้างในสมัยใด ใครเป็นผู้ค้นพบหรือผู้สร้าง
เพียงแต่มีผู้ตั้งข้อสันนิษฐาน โดยเล่ากันอย่างพิสดารไว้เท่านั้น
โอกาสนี้ จึงขอเสนออีกหนึ่งตำนานความเป็นมาของพระแท่นศิลาอาสน์
จากบันทึกประกอบภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่
ติดไว้เกือบชนเพดานวิหารพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน ๑๕ ภาพ
.....คัดได้ดังนี้....
๑. เมืองกัมโพชนคร ยังมีหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่นอกเมืองมาก ชาวบ้านมีอาชีพทำไร่ทำนา หาของป่าและล่าสัตว์เพื่อยังชีพ ซึ่งนำของที่ได้มาขายแลกเปลี่ยนที่เมืองกัมโพชนคร
๒. วันหนึ่ง นายพรานหนุ่มออกจากบ้านเดินทางเข้าป่าพร้อมอาวุธคู่มือเพื่อไปล่าสัตว์ นายพรานได้ลัดเลาะไปจนถึงเขาซอก รอนแรมไปค่ำไหนนอนนั่นจนกว่าจะล่าสัตว์ได้ แต่เขาก็ไม่ได้พบอะไรเลย และแล้วเขาได้ลุล่วงไปในบริเวณสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
๓. เมื่อเวลาพลบค่ำ นายพรานจึงหาที่หลับนอน เขาได้เอาเครื่องมือล่าสัตว์วางลงบนแท่นศิลาแลง ส่วนตนเองนอนใกล้แท่นศิลาแลงแห่งนั้น ได้นิมิตฝันว่ามีอารักขเทวดาบอกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พรานป่าไม่ควรเอาเครื่องมือล่าสัตว์วางแท่นนี้
๔. นายพรานตื่นขึ้นมาระลึกถึงนิมิตฝัน ก็มิได้คิดอะไรมาก เพราะความเคยชินที่ไม่กลัวต่อผีสางนางไม้นอนต่อไป อารักขเทวดาจึงปรากฏกายประจักษ์ให้เห็น และขับไล่ไปให้พ้นจากสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
๕. นายพรานจึงรีบเดินทางออกจากสถานที่นั้นเพื่อกลับบ้าน และได้พบฤๅษีตนหนึ่ง เขาดีใจมาก ได้เล่าเรื่องความฝันที่รุกขเทวดามาขับไล่ตนให้ฤๅษีฟัง ฤๅษีจึงขอให้นายพรานพาไปดูยังสถานที่ ที่ได้พบแท่นศิลาแลงแท่งนั้น
๖. ฤๅษีได้พบแท่นศิลาแลงมีลักษณะสีเลื่อมมันเกลี้ยง จึงรู้ได้ปัญญาญาณว่า สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ ได้เคยเสด็จมาบำเพ็ญเพียรบารมีครั้งยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์คือพระกกุสันโธ พระนาคะมโน พระกัสสะโป พระโคนาโม และพระเมตเตยโย
๗. ฤๅษีพร้อมด้วยนานพราน จึงเดินทางเข้าแจ้งแต่เจ้าธรรมกุมาร เจ้าเมืองกัมโพชนคร (เมืองทุ่งยั้ง) ที่ตนได้พบพระแท่นศิลาอาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าธรรมกุมารทรงดีพระทัยยิ่งนักใคร่จะไปนมัสการพระแท่นแห่งนั้น
๘. เจ้าธรรมกุมารพร้อมด้วยอำมาตย์ราชเสนาตามเสด็จ ออกนอกเมืองกัมโพชนครสู่บริเวณเขาซอกเพื่อทอดพระเนตรพระแทนศิลาอาสน์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น
๙. เมื่อเจ้าธรรมกุมารและอำมาตย์ราชเสนามาถึง เจ้าธรรมกุมารทรงทอดพระเนตรพระแท่นศิลาอาสน์ เห็นจริงดังฤๅษีบอกพร้อมกับทำการนมัสการ และทรงตรัสว่า “เป็นลาภอันประเสริฐแต่เมืองเราแล้ว”
๑๐. เจ้าธรรมกุมารเสด็จกลับสู่พระนครแล้ว จึงได้ให้ราชเสนานำใบบอกแจ้งแต่พระราชบิดาแห่งเมืองเชลียง เพื่อทูลขอพระราชทานสร้างมณฑปวิหารพระแท่นศิลาอาสน์แห่งเมืองกัมโพชนคร
๑๑. เจ้าธรรมกุมารให้เสนาผู้ใหญ่เชิญฤๅษีทั้ง ๕ พราหมณ์ทั้ง ๔ และอำมาตย์ท้าวพระยาทั้งหลายมาประชุมหารือ เรื่องสร้างมณฑปพระแท่น สร้างวิหารอันใหญ่อันรามครอบมณฑปพระแท่นศิลาอาสน์ในครั้งนี้
๑๒. เจ้าธรรมกุมารพร้อมด้วยฤๅษีทั้ง ๕ พราหมณ์ทั้ง ๔ ปู่ครูทั้งหลาย ยกพลเสนามาทำการก่อสร้างมณฑป และวิหารพระแท่นนานนับปีจึงแล้วเสร็จ
๑๓. เมื่อได้ฤกษ์ยามดีพร้อมแล้ว เจ้าธรรมกุมารจึงทรงทำพิธีเปิดงานนมัสการพระท่านศิลาอาสน์ (สมโภชเฉลิมฉลอง) อันโอฬารยิ่งนัก
๑๔. หมู่เหล่าอำมาตย์ราชเสนา ไพร่ฟ้าประชาชนทั้งหลาย ต่างทำการสมโภชเฉลิมฉลองไหว้พระแท่นศิลาอาสน์ มีมหรสพการแสดง ซื้อขายเปลี่ยนสินค้า ๓ วัน ๓ คืน คือ วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปีแต่นั้นสืบมา
๑๕. พระครูถาวรธรรมโกวิทเจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง ได้ขยายวันนมัสการเพิ่มขึ้นนับแต่ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๓ ถึงแรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ รวมเป็น ๑๐ วัน ๑๐ คืน และวัน ๑๕ ค่ำ เป็นวันมาฆะบูชาจัดให้มีการเวียนเทียนรอบวิหารพร้อมพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ ประดิษฐานในวัดพระแท่นศิลาอาสน์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)
เสด็จนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๔
พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๖ ประดิษฐานในวัดพระแท่นศิลาอาสน์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖)
ขณะทรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร
ทรงเสด็จยกช่อฟ้า วิหารพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒
(ไฟไหม้วิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๑)
ด้านหลังพระบรมราชานุสาวรีย์ คือ
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดพระแท่นศิลาอาสน์
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีไม้ดอกไม้ประดับ สวนสมุนไพร และรถพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่
ชั้นล่างจัดแสดงภาพเขียนภาพถ่ายในอดีตของวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ชุดผ้าไทยโบราณ
ชั้นสองจัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ พระพุทธรูปที่แกะสลักจากไม้ รวมทั้งเครื่องมือใช้สอย
ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านในชุมชน เช่น เครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบโบราณ เครื่องถ้วยชาม หม้อ
เครื่องจักสาน อุปกรณ์ทำมาหากิน และการละเล่นต่างๆ
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 กันยายน 2558 12:25:08 โดย กิมเล้ง
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...