[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 19:45:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่โต๊ะ เจอ พระโพธิสัตว์กวนอิม  (อ่าน 26619 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 01:36:44 »

อ้างจาก: armageddon
แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร
มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง




หลวงปู่โต๊ะ เจอ พระโพธิสัตว์กวนอิม



ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า.........

"พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"

นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

"วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

"ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี

ตามเทศกาลเจของชาวจีน"

แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง 8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ และหนึ่งในชาวจีนที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมากคือ คุณพ่อของข้าพเจ้าเอง คุณพ่อและคณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชา

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ธันวาคม 2553 01:40:22 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 02:03:10 »

พระเดชพระคุณพระเทพสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี  เจอ  เทพธิดาที่มารักษารูปจำลองเจ้าแม่กวนอิมองค์ เพราะได้รับบัญชาจากพระแม่กวนอิมโดยตรงเเพ่อมาข่วยมนุษย์

 



ราวปี พ.ศ.2539 แม่ชีซูง้อ แซ่เอ็ง ศิษย์ในพระเดชพระคุณพระเทพสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้อาราธนาหลวงพ่อให้เดินทางไปโปรดโยมบิดา-มารดาและญาติมิตร ณ ประเทศสิงคโปร์ ทัวร์นั้นมีศิษย์ติดตามไปหลายคน

ตอนหนึ่งของการเดินทางแม่ชีซูง้อได้พาหลวงพ่อจรัญไปชมรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่และศักดิ์สิทธิ์เป็น 1 ใน 3 องค์ที่ชาวสิงคโปร์นับถือมาก ขณะเดินชมสถานที่ซึ่งจัดแต่งอย่างสวยงามนั้น จู่ ๆ หลวงพ่อจรัญได้สั่งศิษย์ผู้ชายซึ่งถือย่ามท่านอยู่ให้เอาซองปัจจัยในย่ามของท่านทั้งหมดใส่ลงตู้รับบริจาคที่ตั้งอยู่ใกล้กับองค์เจ้าแม่กวนอิม และสั่งให้ศิษย์ที่ไปด้วยทั้งหมดลงมือทำบุญทันที กำชับอีกว่าทำบุญแล้วจงอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนาอย่างสูงสุดในชีวิตเดี๋ยวนี้

ทุกคนแม้งงกับเหตุการณ์แต่เชื่อหลวงพ่อนี่แน่นอนที่สุด จึงรีบควักปัจจัยหย่อนลงตู้บริจาคเป็นโกลาหล เมื่อทำบุญเสร็จและกลับมายังบ้านพัก ท่านเมตตาเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อบ่ายว่า ขณะที่ท่านยืนพิจารณารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอยู่นั้น ได้เห็นเทพธิดาองค์หนึ่งลอยออกมาจากองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณอย่างชาวจีนซึ่งสวยงามมาก แสดงคารวะต่อท่านและยิ้มแย้มยินดี

หลวงพ่อกำหนด เห็นหนอ ก็ทราบได้ทันทีว่าเทพธิดาองค์นี้เป็นเทพเจ้าระดับสูง มีบุญญาภินิหารมากนัก บำเพ็ญบารมีมาทาง สัจจะวาจา ทำให้เป็นผู้มี วาจาสิทธิ์ เมื่อให้พรใครย่อมเป็นไปตามนั้นทุกประการ ที่มารักษารูปจำลองเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้เพราะรับบัญชาจากพระแม่กวนอิมโดยตรงเพื่อโปรดมนุษย์

และขณะนั้นเทพเจ้าองค์นี้ก็ปรารถนาจะอำนวยพรแก่หลวงพ่อและชาวคณะ ท่านจึงรีบทำทานบารมีและสั่งคณะศิษย์ให้ทำตาม เพื่อสร้าง กรรมพัวพัน อันจะเปิดโอกาสให้พรที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นจริงขึ้นมา เป็นมงคลแก่คณะศิษย์ที่ติดตามไปตลอดชีวิต

สุดยอดไหมล่ะกับหลวงพ่อวัดอัมพวัน ?

เรื่องเหล่านี้คือความจริงที่ผมได้มีโอกาสรับรู้ นับว่าเป็นสิริแก่ตนอย่างยิ่ง แม้จะไม่มีญาณรู้เห็นด้วยตน ชั้นชั่วแต่ได้ผู้ทรงญาณยืนยัน ผมก็ถือเป็นวาสนาแล้ว ผมหายสงสัยได้ในเรื่องเจ้าแม่กวนอิม ไม่เพียงเพิ่มพูนศรัทธาในท่าน ยังเลื่อมใสไปถึงท่านผู้เมตตาแจ้งข่าวเหล่านั้นด้วย หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม และ ท่านพลโทสมาน วีระไวทยะ

ขอกราบขอบพระคุณครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ธันวาคม 2553 02:04:50 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 02:13:05 »


หลวงปู่ดู่เรียกเจ้าแม่กวนอิมว่า เจ๊

เคยมีศิษย์คนหนึ่งนำรูปบูชาของเจ้าแม่กวนอิมไปถวาย พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา อธิษฐานจิต ท่านเอาดินสอพองมาขีดเขียนอักขระบนองค์เจ้าแม่อยู่นาน และแม้เป็นแค่ดินสอพองแต่กลับทะลุลงจับในเนื้อพระได้จนถึงวันนี้แม้ผ่านมานานนับสิบ ๆ ปีน่าอัศจรรย์

ต่อข้อถามถึงการมีอยู่ของพระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงปู่ดู่ท่านได้แต่ยิ้ม ๆ ไม่อธิบายอะไร หากเปรยขึ้นเพียงว่า

“อ้อ ! เจ๊น่ะเหรอ”

เจ๊ แปลว่า พี่สาว หลวงปู่ดู่ก็ปรารถนาพุทธภูมิ ผู้ปรารถนาเช่นนี้มีศัพท์เรียกว่า พระโพธิสัตว์ แปลว่าผู้ข้องอยู่ในความรู้ ผู้ประสงค์ความรู้แจ้ง คือการตรัสรู้นั่นเอง เมื่อทั้งสองท่านประสงค์ในเป้าหมายเดียวกัน การที่หลวงปู่เรียกพระแม่กวนอิมเชิงหยอกว่า เจ๊ อาจหมายได้ว่าองค์กวนอิมสร้างบารมีอยู่ก่อนท่าน เป็นผู้ปรารถนาจุดหมายเดียวกันหากลงมือบำเพ็ญก่อนหลังเท่านั้น ท่านเลยยกพระแม่กวนอิมเป็นพี่สาวในทางธรรม
บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 02:17:35 »


เจ้าแม่กวนอิม จากปากคำของพลโทสมาน วีระไวทยะ [/u]


สมัยหนึ่งได้อ่านบันทึกและคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกันดีกับท่านพลโทสมาน วีระไวทยะ ที่ต้องคุยเพราะนายพลท่านนี้เป็นอีกผู้หนึ่งที่ฝึกฝนสมาธิจิตจนสงบนิ่งควรแก่การงาน ควรแก่การพบเห็นผู้อยู่ต่างภพภูมิได้อย่างน่าทึ่ง และวาระหนึ่งท่านก็ได้พบพระโพธิสัตว์กวนอิม

ท่านนายพลเล่าว่าท่านมักทำสมาธิเมื่อมีเวลาว่างเสมอ โดยเฉพาะก่อนนอนจะนั่งเป็นชั่วโมง ๆ ทุกวัน วันหนึ่งขณะจิตสงบได้พบหญิงสาวนางหนึ่งเหาะลอยมาในอากาศ แวดล้อมด้วยหมู่เมฆสวยงามนัก สตรีท่านนั้นแต่งตัวด้วยชุดจีนพื้นขาวมีลายดอกสีแดงปักห่าง ๆ ใบหน้ายิ้มละมัยเปี่ยมด้วยเมตตา

ครั้นเอ่ยวาจาน้ำเสียงก็ไพเราะดุจระฆังเงินก้องกังวานทั่ว ท่านแนะนำองค์ว่าท่านคือ เจ้าแม่กวนอิม ที่มานี้เพราะสวรรค์เห็นในคุณความดีที่นายพลสมานได้กระทำมาตลอดชีวิต และยังเข้าพระกัมมัฏฐานภาวนาโดยสม่ำเสมอ มหาเทพผู้เป็นใหญ่ในเทวโลกจึงมีบัญชาให้องค์อวโลกิเตศวรนำคำพรมาให้ จากนั้นท่านก็ให้พรเป็นภาษาจีนแต่ไม่ยาวเท่าใด และท่านก็กล่าวลา

เมื่อออกจากสมาธิท่านนายพลก็ไม่แน่ใจว่าตนเกิดนิวรณ์ไปเองหรือเปล่า ด้วยท่านนั้นนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่สุด รู้จักแต่พระไทย ไม่เคยสนใจในเรื่องเจ้าแม่กวนอิมหรือเจ้าจีนที่ไหนเลย ครั้นคิดไม่ตกท่านก็วางเฉยต่อเหตุการณ์

ไม่นานเท่าใดนัก ขณะท่านทำสมาธิในอีกวาระหนึ่งองค์กวนอิมก็มาพบอีกครั้ง คราวนี้ทรงชุดขาวปักลายคล้ายปล้องไผ่และใบไผ่เป็นสีทอง ชายผ้าทั้งแขนเสื้อและคอเสื้อขลิบด้วยด้ายทองเป็นประกายระยิบระยับงามตา ทั้งการแต่งองค์และวงพักตร์ในครั้งนี้งดงามกว่าหนก่อนมากนัก ท่านนายพลถึงแก่ตะลึงด้วยไม่นึกว่าจะพบท่านอีกเป็นคำรบสอง

ท่านปรารภว่า เราคือพระโพธิสัตว์กวนอิม มาครั้งนี้เพื่อยืนยันว่าท่านมิได้ฝันเพ้อหรือเกิดนิวรณ์ในจิตแต่อย่างใด หนก่อนเรานำพรจากสวรรค์มาให้ตามโองการ เมื่อท่านไม่แน่ใจเราจึงต้องมาอีกครั้ง และครั้งนี้เราจะประทานอักษรให้แก่ท่านด้วย

แล้วองค์กวนอิมก็คลี่ม้วนผ้าแดงปักดิ้นทองเป็นตัวอักษรจีนอยู่ภายในให้ดู พร้อมกับอ่านให้ฟังอย่างชัดเจน

“กวนอิมไต้ซือ ซี่สื่อ ฮกลกหงีเทียนสื่อ”

อ่านแล้วก็ทำกิริยายื่นม้วนผ้านั้นให้ ท่านนายพลรับมาอย่างซาบซึ้งในกรุณา เจ้าแม่ยังสั่งอีกว่า ท่านจะจำได้ขึ้นใจทั้งคำอ่านและอักษร จากนี้จงหาผู้รู้หนังสือจีนให้เขาเขียนลงกระดาษแดงด้วยอักษรสีทองแล้วใส่กรอบบูชาไว้ จะบังเกิดโชคลาภ ปราศจากภัยอันตรายแก่ผู้บูชาด้วยอำนาจแห่งเรา และยังสามารถสวดบริกรรมโองการสวรรค์นี้ได้อยู่เรื่อย ๆ จะได้รับพรอันประเสริฐจากเทวโลก ทั้งยังได้รับความคุ้มครองจากเราพระโพธิสัตว์กวนอิม แล้วท่านก็จากไป

เมื่อท่านนายพลออกจากสมาธิ น่าประหลาดว่าท่านสามารถจำลักษณะตัวอักษรและการออกเสียงได้หมดทั้งที่ท่านพลโทสมานไม่รู้หนังสือจีนเลย และท่านก็ไปจ้างซินแสแถวเยาวราชให้เขียนหนังสือนี้ใส่กรอบบูชาไว้เพื่อระลึกถึงคุณแห่งพระแม่กวนอิม และยังเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้ทำไว้บูชาที่บ้าน ได้สวดตามเพื่อความเป็นสิริมงคลเสมอ

นี่เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ผมเชื่อถือในท่านมาก่อนหน้า เมื่อผู้ที่ผมเชื่อใจยังยอมรับถึงความมีอยู่จริงของเจ้าแม่กวนอิม ผมก็เริ่มคล้อยตาม...
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 09:30:45 »

นั่นแน่  เรียกว่า โลกีย ปัญญา โดยหลวงปู่เทศก์

 ตราบใด คนเรา ถ้ายังอยู่ในโลกนี้ถึงแม้ร่างกายจะแตกจะดับไปแล้วก็ตามจิตมันถือมั่นในร่างกายอันนี้อยู่เมื่อจะแสดงร่างกายนี้ให้มนุษย์คนเราผู้มีร่างกายเป็นมนุษย์อยู่ ก็ต้องแสดงเป็นร่างกายออกมาให้เห็นเป็นเพศต่างๆเช่น ภูตผีปีศาจ เทวดา อินทร์ พรหม พวกเหล่านี้ล้วนแต่ยังถือมั่นร่างกายนี้อยู่ทั้งนั้นเมื่อจะแสดงร่างกายของตนออกมาให้เห็นก็จะแสดงกายออกมาเป็นเพศและลักษณะต่างๆ
   ถึงแม้จะเสวยกรรมนั้นๆก็เช่นเดียวกันถ้ามีแต่จิตจะแสดงไม่ได้เด็ดขาดเพราะกายเป็นสนามเวทีของกรรมทั้งปวงสมาธิเป็นเรื่องของจิต แต่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นเรื่องของจิตวาจา แลกายด้วยเพราะถ้าไม่มีจิตแล้ววาจาแลกายจะมีได้อย่างไร เมื่อจิตมีแล้วความวิตกเป็นวาจาจะต้องเกิดขึ้นความวิตกมีแล้วก็จะต้องวิ่งแส่ส่ายไปในรูปธรรมที่เป็นของคนแลสัตว์ทั้งหลาย หรือสิ่งสารพัดวัตถุสิ่งของทั้งปวง
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 09:35:56 »

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น  เรียกว่า โลกีย ปัญญา  เข้าใจมั๊ย

อริยสัจสี่ ยังไม่มี

วิมุตญาณทรรศนะและ ปัญญาวิมุตยังไม่มี

เข้าใจมั๊ย
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 09:44:16 »

อ้างจาก: armageddon
แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร
มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง




หลวงปู่โต๊ะ เจอ พระโพธิสัตว์กวนอิม



ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า.........

"พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"

นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

"วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

"ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี

ตามเทศกาลเจของชาวจีน"

แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง 8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ และหนึ่งในชาวจีนที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมากคือ คุณพ่อของข้าพเจ้าเอง คุณพ่อและคณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชา

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ ..............

ลาสิกขาจากเถรวาท แล้วยังล่ะครับ
เอาชุดโน้น ชุดนี้ มาแต่ง


โลกียปัญญาแท้จริง


บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 19:34:04 »

มารarmageddon หน้าแหกตามเดิม  ไปหาว่า

แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง

ผมยังมีเรื่องพระอวโลกิเตศวรอีกเป็น 10 เรื่อง  จากปากคำของพระพุทธเจ้า และพระอริยะสงฆ์ของไทยทั้งน๊าน  แต่ช่วงนี้เอามาลงแค่นี้เพื่อหักหน้ามารarmageddon แค่นี้ก่อน  เพราะไม่ค่อยว่าง
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 20:46:27 »

มารarmageddon หน้าแหกตามเดิม  ไปหาว่า

แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง

ผมยังมีเรื่องพระอวโลกิเตศวรอีกเป็น 10 เรื่อง  จากปากคำของพระพุทธเจ้า และพระอริยะสงฆ์ของไทยทั้งน๊าน  แต่ช่วงนี้เอามาลงแค่นี้เพื่อหักหน้ามารarmageddon แค่นี้ก่อน  เพราะไม่ค่อยว่าง

http://www.sookjai.com/index.php?topic=12774.0

เอามาอีกหลายๆเรื่อง เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นแสนเรื่อง ก็ไปแสวงหามาเถอะครับ
หน้าไม่แตกอยู่แล้ว

แต่คนเล่าเรื่องน่ะ จะหน้าแตก

 ถ้าภิกษุแสดงธรรม เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชราและ
มรณะ ควรจะกล่าวว่า ภิกษุธรรมกถึก ฯ
             ถ้าภิกษุปฏิบัติ เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชราและมรณะ
ควรจะกล่าวว่า ภิกษุปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ฯ
             ถ้าภิกษุหลุดพ้น เพราะความหน่าย เพราะความคลายกำหนัด เพราะ
ความดับ เพราะไม่ถือมั่นชราและมรณะ ควรจะกล่าวว่า ภิกษุบรรลุนิพพานใน
ปัจจุบัน ฯ
             ถ้าภิกษุแสดงธรรม เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชาติ ฯลฯ
ภพ ... อุปาทาน ... ตัณหา ... เวทนา ... ผัสสะ ... สฬายตนะ ... นามรูป ... วิญญาณ ...
สังขารทั้งหลาย ... อวิชชา ควรจะกล่าวว่า ภิกษุธรรมกถึก ฯ
             ถ้าภิกษุปฏิบัติเพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับอวิชชา ควรจะ
กล่าวว่า ภิกษุปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ฯ
             ถ้าภิกษุหลุดพ้นเพราะความหน่าย เพราะคลายกำหนัด เพราะความดับ
เพราะความไม่ถือมั่นอวิชชา ควรจะกล่าวว่า ภิกษุบรรลุนิพพาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ธันวาคม 2553 20:50:10 โดย armageddon » บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 21:29:37 »

อ้างจาก: armageddon
แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร
มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง




หลวงปู่โต๊ะ เจอ พระโพธิสัตว์กวนอิม



ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า.........

"พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"

นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

"วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

"ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี

ตามเทศกาลเจของชาวจีน"

แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง 8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ และหนึ่งในชาวจีนที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมากคือ คุณพ่อของข้าพเจ้าเอง คุณพ่อและคณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชา

 หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า...........

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน ...........


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

พอกลางวัน ได้สติ
หรือเปล่าครับ



บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 21:36:01 »

พระเดชพระคุณพระเทพสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี  เจอ  เทพธิดาที่มารักษารูปจำลองเจ้าแม่กวนอิมองค์ เพราะได้รับบัญชาจากพระแม่กวนอิมโดยตรงเเพ่อมาข่วยมนุษย์

 



ราวปี พ.ศ.2539 แม่ชีซูง้อ แซ่เอ็ง ศิษย์ในพระเดชพระคุณพระเทพสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้อาราธนาหลวงพ่อให้เดินทางไปโปรดโยมบิดา-มารดาและญาติมิตร ณ ประเทศสิงคโปร์ ทัวร์นั้นมีศิษย์ติดตามไปหลายคน

ตอนหนึ่งของการเดินทางแม่ชีซูง้อได้พาหลวงพ่อจรัญไปชมรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่และศักดิ์สิทธิ์เป็น 1 ใน 3 องค์ที่ชาวสิงคโปร์นับถือมาก ขณะเดินชมสถานที่ซึ่งจัดแต่งอย่างสวยงามนั้น จู่ ๆ หลวงพ่อจรัญได้สั่งศิษย์ผู้ชายซึ่งถือย่ามท่านอยู่ให้เอาซองปัจจัยในย่ามของท่านทั้งหมดใส่ลงตู้รับบริจาคที่ตั้งอยู่ใกล้กับองค์เจ้าแม่กวนอิม และสั่งให้ศิษย์ที่ไปด้วยทั้งหมดลงมือทำบุญทันที กำชับอีกว่าทำบุญแล้วจงอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนาอย่างสูงสุดในชีวิตเดี๋ยวนี้

ทุกคนแม้งงกับเหตุการณ์แต่เชื่อหลวงพ่อนี่แน่นอนที่สุด จึงรีบควักปัจจัยหย่อนลงตู้บริจาคเป็นโกลาหล เมื่อทำบุญเสร็จและกลับมายังบ้านพัก ท่านเมตตาเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อบ่ายว่า ขณะที่ท่านยืนพิจารณารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอยู่นั้น ได้เห็นเทพธิดาองค์หนึ่งลอยออกมาจากองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณอย่างชาวจีนซึ่งสวยงามมาก แสดงคารวะต่อท่านและยิ้มแย้มยินดี

หลวงพ่อกำหนด เห็นหนอ ก็ทราบได้ทันทีว่าเทพธิดาองค์นี้เป็นเทพเจ้าระดับสูง มีบุญญาภินิหารมากนัก บำเพ็ญบารมีมาทาง สัจจะวาจา ทำให้เป็นผู้มี วาจาสิทธิ์ เมื่อให้พรใครย่อมเป็นไปตามนั้นทุกประการ ที่มารักษารูปจำลองเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้เพราะรับบัญชาจากพระแม่กวนอิมโดยตรงเพื่อโปรดมนุษย์

และขณะนั้นเทพเจ้าองค์นี้ก็ปรารถนาจะอำนวยพรแก่หลวงพ่อและชาวคณะ ท่านจึงรีบทำทานบารมีและสั่งคณะศิษย์ให้ทำตาม เพื่อสร้าง กรรมพัวพัน อันจะเปิดโอกาสให้พรที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นจริงขึ้นมา เป็นมงคลแก่คณะศิษย์ที่ติดตามไปตลอดชีวิต

สุดยอดไหมล่ะกับหลวงพ่อวัดอัมพวัน ?

เรื่องเหล่านี้คือความจริงที่ผมได้มีโอกาสรับรู้ นับว่าเป็นสิริแก่ตนอย่างยิ่ง แม้จะไม่มีญาณรู้เห็นด้วยตน ชั้นชั่วแต่ได้ผู้ทรงญาณยืนยัน ผมก็ถือเป็นวาสนาแล้ว ผมหายสงสัยได้ในเรื่องเจ้าแม่กวนอิม ไม่เพียงเพิ่มพูนศรัทธาในท่าน ยังเลื่อมใสไปถึงท่านผู้เมตตาแจ้งข่าวเหล่านั้นด้วย หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม และ ท่านพลโทสมาน วีระไวทยะ

ขอกราบขอบพระคุณครับ.

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

งั้นขออธิษฐานบ้าง


ขอให้เจ้าแม่ มาปรากฎในพระไตรปิฎก ของเถรวาท สักมื้อ
ขอให้พระอานนท์ จารึกเจ้าแม่ ลงในพระไตรปิฎก
เถรวาท ด้วยเทอญ
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 21:59:13 »

อ้างจาก: armageddon
แต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร
มาได้อย่างไม่สมประกอบ ด้วยธรรมะทั้งหลาย ด้วยประการทั้งปวง




หลวงปู่โต๊ะ เจอ พระโพธิสัตว์กวนอิม



ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า.........

"พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"

นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

"วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

"ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี

ตามเทศกาลเจของชาวจีน"

แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง 8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ และหนึ่งในชาวจีนที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมากคือ คุณพ่อของข้าพเจ้าเอง คุณพ่อและคณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชา


พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา........
มาดู พระคีรีมานนท์ ที่อาพาธ


คิริมานนท์สูตร สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ที่ท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี สร้างถวาย ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระคิริมานนท์อาพาธ ได้รับทุกข์ เป็น ไข้หนัก ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับถวายบังคมพระผู้มี พระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร และได้กราบทูล ถึงการอาพาธของพระคิริมานนท์เพื่อขอให้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้โปรดอนุเคราะห์เสด็จเยี่ยม พระคิริมานนท์ยังที่อยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัส กับพระอานนท์ ว่าดูกรอานนท์ ถ้าเธอพึงเข้าไปหาแล้วกล่าวสัญญา๑๐ ประการ แก่คิริมานนท์ภิกษุ ความอาพาธของคิริมานนท์ภิกษุจะพึงสงบระงับโดยพลัน เพราะได้ฟังสัญญา ๑๐ ประการนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ . สัญญา ๑๐ประการเป็นไฉน
๑. อนิจจสัญญา ๒. อนัตตสัญญา ๓. อสุภสัญญา ๔. อาทีนวสัญญา ๕. ปหานสัญญา ๖. วิราคสัญญา ๗. นิโรธสัญญา ๘.สัพพโลเกอนภิรตสัญญา ๙. สัพพสังขาเรสุอนิจจสัญญา ๑๐. อานาปานัสสติ ฯ

และก็ กลับมาอ่านพระสูตรนี้อีกรอบ

ถ้าภิกษุแสดงธรรม เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชราและ
มรณะ ควรจะกล่าวว่า ภิกษุธรรมกถึก ฯ
             ถ้าภิกษุปฏิบัติ เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชราและมรณะ
ควรจะกล่าวว่า ภิกษุปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ฯ
             ถ้าภิกษุหลุดพ้น เพราะความหน่าย เพราะความคลายกำหนัด เพราะ
ความดับ เพราะไม่ถือมั่นชราและมรณะ ควรจะกล่าวว่า ภิกษุบรรลุนิพพานใน
ปัจจุบัน ฯ
             ถ้าภิกษุแสดงธรรม เพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับชาติ ฯลฯ
ภพ ... อุปาทาน ... ตัณหา ... เวทนา ... ผัสสะ ... สฬายตนะ ... นามรูป ... วิญญาณ ...
สังขารทั้งหลาย ... อวิชชา ควรจะกล่าวว่า ภิกษุธรรมกถึก ฯ
             ถ้าภิกษุปฏิบัติเพื่อความหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับอวิชชา ควรจะ
กล่าวว่า ภิกษุปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ฯ
             ถ้าภิกษุหลุดพ้นเพราะความหน่าย เพราะคลายกำหนัด เพราะความดับ
เพราะความไม่ถือมั่นอวิชชา ควรจะกล่าวว่า ภิกษุบรรลุนิพพาน

บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 7.0.517.44 Chrome 7.0.517.44


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 22:42:23 »

 โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 22:59:43 »

มารarmageddon เอ๋ย


มารก็ย่อมเป็นมารวันยังค่ำ  หน้าแตกไปแล้ว  ที่ไปกล่าวหาว่า พระอวโลกิเตศวร ว่า เป็นเรื่องแต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร มาได้อย่างไม่สมประกอบ มาแล้ว     พอเจอหลักฐานของพระอริยะเจ้า เช่น หลวงปู่ดู่ หลวงปู่โต๊ะ และผู้ทำสมาธิถึงขั้นที่ผมนำมาลงที่ต่างเจอเจ้าแกม่กวนอิม(พระอวโลกิเตศวร)  แทนที่จะสำนึกผิด  กลับไปกล่าวหาพระองค์ท่านอีก

ผมจะบอกคุณนะ  วัดในเมืองไทย ที่สร้างรูปหล่อ รูปปั้นต่างๆ ของเจ้าแม่กวนอิม  มีนับไม่ถ้วน  ทั้งๆที่เป็นวัดเถรวาท  เพราะพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์วกวนอิมไปปรากฏตัวให้เจ้าอาวาส และผู้มีอำนาจของวัดเห็นหลายคนและหลายครั้ง  ทำให้เจ้าอาวาสและพระอาจารย์กรรมฐานต้องสร้างรูปธรรมขึ้น เพื่อให้ประชาชนสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม

เช่น วัดธรรมมงคล นำโดย พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาส ได้สร้าง “ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์วกวนอิมหยก ”ลักษณะทรงยืน สูง 2 เมตร 20 เซนติเมตร โดยใช้หยกสีเขียวบริสุทธิ์  และวัดอื่นๆก็สร้างรูปหล่อ รูปปั้นต่างๆ ของเจ้าแม่กวนอิม 

ทั้งนี้พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม เป็นผู้บำเพ็ญพระบารมี 10 ทัศ และมีคุณธรรมเด่นชัด คือ เมตตาธรรม ซึ่งปรากฏ ในตำนานอันยาวนาน พุทธศาสนิกชนเลื่อมใสศรัทธาตลอดมานับเป็นพันๆปี เพราะพระพุทธเจ้าตรัสยืนยันในพระสูตรมหายานมากมายถึงพระโพธิสัตว์องค์นี้  สามารถช่วยผู้คนที่เดือดร้อนได้ ในร่างราวต่างๆที่ประสพความทุกข์

พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทไม่มีปรากฏเรื่องราวหรือแม้แต่พระนามของพระอวโลกิเตศวรอยู่เลย ทว่าในส่วนของนิกายมหายานแล้ว พระอวโลกิเตศวรมีบทบาทปรากฏอยู่มากในพระสูตรสำคัญ ๆ และยังมีเรื่องราวปรากฏในพระสูตรมหายานว่าพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังได้เคยตรัสสนทนาธรรมกับพระโพธิสัตว์พระองค์นี้อยู่บ่อยครั้งทีเดียว ในพุทธศาสนามหายานยกย่องพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่าเป็นพระผู้ได้รับธรรมจักรมาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า และเป็นผู้นำในการรักษาพระพุทธศาสนาและหมุนธรรมจักรต่อไป
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2553 23:58:47 »

มารarmageddon เอ๋ย


มารก็ย่อมเป็นมารวันยังค่ำ  หน้าแตกไปแล้ว  ที่ไปกล่าวหาว่า พระอวโลกิเตศวร ว่า เป็นเรื่องแต่งนิยาย  เนรมิตพระอวโลกิเตศวร มาได้อย่างไม่สมประกอบ มาแล้ว     พอเจอหลักฐานของพระอริยะเจ้า เช่น หลวงปู่ดู่ หลวงปู่โต๊ะ และผู้ทำสมาธิถึงขั้นที่ผมนำมาลงที่ต่างเจอเจ้าแกม่กวนอิม(พระอวโลกิเตศวร)  แทนที่จะสำนึกผิด  กลับไปกล่าวหาพระองค์ท่านอีก

ผมจะบอกคุณนะ  วัดในเมืองไทย ที่สร้างรูปหล่อ รูปปั้นต่างๆ ของเจ้าแม่กวนอิม  มีนับไม่ถ้วน  ทั้งๆที่เป็นวัดเถรวาท  เพราะพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์วกวนอิมไปปรากฏตัวให้เจ้าอาวาส และผู้มีอำนาจของวัดเห็นหลายคนและหลายครั้ง  ทำให้เจ้าอาวาสและพระอาจารย์กรรมฐานต้องสร้างรูปธรรมขึ้น เพื่อให้ประชาชนสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม

เช่น วัดธรรมมงคล นำโดย พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาส ได้สร้าง “ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์วกวนอิมหยก ”ลักษณะทรงยืน สูง 2 เมตร 20 เซนติเมตร โดยใช้หยกสีเขียวบริสุทธิ์  และวัดอื่นๆก็สร้างรูปหล่อ รูปปั้นต่างๆ ของเจ้าแม่กวนอิม  

ทั้งนี้พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม เป็นผู้บำเพ็ญพระบารมี 10 ทัศ และมีคุณธรรมเด่นชัด คือ เมตตาธรรม ซึ่งปรากฏ ในตำนานอันยาวนาน พุทธศาสนิกชนเลื่อมใสศรัทธาตลอดมานับเป็นพันๆปี เพราะพระพุทธเจ้าตรัสยืนยันในพระสูตรมหายานมากมายถึงพระโพธิสัตว์องค์นี้  สามารถช่วยผู้คนที่เดือดร้อนได้ ในร่างราวต่างๆที่ประสพความทุกข์

พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทไม่มีปรากฏเรื่องราวหรือแม้แต่พระนามของพระอวโลกิเตศวรอยู่เลย ทว่าในส่วนของนิกายมหายานแล้ว พระอวโลกิเตศวรมีบทบาทปรากฏอยู่มากในพระสูตรสำคัญ ๆ และยังมีเรื่องราวปรากฏในพระสูตรมหายานว่าพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังได้เคยตรัสสนทนาธรรมกับพระโพธิสัตว์พระองค์นี้อยู่บ่อยครั้งทีเดียว ในพุทธศาสนามหายานยกย่องพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ว่าเป็นพระผู้ได้รับธรรมจักรมาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า และเป็นผู้นำในการรักษาพระพุทธศาสนาและหมุนธรรมจักรต่อไป

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
คนหลงนั้น ยังมีอยู่มาก จะไปห้ามไม่ให้หลงไม่ได้ดอก


มาดูพระโพธิสัตว์ ในตำรานิยาย ที่พระอานนท์ ไม่ได้จารึก ไม่ได้สังคยานา
และพระพุทธเจ้า พระองค์จริง ไม่ได้กล่าวถึง ในพระไตรปิก เถรวาท กันดีกว่า

ว่าแต่งนิยายออกมา เว่อร์ ขนาดไหน

ลักษณะแบบนี้
ถ้าออกบวช ก็จะต้องตรัสรู้ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าไม่ออกบวช ก็ ต้องเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ


ใน “มัญชุศรีมหาปรินิพพานสูตร” พระศาสดาทรงตรัสกับพระปิณโฑละว่า “อันมัญชุศรีผู้นี้ มากล้นไปด้วยมหากรุณา ถือกำเนิดในนครสาวัตถี ในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เมื่อจะเกิดนั้น ในเรือนอุบัติซึ่งดอกบัว คลอดออกจากซอกแขนขวาแห่งมารดา ผิวกายสีม่วงทอง กอปรด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการและอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ สามารถพูดได้เมื่อแรกเกิด เกิดพร้อมด้วยขุมทรัพย์ทั้ง ๗ ทวยเทพเทวาอัญเชิญให้ออกบวช อาจารย์ทั้ง ๙๕ ลัทธิ มาเชื้อเชิญ แต่ไม่อาจโต้วาทะธรรม มีเพียงตถาคตจึงยอมออกบวชแสวงธรรม”

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
นิยาย เว่อร์ ๆ
แต่งนิยาย ให้มีลักษณะ ของมหาบุรุษ มหาปุริสลักษณะ มาเทียบพระพุทธเจ้า (พระองค์จริง)
มาข่มรัศมี พระพุทธเจ้า พระองค์จริงซะด้วยซ้ำ

ด้วยพระมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ
และ อนุพยัญชนะ อีก 80 ประการ

โอโห แถมมี ผิวกายสีม่วงทอง

ซึ่งยังมีแถมขึ้นมาอีก มีบารมี มากกว่าพระพุทธเจ้า พระองค์จริงของเถรวาท ที่มีขุมทรัพย์เพียงสี่ขุม
โดยมีขุมทรัพย์  มากกว่าพระพุทธเจ้า พระองค์จริง
มากกว่าอยู่ตั้ง 3 ขุม เป็น 7 ขุม

แต่ ปัญญา ที่จะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้า น่ะมีมั๊ย ?








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ธันวาคม 2553 00:04:03 โดย armageddon » บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2553 00:12:46 »

ไหนดูหน่อยสิ มหาปุริษลักษณะ เป็นยังไง หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น




พระมัญชุศรี เอกทางปัญญา เทพแห่งเกษตรกรรม วิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์และสถาปัตยกรรม

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=07-2010&date=17&group=66&gblog=62
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2553 09:11:17 »

  หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
ทรงสัพพญู รู้แจ้งแทงตลอด อนาคตังสญาณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีพลาด
ทรงรู้เห็น ของปลอม ที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต ชัดเจน


[๑๔๑]  ครั้งนั้น    พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูก่อนอานนท์ บางที่พวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วง
แล้ว   พระศาสดาของพวกเราไม่มี  ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น  ธรรมก็ดี
วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว   ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ     ธรรมและวินัย
อันนั้นจักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา
ดูก่อนอานนท์ บัดนี้
พวกภิกษุเรียกกันและกันด้วยวาทะว่า อาวุโสฉันใด โดยล่วงไปแห่งเรา ไม่ควร



พระโอวาท อันอมตะ ก่อนนิพพาน ของพระพุทธเจ้า พระองค์จริง
ตามพระไตรปิฎก
ด้วยทรงสัพพญู รู้แจ้งแทงตลอด ทั้งสามโลก ทั้งอดีตและอนาคต

ด้วย อนาคตังสญาณ ทรงมองไปจนพระพุทธศาสนา เลือนหายไป มองไปจนสมัยพระศรีอาริยะเมตตไตร

พระธรรม และวินัย  สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงล๊อกสเป๊ค ด้วยพระธรรม
ครอบคลุมทุกอย่าง ไปเรียบร้อยแล้ว

ด้วยทรงแลเห็นเหตุการณ์ ในอนาคต
อย่างละเอียด ว่าจะมีของปลอม ของลอกเลียนแบบจะเกิดขึ้นมา

จึงกำหนด และล๊อกสเป๊ค พระธรรม และวินัย อันแท้จริงไว้ เรียบร้อย

พระธรรม และวินัย สามารถตรวจสอบ กะปอมก่า สามารถตรวจสอบ ของปลอม ได้
จึงทรงให้ถือ พระธรรม และวินัยเป็นพระศาสดา เมื่อพระพุทธองค์ล่วงลับไปแล้ว

สมกับคำว่า ตถาคต คือธรรม
ผู้ใดเห้นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต

พระธรรมและวินัย

สามารถตรวจสอบ ศาสนาปลอมได้ ตรวจสอบ ศาสดาปลอมได้ สามารถตรวจสอบ พระอรหันต์ปลอมได้
สามารถตรวจสอบ พระโพธิสัตว์ปลอมได้
และยังสามารถตรวจสอบ ไปได้ถึงพระศรีอาริยะเมตไตย องค์ปลอมได้ ทั้งหมด

ว่าจะมีพุงพลุ้ย เป็นหนึ่งใน อนุพยัญชนะ 80 ประการ หรือเปล่า หนอ?
 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น


บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2553 10:04:30 »

phonsak <<< จิม โจนส์

55555555555555555+

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2553 14:31:35 »

ผม(นายพลศักดิ์ วังวิวัฒน์)ก็เคยเจอเจ้าแม่กวนอิม


ผมเคยเจอเจ้าแม่กวนอิมทั้งในนิมิต(ท่านเดินออกมาจากดวงแสงรูปวงรี) และเจออวตารของท่านที่ลงมาในโลกมนุษย์ด้วยที่โลตัสโฮมโปร สุวรรณภูมิ...เรื่องนี้ไม่ได้ล้อกันเล่นนะครับ

เรื่องเป็นอย่างนี้ คือ ปีที่แล้วผมไปที่โลตัสตอนบ่าย 2 ขาไปไม่เห็นใครในที่จอดรถสักคน พอผมกำลังจะจอดรถ ดูไปที่กระจกหลัง ผมกลับไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงคนนี้แปลกประหลาดมาก มีรัศมีแสงเหมือนพระพุทธเจ้าเลย

ผมก็แปลกใจ แต่ไม่สนใจอะไร พอลงจากรถ หญิงคนนั้น ก็เดินมาขอเงินค่ารถผม  อ้างว่าเพื่อจะกลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด   ผมนึกว่า 200-300 บาท ผมก็จะให้ไป แต่หญิงคนนั้นกลับพูดว่า

"ฉันขอค่ารถกลับบ้าน 1000 บาท"

เล่นเอาผมงง..ว่า มีผู้หญิงคนไหนกล้าขอเงินผม 1000 บาท

แล้วผมก็คิดว่า ผมมีเงินในกระเป่ากางเกงไม่ถึงพันบาทแน่นอน ผมก็เลยบอกเธอไปว่า  ผมให้ได้แค่เท่าที่มี  แต่หญิงคนนี้กลับยืนยันกับผมว่า ผมมี 1000 บาทแน่นอน

ผู้หญิงที่ไหนมาขอความช่วยเหลือค่ารถกลับบ้าน เกินราคาที่เป็นไปได้  และยังมาพูดจาทำนองท้าทายผมอีก

ผมเลยบอกหญิงคนนี้ไปว่า ถ้าในกระเป่ากางเกงของผมมีเงิน 1000 บาทจริง ผมเต็มใจให้คุณทั้งหมด 1000 บาท    ปรากฏว่าผมเอาเงิน(ในกระเป๋าซ้าย)ออกมานับ มีเงินแค่ 900 บาท ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมให้ค่ารถคุณเท่าที่ผมมีแล้วกัน คือ 900 บาท

เธอไม่ยอมอีก   แต่เธอกลับทำตาเหล่ไปที่กระเป๋าขวาของผม ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเก็บพวกแบ็งค์ 20 เอาไว้   ผมรำคาญเธอที่ตื้อผมอยู่ได้ เลยลองควักออกมาดู และนับให้เธอเห็นกับตาว่า  ในกระเป้าข้างขวาของผม มีเงินแบ็งค์ 20 อยู่แค่ในสองใบเท่านั้น

ปรากฏว่า มีแบ๊งค์ 20 อยู่ใบหนึ่งจริงๆ  แต่ที่สำคัญ ดันทะลึ่งมีธนบัติใบละ 100 บาทอยู่อีกใบ   เมื่อเป็นเช่นนั้น  ผมจึงต้องทำตามสัญญา คือ ให้เงินเธอไป 1000 บาท

หลังจากนั้นผมก็หันหลังกลับไป  จะไปเอากระเป๋าเงินในรถ  เพราะที่ให้ไปคือเงินในกระเป๋ากางเกงเท่านั้น   ขณะเดินกลับ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า  หรือว่า  ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมมาลองใจผม เหมือนที่ลองใจพระถังซำจั๋ง โดยเอาจีวรเก่าๆซอมซ่อไปให้พระถังซำจั๋งใส่  แทนจีวรใหม่เอี่ยม ทำด้วยผ้าอย่างดี ที่ฮ่องเต้พระราชทานให้

คิดไปคิดมาอีกที  มีอรหันต์พระโพธิสัตว์หลายองค์นี่หว่า อาจจะไม่ใช่เจ้าแม่กวนอิมก็ได้ เดี๋ยวผมไปหยิบกระเป๋าเงินก่อน แล้วจะวิ่งไปถามเธอตรงๆว่าเธอเป็นใคร

ทันใดนั้นเหมือนมีพลังบางอยาง ดึงให้ผมหันกลับไปมองหญิงคนนี้อีกที หญิงท่านนี้ก็โบกมือมาคล้ายจะอำลา ผมก็โบกมือกลับไปให้เธอ  ตอนนั้นเหมือนมีเสียงในจิตตะโกนบอกผมว่า "กวนอิม"

ช่วงนั้นผมเดินถึงรถผมแล้ว เลยเปิดประตูรถหยิบกระเป๋าเงินในรถ กะว่าหยิบเสร็จ จะเดินกลับไปถามหญิงคนนั้น(เพราะเธออยู่ห่างไปเพียงไม่เกิน 15 เมตร)  ผมกะจะถามเธอตรงๆเลยว่า

เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงในจิตของผมบอกว่า  ท่านคือ"กวนอิม"  ไม่ทราบว่า  ผมคิดไปเอง หรือท่านส่งกระแสจิตมาบอกผม

พอผมหยิบกระเป๋าเงินเสร็จ หันกลับไปอีกครั้ง หญิงคนนั้นได้อันตธานหายไปจากครงนั้นแล้ว  

- ถ้าเธอจะเดินเข้าห้างก็เป็นไปไม่ได้  เพราะต้องเดินอย่างน้อย 50 เมตรจึงจะถึง  

- ถ้าเธอจะเดินออกถนนก็ต้องเดินกว่า 60 เมตร จึงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

- ถ้าเธอจะเดินเข้ารถคันไหน  ก็เป็นไปไม่ได้  เพราะผมก็เดินเข้าห้าง  ตาดูเข้าไปภายในรถทุกคัน  ก็ไม่เห็น

- หรือเธอจะเล่นซ่อนแอบกับผม  แอบซ่อน นั่งอยู่ข้างถังขยะ  หรือนั่งอยู่ด้านข้างรถยนคันใดคันหนึ่ง  บ้าเหรอ! เธอกับผมเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว  คงไม่ทำอะไรบ้าๆอย่างนั้น

พูดง่ายๆ....  ผู้หญิงคนนั้นหายไปเฉยๆ    จึงมีทางที่เป็นไปได้ 3 ทาง คือ เธอเหาะไป หรือดำทะลุพื้นถนนไป  หรือ ไม่ก็หายตัวไปเฉยๆ ผ่านมิติโลกนี้ไป หรือหายตัวไปอยู่ในจุดอื่นที่ไกลออกไปเกิน 40-60 เมตร

ผมเดินตามหาเธออีกสักพักหนึ่ง  แต่ก็หาไม่เจอ  ผมเลยเดินเข้าห้างโลตัสโฮมโปรสุวรรณภูมิ เข้าไปซื้อของของผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ธันวาคม 2553 14:44:31 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2553 14:53:11 »

phonsak <<< จิม โจนส์

55555555555555555+

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

Mckaforce นี่ตาถั่วจริงๆ  ผู้เข้าถึงความเป็นพุทธะอยู่ตรงหน้า  เธอกลับบอกว่าเป็น "จิม โจนส์"   จอมมารarmageddonมาราวีเว็บของเธอ  เธอกลับ "สาธุ"

เราจะบอกเธอนะ  จอมมารarmageddon เคยทำเว็บเมเนเจอร์ให้กลายเป็นเว็บมารมาแล้ว  จนคนที่เข้ามาหาธรรม...หนีหมด   ตอนหลังเข้าไปอยู่ในเว็บพลังจิต  คนก็ไม่อยากเข้าไปหาธรรมในเว็บนั้นหาธรรมอีก
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.867 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 20 ธันวาคม 2567 07:11:23