มงคล 38 ประการ
อโสกํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ อโสกังมงคลที่ ๓๖
"ความไม่ยินร้าย, ไม่โศก เป็นอุดมมงคล"หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤๅษีลิงดำ)
อโสกํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ อโสกัง นี่ ท่านบอกว่าไม่โศก แต่บาลีเขาแปลว่า ไม่ยินร้ายอ้าว ไอ้ไม่ยินร้ายมันก็ตรงกันข้ามกับไม่ยินดี ไม่ยินร้ายหมายความว่าอะไรนี่ ตีความว่ายังไงล่ะพ่อคุณ มันก็ไม่โศกเสียดีกว่า บาลีท่านว่าไม่โศก แต่แกแปลว่าไม่ยินร้ายนี่ ฉันไม่รู้หรอก นะ เขาแปลว่าไง อ้อ จิตเกษม จิตไม่ยินดี จิตไม่ยินร้าย ความจริงไม่ยินร้ายก็หมายว่าจิตน่ะ ไม่ประทุษร้ายใคร จิตไม่เศร้าหมอง จิตมีอารมณ์สบาย ปัดโถ ก็กว่าจะมาถึงนี่ อารมณ์มันสบายนานแล้วนี่ ไม่มีอะไรหรอก ตั้งแต่นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัมมังคลมุตตมังโน่นแน่ะ โน่นมันสบายมาตั้งแต่ตอนโน้นแล้ว นี่มาเก็บไล่เบี้ยท่านก็เลยพูดไว้ให้เข้าใจ เพราะอารมณ์ที่มันไม่มีความโศก จะโศกได้ยังไง ก็ความรักในโลก มันไม่มีเสียแล้วนี่ พระบาลีกล่าวว่า ปิยะโต ชายะเต โสโก ปิยะโต ชายะเต ภะยัง ความเศร้าโศกเสียใจเกิดจากความรัก ภัยอันตรายเกิดจากความรัก คือไม่สบายกายไม่สบายใจ ก็ไอ้ตัวนี้ถูกตัดมาเสียนานแล้ว นี่มันจะมีอะไร มีความสุข ปัดโธ่เอ๊ย ไม่เห็นมีอะไร อธิบายไปก็รำคาญวิรชํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํมงคลที่ ๓๗
"ความไม่ยินดีเป็นอุดมมงคล"หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤๅษีลิงดำ)
อีกข้อหนึ่งท่านว่า รชํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ ความไม่ยินดีเอาละซิ เฮอะ ความไม่ยินดี มีความสุขที่สุด ถูก คำว่าไม่ยินดีในที่นี้หมายความว่าไม่ยินดีในความเกิด ไม่ยินดีในความอยาก เอาเสียยังงี้ก็แล้วกัน รวมความว่าธรรมใดๆ เป็นส่วนดี คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขมันโผล่ขึ้นมาไม่ยินดีเลย
ไอ้ข้อต้นก็มีอะไร เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เกิดขึ้นมาไม่ยินร้ายเลย จิตสบายๆ ไม่เห็นจะมีอะไร ถูก ท่านว่าถูก คนอ่านเห็นว่าถูกหรือไม่ถูกก็ไม่ทราบ เป็นอันว่าจิตที่ไม่ยินดีในโลกธรรมทั้ง ๘ ประการ นี่ความจริงพระองค์มุ่งหมายเพียงแค่นี้ คนที่ไม่ติดโลก แล้วก็ถึงนิพพานเท่านั้น ก็มีอยู่ ๒ ตัวแค่นี้ ไอ้ตัวติดก็คือตัวอยาก ถ้ามันไม่อยากเสียแล้วมันก็ไม่ติด ในเมื่อโลกธรรมมันกระทบไม่หวั่นไหวมันไม่ติดแล้ว ไอ้ตัวยินดียินร้ายมันจะโผล่มาจากไหนเขมํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํมงคลที่ ๓๘
"จิตที่มีความเกษมอยู่ จัดว่าเป็นอุดมมงคล"หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ฤๅษีลิงดำ)
เขมํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ จิตที่มีความเกษมอยู่ จัดว่าเป็นอุดมมงคล คำว่าเกษมนี่ หมายความว่ามีความสุขตลอดกาล จริง เมื่อจิตมันวางเฉยเป็นสังขารุเปกขาญาณเสียแล้วนี่ หนาวมากก็ไม่รู้ ไม่เอา ร้อนมาก็ไม่เอา ชมก็ไม่เอา ถูกด่าก็ไม่เอา มียศก็ไม่เอา มีลาภก็ไม่เอา เสื่อมยศ เสื่อมลาภก็ช่างมัน คำว่าไม่เอาในที่นี้ก็หมายความว่าจิตไม่ยินดีด้วย
เขาเอาลาภมาให้ ก็ดีใจ ไม่ใช่ว่าทำเป็นหัวหลักหัวตอ เมื่อเขาเอาเงินเอาทองมาให้ดีใจ ดีใจตรงไหน ดีใจว่าเราจะนำเงินจำนวนนี้ไปสร้างความสุขให้เกิดแก่สาธารณชนทำเงินที่เป็นโลกีย์ให้เป็นโลกุตระ ทำโลกียทรัพย์ให้เป็นอริยทรัพย์ แล้วก็ดีใจที่คนทั้งหลายเขานำเงินมาให้นี่ จิตเขาเป็นกุศล เขาจะพ้นจากความทุกข์ เราก็เอาเงินจำนวนนั้นน่ะแหละ ไปสร้างความสุขให้สูงขึ้น มันสุขตรงไหน เอาเงินมาให้แล้วก็มาสร้างโบสถ์ วิหารการเปรียญ แล้วก็บอกนี่เงินของคุณนะ ที่ชาวบ้านเขาเอามาให้นี่น่ะ ชาวบ้านมานั่งอาศัยศาลาบ้าง กินน้ำในบ่อที่ขุดไว้บ้าง สร้างโรงเรียน สร้างศาลา สร้างโบสถ์ สร้างกุฏิ สร้างส่วนสาธารณะอะไรก็ตาม มันเป็นส่วนสาธารณประโยชน์ แล้วก็แจ้งให้เขาทราบว่านี่เป็นเงินของคุณนา เท่านี้แหละใจของเราก็สบาย ใจของเขาก็สบาย ไม่เห็นจะมีอะไรจิตเป็นเกษม ถ้าคนไม่มีโลกธรรมติดแล้ว ก็เหลือแต่โลกุตรธรรมติด
โลกุตระ แปลว่าหมดอำนาจของโลกที่จะเกาะ อารมณ์ใดที่มีความยุ่ง คือ ตัณหา ความอยาก ไม่มีสำหรับท่านที่มีจิตเป็นเกษม
ความจริง พระพุทธเจ้าท่านไล่ย่อๆ มาทีละน้อยๆ ในที่อื่นท่านไล่ไว้เพียงแค่แคบๆ เพราะเกรงว่าการปฏิบัติจะลำบาก ตอนนี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคก็ทรงร่ายยาวๆ ไว้ ให้ขยับมาทีละหน่อยๆ จนถึง ๓๘ ประการ องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงกล่าวไว้ในที่สุดว่า มงคลแต่ละประการนี้ จัดว่าเป็นความดีสูงสุด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ถ้าพากันปฏิบัติมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง คำว่าไม่พ่ายแพ้ในที่นี้ ก็หมายความว่า ไม่พ่ายแพ้ต่อกำลังของความชั่ว ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน และข้อนั้นจัดว่าเป็นอุดมมงคล คือมงคลสูงสุดของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นดังนี้แล
อันนี้ พระพุทธเจ้าท่านกล่าวไว้ตอนท้ายของมงคล ท่านว่ายังงั้นน่ะ ว่าแต่ละประการนี่เป็นมงคลอันสูงสุด คือความดีสูงสุดจริงๆ เอตาทิสานิ กตฺวาน สพฺพตฺถมปราชิตา สพฺพตฺถโสตฺถี คจฺฉนฺติ ตนฺเตสํ มงฺคลมุตฺตมํ ตามบาลีเขาลงติไว้ ไอ้ตินี่แปลว่า ดังนี้นี่ พระองค์ทรงรับรองว่าแต่ละประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
ถ้าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันปฏิบัติมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน ข้อนั้นจัดเป็นมงคลสูงสุดของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น ดังนี้แล
นี่ เป็นอันว่าจบมงคล บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้อ่าน อาตมาภาพผู้กล่าวหรือว่าเรียงมงคลนี้ บางทีก็เป็นไปตามภาษาที่เรียบร้อยบ้าง ไม่เรียบร้อยบ้าง ก็เป็นจริยาของคนจะเอาความดีหรือเรียบร้อยเหมือนสมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ แต่ว่าเห็นด้วยกับสมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าว่ามงคลทั้ง ๓๘ ประการนี้ หากว่าท่านทั้งหลายนำไปประพฤติปฏิบัติได้ครบถ้วนทั้ง ๓๘ ประการ เป็นอันว่าพวกท่านหยุดทุกข์จริงๆ แต่ทว่าหากว่าบรรดาพุทธบริษัทชายและหญิงทั้งหลาย ยังมีกำลังจิตใจอ่อนอยู่ก็นำมงคลของสมเด็จพระบรมครูในข้อต้นๆ มาปฏิบัติตามลำดับเป็นขั้นๆ อย่ารีบอย่าลัดนัก จะลำบากใจ ทำได้ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ก็ตามใจ ความสุขจะมีขึ้นมาโดยลำดับ
เอาละ สำหรับการพูดถึงมงคล ๓๘ ประการ ตามความต้องการของบรรดาท่านพุทธบริษัทบางท่านที่ส่งเรื่องมา ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่ท่านพุทธศาสนิกชน ผู้อ่านมงคลนี้ทุกท่าน สวัสดี