เปิดกฎแห่งธรรมเชื่อมจักรวาลภายหลังจากหนังสือขายดี “เดอะซีเคร็ต” เขียนโดย รอนดา เบิรน์ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2549 เขาอธิบายกฎแห่งแรงดึงดูดช่วยให้คนหลายล้านคนเข้าใจชีวิตของตนเองมากยิ่งขึ้น กฎแห่งแรงดึงดูดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกฎจักรวาล 7 ข้อ
ในปี 2554 นี้ ดร.เมล กิลล์ จึงได้เปิดเผยความลับเหนือโลกผ่านประสบการณ์ตรงในหนังสือสุดยอดแห่งปี “สุดยอดเดอะซีเคร็ต” เพื่อให้คนทั่วโลกเข้าใจศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ และสามารถค้นพบความสุขที่แท้และยืนยงได้ ที่อธิบายให้เห็นกฎการทำงานระหว่างจิตใจมนุษย์กับกฎจักรวาลนั่นเอง ที่ผ่านมาเราเรียนรู้กฎแห่งวัตถุ รู้ว่าเมื่อโยนแอปเปิ้ลขึ้นบนอากาศ มันจะตกลงมาบนพื้นโลกตาม
กฎของแรงโน้มถ่วง แต่น้อยคนจะรู้ว่า เพียงจิตเรา “คิด” ถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งในระดับจิตสำนึกหรือจิตใต้สำนึก เราก็จะ “ดึงดูด” เอาสิ่งนั้น ๆ เข้ามาหา ตามกฎแรงดึงดูด อันเป็นกฎแห่งจักรวาลข้อหนึ่ง
แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น การค้นคว้าของ ดร. เมล กิลล์ โดยผสานองค์ความรู้ของชาวอียิปต์โบราณ ผ่านกฎ 7 ข้อของเฮอร์เมส หรือปรัชญาเฮอร์เมติกที่จารึกอยู่ใน “จารึกมรกต” ซึ่งหายสาปสูญไป บวกกับประสบการณ์หลังความตายของตัวเอง กฎทางฟิสิกส์ หลักวิทยาศาสตร์ การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ จิตวิทยา แนวอภิปรัชญา ซึ่งกฎทั้ง 7 ประการนี้ ประกอบด้วย กฎแห่งมโนนิยม กฎแห่งการสั่นสะเทือน กฎแห่งขั้วตรงข้าม กฎแห่งจังหวะ กฎแห่งเพศ กฎแห่งเหตุและผล และกฎแห่งความสอดคล้องกัน จังหวะแห่งกฎนั้นสอดคล้องกับหลักธรรมคำสอนในทางพุทธศาสนา ดังตัวอย่างข้อความในหนังสืออธิบายกฎของขั้วตรงข้ามไว้ว่า จิตวิญญาณของมนุษย์ต้องรับมือกับขั้วตรงข้ามที่ว่านี้ ตัวคุณกำเนิดขึ้นในโลกโดยเชื่อมโยงสัมพันธ์กับคนอื่น สิ่งอื่น พร้อมทั้งเชื่อมโยงสัมพันธ์กับตัวตนแท้จริงของคุณเอง แล้วคุณก็พัฒนาอัตตาขึ้นจากสัมผัสรับรู้เพื่อกลับไปสู่ตัวตนแท้จริง และสัมผัสกับความเป็น
หนึ่งเดียวนั้นอีกครั้ง คุณต้องฝ่าฟันกับช่วงเวลาที่ต้องแสดงสิ่งต่าง ๆ ออกมาอีกครั้ง
ในคำถามที่คุณอาจจะถามว่า ทำเพื่อผู้อื่นแล้วจะมีประโยชน์อะไรแค่นี้ชีวิตก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว ลำพังตัวเองก็แทบเอาไม่รอด นับประสาอะไรกับคนอื่น แต่การทำเพื่อผู้อื่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกฎแห่งจักรวาลและเป็นการฝึกเรื่องขั้วตรงข้ามด้วย เมื่อคุณปล่อยวางตัวตนและลงมือทำเพื่อผู้อื่นจริง ๆ คุณก็จะพลิ้วไปตามกระแสชีวิตจนผ่อนคลายเข้าสู่ตัวตนอันแท้จริง เมื่อค้นพบตัวตนซึ่งเชื่อมต่อกับจักรวาลนั้นแล้วจะรู้สึกสงบสุข จากนั้นความสุข ความรัก ความรื่นรมย์ และสิ่งดีทั้งมวลในชีวิตก็จะบังเกิดแก่คุณง่ายขึ้น
ในวันเปิดตัวหนังสือได้มีการเสวนา เปิดเผยเคล็ดลับแห่งความสำเร็จ 7 ประการ จาก 8 บุคคลที่ใช้พุทธศาสนาเป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิต อาทิ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไส จ.ลพบุรี ดร.สนอง วรอุไร ปราชญ์ด้านศาสนาและการปฏิบัติธรรม ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม ครูผู้ทรงคุณวุฒิปัญญาด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครธน เป็นต้น
ดร.สนอง บอกว่า ความสำเร็จอยู่ที่ใจของเราถ้าเราตั้งใจไว้ที่ถูกต้องมันก็เป็นตามนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ทุกสิ่งที่เกิดจะต้องมีเหตุถ้าสร้างเหตุดีผลดีย่อมเกิดขึ้น
เนื้อหาของหนังสือของ ดร.เมล กิลล์ ระบุเรื่องกฎแห่งมโนกรรมไว้ ดร.สนองได้ใช้ประสบการณ์ตรงของตัวเองอธิบายกฎข้อนี้ว่าได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษด้านเชื้อไวรัสมีทักษะด้านการใช้กล้องเชื้อไวรัสอิเล็กตรอน สามารถเห็นสิ่งเล็ก ๆ ทุกอย่างแต่มองไม่เห็นเทวดา เรียนจบกลับมาจึงอยากพิสูจน์เพราะในพุทธศาสนาบอกว่ามีเทวดา จึงพิสูจน์แค่ 7 วันก็เข้าสมาธิสูงสุดที่เรียกว่าเข้าฌาน แต่ออกจากฌานเห็นภพภูมิของตัวเอง แต่สิ่งที่เห็นไม่ได้เห็นด้วยตาแต่เห็นด้วยจิต พลังงานของจิตต้องคงที่จะเห็นนั้นจึงเป็นสาเหตุให้เปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เปลี่ยนพฤติกรรมในด้านดี คิด พูดทำไม่ผิดกฎหมายอยู่ในด้านดีตลอด
“ทุกวันนี้ที่มีปัญหาอยู่ที่จิตถ้าคิดถูกหรือตามที่ฝรั่งพูดว่าเป็นการคิดบวกดีแน่นอน ทุกขณะตื่นต้องเอาสติมากำกับจิตด้วยที่เรียกว่าคิดดีจิตมีมโนธรรม”
ด้าน ดร.อาจอง กล่าวว่า ความบังเอิญไม่มีในโลกเป็นเรื่องจริง ผลลัพธ์บนโลกใบนี้ล้วนเชื่อมโยงกัน สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจ ต้องรู้ว่าเราคือใคร เมื่อมาย้อนดูร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปตามอายุขัย ดังนั้นเราจะบอกว่าร่างกายเราเป็นความจริงไม่ได้ จึงต้องค้นกลับไปว่าความจริงวันนี้คือพรุ่งนี้ของเมื่อวาน แต่เมื่อย้อนกลับไปอีก 100 ปี ต้องเป็นความจริง เช่นอาคารที่เราอยู่อาศัย ย้อนไป 100 ปีไม่มีดังนั้นไม่ใช่ความจริง แต่คือความเปลี่ยนแปลงเปรียบดังโลกของเรามีอายุแค่ 4,500 ล้านปี ดังนั้นสรรพสิ่งที่อยู่ในจักรวาลไม่มีอะไรที่เป็นความจริง
สรุปว่าสิ่งที่ไม่มีการตาย เกิด ดับมีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เมื่อค้นไปจริง ๆ เหล่านั้นคือ “นิพพาน” นิพพานไม่มีการเกิด ไม่มีทุกข์ ไม่มีความสุข เป็นสภาพมั่นคงตลอดเวลา ดังนั้นสภาพที่แท้จริงของมนุษย์เราคือนิพพาน หรือนิพพานในศาสนาอื่นคือพระเจ้าเพราะก่อนมีศาสนามีพระเจ้าอยู่แล้วพระเจ้ามีก่อนจักรวาล เพราะจักรวาลมีอายุของมันจึงไม่ใช่ความจริง พระเจ้าคือนิพพาน นิพพานแต่ละศาสนา เราอาจเรียกกันคนละอย่าง
“มนุษย์ค้นหาความจริงทั่วไปเราคิดว่าวิทยาศาสตร์ ยิ่งใหญ่ แต่จะยิ่งใหญ่ได้อย่างไรในเมื่อวิทยาศาสตร์ศึกษาสิ่งรอบตัวเราแต่ไม่ศึกษาตัวเรา เราจะค้นพบความมหัศจรรย์ทางจิตเมื่อเราหันมาศึกษาตัวเรา”
ด้าน นพ.วิโรจน์ ได้อธิบายกฎแห่งการสั่นสะเทือนว่า วิทยาศาสตร์มีมา 200-300 ปี เรื่องของจิตวิทยาศาสตร์พยายามวัดแต่ไม่มีเครื่องวัด สังเกตไหมว่าบางครั้งเราอ่านหนังสือเยอะแต่ไม่เกิดอะไรไหลเข้าไป เกิดเพียงความทรงจำดีขึ้นแต่ถ้าเราลองปฏิบัติตามหนังสือสิ่งดี ๆ จะไหลซึมเข้าไปในเซลล์ หากจะบอกว่าร่างกายเราคือพลังงานจะทำอย่างไรที่จะเข้าสู่พลังงานตัวเราได้ สังเกตว่าเช้าไปทำงานเย็นหมดพลัง ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะใช้ชีวิตเร่งรีบ ถ้าช้าไม่ได้จะต้องเลือกใส่บางสิ่งในชีวิตเป็นที่มาของคำว่าพอเพียง เราต้องตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไป ชีวิตจะช้าลงเมื่อชีวิตช้าลงจะกลับไปสู่ตัวเองได้
“ต่อไปรูปแบบการรักษาหมอจะไม่จ่ายยาให้แต่อาจให้ไปนั่งสมาธิ สวดจี้กง สวดพระอรหันต์ ส่งผลกระทบต่อกับจิตใจร่างกายและจิตวิญญาณสั่นสะเทือนอย่างเหมาะสมเพื่อเชื่อมโยงสรรพสิ่งในร่างกาย”
ในฐานะผู้เขียนหนังสือ ดร.เมล กิลล์ หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุตกเขาเมื่อ 40 ปีก่อน จนเขาต้องตัดแขนซ้ายทิ้งเพื่อรักษาชีวิต สุดท้ายระหว่างผ่าตัดแพทย์ลงความเห็นว่า เขาเสียชีวิตไปแล้วเป็นเวลา 19 นาที จากการตายในครั้งนี้ทำให้เขาได้ล่วงรู้ถึง “ชีวิตหลังความตาย”
แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อแพทย์สามารถช่วยชีวิตเขากลับมาให้หายใจอีกครั้ง สิ่งหนึ่งที่เขาล่วงรู้จากมิติหลังความตาย กลายมาเป็น “ของขวัญล้ำค่าแห่งชีวิต” ที่ทำให้เขาเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิตหลังออกจากโรงพยาบาล เขาได้ใช้เวลาถึง 40 ปี ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ ทั้งการเป็นคนพิการ สูญเสียทั้งครอบครัว เพื่อนและธุรกิจ เพื่อค้นคว้าและยืนยันคำตอบของความลับที่เขาได้ล่วงรู้ ผสานกับทุกองค์ความรู้ที่มีในโลก จากทั่วห้องสมุดใหญ่ ๆ และเดินทางไปยังดินแดนรกร้างห่างไกลทั่วทุกมุมโลก จนตกผลึกมาเป็น “7 ความลับเหนือโลก”
ปัจจุบัน ดร.เมล กิลล์ เป็นที่ปรึกษาของซีอีโอกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ (ฟอร์จูน 500) ได้รับเชิญบรรยายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักพูดพันล้าน”
สุดยอดเดอะซีเคร็ต แปลและเรียบเรียงโดย ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ซึ่งการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์และการได้พบพานผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญธรรมดา แต่เป็นการบังเอิญที่เหนือความคาดหมาย พิสูจน์เรื่องกฎแห่งแรงดึงดูด ที่มีจริง.
พรประไพ เสือเขียว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=671&contentId=125615