พระเทพญาณมุนี วัดวรนาถบรรพต จ.นครสวรรค์

พระเทพญาณมุนี วัดวรนาถบรรพต
อ.เมือง จ.นครสวรรค์

พระเทพญาณมุนี (วิศิษฎ์ ปัญญาปัชโชโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดวรนาถบรรพต อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และอดีตรองเจ้าคณะภาค 4 พระเถระที่มีวัตรปฏิบัติอันน่ายกย่อง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสของชาวเมืองปากน้ำโพ

มีนามเดิมว่า วิศิษฎ์ แจ่มฐิน เกิดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2476 ที่บ้านเดิมเลขที่ 12 หมู่ 9 ต.ไผ่ท่าโพธิ์ อ.โพทะเล จ.พิจิตร

ช่วงวัยเยาว์ จบชั้น ป.4 จากโรงเรียนประชาบาลวัดดงเสือเหลือง ต.ไผ่ท่าโพธิ์ อ.โพทะเล จ.พิจิตร จากนั้นช่วยครอบครัวทำงานหาเลี้ยงชีพ

วันที่ 5 มี.ค.2492 เข้าพิธีบรรพชาที่ วัดนครสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยมีพระเทพสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ วัดนครสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2496 ณ วัดนครสวรรค์ โดยมีพระเทพสิทธินายก เป็นพระอุปัชฌาย์

เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม จนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ.2499

จากนั้นเล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี พ.ศ.2507 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค สำนักเรียนวัดนครสวรรค์ พ.ศ. 2517 สอบได้วิชาชุดครูพิเศษมูล พ.ศ.2542 ได้รับปริญญาบัตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับการปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2503 เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ พ.ศ.2506 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2507 เป็นเจ้าอาวาสวัดวรนาถบรรพต พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ พ.ศ.2540 เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2546 เป็นรองเจ้าคณะภาค 4

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2512 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูวิศิษฎ์จริยาวัตร พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุธีรธรรมโสภณ

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชพรหมาภรณ์

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพญาณมุนี

เป็นพระเถระที่ชอบสั่งสอนด้วยการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง วัตรปฏิบัติที่ท่านปฏิบัติมิได้ขาดเลย คือการออกบิณฑบาตทุกเช้า

ท่านเคยกล่าวว่า "การออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์ ถือเป็นกิจของสงฆ์" ไม่ว่าท่านจะอยู่ในฐานะตำแหน่งใด

ท่านยังบริจาคทรัพย์เพื่อสาธารณกุศลและประโยชน์ส่วนรวม รวมเป็นเงินหลายสิบล้านบาท เช่น สมทบทุนสภากาชาดไทย สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา จัดหาทุนสร้างศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี

เป็นพระสงฆ์ที่ได้รับความเคารพศรัทธาเลื่อมใสจากศิษยานุศิษย์ ทั้งยังดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พระภิกษุและฆราวาสรุ่นหลัง สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการสงฆ์และศาสนามาตลอดตราบจนวาระสุดท้าย

เวลาประมาณ 05.30 น. วันที่ 2 ก.พ.2555 พระเทพญาณมุนี มรณภาพ สิริอายุ 79 ปี พรรษา 58 ด้วยอาการป่วยเรื้อรังหลายโรค เช่น โรคปอด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

ท่านเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ และกลับมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์อีกหลายครั้ง

ล่าสุดเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2554 ด้วยโรคประจำตัวและนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาตลอด จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 2 ก.พ. เจ้าหน้าที่พยาบาลเข้าไปจะเช็ดตัวให้ พบว่าท่านมรณภาพแล้ว

นับเป็นการสูญเสียพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีอีกรูป

อริยะโลกที่6
ชาติชาย เกียรติพิริยะ