[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 14:37:13 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธนิกายสยามวงศ์  (อ่าน 3577 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5798


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 05 มิถุนายน 2559 17:38:21 »




พุทธนิกายสยามวงศ์

ประเทศไทยและประเทศศรีลังกามีประวัติความสัมพันธ์ด้านศาสนายาวนานกว่า ๗๐๐ ปี ตั้งแต่สมัยสุโขทัยนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าพุทธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศไทยมีชื่อว่า "ลังกาวงศ์" ในขณะที่พุทธศาสนานิกายเถรวาทที่สำคัญนิกายหนึ่งในประเทศศรีลังกามีชื่อว่า "สยามวงศ์" หรือ "สยามนิกาย"

พระพุทธศาสนาในประเทศไทยนั้นได้รับสืบทอดมาจากประเทศศรีลังกาเมื่อครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี กล่าวคือในปี พ.ศ.๑๖๙๖ พระเจ้าปรากรมพาหุมหาราช กษัตริย์แห่งลังกาทวีป ทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาจนรุ่งเรืองทั้งการศึกษาและการปฏิบัติ จนลังกาในยุคนั้นเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา พระสงฆ์จากประเทศต่างๆ เดินทางเข้าไปศึกษาพระธรรมวินัยและบวชใหม่ในลังกา แล้วกลับไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในประเทศของตน บ้างก็นิมนต์พระสงฆ์จากลังกาเข้าไปเผยแผ่พุทธศาสนา เช่น ในกรณีของสยามประเทศ นิมนต์พระสงฆ์จากลังกา นามว่า ราหุล มาจำพรรษาและเผยแผ่พุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ ณ เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๗

ในปี พ.ศ.๑๘๒๐ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย อาราธนาพระมหาเถรสังฆราชจากเมืองนครศรีธรรมราชมาจำพรรษา ณ วัดอรัญญิก กรุงสุโขทัย ทำให้พระพุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์เจริญรุ่งเรืองในสยามประเทศ รวมถึงในปี พ.ศ.๑๙๐๔ พระเจ้าลิไท กษัตริย์องค์ที่ ๕ ของกรุงสุโขทัย ทรงอาราธนาพระมหาสามีสังฆราช จากลังกาทวีปมาจำพรรษา และในยุคนี้เองที่เริ่มแบ่งคณะสงฆ์ออกเป็น ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายคามวาสี และฝ่ายอรัญวาสี

ขณะที่สยามนิกายในศรีลังกา กำเนิดปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ คณะสงฆ์ในศรีลังกาเสื่อมสูญไป เนื่องจากภัยคุกคามจากพวกทมิฬกับชาติตะวันตก ครั้งนั้นลังกาทวีปมีเพียงคณะสามเณร นำโดย สามเณรสรณังกร สามเณรเหล่านั้นไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้ เพราะไม่มีพระอุปัชฌาย์และพระอันดับ กษัตริย์พระนามว่า พระกีรติศรีราชสิงหะ จึงได้ส่งคณะทูตมายังกรุงศรีอยุธยา ขอสมณทูตจากสยามไปช่วยฟื้นสมณวงศ์ในศรีลังกาเมื่อปลาย พ.ศ.๒๒๙๓

พ.ศ.๒๒๙๕ คณะพระธรรมทูตชุดแรกจากกรุงศรีอยุธยา นำโดย พระอุบาลี พร้อมพระอริยมุนี และพระนามะ เดินทางไปยังศรีลังกาโดยเรือกำปั่นของฮอลันดา ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น ๕ เดือน ๔ วัน

เมื่อถึงเกาะลังกาแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบุปผาราม กรุงศิริวัฒนบุรี (ปัจจุบันคือวัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี้) พระธรรมทูตจากสยามได้อุปสมบทสามเณรสรณังกรและคณะ รวมทั้งกุลบุตรแห่งลังกาทวีปเป็นพระภิกษุกว่า ๗๐๐ รูป ภายในระยะเวลา ๓ ปี ที่พำนักอยู่ ทั้งยังได้ร่วมกันฟื้นฟูสมณวงศ์ในศรีลังกาจนเป็นผลสำเร็จ นำสู่การก่อตั้งคณะสงฆ์นิกายใหญ่ที่สุดและทรงอิทธิพลที่สุดนิกายหนึ่งจวบจนถึงปัจจุบัน นามว่า "สยามนิกาย" ด้วยเป็นนิกายที่สืบเชื้อสายสมณวงศ์มาจากสยาม

ปี พ.ศ.๒๒๙๘ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงส่งคณะธรรมทูตชุดที่ ๒ ไปยังศรีลังกาเพื่อผลัดเปลี่ยนหน้าที่กับคณะธรรมทูตชุดแรก คณะธรรมทูตไทยชุดที่ ๒ นำโดย พระวิสุทธาจารย์ และ พระวรญาณมุนี เมื่อเดินทางถึงเมืองท่าตรินโคมาลีแห่งลังกาทวีป ได้ทราบว่าพระอุบาลีถึงแก่มรณภาพเสียแล้วภายในกุฏิวัดบุปผาราม ด้วยโรคหูอักเสบ

คณะธรรมทูตชุดที่ ๒ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบุปผาราม และดำเนินกิจกรรมทางศาสนาต่อเนื่องจากคณะสงฆ์สยามชุดแรกเป็นเวลารวมทั้งสิ้น ๔ ปี จนกระทั่งเดินทางกลับกรุงศรีอยุธยาในปี ๒๓๐๑ ซึ่งเป็นปีสุดท้ายในรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

การที่คณะสงฆ์สยามเดินทางไปสืบพุทธศาสนาในศรีลังกา ทำให้พุทธศาสนาในศรีลังกาซึ่งเดิมเสื่อมทรามลงได้กลับมาฟื้นฟูจนเป็นหลักให้กับดินแดนลังกาทวีปอีกครั้ง

ศรีลังกาขนานนามพระสงฆ์ที่ได้รับการอุปสมบทจากพระอุบาลีว่า "อุบาลีวงศ์" หรือ "สยามวงศ์" และทำให้ "สยามนิกาย" เป็นหนึ่งในพุทธศาสนานิกายเถรวาทในศรีลังกาที่มีผู้ให้การยอมรับนับถือเป็นจำนวนมากสืบต่อมา

เกี่ยวกับพระอุบาลี ธรรมทูตรูปแรกแห่งสยามวงศ์ ศึกษาเรื่องราวของท่านได้ที่ "พิพิธภัณฑ์พระอุบาลีมหาเถระ" ตั้งอยู่ภายในวัดธรรมาราม ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฟากตะวันตกนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระอุบาลีมหาเถระ และเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๒๖๐ ปี แห่งการฟื้นฟูพระพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในแผ่นดินลังกา



ที่มา (เรื่อง-ภาพ) : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.303 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 05 ตุลาคม 2567 23:23:51