หลวงปู่วาส สีลเตโช พระเกจิดังแห่งวัดสะพานสูง

หลวงปู่วาส สีลเตโช
พระเกจิดังแห่งวัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลวงปู่วาส เป็นศิษย์เอกสืบสายธรรมจากหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่กลิ่น หลวงพ่อทองสุข หลวงตาใย แห่งวัดสะพานสูง จ.นนทบุรี ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นพระเกจิชื่อดังเรืองนามด้วยกันทั้งสิ้น

อัตโนประวัติหลวงปู่วาส เกิดในสกุล เกิดน้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มี.ค.2459 ที่บ้านในเขต อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีบรรพชา-อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระสุเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัด ปรมัยยิกาวาส ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า "สีลเตโช"

สำหรับประวัติ หลวงปู่วาส ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่เอี่ยม ชัดเจนที่สุด คือ หลวงปู่วาส สืบทอดพุทธาคมจากอาจารย์แปลก ร้อยบาง แห่งวัดสะพานสูง และท่านยังเป็นทายาทโดยสายเลือดของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง โดยเป็นเหลนของทวดอิ่ม ผู้ซึ่งเป็น น้องสาวร่วมอุทรของหลวงปู่เอี่ยม

นอกจากนี้ หลวงปู่วาส ยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน โดยหลวงพ่อสุ่น ท่านเป็นทั้งน้าและอา เกี่ยวโยงเป็นญาติกัน

ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ.2480 เมื่อครั้งที่ท่านบวชนั้น ทั้งหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง และหลวงพ่อสุ่น ได้เดินทางไปร่วมงานฉลองพระใหม่ที่บ้าน และหลวงพ่อสุ่นได้มอบหนุมานเนื้องาและผ้ายันต์ให้เป็นของที่ระลึก พร้อมกับบอกคาถาปลุกเสกหนุมานให้ขลังด้วย

ส่วนพระอาจารย์ผัน แห่งวัดอินทาราม ศิษย์เอกของหลวงปู่กลิ่นและเป็นผู้ที่สร้างพระปิดตา-พระลำพูน ถวายหลวงปู่กลิ่นแจกในงานแซยิด ครบ 6 รอบของหลวงปู่ ซึ่งพระอาจารย์ผัน ยังมีความเกี่ยวข้องเป็นญาติผู้พี่ของหลวงปู่วาสอีกด้วย

ส่วนหลวงพ่อจำปา พระเกจิอาจารย์ทางด้านสักยันต์ แห่งวัดสาลีโข มีศักดิ์เป็นหลวงน้าของหลวงปู่วาส

กล่าวกันว่า หลวงปู่วาส สีลเตโช แห่งวัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นผู้สืบทอดวิชาตะกรุดโสฬสมหามงคล ตะกรุดมหาอุด

ในอดีตที่ผ่านมา หลวงปู่วาส ได้ฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์แปลก ร้อยบาง ฆราวาสทายาทพุทธาคมยันต์มหาอุด

ตามความเดิมนั้น อาจารย์แปลก ร้อยบาง เป็นศิษย์ฆราวาส ร่ำเรียนวิชาการทำตะกรุดโสฬสมหามงคล มาจากหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูงในฐานะ ศิษย์สายตรงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นฆราวาส ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมืองนนทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง

จวบจนหลวงปู่กลิ่น มรณภาพ อาจารย์แปลกก็ยังคงจารตะกรุด จนถึงสมัยของหลวงปู่สุข และในครานั้นเองอาจารย์แปลก ได้ถ่ายทอดวิชาการทำตะกรุดมหาอุดให้กับหลวงปู่วาส ส่วนหลวงตาใย ศิษย์หลวงพ่อทองสุข ได้ครอบครูยันต์โสฬสมหามงคลให้กับหลวงปู่วาส อีกด้วย

โดยหลวงปู่วาสร่ำเรียนวิชานี้อย่างครบสูตรวิชาโสฬสมหามงคลและยันต์มหาอุด จนเกิดความชำนาญ สามารถสานต่องานลงจารเขียนยันต์ด้วยจิตที่มีสมาธิแน่วแน่บังเกิดเป็นพุทธคุณเห็นทันตาในยุคนั้น

นอกจากความเป็นพระเกจิชื่อดังแล้ว ในอีกด้านหนึ่งท่านยังเป็นพระนักพัฒนา หลวงปู่วาส บริจาคปัจจัยที่คณะศิษย์ได้ร่วมทำบุญจัดตั้งเป็นกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดสะพานสูง นำไปเป็นทุนการศึกษาส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มให้กับบุตรหลานของพุทธศาสนิกชนข้างวัดที่มีฐานะยากจน สนับสนุนนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาล

รวมทั้งทุนเรียนดีสำหรับนักเรียนที่สามารถสอบผ่านธรรมศึกษาชั้นตรี-โท และเอก รวมทั้งปรับแนวการเรียนการสอนธรรมศึกษาไม่ให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายด้วยการจัดสอนดนตรีไทยประเภทอังกะลุง และประเภทเครื่องสาย

ท่านสนับสนุนปัจจัยส่วนหนึ่งในการจัดหาเครื่องดนตรีดังกล่าวด้วย รวมทั้งจัดให้มีการประกวดการแข่งขันขึ้น โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในอำเภอปากเกร็ดและอำเภอใกล้เคียงร่วมส่งเข้าประกวดชิงถ้วยรางวัล

ท่านพัฒนาวัดสะพานสูงอย่างเป็นรูปธรรม ก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุจำนวนมาก อันเป็นรากฐานแห่งความมั่นคงของพระพุทธศาสนาไว้เป็นอเนกประการ

หลวงปู่วาส สีลเตโช มรณภาพด้วยวัย 100 ปี เวลา 00.29 น. วันที่ 15 เม.ย.2559 ด้วยเหตุติดเชื้อในกระแสเลือดและโรคเบาหวาน ที่โรงพยาบาลกรุงไทย ปากเกร็ด จ.นนทบุรี