[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 17:58:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไซอิ๋ว(ฉบับเดินทางสู่พุทธภาวะ) : เห็นผู้อื่นเป็นพระแล้วจะได้เป็นพระ(เมืองฆ่าพระ)  (อ่าน 1929 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.273 Chrome 50.0.2661.273


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2559 06:13:41 »




พระถังซัมจั๋งและสานุศิษย์จาริกมากลางลมและฝน สองข้างทางต้นไม้มีผลดอกงดงามยิ่ง กวนอิมโพธิสัตว์เสด็จพร้อมกับเสียนไจ๊ท่งจื๊อ ( สัมมาสังกัปปะ - อดีตคือปีศาจ อั้งฮั้ยยี้ มิจฉาสังกัปปะ) มาแจ้งเหตุสำคัญ ในการที่จะผ่านเมืองเบี๊ยดฮวยก๊ก (เมืองทำลายธรรม) ด้วยเหตุว่าพระราชา เมืองนั้นได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า จะฆ่าพระให้ครบหมื่นรูป บัดนี้ได้ฆ่าพระที่ไม่มีชื่อเสียงไปแล้ว ๙,๙๙๖ รูป ขาดอีก ๔ รูป
 
เห้งเจียทราบความจากกวนอิมโพธิสัตว์ (เมตตา) และเสียนไจ๊ท่งจื้อ (สัมมาสังกัปปะ - ดำริชอบ) แล้วออกอุบายนำหน้าพาคณะหลบออกจาก ทางใหญ่แวะพักข้างทางให้โป้ยก่าย(ศีล) และซัวเจ๋ง(สมาธิ) อยู่เฝ้ารักษาอาจารย์ ส่วนเห้งเจีย(ปัญญา)แปลงกายเป็นแมลงเม่าบินเข้าไปในเมือง แล้วแปลงเป็นหนูเข้าไปคาบผ้าโพกศีรษะและเสื้อจากโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แล้วรีบกลับมาหาพระถังซัมจั๋ง อาจารย์และศิษย์เอาผ้าโพกหัวใส่เสื้อ เพื่อปลอมกายกลายเป็นฆราวาส ทำทีเป็นพ่อค้า ๔ พี่น้องหาใช่พระไม่ เห้งเจียปลอบใจพระถังซัมจั๋งว่า “แม้เมืองนี้เป็นเมืองฆ่าพระก็จริง แต่ พิจารณาดีดีแล้วจะเห็นรัศมีรุ่งเรือง”
 
พ่อค้าม้าปลอม ๔ พี่น้อง จูงม้าขาวเข้าเมืองในตอนหัวค่ำ เพื่อใช้ความมืดพรางตาเข้าไปขอเช่าโรงพักแรมคนเดินทาง เห้งเจียกลัวความ จะแตกจึงแจ้งกับเจ้าของว่า พี่ชายคนโต (พระถังซัมจั๋ง) นั้นเป็นโรคอาย แสงไฟ น้องที่สาม (โป้ยก่าย)นั้นเป็นโรคเหน็บชา น้องคนเล็ก(ซัวเจ๋ง) เป็นโรคกระษัยไตพิการ จึงขอห้องพิเศษที่ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปได้ เจ้าของโรงเตี๊ยมจึงให้เข้าไปนอนในตู้ใบใหญ่ทั้ง ๔ คน แล้วลั่นกุญแจปิดเสียด้วย
 
 
 
ครั้นตกดึกยังมีโจรกลุ่มหนึ่งแอบฟังเรื่องราวที่เห้งเจีย คุยโวอวดรวยอยู่ในตู้ จึงกรูเข้ามาปล้นโรงเตี๊ยมแล้วหามตู้ใบนั้นไป เห้งเจียกำหนดรู้อยู่ แต่แรกว่าโจรจะช่วยหามตู้ไปทางทิศไซที แต่โจรกลับหามไปทางทิศตะวันออก แต่ขณะนั้นกองทหารหลวงซึ่งได้รับแจ้งเหตุโจรกรรม ตามมาทันเข้าสู้รบ แย่งชิงตู้ใบใหญ่ได้และร้องกันขึ้นว่าจะนำขึ้นทูลเกล้า ถวายพระราชาให้เป็นสมบัติหลวง
 
พระถังซัมจั๋งอยู่ในตู้ได้ฟังดังนั้นก็ร้อนใจกระวนกระวายเพราะกลัวถูกฆ่า เห้งเจียเฝ้าปลอบใจอาจารย์ต่างๆนานา ให้เชื่อในความสามารถของตน แล้วชักตะบองออกจากรูหู เสกคาถาให้มันกลายเป็นสว่านแล้วหมุนไชตู้รูเล็กๆ แล้วตนเองแปลงเป็นมดตะนอยไต่รอดรูออกไปข้างนอกตู้ แล้วถอนขน เสกเป็นหนอนหาวนอนหลายพันตัว เห้งเจียร่ายมนต์เรียกพระภูมิเจ้าที่ ผีปีศาจมาแจกหนอนหาวนอนให้ แล้วสั่งให้ไปใส่ปากใส่ตา แก่พระราชาและทหารรักษาพระองค์ทั้งวังหลวง
 
เมื่อพระภูมิเจ้าที่และสมุนผีไปตามคำสั่งแล้ว เห้งเจียถอนขนเป่ามนต์ เสกให้เป็นเห้งเจียอีกนับจำนวนพันตัว แต่ละตัวถือมีดโกนตัวละเล่ม เห้งเจียสั่งให้ทุกๆตัว เข้าไปในวังหลวงแล้วโกนหัวพระราชา และข้าราชบริพาร ในขณะหลับใหลให้หัวโล้นทุกคน ฝ่ายเห้งเจียสั่งการเสร็จแปลงเป็นมดตะนอยไต่เข้ารูสว่านเข้าในตู้ ตามเดิมเหล่าทหารปราบโจรแบกตู้ใบใหญ่ เข้าสู่วังหลวง
 
กล่าวฝ่ายพระราชาและนางสนมกำนัล พร้อมทั้งข้าราชบริพาร ตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองมีศีรษะโล้นเกลี้ยง สลดสังเวชในพระทัยยิ่งนัก หวนนึกถึงบาปลามกที่เคยฆ่าพระแล้ว สะดุ้งใจต่อผลกรรมที่เห็นทันตานี้ จึงตั้งพระทัยเด็ดขาดในการเลิกฆ่าพระ และจะทำแต่การบุญต่อไป
 
ครั้นพวกทหารเปิดตู้ใบใหญ่ พระถังซัมจั๋ง เห้งเจีย โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง ผู้เป็นสงฆ์ทั้ง ๔ รูปเดินออกมาอย่างสง่า พระราชาเห็นเช่นนั้นก็ถวาย สักการะใหญ่ทรงตื้นตันพระทัยและศรัทธาในพระถังซัมจั๋งยิ่งนัก เมื่อทราบความประสงค์ของพระถังซัมจั๋งในการไปไซที เพื่ออาราธนาพระไตรปิฎก กลับไปยังเมืองจีน
 
พระถังซัมจั๋งได้เปลี่ยนชื่อเมืองฆ่าพระนี้เสียใหม่ เป็นเมืองรักษาธรรม ครั้นได้รับประทับตราหนังสือผ่านเมืองแล้ว พระถังซัมจั๋งและศิษย์ ถวายบังคมลาพระราชา มุ่งหน้าสู่ประเทศไซที
 
(พระที่สำคัญตนว่าเป็นพระ แต่ขาดเมตตา จะมีจิตใจที่ขาดจาก ความเป็นพระมากเท่านั้น การด่าผู้อื่น ตำหนิผู้อื่น นินทาผู้อื่น กล่าวหา ฆราวาสว่าต่ำช้า อย่างขาดเมตตาธรรม ต่อเมื่อยามใดเห็นฆราวาสเป็นพระ เห็นผู้อื่นบริสุทธิ์ ใจก็จะบริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่มีวินัยจะคอยแต่จับผิดผู้อื่น เพราะคิดว่าตัวเองดี นานเวลาเข้าจะยิ่งห่างไกลจากการเป็นพระมากยิ่งขึ้น พึงรักษาธรรมอยู่เสมอจะเข้าใกล้ความเป็นพระ (พุทธภาวะ) มากเท่านั้น)

จาก http://www.khuncharn.com/skills?start=28

อีกอัน ไซอิ๋ว ฉบับ อาจารย์ เขมานันทะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=maekai&month=10-07-2008&group=15&gblog=1

ลิ้ง สำรอง http://www.tairomdham.net/index.php/topic,11949.0.html

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.24 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 19 ธันวาคม 2567 22:56:42