[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 10:48:49 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 2 [3] 4 5 ... 7   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "แสงธรรมสุขใจ"  (อ่าน 75999 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.5.7 Firefox 3.5.7


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 เมษายน 2553 10:11:57 »



มีเพียงใจดวงใสใส กระจ่างสว่างวาบ
กับบทเรียนแห่งสัจจธรรมมรณานุสติ

สู่..
ทางสายธรรม
อันแสนสว่างสงบ..
สยบทุกข์สุข

หยุด
ว่ายวนพ้นเพียร
พาร่างให้ห่างไกลกิเลส
จิตแว่วสำเนียง
"ชีวิตนี้ช่างแสนสั้นนัก..."

ให้..
พ้นผ่านทุกข์
ด้วยรู้หยุดรู้วาง
เลือกทางสายกลาง
รักษาศีล..ภาวนาสมาธิ

ให้..
ตั้งจิตมั่น ตั้งสัตยาธิษฐาน
จิตพ้นม่านกรรม
ขัดเกลากิเลสอันมัดหนา

รอ..
เพียงแสงธรรมส่องนำทาง
ให้พบความกระจ่างแจ้ง
ดั่งบัวพ้นน้ำ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 มกราคม 2554 14:22:03 โดย ขม..ค่ะึึ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
 
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553 05:16:56 »




อุทิศนา

ลอยธรรมะมาลัย   ลงสู่โลกอันเบียฬบีฑ์
แผ่ธรรมะรังษี   ตามพระพุทธทรงประสงค์ ฯ

มั่นหมายจะเสริมศาสน์   สถาปน์โลกให้อยู่ยง
ปลอดภัยพินาศ, คง   เป็นโลกศุขสถาพร ฯ

หากแล้งพระธรรมญาณ   อันธพาลกลีบร
จะครองโลกเป็นอากร   ให้เลวลู่สู่เดรัจฉาน ฯ

จะทุกข์ทนทั้งคืนวัน   พิฆาตกันบมีประมาณ
ด้วยเหตุอหังการ   เข้าครองโลกวิโยคธรรม ฯ

บรรษัทพระพุทธองค์   จึ่งประสงค์ประกอบกรรม
ตามแนวพระธรรมนำ  ให้โลกผองผ่องพ้นภัย ฯ

เผยแผ่พระธรรมทาน   ให้ไพศาลพิชิตชัย
แปดหมื่นสี่พันนัย   อุทิศทั่วทั้งธาษตรี ฯ


พุทธทาสภิกขุ  ๒๕๒๓

 ยิ้ม   http://www.oknation.net/blog/all-about-rice/2009/07/04/entry-3 
บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553 12:34:37 »



การอบรมใจให้คุ้นเคยกับความดี ความสงบ
เป็นสิ่งควรทำอย่างยิ่งด้วยกันทุกคน
ผลที่เกิดตามมานั้นมีค่าหาที่เปรียบมิได้
และความคิดก็เหมือนเด็กที่กำลังหัดว่ายน้ำ

สติ คือ ผู้สอนต้องหาหลักให้โผไปจับไปยึด
ไม่ปล่อยให้เด็กโผออกไปกลางน้ำตามลำพังไม่มีที่ยึดเหนี่ยว ก็จะจมน้ำตาย
เรื่องราวร้อยแปดคือกระแสน้ำเชี่ยวแรง
ใจที่ไม่ได้รับการอบรมให้สงบ คือ
ผู้ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำเชี่ยวแรงนั้น

สติ คือ ผู้กำลังสอนเด็กคือใจหรือความคิดให้ว่ายน้ำ
สติ ต้องหาหลักให้ใจเกาะ ถ้าปล่อยให้ผลุบโผล่อยู่กลางน้ำเชี่ยวแรงหมุนติ้วอยู่เช่นนั้น
ไม่น่าก็จะจมหายไปในกระแสน้ำ สิ้นชีวิต

ทุกคนที่ไม่คุ้นเคยกับการอบรมจิต
คือเด็กที่กำลังกระเสือกระสนผลุบโผล่อยู่กลางน้ำเชียว
ถ้าไม่มีหลักเกาะไว้ให้มั่นจักจมน้ำตาย
การตายเช่นนี้น่ากลัวน่าสลดสังเวชยิ่งกว่าการตายจริงๆ
คือน่าสลดสังเวชยิ่งกว่าการหมดลมหายใจ

อันเป็นกฎธรรมดาของทุกสิ่ง มีเกิดต้องมีดับ
จึงไม่ใช่เรื่องควรสลดสังเวช
แต่การตายแบบที่กล่าวว่าเหมือนผู้ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสายน้ำเชี่ยว
ไม่หลักยึดเหนี่ยว
เมื่อหมดแรงสู้กับกระแสน้ำที่ไม่มีเวลาจะลดความแรงลง
ก็ย่อมจะจมลง หายไปในกระแสน้ำ

การตายเช่นนั้นเป็นการตายที่น่าสลดสังเวชที่สุด
ความจริงยังมีชีวิตจิตใจอยู่
แต่อยู่อย่างผู้พ่ายแพ้แก่กระแสกิเลสที่สกปรกและท่วมท้น

ผลคือสิ่งที่จมอยู่ในความสกปรกโสโครกนั้น
คือใจ ย่อมถูกความสกปรกปิดมิดสนิท
ไม่ปรากฏให้เห็นตามความเป็นจริงได้เลย
จะเห็นกันก็แต่ความสกปรกพ้นจะบรรยายได้ที่หุ้มใจอยู่เท่านั้น
นั่นคือความน่าสลดสังเวชของการตายแบบนี้

: แสงส่องใจ พระพรประทานปีใหม่ ๒๕๓๙
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


http://img404.imageshack.us/img404/3441/pageua.jpg
"แสงธรรมสุขใจ"
บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553 15:13:48 »









 ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 พฤศจิกายน 2554 00:10:40 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: jpg » บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553 14:16:39 »



ในยามใคร่ครวญ ถึงความจริงแท้
ที่สัมผัสและเรียนรู้ ....
จาก...
ธรรมชาติของสรรพสิ่ง
สรรพสิ่งที่ เป็น ดั่ง ครูผู้สอนชีวิต

มิใช่เพียง สิ่งที่ได้พบได้เห็น ด้วยดวงตา
แต่ด้วยใจ ที่ไป สัมผัส จิตที่กระทบ
สติที่ไหวเอน หรือคงมั่น ....
เรียนรู้ จวบจน
ถึงวันที่ ไม่มี ภพชาติ เป็นแดนเกิด

หยาดหยดแห่งรสพระธรรม
ก่อเกิดความคิดอันตกผลึกของจิตดำริธรรม

แม้ถ้อยคำนี้ ช่างลึกซึ้งนัก
เมื่อหัวใจแห่งห้วงเรียนรู้ ตกผลึก
เพื่อ แบ่งปัน หยาดพระธรรมหยดเล็กๆ
ที่เป็นความจริงแท้ค่ะ

หยาดพระธรรม
จาก
พระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หาใช่น้ำค้าง ยามอรุณ ที่หยดหยาดมาแล้วเหือดแห้ง
แต่หยาดธรรมนั้น หยาดหยดลง กลาง ใจ
แห่งความเข้าใจ กลางจิต ที่เข้าใจคุณค่าแห่งการเกิด
และ การเรียนรู้โลก แจ้ง

ขอบคุณไทยโพสต์....


บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2553 10:33:56 »



ข้าวก้นบาตรหว่านไหวลงในดิน
ต่างจิกกินเศษบุญอุ่นอิ่มหนำ
อิ่มพระพุทธอิ่มสุขทุกกลืนคำ
อิ่มลึกล้ำลำนำแผ่เมตตา

ทุกชีวิตสามัญของวันนี้
คือเสรีเส้นทางต่างค้นหา
เพื่อไปสู่อิสระแห่งวิญญาญ์
สู่ปรมัตถ์สัจจาพระนิพพาน

ชีวิตน้อยหมุนเวียนรอยเกวียนกง
ต่างจบลงกรงกลัดวัฏสงสาร
แม้นไม่พ่ายสิ่งใดในดงมาร
หากต้องแพ้สังขารอนิจจัง

เมื่อแดดใหม่ทอแสงสู่แหล่งหล้า
เถิดนกกาหากินอย่าสิ้นหวัง
หากทุกอย่างสิ้นไปไม่จีรัง
เพียงรับฟังธรรมะจากพระพุทธ

เห็นไหมนั่นเส้นทางกลางท้องนา
เมื่อบุปผาบานแต้มแย้มสายหยุด
คือวิถีอันงดงามความวิมุตติ
กลางประทุษสังคมนิยมเมือง

ความหมายใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้
ยามสะแบงบานคลี่ในฟ้าเหลือง
ประสานเสียงสกุณาฟ้ารองเรือง
สุขนองเนืองสถิตอยู่มิรู้ร้าง



บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.5.9 Firefox 3.5.9


ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2553 20:28:43 »



ลานหมด....

แม่ก็แค่...คนแก่ เดินทางเก่า
รอเพียงเจ้าเช้าเย็นเฝ้าคอยรอ
ทุกค่ำคืนนั่งท้าวคางตั้งตามอง
รอบอกลูก..ว่าแม่...รักห่วงหา

นาฬิกา...เดินช้าเวลาดับ
เข็มขยับสับทิศผิดองศา
เช้าเป็นเย็นค่ำเป็นสายหน่ายเวลา
กลับมีค่าเมื่อถูกจับปรับไขลาน

แม่ลับแล้ว...ยิ้มหลง..พะวงหา
รอเวลา คืนกลับ เจ้าขับขาน
เช้าจรดเย็น ร่างแข็ง รอลูกยา
ลูกกราบแม่ อาบศพ เศร้าร่ำพรรณ .... "ใยไม่รอลูกก่อน เล่าแม่จ๋า ?"

หลวงพ่อท่านกล่าวเสริม......

"หมดเวลาแม่เจ้าแล้วลูกเอ๋ย..ไม่สามารถ ปรับแก้ ไขลานดั่งนาฬิกา"

"นาฬิกาตาย เปลี่ยนถ่านใหม่ ปรับไขลาน กลับเดินได้ดั่งเดิม...

แต่แม่เจ้าตายแล้ว ใส่ถ่านใหม่ ให้เผาไหม้มอดไป"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 มิถุนายน 2553 20:37:28 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2553 07:49:00 »




สาธุค่ะ
บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2553 21:07:45 »



ลำพังอันเงียบงาม
ในท่ามโลกว่ายเวียนวน
จิตสงบพบกุศล
ดั่งอุบลชูช่อบาน

มืดแล้วสว่างสอนสัจจะ
ทุกข์ผัสสะให้พ้นผ่าน
สร้างความดีทุกวันวาร
มิรอนรานกับเพรงกรรม

เพียงเม็ดทรายธุลีหล้า
เกษมค่าได้พบธรรม
เส้นทางบุญได้หนุนนำ
ระรินร่ำเพาะบ่มใจ

ฝึกจิตสว่างว่าง
รู้ปล่อยวางทุกข์เป็นไป
หนึ่งแท้แน่เหนือใด
อัญมณีภายในโชติตระการ...!


บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2553 11:36:55 »

http://i794.photobucket.com/albums/yy230/akitia7share/Magnolia-Sinuan/003.jpg
"แสงธรรมสุขใจ"


อันเมตตาภิขเวเจโต
ย่อมสุขโขแก่ผู้ที่สู่หา
วิมุตติมายะย่อมจะพา
นิพานาอมฤทธิพิชิตมาร

ทุคคะติโสนะคัจฉะติ
มิบานผลิเกิดผู้สู่สงสาร
ก่อกำเนิดแก่จิตมิคิดพาล
ยากรอนรานแก่ใจมิให้มี

ผู้มีศีลจะปลดกำหนดจิต
สมาธิคิดปัญญาพาเกษมศรี
ปราศมลทินนอกในไร้ราคี
สร้างชีวีพบสุขทุกวันคืน

พูดนั้นง่ายทำยากมากเหลือล้น
แต่ละคนอยากได้ไม่คิดฝืน
ทั้งรูปรสกลิ่นเสียงมิยั่งยืน
รินไหลรื่นเก็บไว้สู่ในทรวง

จนกำเนิดเจ็บตายเวียนว่ายเกิด
สิ่งเลอเลิศเพริศแพร้วแนวแมนสรวง
ล่อหลอกในห้วงหทัยคล้ายใยยวง
สร้างเป็นบ่วงผูกมัดจัดเวรกรรม

ล้วนอวิชชาปรุงแต่งเข้าแฝงไว้
แตกก้านใบรากลึกตรึกจนถลำ
จิตคนเราเกิดดับนับครอบงำ
เกิดระส่ำยากเข็นลำเค็ญกาย

ตามองรูปเกิดรักประจักษ์สร้าง
ตามรูปร่างผลผลิตมิปลิดสลาย
หลงจนเพ้อละเมอพร่ำย้ำใจ
ยากสลายไว้มิตัดให้ขาดตอน

เป็นสิ่งแรกแฝงไว้ให้กายสร้าง
มิลบล้างแปรเปลี่ยนเวียนสลอน
ก่อนกำเนิดเป็นมนุษย์สุดร้าวรอน
ผ่านขั้นตอนเวรกรรมล้วนนำพา

ความเมตตาปรานีนี้ควรสรรค์
กรุณานั้นปฏิบัติมิกังขา
เป็นสิ่งแรกค้นหาแล้วนำมา
จิตย่อมล้าต่อเวรเคยเช่นทำ

ไขว่ค้นสิ่งอิงแท้แม้ยากเข็น
ย่อมหากเช่นปลดรักมักจะขำ
ลึกซ่อนเร้นในห้วงดวงใจจำ
เข้างอกงำดุจรากฝากแผ่นดิน

ด้วยสิ่งนี้ฝากไว้ในแดนโลก
แล้วเข้าโขกกระทำย้ำหมดสิ้น
สร้างเมตตากรุณาเป็นอาจินต์
ย่อมหลีกดิ้นต่อมารผ่านตัวเรา

ตัดความอยากพรากโลภและโกรธหลง
ทิฏฐิปลงเยื้อใยที่ใคร่เฉลา
ฝึกคำสอนพุทธะมาลดเอา
จิตจะเบาละวางสร้างในตัว

เกิดเป็นสุขทุกข์หายมลายสิ้น
ย่อมโผผินบินไปไร้สิ่งสลัว
อิสสระจะนำไว้ไร้เกรงกลัว
สิ่งยวนยั่วหนีหายไร้มลทิน

ค่อยค่อยฝึกแล้วทำน้อมนำจิต
หมายพิชิตต่อมารผลาญเสียสิ้น
ประภัสสรประเสริฐเลิศอาจินต์
หมดสิ่งถวิลเมตตาพานิพพาน.

*** แก้วประเสริฐ. ***


http://i794.photobucket.com/albums/yy230/akitia7share/Magnolia-Sinuan/004.jpg
"แสงธรรมสุขใจ"
บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2553 20:13:41 »



สำคัญที่ใจใช่ไหมเล่า
จะพบเศร้าโศกสุขทุกข์สับสน
มากเรื่องราวรานร้าวโลกเวียนวน
พบผู้คนบนหนทางอ้างว้างชีวี

แท้ที่จริงเราทุกผู้ธุลีหล้า
อนันต์ค่าสร้างบุญกุศลศรี
ลบลาหมองต้องเพียรสร้างความดี
ผลิเพาะพลีเมล็ดฝันสิ้นพันธนา

สายธารามหานทีทองรอล่องสู่
แดนผู้รู้ปล่อยวางห่างเสน่หา
สิ้นไร้ร่างเคยเกาะเกี่ยวบ่วงมายา
เพียรภาวนาพบทางสว่างวัน

แดนดารารายพรายพร่างทางช้างเผือก
พร้อมจะเลือกกี่ภพจบจิตขวัญ
เมื่อถึงวันพรากลามิจาบัลย์
เป็นนิรันดร์มั่นหมายในสายใจ....!

ขอบคุณไทยโพสต์....
บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2553 10:52:08 »



รจนาภาษาเรียบง่ายจึ้ตรงจุด
สู่วิมุตติหลุดพ้นกว่าคำไหน
ตายก่อนตายหยุดคิดได้สว่างใจ
ไม่วาบไหวหวั่นหวามตามโลกย์รัก..

พระท่านนำทางธรรมสั่งสอนสั้นกระชับ
รู้รำงับจับอิริยาบถให้รู้จัก
ความเคลื่อนไหวช้าช้าพาจิตพัก
หยุดทุกข์หนักทุกข์หนาพาพบธรรม..

คือ.กุศโลบายให้จิตจ่อ
เพียรอย่าท้อรู้ฝึกทุกคืนค่ำ
ยามใดเหงาเหว่ว้าวิบากกรรม
จงเพียรทำไร้น้ำตาหาใครมาปลอบใจ..

เพราะผู้ใดไหนเล่าจะช่วยเจ้า
หลุดพ้นเศร้าดายเดียวยามวูบไหว
เจ้าต้องอยู่กับเงาร้าวเปล่าเปลี่ยวใจ
ตราบสิ้นลมหายใจใครไปด้วยช่วยบอกที..

มาลำพังไปลำพังอย่าเขลาโง่
จงรีบโผล่บัวพ้นน้ำงามศักดิ์ศรี
ฝึกหยุดคิดนิมิตหมายนะคนดี
นิพพานที่นี่เดี่ยวนี้สิพบว่างกระจ่างใจ..

ณ..โลกนี้นาทีนี้ใช่โลกหน้า
เลิกเหว่ว้าลืมทางพรางหวั่นไหว
ไม่มีเขาเราอยู่ได้นะดวงใจ
เพราะจิตใสสิ้นทุกข์ได้ไร้ตัวตน...

ตามรอยธรรมรอยทองของพระพุทธ
เพียรรู้หยุดเลิกคิดได้ไร้สับสน
มองเข้าไปในจิตวิญญาณบ้านแห่งตน
สร้างกมลใสว่างพร่างแสงเพชรอัญมณี..!

ขอบคุณ..คุณพุด..จากไทยโพสต์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มิถุนายน 2553 09:43:26 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 13:25:41 »






เหนือทุกข์


อันความทุกข์  สอนธรรม   มีน้ำหนัก
เห็นทายทัก  ความทุกข์  สนุกหรือ
เธอก็ทุกข์  ฉันก็ทุกข์  สนุกฤา
เราต่างคือ  คนทุกข์  สนุกอะไร

 
ทุกข์ให้เป็น  จะมองเห็น  ความก้าวหน้า
เอาทุกข์มา  ฝึกฝน  อดทนได้
โลกถูกทุกข์  กระแทกกระทำ  อยู่ร่ำไป
แต่ดวงใจ  เราเหนือทุกข์  ไม่ถูกกระทำ

 
ด้วยปล่อยวาง  ว่างเบา  มิเศร้าหมอง
ทุกข์ก่ายกอง  กระซ่านกระเซ็น  ไม่เป็นส่ำ
ขอพวกเรา  จงยอมรับ  และกลับลำ
ทิ้งความทุกข์  อันมืดดำ  แล้วทำดี






จากหนังสือ " เจ็บ...แต่ก็...โอเค "   
จากเวบ... 
www.prajan.com
http://www.trytodream.com/index.php?topic=14460.msg37193;topicseen#msg37193
บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2553 11:39:20 »



... รักษาใจ ...

ทำบุญทำทานแล้วทำใจ

อะไรอะไรที่ยิ่งใหญ่ อยู่ ในใจนี้

สุขทุกข์ท่วมท้นมากล้นทวี

เพราะใจมีความรู้สึกนึกไปเอง

ทั้งโลกา ทั่วน่านฟ้า มหาสมุทร

อวิชา วิทยายุทธ์ ที่ ใช้ข่มเหง

ทุกสิ่งสรร อัศจรรย์ ศิลปบรรเลง

ในใจเอง ที่เก็บไว้..ฉะนั้น..รักษาใจให้ดี

ดาเรน....


บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.5.9 Firefox 3.5.9


ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2553 15:30:39 »


การรู้ได้จักใครสักคน....
แม้ไม่ต้องพบหน้าแค่พูดคุย ก็เข้าใจความหมายที่มี
มิตรภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ควรถนอม ควรรักษาไว้
ความเป็นเพื่อน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มีค่า ควรแก่การดูแลด้วยหัวใจ

หลงพ่อจรัญ ท่านเคยสอนว่า
"แฟน แปลว่า เย็นใจ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
แฟน ในความหมายของท่าน ไม่ใช่แค่ชายหญิงที่เป็นคู่รักเท่านั้น
ท่านบอกเพื่อนกันก็เป็นแฟนกันได้ในความหมายของท่าน
ความเย็นใจที่ได้พูดคุย ได้รู้จัก ได้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่กัลยาณมิตร
รู้สึกได้ เมื่อใช้หัวใจสัมผัส...แม้แค่ผ่านทางตัวหนังสือ เรื่องเล่าที่ส่งถึงกัน
ความรู้สึกดี รู้้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริง อาจไม่ใช่อย่างที่สัมผัสในที่นี้ก็ได้
ในชีวิตจริงดูเหมือนว่า ไม่ค่อยมีคนได้เข้ามาสัมผัสเพื่อนแท้มากนัก"

การไม่อยากเปิดใจให้ทุกคนได้รู้จักเท่าไหร่
แม้ดูfriendlydก็จริง แต่คนทั่วไปก็รู้จักผิวเผิน
เราต้องเลือกเพื่อนที่เราอยากรู้จักเอง
เลือกคบเอง เลือกคุยเอง เลือกเป็นเพื่อนเอง
เพราะหากว่าเป็นคนคุยเก่งในหมู่เพื่อนแล้วเปิดเผยเสมอ
ไม่มีความลับต่อกัน ง่ายๆ สบายๆ เล่าเรื่องราวต่างๆได้
จนดูว่าเปิดเผยมากสำหรับความเป็นเพื่อน
ให้ความซื่อสัตย์ต่อความเป็นเพื่อนเสมอ

ดังนั้นจึงขอเลือกเพื่อนที่เข้ามาในชีวิตเอง
เพราะเราเป็นคนไม่เอาเปรียบใคร ไม่รังแกใคร ไม่มีลับลมคมนัย
ใจกว้าง ใจดี มองโลกในแง่ดี จนบางครั้งถูกเอาเปรียบบ่อยๆ
ขอเลือกเองนะ...เพราะเพื่อนนั้นสำคัญเสมอ
เป็นสิ่งที่ควรด้วยความรัก ด้วยความจริงใจ ด้วยความเข้าใจ...ด้วยหัวใจทีมี
ไม่อยากเสียใจกับคำว่า...เพื่อน...ขอเลือกเองนะ...ขอเลือกเอง

ขอบคุณ..เวปธรรมจักร/ลูกโป่ง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มิถุนายน 2553 16:03:45 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553 07:21:25 »





บทสวดนพคุณ


◊ ปวงข้าฯ ขอประณต                    พระสุคต ศาสดา
ผู้ทรง พระเมตตา                               แก่บรรดา ประชากร

     ◊ ปวงข้าฯ ไหว้พระธรรม                 คุณเลิศล้ำ คำสั่งสอน
ดับทุกข์ ดับนิวรณ์                              ชนนิกร ได้สุขใจ

     ◊ ปวงข้าฯ นบพระสงฆ์                  ผู้ดำรง ธรรมวินัย
เป็นกำลัง พระจอมไตร                        ช่วยแก้ไข ทุกข์ประชา

     ◊ ปวงข้าฯ กราบพ่อแม่                  ผู้ดูแล แต่เกิดมา
ควรระวัง ไม่ห่างตา                            ให้ปวงข้าฯ พ้นทุกข์ภัย

     ◊ ปวงข้าฯ อภิวาท                       ผู้ประสาท วิชาให้
คุณครู ทั้งหญิงชาย                           ศิษย์จำหมาย ชั่วชีวี

     ◊ ปวงข้าฯ ขอนอบน้อม                 ผู้เป็นจอม ประชาชี
องค์กษัตริย์ ผู้ทรงมี                           ความปรานี ประชาชน

     ◊ ปวงข้าฯ จะสำนึก                      คอยฝนฝึก ดวงกมล
ทำดี ทวีผล                                     แนะนำตน สมเป็นไทย

     ◊ บ้านเมือง เป็นของข้า                 จะรักษา ตลอดไป
สามัคคี มอบกายใจ                           เพื่อเป็นไทย นิรันดร์เอย...



บทสวดเจริญพระพุทธมนต์
จากงาน "หยุดใจ ไว้ที่ธรรม" อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย
นำอธิษฐานธรรมโดย พระอาจารย์อารยะ อารยะวังโส
เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓
งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ๒๒ - ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ณ พลับพลาพิธี มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร



Posted by forgive





อนุโมทนาสาธุค่ะ...
http://www.oknation.net/blog/tocare/2010/05/23/entry-1
บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553 15:52:08 »



ความเข้มแข็งของคน..กับศีลธรรมที่อ่อนแอของคน

ในชีวิตประจำวัน คนเราต้องพานพบประสบเรื่องราวนานัปการ
บ้างก็เป็นปัญหา บ้างก็เป็นผลสำเร็จ บ้างก็เป็นเรื่องยุ่งยาก บ้างก็เป็นเรื่องง่ายดาย

บางครั้งก็มีทั้งเรื่องราวที่ไร้สาระกับเรื่อง ที่ควรจริงจัง
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทุกคนพบเห็นได้เป็นประจำในชีวิต

แปลกตรงที่เราแต่ละคนประสบกับสิ่งต่างๆแตกต่างกันไป
บางคนโชคดี บางคนโชคร้าย บางคนมีโอกาส บางคนกลับไร้วาสนา
นี่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าเศร้าควบคู่กันไป

มนุษย์มีกำเนิดแตกต่างกันโดยสภาวะ
บางคนก็เกิดมามีพร้อม บางคนก็อัตคัตขัดสนนี้ก็เช่นเดียวกัน

แม้กระนั้นคนเราก็เหมือนกันโดยธรรมชาติ คือมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง
มีด้านที่เข้มแข็งพร้อมกันนี้ ก็มีด้านอ่อนแอ สภาวะที่เข้มแข็งหรืออ่อนแอนี้เอง
เป็นปัจจัยกำหนดบุคลิกภาพและความกล้าของคนเรา
ผู้ที่เข้มแข็งก็หนักแน่นดั่งขุนเขา ผู้ที่อ่อนแอก็บางเบาดั่งขนนก

ในสถานการณ์ที่มนุษย์ประสบกับเหตุการณ์มากหลายในชีวิต
มีเพียงความเข้มแข็งและความอ่อนแอนี้ เป็นเครื่องชักนำในการแก้ไข
หรือก้าวเดิน เวลาที่เราเจอปัญหาหนักๆ ธาตุแห่งความอ่อนแอมักปรากฎขึ้นเสมอ

แม้โดยปกติภาวะคนๆ นั้น อาจเข้มแข็งแต่ก็มักพ่ายแพ้แก่ความอ่อนแอ
ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะมนุษย์ขาดความเป็นตัวของตัวเอง ยามที่เจอปัญหาก็มักท้อแท้
ยามที่เจอความสำเร็จก็มักหลงระเริงนี้เป็นข้อตรงกันข้าม

คนที่เข้มแข็งจึงมักเป็นคนที่อ่อนแออยู่ลึกๆ คนที่อ่อนแอก็มันเข้มแข็งอยู่ภายใน
นี้เป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับ แต่ทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนแอ
ก็ไม่อาจช่วยให้คนเราบรรลุสู่ความสุขสงบของชีวิตได้

มีก็แต่ภาวะระหว่างกลางของความเข้มแข็ง
และความอ่อนแอเท่านั้นที่จะช่วยให้มนุษย์ดำรงตนอยู่ได้อย่างงดงาม
ไม่แข็งและไม่อ่อน ไม่หนักและไม่เบา



"หนักแน่นแม้นเหมือนดั่งขุนเขา บางเบาประดุจขนนกไร้จุดหมาย
หนักที่เกินก็ยากจะเคลื่อนย้าย เบาก็ง่ายมากจนเกินไม่พอดี
บ้างเข้มแข็งกลับกลายเป็นก้าวร้าว บ้างอ่อนแอก็ฉาวไร้ศักดิ์ศรี
ขอ..มนุษย์จงเลือกเอาแต่พอดี นี้แหละ..ชีวิตที่ไม่ผิดทาง"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มิถุนายน 2553 16:02:00 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 14:17:44 »

ดอกไม้ธรรม

ดอกถวิลหาบานสะพรั่งกลางกิ่งใจ
ดอกโศกไยบานรอพ้อดอกขวัญ
ดอกเสน่หาลาเลือนน้ำผึ้งจันทร์
ดอกคิดถึงทุกวันมาบานรอ



ดอกนับวันนับคืนเคยชื่นฉ่ำ
ดอกระกำบานไสวเพราะใครหนอ
ดอกพิสวาทพลาดถลำให้ใจท้อ
ดอกรักรอราโรยโปรยลาลาน

http://i258.photobucket.com/albums/hh278/meusrecados/fadas/fadas01.gif
"แสงธรรมสุขใจ"


ดอกน้ำใจราวหยาดฝนเคยปรนพร่าง
ดอกอ้างว้างดายเดียวแทนรักหวาน
ดอกลานิรันดร์ขวัญหายบานตระการ
ดอกเศร้าบานแทนดอกรักเคยภักดี

http://img529.imageshack.us/img529/6229/hadaencantariamdca7.gif
"แสงธรรมสุขใจ"


ดอกเสียใจบานเต็มช่อรอปลิดขวัญ
ดอกสวรรค์ไกลเกินเอื้อมตราบชีพนี้
ดอกหักใจลาพรากไปไม่ไยดี
ดอกฤดีพลีพร้อมยอมว่างไร้...



ดอกไม้ธรรมหอมแทนที่มาพลีผุด
พราวพิสุทธิ์ดั่งน้ำค้างพร่างรินใส่
แทนดอกโศกดอกรักเศร้าในบึงใจ
ดอกรัตนตรัยผลิแย้มมาแต่งแต้ม....ให้เติมเต็ม




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2553 14:21:50 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 09:05:04 »

http://i201.photobucket.com/albums/aa95/jojoeStudiO/IMG_6766.jpg
"แสงธรรมสุขใจ"


บทสวดมนต์แปล ฉบับสวนโมกข์ ที่ผมติดใจอยู่จนวันนี้บทหนึ่ง ขึ้นต้นว่า

          อะเนกะชาติสังสารัง สันธาวิสสัง อะนิพพิสัง…
แปลว่า เมื่อเรายังไม่พบญาณ ได้ท่องเที่ยวไปในสงสารเป็นอเนกชาติ…

           ทุกขา ชาติ ปุนัปปุนัง…
แปลว่า การเกิดทุกคราว เป็นทุกข์ร่ำไป

          ในบทสวดนี้ท่านพูดถึงการ แสวงหาอยู่ซึ่งนายช่างปลูกเรือน
คือตัณหาผู้สร้างภพ
          และในที่สุดก็ว่า
          นี่แน่ะนายช่างปลูกเรือน เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว เจ้าจะทำเรือนให้เราไม่ได้อีกต่อไป
          โครงเรือนทั้งหมดของเจ้าเราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว
จิตของเราถึงแล้วซึ่งสภาพที่อะไรจะปรุงแต่งไม่ได้อีกต่อไป
          
ความนี้ไพเราะนัก          
เพราะจิตที่ไม่ปรุงแต่งไปตามอำนาจของตัณหา ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของกิเลส          
เมื่อไม่มีตัณหา ก็ไม่มีภพ คือไม่มีการเกิดขึ้นซึ่งความทุกข์
          
จิตเช่นนี้แหละ คือ ปัญญา          
ปัญญาที่รู้เท่าทันต่อทุกสรรพสิ่งในทุกสภาพ    
เมื่อควบคู่กับสติ ปัญญาจะไม่ทำให้เราตกเป็นทาสของมายาทั้งปวง อันแวดล้อมเราอยู่นี้ได้อีกต่อไป

เมื่ออยู่สวนโมกข์นั้น หลังจากบิณฑบาต ผมจะไปนั่งสวดมนต์ทำวัตรเช้า
บนศาลาโรงธรรมพร้อมกับพระรูปอื่น ๆ บทที่สวด มีทั้งบาลี และบทแปล
และการที่ต้องสวดบทแปลควบคู่ไปทีละวรรคนี้เอง จึงเป็นโอกาสดีให้ได้ขบคิด
และทำความเข้าใจในข้อธรรมนั้น ๆ ไปด้วย
          การได้อยู่คนเดียวเงียบ ๆ ก็ยิ่งช่วยให้เราได้เรียนรู้เรื่องของจิตตัวเองมากขึ้น
      เพราะการเรียนรู้และการปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีเรื่องอื่น
นอกจากเรื่องของจิตตัวเดียว จิตของตัวเองนี่แหละ
          ไม่ใช่เรื่องของกระบวนการ จิตศาสตร์ หรือ จิต ในความหมายทั่วไป
          หากมุ่งลงมาที่จิตของตัวเองเท่านั้น
          ไม่มีอะไรนอกไปจากนี้

          ที่สวนโมกข์นั้น มีคำพูดกันว่า ต้นไม้พูดได้ ก้อนหินพูดได้
คือ ไม้ทุกต้น หินทุกก้อน จะคุยกับเราได้ทันทีที่จิตเราสงบได้เท่ามัน
          ผมเคยขึ้นไปนั่งบนเนินเขา และเคยขึ้นไปค้างคืนอยู่คนเดียวบนยอดเขานางเอน
ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับสวนโมกข์นั้น
          เมื่อเริ่มแรกสังเกตดู จิตผมระส่ำระสายและหวั่นไหวมาก มันเปล่าเปลี่ยวและวังเวง
มองออกไปไกลๆ เห็นแต่ทิวไม้ลิบ ๆ ต่ำลงไปมีแต่ความเวิ้งว้าง สงัดและวังเวง
จนได้ยินเสียงของความเงียบ แล้วจิตก็เริ่มนิ่ง เริ่มสงบ
นี่กระมังที่ว่า สิ่งแวดล้อมกำหนดจิต
ขณะเดียวกัน เมื่อจิตสงบ มันก็สามารถกำหนดสิ่งแวดล้อมได้ด้วย
          การที่จิตผมระส่ำระสายหวั่นไหวเมื่อแรกนั้น แสดงว่าสิ่งแวดล้อมกำลังกำหนดจิตผมอยู่ฝ่ายเดียว

จิตผมตกอยู่ใต้อำนาจความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติแวดล้อมที่ข่มให้ผมกลัว
กระทั่งระส่ำระสายหวั่นไหว
ผมกลัวอะไรหรือ
ตอบว่าผมกลัวการอยู่คนเดียว กลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากสิ่งแวดล้อมที่ผมไม่รู้ไม่คุ้นชินกับมัน
กลัวสัตว์ร้าย กลัวคนร้าย กลัวงู กลัวเสืออะไรไปตามเรื่อง
          สรุป ก็คือ กลัวตาย
        
ครั้นจิตเริ่มสงบลง นี่ก็อีก มันสงบได้อย่างไรเล่า
ผมเฝ้าใคร่ครวญดู จึงเริ่มรู้ว่า ด้วยผมกำลังคุ้นชินกับมันนั่นเอง
ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่คงสงบอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้
          ไม้ใหญ่ก็ยังโอนเอนไหวลม ขอบฟ้าเวิ้งว้างก็ยังคงเวิ้งว้างอยู่อย่างนั้น
เปลี่ยนไปแต่แสงแดดที่ค่อยคล้ำมัวสลัวลง และกับจิตผมนั่นเองที่มันเปลี่ยนไป
เปลี่ยนจากความระส่ำระสายหวั่นไหวมาเป็นความสงบ จิตเริ่มสงบไปกับความสงัดนั้น
          ความเงียบ และความคิดอันกึกก้องอยู่ในจิตผมนี่เอง ที่มันกำลังคุยอยู่
        
เมื่อถึงตรงนี้ผมจึงเริ่มเข้าใจว่า ต้นไม้พูดได้ ก้อนหินพูดได้อย่างไร
          ก็จิตเรานี่เอง ที่คิดอะไรอยู่ ธรรมชาติแวดล้อมนั่นแหละ ที่มันกำลังกำหนดและกระทำต่อจิตอยู่
          เราไม่สามารถคิดอะไรได้เองลอย ๆ โดยปราศจากฐานที่ตั้งของความคิด
          มันต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งประกอบความคิดเราอยู่เสมอ
          การได้มีโอกาสลิ้มรสกระบวนทางจิตเหล่านี้มีคุณมหาศาลต่อผม และยังส่งผลมาจนวันนี้
        
วันที่อะไร ๆ มันดูสับสนวุ่นวาย เต็มอยู่ด้วยการโฆษณาแข่งขัน แต่งถ้อยแต่งจริต
มากพิษมากภัยที่ทำให้จิตเราเตลิดเพริดไปได้ง่าย ๆ ทุกวัน
          ทำอย่างไรเราจึงจะสงบนิ่งอยู่ได้ ในท่ามกลางความผันแปรเหล่านี้
          นี่แหละเป็น เคล็ด
          ถ้าเราสงบนิ่งไม่ได้ จิตเราจะถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อมที่พัลวันวุ่นวายอยู่นี้
นั้นก็คือ เราจะตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา เป็นเหยื่อของค่านิยม
เราจะฟุ่มเฟือย เราจะลอยไปลอยมากับกิเลสมายาสารพัน

แต่ถ้าเราสามารถสงบนิ่งได้ จิตเราก็จะเป็นฝ่ายกำหนดบ้างละ
เราจะรู้จักเลือกสรรต่อการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสรรพสิ่งสารพันเหล่านี้
เราจะรู้วิธีที่จะจัดการกับมันตามความเหมาะสมกับประโยชน์ในทุกเรื่อง
ตรงนี้กระมัง ที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับจิต ในลักษณะที่เขาเรียกว่าเป็น วิภาษวิธี คือ
การต่างกำหนดซึ่งกันและกัน ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับจิต ในอัตราที่เหมาะสม
          
ก่อนอื่นใดทั้งหมด มันต้องเริ่มต้นที่เราต้องหัดเป็นอยู่เรียบ ๆ เงียบ ๆ ง่าย ๆ ด้วยตัวคนเดียว
โดยไม่รู้สึกเงียบเหงา ว้าเหว่ เปล่าเปลี่ยว ให้ได้เสียก่อน
        
ผมว่า บุคคลเป็นฉันใด ประเทศชาติบ้านเมืองก็เป็นฉันนั้น
คือ ถ้ามันเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ มันก็ต้องเป็นทาสเขาร่ำไป

- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กันยายน 2553 10:00:21 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 09:14:27 »







ขอบคุณนะคะ...   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 กรกฎาคม 2553 06:20:11 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553 09:10:20 »



ธรรมเป็นหนึ่งไม่แปรผัน    เลิศภพสงบยิ่ง
เป็นอารมณ์ของใจ        ไม่ไหวติง
ระงับนิ่งเงียบสงัด         ชัดกับใจ
ใจก็สร่างจากเมา           หายเร่าร้อน
ความอยากถอนได้หมด    ปลดสงสัย
เรื่องพัวพันขันธ์ห้า         ชาสิ้นไป
เครื่องหมุนในไตรจักร    ก็หักลง
ความอยากใหญ่มากยิ่ง    ก็ทิ้งหลุด
ความรักหยุดหายสนิท      สิ้นพิษหวง
ร้อนทั้งปวงก็หายหมด     ดังใจจง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กันยายน 2553 09:59:32 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
คำค้น:
หน้า:  1 2 [3] 4 5 ... 7   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.268 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 20 ธันวาคม 2567 03:04:44