สุดซึ้ง คุณแม่ลูก 8 เป็นมะเร็ง สอนสามีเลี้ยงลูกก่อนตาย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวสุดเศร้าของ แองเจล่า มิลธอร์ป คุณแม่ลูก 8 ผู้พบว่าตนป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และมีความตั้งใจที่จะสอนสามีให้เลี้ยงลูกให้ได้ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
โดย แองเจล่า มิลธอร์ป เป็นคุณแม่ลูก 8 วัย 47 ปี ที่โชคชะตาเล่นตลกทำให้เธอต้องป่วยเป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุ 29 ปี และเป็นมะเร็งปอดซ้ำ ก่อนที่จะเสียชีวิตไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวสุดประทับใจของเธอกลับถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง โดยสามีของเธอเอง ที่เปิดเผยว่า แองเจล่าได้ทุ่มเทเวลา 6 เดือนสุดท้ายของชีวิต ในการถ่ายทอดความเป็นแม่ให้แก่สามี เพื่อให้แน่ใจว่าสามีจะสามารถดูแลลูกได้ เมื่อเธอจากไปนั่นเอง
สำหรับเรื่องราวสุดประทับใจนี้ เอียน มิลธอร์ป สามีวัย 49 ปีของแองเจล่า ได้เปิดเผยว่า "บางคนอาจจะกลัวเมื่อต้องเลี้ยงลูกถึง 8 คน แต่ภรรยาของผมก็ทำให้ผมมั่นใจว่าผมทำได้ ซึ่งถ้าไม่มีการเตรียมพร้อม 6 เดือนนี้ ผมก็ไม่สามารถทำมันได้แน่ ๆ แต่ตอนนี้ผมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าผมสามารถทำได้จริง ๆ จริงอยู่ที่ว่าผมเสียใจที่แองจี้กำลังจะจากไป แต่ผมก็ต้องแน่ใจว่าผมจะสามารถเลี้ยงลูก ๆ ให้เป็นคนมีศักยภาพได้ตามที่แองจี้ต้องการได้ และเธอก็ได้ทำดีที่สุด เพื่อให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ"
สำหรับโรคร้ายที่แองเจล่าเผชิญอยู่นี้ เอียน มิลธอร์ป ได้เปิดเผยว่า ภรรยาของเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะ เร็งทรวงอกเมื่อปี พ.ศ. 2546 ขณะมีอายุได้ 29 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาและเธอแต่งงานกัน และมีลูกชายด้วยกันแล้วถึง 3 คน แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง แองเจล่ารู้สึกได้ว่ามีก้อนเนื้อที่หน้าอกขอเธอ แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเนื้อร้ายเพราะเธอคิดว่าเธออายุยังไม่มาก ตอนนั้น ลูกชายของเธออายุได้ 8 , 7 และ 4 ขวบเท่านั้น พวกเขายังอายุน้อย แองเจล่าเลยไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก และไม่เคยคิดว่าเธอจะต้องมาต่อสู้กับโรคร้ายนี้เลย
หลังตรวจพบ เธอก็เข้ารับการผ่าตัดเต้านม และทำการเคมีบำบัดมาตลอด 5 ปีหลังจากนั้น แต่ทั้งคู่ไม่คิดที่จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ให้ลูก ๆ ได้รับรู้ และยังมีแผนการที่จะมีลูกคนต่อไป โดยเอียนได้เปิดเผยว่า "แองจี้รู้สึกสิ้นหวังที่จะมีลูกคนต่อไปอีก แต่หมอก็ได้ให้คำแนะนำว่าเธอสามารถตั้งครรภ์หลังเข้ารับการบำบัดได้ ดังนั้น เธอจึงมาถามผมว่าถ้าพวกเราจะมีลูกหลังการรักษาเสร็จสิ้นลงคุณจะเห็นด้วยไหม ผมตอบเธอโดยทันทีว่า แน่นอน เพราะผมรู้ว่าเธอรักการเป็นแม่คนเหนือสิ่งอื่นใด โดยวิถีชีวิตของเธอนั้น จะใช้เวลาอยู่กับลูกตลอดไม่ว่าจะ พาลูกไปโรงเรียน หรือ พาไปดูฟุตบอล และทำกิจกรรมร่วมกันอีกมากมาย ดังนั้นหลังจากการบำบัดเสร็จสิ้น ผมจึงมีลูกชายคนที่ 4 กับเธอทันที และตอนนั้น แองจี้รู้สึกตื่นเต้นที่จะเป็นแม่คนอีกครั้ง แม้ว่าเธอได้ผ่าตัดเต้านมออกไปแล้ว เธอก็ยังคงจะให้นมลูกอยู่ดี เพราะเธอมีความสุขที่ได้นั่งให้นมลูก กล่อมลูกจนผล็อยหลับไป" เอียนกล่าว
และไม่เพียงแค่นั้น ด้วยความที่แองเจล่านั้นรักในการเป็นแม่ และรู้สึกว่ามันเป็นความปลาบปลื้มใจที่เธอจะได้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ เธอจึงให้กำเนิดคู่ฝาแฝด เจคและเจด อีก 2 ปีต่อมา ตามมาด้วยลูกชายคอรี่ ลูกสาวเอลล่า และโรส ตามลำดับ และในที่สุด ครอบครัวของแองเจล่าก็มีเด็ก ๆ ถึง 8 คน
ดูเหมือนว่าชีวิตครอบครัวของแองเจล่ากำลังดำเนินมาถึงจุดที่มีความสุขที่สุดแล้ว แต่แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 โชคชะตากลับเล่นตลกกับคุณแม่ที่แสนดีของลูก ๆ ทั้ง 8 คนนี้อย่างน่าเศร้า เมื่อจู่ ๆ แองเจล่าก็ไอโดยไม่มีเสมหะ เธอจึงไปพบแพทย์และได้ทราบข่าวร้ายว่า มะเร็งร้ายได้กลับมาอีกแล้ว แต่คราวนี้เกิดขึ้นที่ปอดและไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป
แต่ถึงแม้จะรู้ดีว่า ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอกำลังจะมาถึงและเธอเองก็อ่อนเพลียมากจากการรักษาด้วยคีโมบำบัด แต่เธอก็ไม่เคยท้อและไม่ได้คิดถึงตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอคิดถึงแต่สามีและลูก ๆ ที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปในอนาคต เพราะการมีครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ทำให้เธอเป็นกังวลมาก เธอจึงพยายามอย่างที่สุดที่จะสอนให้สามีได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูก โดยเอียน ได้เปิดเผยว่า "เธอค่อย ๆ สอนผมว่าควรทำอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งนั่งดูและให้คำ แนะนำโดยตลอด ซึ่งในตอนแรกมันอาจจะยาก แต่เมื่อผมได้ทำบ่อย ๆ มันก็ง่ายขึ้น โดยเธอสอนผมว่าจะสระผม อาบน้ำให้เด็กน้อยได้อย่างไร และจะทำอย่างไรไม่ให้สบู่เข้าตา เป็นต้น และนอกจากนี้เธอยังสอนให้ผมรู้จักทำงานบ้านต่าง ๆ ทำอาหารมื้อโปรดให้ลูก ๆ ทาน สอนทำการบ้านให้ลูก ๆ อีกด้วย"
หลังจากสอนทักษะทุกอย่างให้กับเอียนจนแน่ใจว่าเขาจะสามารถเลี้ยงดูลูก ๆ ได้แล้ว แองเจล่าก็ได้จากไปอย่างสงบเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2553 ขณะที่ลูก ๆ ของเธอประกอบไปด้วย ไรอัน เดมอน รีเช่ คอนเนอร์ คู่แฝด เจคและเจด คอรี่และเอลล่า โรส โดยทั้งหมดมีอายุ 25, 23, 20, 11, 9, 4 และ 3 ปีตามลำดับ ขณะที่เอียน สุดยอดคุณพ่ออันเป็นที่รักของลูก ๆ ในวันนี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "เราไม่อยากจะเชื่อว่าแองจี้ได้จากไปแล้ว เธอเป็นแสงสว่างให้ครอบครัวของเรา ต้องขอบคุณการสอนทุกอย่างของเธอ ที่ทำให้ผมสามารถดูแลครอบครัวได้ด้วยตนเองหลังจากนี้ได้ ณ วันนี้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถแทนที่ภรรยาได้ทั้งหมด แต่ผมก็พยายามทำทุกอย่างที่ผมทำได้ เพื่อทำให้เธอได้ภูมิใจในครอบครัวของเรา ผมโชคดีจริง ๆ ที่มีภรรยาที่สอนความเป็นแม่ให้กับผม มันทำให้การเลี้ยงดูลูกเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นมากเลยจริง ๆ"