[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
21 ธันวาคม 2567 11:38:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จิตประภัสสร  (อ่าน 2308 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1 Firefox 4.0.1


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 01 มิถุนายน 2554 10:33:03 »


<a href="http://www.youtube.com/v/qpJ-nX8sZJo?version=3" target="_blank">http://www.youtube.com/v/qpJ-nX8sZJo?version=3</a>



(:LOVE:)ต่อไปนี้มาดูคำสอนที่ถูกต้อง รัก



ถาม..........1.กรรม ผลักดันให้จุติจิตไปปฏิสนธิในภูมิที่เหมาะสมแก่กรรมและสิ่ง

สั่งสมอื่นที่อยู่ในจิตหรือจุติจิตเป็นผู้พากรรมซึ่งติดสอย(โดยสาร)มาไปเกิดด้วย

2.โอปปาติกะอันมีเทวดา เปรต อสุรกาย สัตว์นรก เป็นต้นไม่มีกายหยาบ

เหมือนมนุษย์แต่มีกายละเอียด(กายทิพย์)เป็นกลุ่มก้อนพลังงานอันคือภูมิสัตว์ที่"มี

ขันธ์ 4 ขันธ์ใช่หรือไม่ ?

3.คำว่า{จิตเดิมแท้ประภัสสร}ที่แสดงว่าจิตที่บริสุทธิ์เดิมมีอยู่เป็นเพียงวาทะ

กรรมใช่หรือไม่?

4.ถ้าแม้นิพพานธาตุก็ดับสลายหมดไม่มีส่วนเหลือสรุปว่าความมีอะไรมาก

มาย(สิ่งทั้งหลายในโลกในจักรวาล)เกิดมาจากความไม่มีอะไร(ความว่างเปล่า)

เช่นนั้นหรือ ?




ตอบ..........ตราบใดที่ยังมีกิเลส ก็ย่อมเป็นปัจจัยให้มีการเกิดอีกเมื่อได้สิ้นชีวิตคือจุติจิตเกิดขึ้น



เป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดต่่อเพราะมีการกระทำที่เป็นกุศลกรรมบ้าง(อกุศลกรรม)

บ้างกรรมนั้นเองย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณคือ..{ปฏิสนธิวิญญาณ}ที่เป็นปฏิสนธิจิต

สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมปริยายอันเป็นเหตุแห่งความ

กระเสือกกระสนเป็นไฉนดูก่อนภิกษุทั้งหลายสัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด

มีกรรมเป็นพวกพ้อง มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยกระทำกรรมอันใดไว้เป็นกรรมดีหรือกรรม

ชั่วก็ตามย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

ดังนั้นเมื่อยังมีกิเลสกรรมที่ทำไว้ย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตคือเกิดขึ้นในภพ

ภูมิใดภูมิหนึ่งอันสมควรแก่กรรม กรรมย่อมทำให้เหล่าสัตว์กระเสือกกระสนไปในภพภูมิต่าง ๆ

อีกนัยหนึ่งไม่ใช่เพียงกรรมเท่านั้นที่ทำให้เกิดซึ่งเหตุที่แท้จริงคือกิเลสเพราะมีกิเลส

มีอวิชชาและตัณหา(โลภะ)จึงทำให้มีการทำกรรมและทำให้มีการเกิดตัณหาที่ทำ

ให้มีการเกิดใน(สังสารวัฏฏ์)จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่งอย่างไม่มีวันจบสิ้นตัณหาจึง

ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริงเป็นเหมือนมารดาที่ให้กำเนิดถ้าไม่มีกิเลสคือ

โลภะหรือตัณหาแล้วย่อมไม่มีการเกิดอีกอย่างแน่นอนสำหรับผู้ที่จะดับตัณหาได้

อย่างเด็ดขาดไม่เกิดอีกเลยนั้นคือพระอรหันต์ พระอรหันต์เป็นผู้ฆ่ามารดา(คือตัณหา)

ได้แล้วเป็นผู้ไม่มีทุกข์

จิตเป็นสภาพธรรมที่สะสมดังนั้นเมื่อยังมีกิเลสก็ยังมีเหตุปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นและดับ

ไปสืบต่อกันไปไม่ขาดสายดังนั้นขณะใดที่เกิดจิตประเภทกุศลบ้าง(อกุศล)บ้างมีการ

กระทำทางกายและวาจา ด้วยจิตที่เป็นกุศลและอกุศลสิ่งเหล่านี้ไมหายไปสะสมต่อไป

ที่จิตแต่ละขณะจุติจิตเกิดขึ้น ดับไปปฏิสนธิจิตเกิดต่อสิ่งที่สะสมมาไมหายไปไหน

สะสมต่อไปจา{จุติ}จิตไปปฏิสนธิจิตทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลดังนั้นเมื่อพิจารณาด้วย

ปัญญาจึงรู้ว่าสิ่งใดควรสะสมอกุศล หรือ กุศลความเข้าใจพระธรรมด้วยการศึกษา

พระธรรมฟัง{พระธรรม}จึงเป็นการสะสมที่ประเสริฐที่สุด..................




ถาม.........คำว่าจิตเดิมแท้ประภัสสรที่แสดงว่าจิตที่บริสุทธิ์เดิมมีอยู่

เป็นเพียงวาทะกรรมใช่หรือไม่ ?




ตอบ........{ประภัสสร}หมายถึง...........................



{ผ่องใส}จิตจะผ่องใสได้ก็ต่อเมื่อเป็นกุศลจิตเพราะประกอบ

ด้วยโสภณเจตสิก(เจตสิกฝ่ายดี)เกิดร่วมด้วยจึงผ่องใสและอีกประการหนึ่งขณะที่

เป็นภวังคจิตดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนี้อยู่อารมณ์ของโลกนี้ไม่ปรากฏไม่

เห็นไม่ได้ยินไม่ได้กลิ่นไม่ได้ลิ้มรสไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเพียงชั่วขณะที่จิตไม่รู้

อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจนั้นไม่มีกิเลสประการต่าง ๆ

เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ดังนั้นขณะที่เป็นภวังคจิตจึงกล่าวว่าเป็น{จิตประภัสสร}ด้วย      

ดังนั้นขณะที่ไม่มีอกุศลเกิดขึ้นมีกุศลจิตและภวังคจิตขณะนั้นจิตผ่องใส - ผ่องใส

เพราะไม่มีกิเลสเกิดขึ้นร่วมด้วยในขณะนั้นเพราะกิเลสเป็นสภาพธรรมที่เศร้าหมอง

ดังนั้นจิตที่ประภัสสรจึงมีจริง




ถาม.........ถ้าแม้นิพพานธาตุก็ดับสลายหมดไม่มีส่วนเหลือสรุปว่าความมีอะไรมากมาย

(สิ่งทั้งหลายในโลกในจักรวาล)เกิดมาจากความไม่มีอะไร(ความว่างเปล่า)เช่นนั้นหรือ ?




เบื้องต้นของ{สังสารวัฏฏ์}ย่อมไม่ปรากฎแต่เพราะมี{อวิชชา}ความไม่รู้จึงมีการกระทำ

ต่าง ๆ มีสภาพธรรมต่าง ๆ จนเป็นปัจจัยใหมีการเกิดขึ้นและเวียนว่ายตายเกิดไม่มีที่สิ้น

สุดเพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยดังนั้นคงไม่สามารถหาคำตอบในสิ่งที่เหลือวิสัยว่าเริ่ม

แรกเป็นอย่างไรและพระพุทธองค์ก็ไม่ทรงพยากรณ์ปัญหาเหล่านี้เพราะไม่ประกอบ

ด้วยประโยชน์ คือ เพื่อละคลายกิเลสได้เพราะแม้ตอบไปสัตว์โลกไม่ได้รู้ด้วยปัญญา

เหมือนพระองค์ก็มีแต่จะสงสัยอยู่ดี ไม่แน่ใจและสงสัยเพิ่มเพราะตัวเองไมได้ประจักษ์

ในสิ่งเหล่านั้นเหมือนพระองค์ทรงแสดงแต่พระองค์ทรงแสดงว่าเมื่อมีการเกิดขึ้น

ก็ต้องมีสภาพธรรมที่ดับ - ดับความเกิดขึ้นที่เป็นสังขารธรรมทั้งหมดไม่เหลือเลยนั่นคือ

พระนิพพานแต่ด้วยหนทางการอบรมปัญญาเพราะฉะนั้นพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์

ปัญหาที่ทำให้เหล่าสัตว์เจริญขึ้นด้วยปัญญาอันให้ถึงการประจักษ์ความจริงและถึงการ

ดับกิเลสได้หมดมี{อวิชชา}เป็นต้นอันเป็นเหตุของการเกิดขึ้นและดับไปสังขารธรรม

มี{จิตเจตสิก}ที่เป็นสังสารวัฏฏ์ที่ไม่มีสิ้นสุดให้สิ้นสุดดังนั้นพระองค์จึงทรง

แสดงธรรมที่ประกอบด้วประโยชน์มีการเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ เพื่อให้

เหล่สัตว์ดับกิเลสด้วยหนทางที่ถูกต้องนี้...........................................


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มิถุนายน 2554 10:42:00 โดย 時々sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1 Firefox 4.0.1


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2554 07:54:42 »



   ยิ้ม   ยิ้ม   ยิ้ม




บันทึกการเข้า
คำค้น: ประภัสสร 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.289 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 13 พฤศจิกายน 2567 17:05:20