หลวงพ่อไม่คุ้ม อุทาหรณ์คนปากดีและผีผู้หญิงพรากวิญญาณหลังจากก่อนนู้นเคยเล่าเรื่องผียกมุ้งไปแล้ว คราวนี้จะเล่าเรื่องของพระเจ้าทองทิพย์ พระประจำอุโบสถของวัดบ้านเกิดของกระผม พระเจ้าทองทิพย์หรือหลวงพ่อทองทิพย์ แม้เป็นพระพุทธรูปที่เพิ่งสร้างใหม่ แต่อิทธิปาฏิหาริย์ของท่านก็ใช่เล่น เพราะเคยมีคนถ่ายรูปแต่ดันไม่ติดเพราะไม่ได้ขอ(ส่วนผมถ่ายติดเพราะขอ 555) แต่เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวและสยดสยองมากที่สุดก็ว่าได้
เรื่องมันมีอยู่ว่าปีที่แล้ว เพื่อนของผมคนหนึ่ง มันชื่อไอ้แดน ไอ้แดนนั้นอายุครบเบญจเพศพอดี ตามคติว่าลูกผู้ชายไทยต้องบวชเพื่อทดแทนคุณแม่ มันจึงขอลาบวช หลังจากทำงานอยู่กรุงเทพมาหลายปี ไปบวชคราวนี้มันมีเพื่อนไปด้วยหลายคน แต่ที่ซี้ๆกันมีสองคนคือ เล็ก พระรามสอง และ นายตึ๋ง ซึ่งเป็นคนประเภทเดียวกันคือ ขาลุย และไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางนางไม้
หลังจากไปที่บ้านของผมแล้ว นายแดนทำพิธีโกนหัวเสร็จก็เข้าไปในวิหาร กราบพระเจ้าทองทิพย์เสร็จแล้วก็บอกให้ตึ๋งและเล็กกราบบ้าง แต่เล็กไม่ยอมกราบ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจเป็นเพราะไม่เชื่อในพระก็ได้ หลังจากนั้นนายเล็กก็เดินออกจากประตูวิหารไป พอพ้นบานประตูวิหารแค่นั้น เลือดกำเดาก็พุ่งกระฉูดออกจากจมูก แบบไม่มีสาเหตุ นายเล็กตาเหลือก นายแดนจึงบอกว่า เห็นมั้ย บอกให้กราบไม่กราบ นายเล็กดูท่าทีอ่อนลงคล้ายๆกับยอมรับในอานุภาพหลวงพ่อทองทิพย์ แต่ตึ๋งยังไม่เชื่อ บอกว่า อาจจะเป็นแรงโน้มถ่วงของโลกก็ได้ เพราะก่อนมาไอ้เล็กมันกินเหล้า ความดันอาจขึ้น แดนได้แต่ส่ายหัว ไม่รู้จะทำไง
ดึกคืนนั้น ทั้งหมดนอนในวิหาร ไม่มีใครใส่ใจถึงการลบหลู่ที่ได้ทำไวเมื่อตอนกลางวัน เพราะความพล่อยปากหรือเพราะความสนุกไม่รู้ นายตึ๋งนอนข้างล่าง ส่วนนายแดนนาคและพระก็นอนข้างบน เวลาผ่านไปนายตึ๋งก็ร้องอึ๊ดๆๆ คล้ายๆปล้ำกับอะไรอยู่ หน้าแดงหน้าเขียว ร้อนถึงหลวงพี่ต้องไปปลุกนายตึ๋ง นายตึ๋งหน้าซีดอย่างกับไข่ปอก หายใจหอบๆ หลวงพี่จึงถามว่าเป็นอะไร นายตึ๋งบอกว่า ฝัน แล้วเล่าให้ฟังว่า
ขณะกำลังเคลิ้มหลับ ประตูวิหารก็เปิดออก แล้วมีผู้หญิงสาววัยรุ่น สวยมาก แต่งตัวด้วยชุดเอวลอย สายเดี่ยว โชว์สะดือขาวจั๊วะ ผิวขาวผุดผ่อง ผมยาวสลวย ปากสีชมพูอ่อน หน้าตาคล้ายๆกับเต้ย จรินพร บวกกับ จีน เกล้าแก้ว หรือสวยกว่านั้น เดินนวยนาดเข้ามาหานายตึ๋ง นั่งลงมอง แล้วบอกว่า
ไปสนุกกันมั้ยจ๊ะ
นายตึ๋งตกใจ ด้วยไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าขนาดนี้ ขนาดอยู่ในวัดยังกล้าชวนไปทำแบบนี้ ขณะนายตึ๋งกำลังลังเล สาวเจ้าก็คว้าแขนนายตึ๋งลุกไป นายตึ๋งพยายามขัดขืน เพราะยังมีความละอายอยู่บ้าง แต่สาวเจ้าก็ลากออกไป เพื่อไปร่วมสนุกกับเธอ นายตึ๋งขืนตัว สาวเจ้าลากมาจนถึงบานประตู พอพ้นบานประตู นายตึ๋งตะลึง ตาเหลือกค้าง รู้สึกแม้ในฝันยังขนหัวตั้งชัน ร้องลั่น
อ้ากกกกกกกกกกก ผีหลอกกกกกกก
ก็เพราะตอนนี้มือที่ลากนายตึ๋งออกไป ที่เคยขาวเนียนละไม กลับกลายเป็นเมือที่บวมฉุ น้ำเลือดน้ำหนองไหลเยิ้ม กลื่นหอมจากลมพุ่งเข้ามา กลับกลายเป็นกลื่นเหม็นเน่า แม้สาวเจ้าไม่หันมา นายตึ๋งก็รู้ว่าสภาพข้างหน้าคงเละเป็นสังขยาเหมือนมือ จึงขืนดิ้นรนสะบัดมือ สาวเจ้าก็พยายามจะลากออกไปนอกวิหารให้ได้ จนกระทั่งนายตึ๋งถูกปลุกให้ตื่น
เห็นมั้ย บอกให้ไหว้ไม่ไหว้ เป็นไงล่ะ
นายตึ๋งยังคงไม่เชื่อ คิดว่าคงเพราะคิดมากเลยนอนฝันร้าย ทั้งหมดนอนหลับอีกครั้ง แต่ทั้งหมดนอนไม่หลับ เพราะรู้ดีว่าเรื่องนายตึ๋งเจอเป็นเรื่องจริง เวลาผ่านไปตีสอง นายตึ๋งร้องอื้อๆๆเหมือนเดิม คล้ายๆกำลังดิ้นรน หลวงพี่จึงต้องปลุกอีกครั้ง งานนี้นายตึ๋งไม่เหลือเค้าเดิมแห่งความดื้ออีก แต่สั่นพั่บๆ หลวงพี่จึงถามว่า เจอสาวอีกเหรอ นายตึ๋งสั่นศรีษะ บอกว่า ไม่เจอ แต่งานนี้กลายเป็นหมาดำตัวเท่าม้า เข้ามาในวิหารแทน มันคร่อมเขาไว้พร้อมกับเห่ากรรโชก เขี้ยวขาววับ อ้าปากงับลงมา เขาต้องเอามือง้างปากมันไว้ จนเกือบจะพลาดท่า ดีที่หลวงพี่ช่วยปลุก และนายตึ๋งก็หายซ่า ยอมไหว้พระโดยดี แต่ไม่มีใครกล้านอนหลับในคืนนั้น ต้องเปิดไฟคุยกันยันสว่าง
แต่ที่งงก็คือ ทำไมผีสาวจึงเข้ามาในวิหารได้ เป็นคำถามที่ยังคงอยู่ในใจของทุกๆคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น รวมถึงนายแดน เพื่อนผมด้วย