พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะวัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต บทที่ 22
ไภษัชยราชปูรวโยคปริวรรต
ว่าด้วยปุพพโยคกรรมของพระไภษัชยราช ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ นักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เพราะเหตุไร? พระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ จึงได้ท่องเที่ยวไปในโลกธาตุนี้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระโพธิสัตว์มหาสัตว์องค์นั้นได้ประสบความลำบากจำนวนมาก เป็นร้อยพันหมื่นโกฏิ เป็นการดียิ่ง ถ้าพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงพื้นฐานจรรยาวัตรบางอย่าง ของพระไภษัชยราชโพธิสัตว์มหาสัตว์ เมื่อ เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ อมนุษย์ พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลาย ผู้มาจากโลกธาตุอื่นจากนั้น และพระมหาสาวกทั้งหลายทั้งปวง ได้ฟังแล้ว จะเกิดปีติยินดี มีจิตฟูขึ้น
ครั้งนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาค ทรงทราบคำทูลอาราธนาของพระนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะโพธิสัตว์มหาสัตว์แล้ว จึงตรัสกะพระโพธิสัตว์มหาสัตว์นักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะว่า ดูก่อนกุลบุตร เรื่องเคยมีมาแล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้วหลายกัลป์ ซึ่งเท่ากับจำนวนเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา กาลสมัยนั้น ได้มีพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนามว่า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ได้อุบัติขึ้นในโลก เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นโลกวิทู เป็นนานสารถีฝึกบุรุษที่หาผู้เปรียบมิได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้น ได้มีมหาสันนิบาตพระโพธิสัตว์มหาสัตว์จำนวน 80 โกฏิ และมีสาวกสันนิบาตเท่ากับเมล็ดทรายใน 72 แม่น้ำคงคา ประพจน์(ศาสนาของพระองค์)
นั้นปราศจากมาตุคาม พุทธเกษตรนั้นปราศจากสัตว์นรก ปราศจากสัตว์ในกำเนิดเดรัจฉาน ปราศจากเปรตและอสูรกาย เป็นพุทธเกษตรที่น่ารื่นรมย์เสมอ ได้เกิดแล้วบนฝ่ามือส่วนที่เป็นพื้นดินสำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์ที่เป็นทิพย์ ประดับด้วยต้นรัตนจันทนพฤกษ์ มีหน้าต่างประดับด้วยรัตนะ ห้อยด้วยแผ่นผ้าที่ต่อเนื่องกัน จุดธูปครู่หนึ่ง ชั่วกลิ่นแห่งรัตนะ ที่โคนต้นรัตนพฤกษ์ทั้งปวง ประมาณช่วงแห่งการยิงลูกธนู จะมีโพยม (ปราสาท) รัตนะตั้งอยู่ บนยอดรัตนปราสาททั้งปวง มีเทพบุตรจำนวนร้อยโกฏิ ร่วมกันขับร้องประโคมดนตรี
เพื่อบูชาพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี พระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคนั้น ได้แสดงธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ โดยพิสดาร แก่พระมหาสาวกทั้งหลายเหล่านั้น และแก่พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ได้กระทำให้ พระสรรวสัตวปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ตั้งมั่นแล้ว พระชนมายุของพระนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ และพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้นมีประมาณ 42 พันกัลป์ เช่นเดียวกับพระชนมายุของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ และพระสาวกเหล่านั้น ก็ พระสรรวสัตวปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ถึงพร้อมด้วยความประพฤติ ที่ทำได้ยากยิ่ง ตามประพจน์ของพระผู้มีพระภาค พระองค์ได้ขึ้นสู่การเดินจงกรม เป็นเวลา 12,000 ปี เป็นผู้ประกอบโยคะ ด้วยการใช้ความเพียรเป็นอย่างมาก ล่วงเลยไปถึง 12,000 ปี พระองค์จึงได้บรรลุ สรรวรูปสันทรรศนสมาธิ (สมาธิที่สามารถมองเห็นรูปทั้งปวง)
พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้น เมื่อได้สมาธินั้นแล้ว ก็เกิดความยินดีปรีดิ์เปรมปลื้มปีติโสมนัสสูงสุด ในขณะนั้น คิดว่า เพราะอาศัยธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีตสูตรนี้ เราจึงได้สรรวรูปทรรศน์สมาธินี้ ในเวลานั้นพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้คิดอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ เราควรทำการบูชาต่อพระผู้มีพระภาคตถาคต จันทรสูรยวิมลประภาศรีและธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนั้น ในขณะที่พระองค์ทรงบรรลุสมาธินั้น สายธารดอกมณฑารพน้อยใหญ่จำนวนมาก ได้โปรยลงจากฟากฟ้า แก่พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ผู้บรรลุสมาธินั้นตามลำดับ ละอองไม้จันทน์จับกลุ่มดำทะมึนปรากฏขึ้น สายฝนไม้จันทน์ก็ได้โปรยลงมา ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ คันธชาติเช่นนั้น แม้เพียงหนึ่งกรษะก็มีค่ากว่าสหาโลกธาตุนี้
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้นได้มีความทรงจำและมีความรู้สึก เมื่อออกจากสมาธินั้น ครั้นออกแล้ว ได้คิดอย่างนี้ว่า การบูชา พระผู้มีพระภาค ด้วยการแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์เพียงเท่านี้ จะไม่มากไปกว่าการเสียสละชีวิตของตนได้เลย ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในเวลานั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้บริโภครสธูปไม้กฤษณาและกำยาน ทั้งได้ดื่มน้ำมันดอกจำปาแล้ว ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ โดยปริยายนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้บริโภคของหอมและดื่มน้ำมันจำปาผสมกันเรื่อยมา จนล่วงไปได้ 12 ปี ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น โดยกาลล่วงไป 12 ปีนั้น ได้ห่อหุ้มอัตภาพของตนด้วยผ้าทิพย์ กระทำการอธิษฐานเฉพาะตน แล้วกระโจนลงในน้ำมันหอม
ครั้นทำการอธิษฐานเฉพาะตนแล้ว ได้เผากายตนเอง เพื่อกรรมคือการบูชาพระตถาคต และเพื่อบูชาธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ โลกธาตุทั้งหลายจำนวนเท่าเมล็ดทรายใน 80 แม่น้ำคงคา สว่างขึ้น ด้วยเปลวแสงประทีปจากกายของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทั้งปวงเหล่านั้น มีจำนวนเท่าเมล็ดทรายใน 80 คงคานที ในโลกธาตุเหล่านั้น ได้ให้สาธุการว่า "ดีละ ดีละ กุลบุตร ดีละ ดีละ กุลบุตร ท่านจงทำต่อไป นี้คือการปรารภความเพียร อันเที่ยงแท้ของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งหลาย นี้คือตถาคตบูชาและธรรมบูชาอย่างแท้จริง ไม่เหมือนการบูชาด้วยดอกไม้ ธูป ของหอม มาลัย แป้งเครื่องลูบไล้ จีวร ธงปฏาก ไม่ใช่การบูชาด้วยอามิสไม่เหมือการบูชาด้วยไม้จันทน์อุรคสาร
ดูก่อนกุลบุตร นี้คือทานอันเลิศ ไม่เหมือนกับทานคือการสละราชสมบัติ ไม่เหมือนกับทานคือการสละบุตรและภรรยาอันเป็นที่รัก ดูก่อนกุลบุตร การบูชาธรรมที่ทำแล้วอย่างนี้ เป็นสิ่งประเสริฐ ดี เลิศ เลิศที่สุด กว่าการสละอาตมภาวะของตน ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ครั้นตรัสพระวาจาอย่างนี้แล้ว ก็ดำรงอยู่ด้วยอาการสงบ
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เมื่ออาตมภาวะ (ร่างกาย) ของพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์ ถูกไฟเผาไหม้อยู่นายถึง 1200 ปี เปลวไฟก็ยังไม่สงบ หลังจากล่วงไปอีก 1200 ปี แล้ว ไฟนั้นจึงสงบ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ครั้นได้ทำตถาคตบูชา และธรรมบูชาอย่างนั้นแล้ว ก็จุติจากที่นั้น ไปบังเกิดทันทีในพระราชวังของ พระเจ้าวิมลทัตตะ ในสมัยของพระผู้มีพระภาค ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี บัลลังก์ก็ปรากฏขึ้นในบริษัท ในทันทีที่เกิดขึ้นนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กล่าวคาถากับมารดาบิดาของตนในขณะนั้นว่า
1 ข้าแต่ราชเศรษฐะ ข้าพเจ้าได้สมาธินี้ เพราะผลแห่งการเดินจงกรมของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้สละอาตมภาวะอันเป็นที่รักยิ่ง บำเพ็ญมหาพรตอย่างแรงกล้าและมั่นคงยิ่ง
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ครั้นได้กล่าวคาถานี้แล้ว ได้ทูลมารดาบิดของตนว่า ข้าแต่พระมารดาบิดา ข้าพเจ้าได้รับมนตร์ในการรับรู้เสียงทั้งปวง เพราะได้ทำการบูชาพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ซึ่งยังดำรงพระชนม์อยู่ จะดำรงอยู่ต่อไปในโลกนี้ จักได้แสดงธรรมในวันนี้ ธรรมบรรยายสัทธรรมปุณฑรีกสูตรนี้ มี 80 รั้อยพันหมื่นโกฏิคาถา ด้วย สังกระ(ระคนกัน) วิวระ(มีช่องทาง) อัโษภยะ(100วิวระ) ทั้งหมด ข้าพเจ้าได้ฟังจากสำนักของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ข้าแต่พระมารดา พระบิดา ดีละ ข้าพเจ้าจักไปสู่สำนักของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ครั้นไปที่นั้นแล้ว จักทำการบูชาพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้เหาะขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงประมาณ 7 ชั่วต้นตาล นั่งขัดสมาธิบนสัปตรัตนกูฏาคาร แล้วเคลื่อนเข้าไปสู่ที่ประทับของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ครั้นเข้าไปใกล้แล้ว ได้อภิวาทพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า กระทำสักการะ ประทักษินพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นประคองอัญชลีไปในทิศที่พระผู้มีพระภาคประทับ ครั้นนมัสการพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้สดุดี ด้วยคาถานี้ว่า
1 ข้าแต่พระนริทระ พระองค์ผู้เป็นปราชญ์ มีพระพักตร์ผ่องใส รัศมีของพระองค์แผ่สว่างไปใน10 ทิศ ข้าแต่พระสุคต ผู้เป็นที่พึ่ง เพราะข้าพระองค์ ได้ทำการบูชาอันเลิศแด่พระองค์ จึงได้มาเฝ้าพระองค์อีก
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในขณะนั้น เมื่อพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ กล่าวคาถานี้แล้ว จึงได้ทูลเนื้อความนี้ กับพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ยังพอทรงพระชนม์อยู่แม้ในวันนี้หรือ? ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้น ได้ตรัสเนื้อความนี้กับพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า ดูก่อนกุลบุตร กาลสมัยแห่งนิพพานของเรา ได้มาถึงแล้ว ดูก่อนกุลบุตรกาลอันเป็นที่สิ้นสุดของเราได้มาถึงแล้ว ดูก่อนกุลบุตร ท่านจงไปสู่ที่นั้น เพื่อเตรียมเตียงแก่เรา เราจักปรินิพพาน
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระผู้มีพระภาคตถาคตจันทรสูรยวิมลประภาศรี ได้ตรัสข้อความกันพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์นั้นว่า "ดูก่อนกุลบุตร เราจักมอบศาสนา (คำสอน) นี้แก่ท่าน เราจักมอบพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ พระมหาสาวกทั้งหลาย พระพุทธโพธิญาณ โลกธาตุ รัตนวโยมกะ เทวบุตรและอุปัฏฐาก ทั้งหลายของเราแก่ท่าน ดูก่อนกุลบุตร เมื่อเรานิพพานแล้ว เราจักมอบพระธาตุเหล่านั้นแก่ท่าน ดูก่อนกุลบุตรขอให้ท่านพึงทำการบูชาพระธาตุของเราอย่างใหญ่หลวงด้วยตนเอง ท่านพึงกระทำพระธาตุเหล่านั้น ให้แผ่กว้างออกไป ท่านพึงสร้างสถูปจำนวนหลายพันองค์ ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จันทรสูรยวิมลประภาศรี นั้น ครั้นได้สอน (แนะนำ) พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์อย่างนั้นแล้ว ในปัจฉิมยามราตรีนั้นเอง ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์พระองค์นั้นเห็นว่า พระผู้มีพระภาคตถาคต จันทรสูรยวิมลประภาศรี ปรินิพพานแล้ว จึงจักทำกองไม้จันทน์อุรคสาร ถวายพระเพลิงอาตมภาวะ(สรีระ)ของพระตถาคตนั้น เมื่อเห็นว่า อาตมภาวะของพระตถาคตที่ถูกเผาไหม้สงบลงแล้ว ต่อมาจึงเก็บพระธาตุ ร้องไห้ คร่ำครวญ เศร้าโศกแล้ว ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ เมื่อพระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ร้องไห้คร่ำครวญ เศร้าโศกนั้น ได้ให้สร้างสัปตรัตนกุมภะ 84,000 ใบ บรรจุพระธาตุของพระตถาคต ลงในสัปตรัตนกุมภะเหล่านั้น ทั้งให้สร้างสัปตรัตนสถูป 84,000 องค์ สูงจรดพรหมโลก ประดับด้วยฉัตรเป็นแถว ห้อยด้วยผ้าแพรและกระดิ่ง เมื่อสร้างสถูปเหล่านั้นเสร็จแล้ว คิดว่าเราได้ทำการบูชาพระธาตุของพระตถาคตให้เลิศมากยิ่งขึ้น
ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กล่าวกับคณะของพระโพธิสัตว์ มหาสาวก เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงเหล่านั้นว่า ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ท่านทั้งปวง จงมารวมกัน เราจักทำการบูชาพระธาตุ ของพระตถาคตพระองค์นั้น ดูก่อนนักษัตรราชสังกุสุมิตาภิชญะ ในขณะนั้น พระสรรวสัตว์ปริยทรรศน์โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้เผาแขนของตนที่วิจิตรด้วยบุณยลักษณะ 100 ประการ เบื้องหน้าสถูปพระธาตุของพระตถาคต 84,000 องค์ ครั้นเผาแล้ว ได้ทำการบูชาสถูปพระธาตุพระตถาคตเหล่านั้นเป็นเวลา 72,000 ปี ครั้นทำการบูชาแล้ว ได้ทำการสอนพระสาวก จำนวน พันร้อยหมื่นโกฏิจนนับไม่ได้จากบริษัทนั้น พระโพธิสัตว์เหล่านั้น ได้บรรลุสรรวรูปสันทรรศน์สมาธิทุกองค์