[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 พฤศจิกายน 2567 02:44:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กวางสี “จ้วง”กวางสี ต้นกำเนิดตระกูลภาษาไทย  (อ่าน 3281 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 81.0.4044.138 Chrome 81.0.4044.138


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2563 16:42:24 »


"ทำไมต้องใส่ใจศึกษาชนชาติจ้วง?”


          เป็นคำถาม คุณทองแถม นาถจำนง นักกวีไทย-จีน/แปล ผู้ศึกษาชนชาติจ้วง เปิดประเด็นต่อนักวิชาการ และผู้สนใจทั่วไป ในหัวข้อ "จ้วง ไทศึกษา พี่-น้องข้ามแผ่นดิน” แล้วชนชาติจ้วงเกี่ยวข้องอะไรกับคนไทย พลิกไปคำถามหาคำตอบ

          ทองแถม กล่าวว่า "เราก็ต้องถามกลับว่า ท่านสนใจรากเหง้าของคนไทยหรือเปล่าล่ะ? สนใจประ วัติชนชาติไทยหรือเปล่าล่ะ? ถ้าสนใจก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องชนชาติจ้วง จะหาต้นกำเนิดของชาติไทยได้ที่ไหน? อัสสัม ยูนนาน ไม่ใช่คำตอบ แต่คำตอบอยู่ที่ กวางสี ต่างหากล่ะ” เมื่อมองชนชาติจ้วง เป็นชนชาติส่วนน้อยที่มีจำนวนพลเมืองมากที่สุดในกลุ่มชนชาติส่วนน้อยด้วย กัน คือมีประมาณ 15 ล้านคนในกวางสีและยูนนาน ถ้ารวมชนชาติอื่นๆ ที่ใช้ภาษาตระกูลเดียวกัน(ไท-กะ-ได) แล้วจะมีพลเมืองถึง 20 กว่าล้านคน

          ชาวจ้วงคือใคร? ต้องบอกว่าชื่อ "ชนชาติจ้วง” เป็นชื่อใหม่ รัฐบาลสาธารณรัฐประ ชาชนมีนโยบายให้สิทธิปกครองตนเองแก่ชนชาติส่วนน้อย รัฐบาลจีนได้สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ ชนกลุ่มน้อยต่างๆ แล้วประกาศรับรองให้เป็น "ชนชาติส่วนน้อย” ทองแถมชี้ให้เห็น เดิมทีชนเผ่าต่างๆ ที่ใช้ภาษาจ้วง มีชื่อเรียกตนเองต่างๆ กันมากราว 30 กลุ่ม เช่น ผู้จ้วง ผู้ม่าน(บ้าน) ผู้นา ผู้ไท นุง โท้ ฯลฯ รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ใช้ชื่อเดียวร่วมกันว่า "จ้วง” ดังนั้นชนชาติจ้วงปัจจุบันนี้จึงมีส่วนประกอบจากชนกลุ่มย่อยอีกหลายกลุ่ม   


          ชนชาติจ้วงที่เคยเรียกตนเองว่า ผู้ไท(ไต) กระจายอยู่แถบตอนใต้ของกวางสี ชายแดนกวางสี-เวียด นาม เป็นภาษาตระกูลเดียวกับภาษาไทย มีคำศัพท์ร่วมกันมากมาย ถ้าได้สอบทานคำโดดๆ กัน จะฟังพอเข้าใจ แต่ถ้าพูดเต็มประโยค คนจ้วงกับคนไทยจะสื่อไม่เข้าใจกัน เพราะภาษาจ้วงรับเอาศัพท์ภาษาจีน สำเนียงไป๋หั้ว(สำเนียงท้องถิ่นหนึ่งของภาษากวางตุ้ง)มาใช้มาก คนไทยไม่รู้ภาษาจีนจึงไม่เข้าใจ ทำนองเดียวกับภาษาไทย รับเอาบาลี-สันสกฤตเข้ามามาก คนจ้วงจึงไม่เข้าใจ เขาขยายความ จากที่เดินทางเข้าไปศึกษา พบว่าแม้แต่คนจ้วงด้วยกันเอง อยู่กันคนละตำบล ก็พูดกันคนละสำเนียง ไม่ค่อยเข้าใจกัน” และว่า "ในทางทฤษฎีภาษาศาสตร์เชื่อว่า ถิ่นต้นตอกำเนิดของภาษาจะเป็นแหล่งที่มีสำเนียงท้องถิ่นแตกต่างกันมากที่สุด เช่น   ภาษาอังกฤษในเกาะอังกฤษ มีสำเนียงแตกต่างกันชัด แต่เมื่อไปอยู่ประเทศอเมริกา ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันกลับเป็นสำเนียงเดียวกัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 81.0.4044.138 Chrome 81.0.4044.138


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2563 16:43:59 »

มาต่อกันจ้า หัวเราะลั่น


จากทฤษฎีนี้ นักภาษาศาสตร์จึงสรุปว่า ดินแดนกวางสีเป็นต้นกำเนิดของภาษาไทย นักวิชาการอื่นๆ ให้น้ำหนักกับหลักฐานทางภาษาศาสตร์ จึงเชื่อตามว่า "ต้นกำเนิดของชนชาติตระกูลภาษาไทย คือกวางสี”
          ถึงกระนั้นก็ตามมีหลายคนสงสัย ถ้าเช่นนั้นคนไทยเคลื่อนย้ายจากกวางสีหรือ? ทองแถม กล่าวว่า "มิอาจด่วนสรุปเช่นนั้น” และเสริมรายละเอียด "กวางสีเป็นดินแดนกำเนิดของภาษาตระกูลภาษาไท-กะ-ได มีการกระจายภาษานี้อย่างกว้างขวางมาก ตั้งแต่เกาะไหหลำ กวางตุ้ง กวางสี กุ้ยโจว หูหนาน เสฉวน และภาคตะวันออกของยูนนาน รวมถึงภาคเหนือของเวียดนาม ลาว ไทย พม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย”
          กล่าวเพิ่มเติม "ถิ่นกำเนิดของภาษานั้น เราเห็นว่าน่าจะรวมดินแดนทั้งหมดของกวางสี ปัจจุบันไหหลำ ภาคตะวันตกของกวางตุ้ง ภาคตะวันออกของยูนนาน เวียดนามภาคเหนือ (ประเทศไทย)บรรพชนของคนที่ใช้ภาษาไท-กะ-ได กระจายตัวอย่างกว้างขวางอย่างนี้มาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว ผู้คนส่วนหนึ่งเคลื่อนย้ายกระจายห่างออกไปเรื่อยๆ ซึ่งมีหลักฐานว่าวัฒนธรรมยุคสำริดของบรรพชนชาวจ้วงกระจายไปทางทะเลกว้างไกล ถึงเกาะมาดากัสกา
เมื่อมองตำนานต้นกำเนิดของคนไทย ที่เก่าแก่และตรงกันหลายแหล่ง คือตำนานน้ำเต้าปุง เมืองแถงหรือแถน(เดียนเบียนฟู) แต่ชื่อเรียกว่า "ไท หรือ ไต” เป็นชื่อใหม่ เมื่อเทียบกับชื่ออื่นๆ คนเผ่าอื่นที่ภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยมาก เช่น นุง แปลว่า หนองน้ำ โท้ นั้นเข้าใจว่าเป็นคำเดียวกับคำจีน แปลว่า เนื้อดิน คนพวกนี้ไม่เรียกตนเองว่า "ไท-ไต”
นักกวีไทย-จีน/แปล กล่าวถึงประวัติชาวจ้วง จากการศึกษาพบว่าชนชาติจ้วงเป็นคนพื้นเมืองของกวางสี และกวางตุ้ง ก่อนที่จะถูกกลืนเป็นฮั่น เป็นส่วนประกอบหนึ่งใน "กลุ่มวัฒนธรรมไป่เยวี่ย” ซึ่งเป็นเยวี่ยร้อยจำพวก สมมติฐานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดขณะนี้คือ ชนพื้นเมืองในกวางสี เป็นกลุ่มหนึ่งของ "ไป่เยวี่ย”
บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 81.0.4044.138 Chrome 81.0.4044.138


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2563 16:45:46 »


ต่ออีกนิดจ้า.... ตกหลุมรัก ตกหลุมรัก ตกหลุมรัก


เขาอธิบาย "ไป่เยวี่ย” ต้องเข้าใจก่อนว่าคือชื่อ "กลุ่มวัฒนธรรม” ไม่ใช่ชื่อชนชาติ พวกไป่เยวี่ยกระจายตัวกว้างขวางมาก มีตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนปลายลงมาจนถึงเวียดนาม(ตังเกี๋ย) จีนเรียกเหมารวมไปหมดว่า "ไป่เยวี่ย” นอกจากนี้ชนชาติส่วนน้อยทางภาคตะวันออก
เฉียงใต้ของจีนปัจจุบัน เช่น ชนชาติม้ง ชนชาติเย้า ชนชาติเซอ ชนชาติถู่ ชนชาติจิง(เวียด) สืบสายวัฒนธรรมมาจากไป่เยวี่ยทั้งนั้น
           พวกไปเยวี่ยสาย "ซีโอว่” และ "ลั่วเยวี่ย” (ลั่ว-คำนี้น่าจะหมายถึง "นก” เรื่องนี้เกี่ยวกับ Totem และการทำนาลุ่ม) คือบรรพชนของชาวจ้วง จึงมีความนิยมเรียกชื่อชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลิกใช้คำว่า "เยวี่ย” เปลี่ยนมาใช้ "หมาน” เปลี่ยนมาใช้ "เหล่า”(ลาว) เปลี่ยนมาใช้ "ไป๋อี”(เสื้อขาว) จินฉื่อ(ฟันทอง) กระ ทั่งสับสนเรียกเป็น "เย้า” เป็น "ม้ง” อะไรต่างๆ มากมาย เรื่องนี้สร้างความสับสนได้มาก แต่สรุปได้ว่า ชื่อ "เยวี่ย” "หมาน” "เหล่า” เก่าแก่คำว่า ไท-ไต
นักวิชาการศึกษาชนชาติจ้วง ตั้งคำถาม อะไรคือวัฒนธรรมร่วมกันของกลุ่มชนไป่เยวี่ย? ทองแถม ชี้ให้เห็นทางสังคมวัฒนธรรม
                1. อยู่อาศัยบนเรือนเสาสูง
                2.เชี่ยวชาญทางน้ำและเรือ
                3. ตัดผมสั้น(ไม่ไว้ผมรัดเกล้า แล้วใส่หมวกแบบฮั่น) สักร่างกาย
                4. วัฒนธรรมทำนาข้าว
                5. ในยุคสำริดบูชากลองมโหระทึก
                6. นิยมการฝังศพครั้งที่ 2 (ฝังดินแล้วเก็บกระดูกฝังครั้งที่ 2)
ทั้งขยายภาพของกลุ่มชนไปเยวี่ยที่อยู่ใน Mainland Southest Asia พัฒนาวัฒนธรรมแตกต่างกันออกไป 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มแรก พวกที่ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากชมพูทวีปมาก ค่อนมาทางภาคตะ วันตก รับวัฒนธรรมทางศาสนาจากฮินดูและพุทธ ทั้งมหายานและเถรวาท วัฒนธรรมใหม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เป็นต้นว่า ไทยกลุ่มที่รับศาสนาพุทธ
          กลุ่มที่สอง พวกที่รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากฮั่น หรือจีนแท้ ยังนับถือผีสาง เทวดา กลองมโหระทึก พิธี กรรมรับเอาศาสนาเต๋าเข้ามาผสม สองกลุ่มนี้ดูผิวเผินจะแตกต่างกันมาก อย่างที่คนไทยไปพบพี่น้องในกวางสี ในกุ้ยโจว จะงุนงงว่าไม่เห็นเหมือนไทยเลย ซึ่งรากเหง้าวัฒนธรรมดึกดำบรรพ์ก็ยังหลงเหลืออยู่ เพราะก่อนที่พุทธ ฮินดู หรือฮั่น จะแผ่อิทธิพลอย่างมากนั้นชนพื้นเมืองที่นี่มีระบบความเชื่ออยู่แล้ว เพราะมีพื้นฐานทางวัฒนธรรมมั่นคงและแข็งแกร่ง "เป็นต้นว่า การบูชากลองมโหระทึก ยังรักษาไว้ได้ถึงวันนี้ โดยเฉพาะในไทยและกะเหรี่ยง ความเชี่ยว ชาญทางด้านโลหะ ประเพณีฝังศพครั้งที่ 2 (คนไทยยังนิยมสร้างกู่ เจดีย์ บรรจุอัฐิ)” อย่างไรก็ดีทองแถมได้ทิ้งคำ ถาม "การจะค้นหารากเหง้าวัฒนธรรมไทยเดิม ก่อนรับพุทธและฮินดู เราต้องไปศึกษาเปรียบเทียบกับกลุ่มทางตะวันออก เช่น ชาวจ้วงในกวางสี ชาวหลี(ภาษาจีนไหหลำเรียก "โหล่ย” คือ "ดอย” ชาวเขานั่นเอง ในไหหลำ ชาวผู้ใหญ่ในกุ้ยโจวแต่ก่อน จีนเรียกส่วนหนึ่งของชนชาติผู้ใหญ่ว่า "ซา” จะเกี่ยวกับคำว่า "ซำ” "สยาม” หรือไม่น่าศึกษาดู?”
           อย่างไรก็ดีความเห็นคุณทองแถม "ชนชาติภาษาจ้วงในกวางสีด้วยกัน มีอยู่ถึง 28 กลุ่ม แต่ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ข้ามตำบลเดียวเท่านั้นก็จับใจความประโยคได้ยากอยู่ แต่ถ้าเป็นคำโดด ๆ ก็เข้าใจความหมายที่สื่อสารกันได้”
           ปิดท้ายคำพูดทองแถม "สิ่งที่เรากำลังมองอยู่ ในอดีตเรามีวัฒนธรรมเดิมของเผ่าไท-ลาว-จ้วงมีมาก่อนอินเดียพุทธจะเข้ามา เราไม่ใช่คนป่าเถื่อนไร้อารยธรรมอย่างที่ตะวันตกมอง แต่เรามีระบบความเชื่อมาก่อน ในรูปกลองมโหระทึก ผลิตโลหะ วัฒนธรรมทำนาข้าว”


ที่มา : กระทรวงวัฒนธรม  https://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=271&filename=index


บันทึกการเข้า

หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7871


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 81.0.4044.138 Chrome 81.0.4044.138


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2563 22:40:58 »


ชาวจ้วง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=e_-joyQc5LM" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=e_-joyQc5LM</a>



บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.238 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 18 พฤศจิกายน 2567 02:50:14