[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 18:30:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มุมดีๆ เล็กๆ จากผู้ชายโรแมนติก “เสนาเพชร”  (อ่าน 1661 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 ตุลาคม 2554 21:56:04 »



“หลายคนอาจจะจำผมในภาพตลกๆ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนโรแมนติกครับ...” คำบอกเล่าจากชายหนุ่มวัยเฉียด 50 ปีที่เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่มีโอกาสได้รู้จักเขาคนนี้ผ่านรายการตลกทางทีวีรายการหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็คงจะมีความรู้สึกไม่ต่างดังเช่นที่เขาบอก
 
พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “เสนาเพชร” คือเจ้าของประโยคดังกล่าว
 
หลังยุติบทบาทการเป็นหนึ่งในพิธีกร “ยุทธการขยับเหงือก” เสนาเพชรผันตัวเองมาทำงานเบื้องหลังให้กับรายการต่างๆ รวมถึงรับงานแสดงบ้างประปรายก่อนจะหันมาจับงานภาพยนตร์ ซึ่งเพียงแค่งานหนังเรื่องแรกอย่าง “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” ที่เขาทำร่วมกับ “วศิน ปกป้อง” ถูกปล่อยออกมา ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ทำให้ชื่อของเขาถูกจับตามองในฐานะผู้กำกับน้ำดีคนหนึ่งของบ้านเราขึ้นมาทันที
 
และนั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างไรหากผลงานล่าสุดชิ้นที่ 2 ของเขาอย่าง “30+โสด On Sale” ที่ได้ 3 สาว 3 พลอย เฌอมาลย์, เจี๊ยบ พิจิตรา, ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ มาประกบกับนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี เป้ อารักษ์ จะตั้งอยู่บนความคาดหวังของใครหลายๆ คนอยู่พอสมควร
 
“หลังจากหนังสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารักผ่านไปผมก็มาคิดว่าเราน่าจะทำหนังอะไรที่มันโดนความรู้สึกของผู้หญิงคงจะเป็นอะไรที่เราสื่อสารได้ง่ายในการพูดแบบปากต่อปาก เราก็มานั่งคิดทบทวนหลายๆ อย่างว่ามีเหตุการณ์อะไรที่ผู้หญิงรู้สึกร่วมกันได้บ้างนอกจากเรื่องของความรัก”
 
“ที่อยากเล่าเรื่องของผู้หญิงเพราะเขาเป็นเหล่าคนกลุ่มใหญ่ที่มีหลากอารมณ์ รู้สึกว่าถ้าพอทำออกมาเป็นหนังแล้วเขาน่าจะดู เขาคงจะสัมผัสอะไรบางอย่างที่เราอยากถ่ายทอดได้ เหมือนในเรื่องสิ่งเล็กๆ เราก็มานั่งลิสต์อะไรที่มาให้ผู้หญิงรู้สึกเสียความมั่นใจได้บ้าง”
 
“ก็ได้ข้อสรุปเป็นช่วงในวัยที่ใกล้เขตวิปริตของความรักได้บ้าง มองๆ แล้วตรงนี้น่าสนใจนะ เพราะที่ผ่านมาผมเคยเจอผู้หญิงมาปรึกษาเรื่องนี้เยอะมาก 10 คนในวัย 30 ก็มี 7 คนที่เจอประสบการณ์เหมือนกัน แล้วพอดีกับทางที่หัวฟิล์มท้ายฟิล์มเขามีเรื่องอยู่แล้วด้วย พอเรามาเจอกันก็เลยคุยกัน ทุกอย่างมันใกล้กันมากก็เลยสนใจทำร่วมกัน”
 
ถามถึงเหตุผลที่เจ้าตัวหันมาสนใจเรื่องการทำหนังผู้กำกับอารมณ์ดีเผยว่า...“ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่ทำงานขายอารมณ์ ขายความรู้สึกขบขัน อารมณ์ดีมาตลอดชีวิตแล้ว แต่การทำหนังมันก็เป็นสิ่งที่น่าลองว่าเราสามารถทำได้มั้ยก็ลองทำดู อย่างที่ผ่านมาผมก็มีพาร์ตเนอร์ เรื่องนี้เคยจะลองทำคนเดียวดูว่าจะไปรอดมั้ย แล้วเราก็ทำได้”
 
“เราพยายามถ่ายทอดความเป็นตัวเราออกมาในงานด้วยเหมือนกันนะ หลายๆ มุมมองในหนังเป็นตัวผมจริง ผมเองคนอาจจะมองว่าผมเป็นคนตลก แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่โรแมนติกมากๆ ผมชอบดูแลเอาใจใส่คนอื่นๆ ชอบดูแลเอาใจใส่ในความรู้สึกของคนอื่น ผมมักจะให้ความสำคัญและใส่ใจกับรายละเอียดสิ่งเล็กๆ อีกอย่างผมว่าการที่เราทำอะไรด้วยใจคนที่รับจะสัมผัสได้อย่างแน่นอน”
 
“แล้วงานทุกชิ้นผมให้ใจกับมันเกินร้อย ในการทำงานของผม ผมไม่เคยสั่งหรือว่าด่าใคร แค่บอกให้ทำ ถ้าไม่มีใครทำผมก็ทำซะเอง ก็เอาใจเขามาใส่ใจเรา ผมใช้วิธีซื้อใจคนมากกว่าครับ เราทำงานแบบช่วยเหลือกัน ผมชอบการทำงานระบบแบบนี้ และผมก็ใช้วิธีนี้มาตลอดชีวิตการทำงาน มันทำให้ผมทำงานได้ง่ายขึ้น”
 
“ทุกคนรู้สึกว่าไม่มีใครเอาเปรียบใคร ไม่มีการสั่งงานชนิดกดขี่ข่มเหง การทำงานกับคนที่รู้ใจกันก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับ มันทำให้เราสนุกและมีความสุขมากขึ้นกับการทำงาน”


 
ผู้กำกับอารมณ์ดียอมรับมุมมองที่นำเสนอผ่านวงการมายาทั้งละคร ภาพยนตร์ต่างๆ ล้วนมีผลต่อผู้เสพ เพราะฉะนั้นผู้เสพเองก็ควรจะมีวิจารณญาณในการเลือกอยู่พอสมควร
 
“ผมว่ามีส่วนนะ ผมว่าเรื่องของระบบธุรกิจหรือระบบวัฒนธรรมของละครบางทีเขาลืมมองสิ่งดีๆ ไป ความจริงเราสามารถเลือกเล่าสิ่งดีๆ ก็ได้นะ ไม่ได้จะยอตัวเอง งานของผมส่วนใหญ่เน้นนำเสนอเรื่องราวที่เป็นสิ่งดีๆ มากกว่าสิ่งร้ายๆ อย่างในหนังของผมจะไม่มีบุหรี่ ไม่มีคำหยาบ ไม่มีเรื่องของการมัวเมา เรื่องของความอิจฉา ผมว่าตรงนี้มันมีผลต่อเยาวชนแน่นอน”
 
“แต่ว่าไม่ได้เพราะเด็กเดี๋ยวนี้เขาก็รับสื่อนอกมาเยอะเหมือนกันจะมาว่าแต่ของเรามันก็ไม่ได้ ผมว่ามันอยู่ที่คนรอบข้างด้วย ปัจจุบันวัฒนธรรมตะวันตกมันเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเยอะด้วย โซเชียลเน็ตเวิร์กมันช่วยทำให้เกิดความคิดหรือวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่มันดาร์คๆ เข้ามา แต่จริงๆ ทีวีบ้านเราก็มีส่วนช่วยสกรีนให้หน่อยก็ได้”
 
“แต่เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะสิ่งเหล่านั้นคนดูเขาชอบไง ไม่ใช่ว่าสื่ออย่างเราไม่อยากทำนะ ผมเชื่อว่าคนในวิชาชีพนี้ทุกคนอยากนำเสนอสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม แต่ทำยังไงได้ ก็ลูกค้า ผู้บริโภคเขาชอบแบบนี้ ทำไปเขาก็ไม่สนับสนุน แล้วเราจะทำยังไง ปากต้องกิน กองทัพก็ต้องเดิน หลายอย่างมันเป็นปัจจัยครับ"
 
“ถ้าจะให้เป็นผลคงต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการของรัฐบาลต้องช่วยสื่อ โดยอาจให้มีงบประมาณสนับสนุน ถามหน่อยว่าทำไมเกาหลีเขาทำได้ เพราะรัฐบาลเขาเล็งเห็นปัญหาแล้วเขามาช่วยจริงจัง เทต้นทุนมาให้ 30 ล้านสร้างละครสนับสนุนประเทศ อย่าให้มีฉากเลิฟซีนเยอะ รู้ว่ามันมีจริงแต่ไม่ต้องถึงกับให้เห็นว่ามีการปล้ำ ดูดปาก หรือโชว์เลิฟซีนให้เห็นจะจะ ที่เหลือให้คนดูไปคิดเอาเอง”
 
“ทำยังไงให้ละครมันน่ารัก มีเสน่ห์ ก็เล่าๆ ไป มันทำได้ครับ การที่เราเล่าเรื่องโดยไม่มีฉากเลิฟซีนให้เห็นจะจะมันก็เป็นเสน่ห์อีกแบบนึง มันขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้กำกับและนายทุนครับ”
 
คลุกคลีอยู่กับวงการนี้มา 30 ปีแล้วรู้สึกยังไงกับมันบ้าง?

“มายา (รีบตอบทันที) วงการบันเทิงคือมายา ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจ และในมายาเองก็ยังต้องมีวินัยของมันเอง การที่เราจะอยู่นานๆ ได้ในวงการนี้เราจำเป็นต้องมีวินัย เราต้องปฏิบัติตน เคารพสิทธิ์รุ่นพี่ รู้จักประมาณตน วางตัวให้ดี อย่าเย่อหยิ่ง อย่าไปเยอะจนเกินเหตุ เพราะวงการบันเทิงมันก็มีกันอยู่แค่นี้ มันเห็นและสัมผัสได้ เราไม่ใช่เงา เราเดินไปทางไหนคนก็เห็นเรา”

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130261

TR สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก


ตัวอย่างเต็ม 30+ โสด ON SALE (Official Tr.)


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ตุลาคม 2554 22:30:51 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.553 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 08 ธันวาคม 2567 09:33:38