'ชัชชาติ' พร้อมร่วมมือทุกภาคส่วนแก้ปม PM2.5 สัปดาห์หน้าคลอดมาตรการเข้ม
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-12-01 18:30</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ชัชชาติ' พร้อมร่วมมือทุกภาคส่วนแก้ปม PM2.5 สัปดาห์หน้าคลอดมาตรการเข้ม - ช่วงเที่ยงวันนี้ (1 ธ.ค.) ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระบุ 20 จังหวัดค่าเกินมาตรฐาน</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="588" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fprbangkok%2Fposts%2Fpfbid0jSeAffcw1wQATMRFd8p1RFja6cMoXrgQzmD3YGVDmzQ1yDa11bHE5gxttpVxaukKl&show_text=true&width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>1 ธ.ค. 2566
เพจกรุงเทพมหานคร รายงานว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการรับมือและแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่ากรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยหัวใจหลักมี 2 เรื่อง คือ 1. การควบคุมไอเสียจากรถยนต์ และ 2. การป้องกันการเผาชีวมวลทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งกรุงเทพมหานครได้มีการประชุมร่วมกับกระทรวงพลังงานไปแล้วเพื่อจับมือกันแก้ไขปัญหานี้ โดยจะมีนโยบายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองของรถเก่า ซึ่งจะมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมมือกันกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้คนที่ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลหรือยูโร 3 ลงไป มาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพราะเป็นสาเหตุสำคัญในการปล่อย PM2.5 คาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะประกาศรายละเอียดได้ โดยจะเชิญชวนประชาชนมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองภายในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 รวมทั้งจะมีการเปลี่ยนใช้น้ำมันที่สะอาดขึ้น หรือยูโร 5 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยลดการปล่อย PM2.5 จากเครื่องยนต์ได้
ส่วนการเผาชีวมวล กรุงเทพมหานครได้มีการจัดทำเครื่องอัดฟาง ติดตามจุด Hot Spot ต่าง ๆ ประจำวัน ซึ่งทำให้เห็นว่าไม่ได้เกิดการเผาในพื้นที่กรุงเทพฯ มากนัก แต่การเผามาจากพื้นที่ข้างเคียงด้วย โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะมีประชุมร่วมกับจังหวัดปริมณฑล ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันเรื่องการลดการเผาชีวมวลต่าง ๆ ทางกรุงเทพมหานครจะพยายามทำอย่างเต็มที่ และทางรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากเช่นกัน
สำหรับเรื่องสุขภาพประชาชน กรุงเทพมหานครได้มีการเพิ่มเติมเครื่องฟอกอากาศในพื้นที่ที่มีกลุ่มเปราะบาง เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล รวมถึงโรงพยาบาลก็ได้มีการให้คำแนะนำด้านสุขภาพ มีการเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศ ตลอดจนมีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถตรวจสอบและพยากรณ์ฝุ่นได้ละเอียดมากขึ้น ชื่อแอปพลิเคชันว่า AirBKK
ในส่วนของการ Work from Home เรามีมาตรการดำเนินการอยู่แล้ว หน้าที่เราไม่ใช่การสั่งแต่เป็นการให้ข้อมูลและออกคำแนะนำเมื่อถึงภาวะวิกฤตให้มีการ Work from Home ปัจจุบันมีเครือข่ายที่ร่วมกับกรุงเทพมหานครประมาณ 100 บริษัท รวมกว่า 40,000 คน ที่พร้อมปฏิบัติตามเมื่อมีคำแนะนำจากกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้มีหลักเกณฑ์ไว้แล้วว่าฝุ่นเท่าไรถึงจะเริ่มดำเนินการ โดยจะพยากรณ์ล่วงหน้า 3 วัน แล้วจึงออกคำแนะนำให้ Work from Home ทั้งนี้ หากมีเอกชนใดสนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรเครือข่ายกรุงเทพมหานครก็ยินดี เราจะได้แจ้งข่าวสารไป</p>
<h2><span style="color:#3498db;">20 จังหวัดค่าเกินมาตรฐาน</span></h2>
<p><img alt="" src="
https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2023/12/405311574_389650086725711_4386956970662314210_n.jpg" /></p>
<p>
เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง (ณ เวลา 12.00 น.)</p>
<p>ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 6 – 60.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. พบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.พะเยา จ.น่าน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม และ จ. ประจวบคีรีขันธ์</p>
<p>ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 10 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 18.3 – 60.2 มคก./ลบ.ม. หนักสุดที่สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ค่าฝุ่น 60.2 มคก./ลบ.ม.</p>
<p>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 6.0 – 26.4 มคก./ลบ.ม.</p>
<p>ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 24.9 – 49.0 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16.7 – 35.4 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 6.0 – 14.9 มคก./ลบ.ม.</p>
<p>กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 17.5 – 57.8 มคก./ลบ.ม.</p>
<p>คำแนะนำทางสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์</p>
<p>ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/12/107059