#ConforAll 2 แสนรายชื่อ ใน 3 วัน ไม่ปาฏิหาริย์ แต่เพราะประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-12-29 16:07</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล : สัมภาษณ์/เรียบเรียง</p>
<p>ภาพปก การนับจำนวนรายชื่อในวันที่ 27 ส.ค. โพสต์โดย iLaw พร้อมระบุว่า “นับแทบจะครบแล้ว ปิดรับแล้ว ถ้าจะมีปรับตัวเลขอีกก็คงไม่มากแล้ว” </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ความเยอะของ กกต. ทำให้การยื่นรายชื่อ 5 หมื่นรายชื่อเพื่อทำประชามติด้วยคำถามว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใหม่ทั้งฉบับและ สสร. ทั้งหมดต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไร้ผล ทำให้ ConforAll ต้องล่ารายชื่อในรูปกระดาษ 5 หมื่นรายชื่อภายใน 3 วัน แต่สิ่งที่ได้คือ 200,000 รายชื่อซึ่งส่งนัยถึงความเปลี่ยนแปลงของจิตสำนึกทางการเมืองของประชาชนไทย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53152409080_3e61dfdcfc_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพการยื่นรายชื่อประชาชน 212,139 ชื่อเพื่อเสนอคำถามประชามติต่อคณะรัฐมนตรี ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2566 </span></p>
<p>การเสนอชื่อของประชาชนเพื่อเสนอกฎหมายหรือต้องการทำประชามติเป็นเรื่องยากเย็นและวุ่นวายเสมอมา เหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซ้ำยังมีข้อกำหนดให้นายกรัฐมนตรีตีตกได้ กับกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นคือการรวบรวมรายชื่อออนไลน์ 50,000 รายชื่อเพื่อทำประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยกลุ่ม ConforAll เพื่อประกบกับคำถามประชามติของรัฐบาลที่ ณ เวลานั้นกำหนดว่าจะทำประชามติในเดือนกันยายนด้วยท่าทีประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเก่าจนไม่ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง โดยกำหนดคำถามว่า</p>
<p>‘เห็นด้วยหรือไม่ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2’</p>
<p>แต่เมื่อยื่นรายชื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลับถูกปฏิเสธและบอกว่า รายชื่อออนไลน์ไม่สามารถใช้ได้ต้องยื่นเป็นเอกสารกระดาษเท่านั้น จากการปฏิเสธของ กกต. ส่งผลให้ ConforAll มีเวลาเพียง 3 วันเพื่อรวบรวมรายชื่อ 50,000 รายชื่อ</p>
<p>หลายคนไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้ภายใต้แรงบีบของเวลา ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จาก ConforAll ก็ก่ำกึ่งไม่แน่ใจว่าจะทำได้</p>
<p>ทว่า ฝ่ายรัฐดูเบาพลังของประชาชนน้อยเกินไป ด้วยเวลาเพียง 3 วัน มีผู้คนมากมายส่งรายชื่อให้แก่ ConforAll เพื่อทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญถึง 200,000 รายชื่อ เกินกว่าที่ต้องการถึง 4 เท่า ปฏิเสธได้ยากว่าปรากฏการณ์นี้ไม่มีนัยต่อการเมืองไทยทั้งในวันนี้และวันหน้า </p>
<p>‘ประชาไท’ พูดคุยกับยิ่งชีพในฐานะหนึ่งในสมาชิก ConforAll กลุ่มคนที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลักของ ‘กลุ่มสมัครอาสาล่ารายชื่อเพื่อเสนอคำถามทำประชามติ 'เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%'’ ที่ประชาไทยกให้เป็นบุคคลแห่งปี</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>
บุคคลแห่งปี 2023 : อาสาล่าชื่อทำประชามติ 'เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%'</li>
<li><a href="
https://prachatai.com/journal/2023/09/105887 'ภูมิธรรม' แถลงถามประชามติ 3 ครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เตรียมเสนอ ครม. ม.ค. 67 https://prachatai.com/journal/2023/12/107382">ครม.มีมติตั้ง คกก.ศึกษาแนวทาง แก้ รธน. พร้อมรับฟังประชาชน ย้ำไม่แก้หมวด 1 และ 2[/url] </li>
<li>
'ภูมิธรรม' แถลงถามประชามติ 3 ครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 เตรียมเสนอ ครม. ม.ค. 67 </li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไม่ใช่ปาฏิหาริย์</span></h2>
<p>ยิ่งชีพยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ทำให้เขาประหลาดใจ ทั้งยังเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองของเขาต่อสังคมการเมืองไทย</p>
<p>“ตอนนั้นมีรายชื่อกระดาษอยู่ในมือประมาณหมื่นเดียว ต้องการอีก 40,000 รายชื่อใน 3 วันก็คิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ วันแรกสุด วันที่ 22 สิงหาคม ตอนสี่ทุ่ม ผมพูดในไลฟ์ว่าถ้าเราช่วยกันจนทำได้ 50,000 บาทมันเป็นปาฏิหาริย์ ก็อยากจะขอให้ประชาชนมาช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์อีกสักครั้งหนึ่ง”</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/50367767156_67e76d628c_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ (แฟ้มภาพ)</span></p>
<p>แล้วสิ่งผิดสังเกตก็เกิดขึ้นเมื่อทวิตเตอร์และเฟซบุ๊คส์ไลฟ์มีคนดูแลแชร์มากกว่าปกติ วันรุ่งขึ้น 7 โมงเช้าไรเดอร์คันแรกโทรเข้ามาที่สำนักงานของไอลอว์นำรายชื่อมาส่ง พอช่วง 10.00 น. เป็นต้นไป ผู้คนก็หลั่งไหลมามากขึ้น ตกบ่ายๆ ทางไอลอว์ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ปกติ บรรยากาศเปลี่ยน และคิดว่าการรวบรวมรายชื่อ 50,000 รายชื่อให้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมมีความเป็นไปได้</p>
<p>จากแค่ต้องการเพียง 50,000 รายชื่อ กลับเพิ่มพูนถึง 200,000 รายชื่อ ยิ่งชีพกล่าวว่า</p>
<p>“ผมก็นิยามใหม่ว่าแบบนี้ไม่เรียกปาฏิหาริย์แล้ว ปาฏิหาริย์มันต้องลุ้นๆ หน่อย แต่อันนี้คือเรากำลังบอกร่วมกันว่านี่คือบรรทัดฐานของสังคมที่เราจะอยู่ร่วมกัน 50,000 รายชื่อภายใน 3 วันเป็นเรื่องง่ายมากเพราะได้มาตั้ง 2 แสนรายชื่อ เท่ากับเราต้องการแค่ 1 ใน 4 ของที่เราทำ เหมือนกับเราได้บอกแล้วว่าสังคมเรามันดีกว่านั้น ดีกว่าที่เราเคยคิด คนมันพร้อมตื่นตัวอยู่ในภาวะที่ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองมากกว่าที่เราคิด ซึ่งเป็นบรรทัดฐานแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน</p>
<p>“แปลว่าถ้าเราจะเอารายชื่อออนไลน์ 50,000 รายชื่อเป็นเรื่องง่ายมาก ถ้าจะเอารายชื่อออนไลน์ 200,000 รายชื่อก็ไม่ยาก ถ้าจะเอารายชื่อเป็นกระดาษ 200,000 รายชื่อก็ทำได้และครั้งหน้าก็จะทำได้อีก เป็นการบอกเราว่าแคมเปญใหญ่ๆ คิดไปเถอะถ้าคิดออกเดี๋ยวคนจะช่วยกันทำ”</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/IWRbd2OAOQE?si=SI-sl9fu9OvyxuCZ" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">คลิปถ่ายทอดสดบรรยากาศรับรายชื่อเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยในคลิปจะมีการแชร์ประสบการณ์การล่ารายชื่อในแต่ละพื้นที่ด้วย</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">200,000 รายชื่อใน 3 วัน ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม</span></h2>
<p>ยิ่งชีพเปิดอกกับ ‘ประชาไท’ ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ConforAll ในช่วงเวลาพีคๆ ตอนนั้น เขามีโอกาสเล่าสั้นๆ เพียงไม่กี่ครั้งและทุกครั้งที่พูดก็เป็นต้องเสียน้ำตาถ้าไม่ข่มกลั้นไว้ เพราะเขาได้เห็นพลังของประชาชนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน</p>
<p>เขากล่าวชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่พลังของไอลอว์เพราะตัวเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่เคยออกไปหารายชื่อ ทำแค่นั่งอยู่ที่สำนักงานจนดึกดื่น ประชาชนต่างหากที่นำรายชื่อมาให้เขา ยิ่งชีพเล่าว่าคนที่อยู่ใกล้สำนักงานไอลอว์ก็เดินมายื่นให้ด้วยตนเอง บ้างก็ส่งไรเดอร์มา ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ส่งไปรษณีย์</p>
<p>“มีไรเดอร์ประมาณสี่ห้าร้อยคันทั้งวัน เราสามารถไปยืนริมถนนได้เลย ยืนรอไม่ถึงนาทีก็จะมีเขียวๆ มาเรายกมือได้เลย เพราะถ้าเราไม่ทำอะไร รอให้ไรเดอร์มาจอดและโทรมา เราจะเสียเวลารับโทรศัพท์ เราต้องไปยืนหน้าบ้านเห็นเขียวๆ เราโบกมือแต่ไกลเลยจอดตรงนี้ของเราทั้งนั้นซองเป็นปึกๆ”</p>
<p>มีคนที่ปริ๊นท์เอกสารไปยืนตามรถไฟฟ้าเพื่อรวบรวมรายชื่อ คนที่เดินตั้งแต่ต้นซอยถึงปากซอยชวนคนในซอยมาลงชื่อแล้วนำมาส่งให้ที่ไอลอว์ ผู้ที่เซ็นก็แปลว่าต้องการรัฐธรรมนูญใหม่ ยิ่งชีพใช้คำว่าในช่วงสามสี่วันนั้นมี ‘คนบ้า’ แบบนี้หลายร้อยหรืออาจจะเป็นพันคนที่ลุกขึ้นมารวบรวมรายชื่อส่งมา ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ‘คนบ้า’ เหล่านี้ก็จะลุกขึ้นทำอะไรมากกว่านี้ และจะมี ‘คนบ้า’ อื่นๆ ที่ 3 วันนั้นไม่ว่างลุกขึ้นทำมากกว่านี้ เขาคิดว่าแค่ 200,000 รายชื่อถือว่าน้อยมาก ถ้ามีเวลามากกว่านี้ 1,000,000 รายชื่อก็สามารถทำได้</p>
<p>“สี่ห้าเดือนที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดขอบคุณใคร พยายามเก็บปากเอาไว้ เพราะผมรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพราะผม เขาไม่ได้เอารายชื่อมาให้เพื่อให้นายยิ่งชีพสำเร็จแล้วนายยิ่งชีพได้อะไร นายยิ่งชีพไม่ได้อะไรเลยแต่เขาทำเพื่อตัวเขาเอง เพื่อประเทศของเขา เพื่อชีวิตของเขา เพื่ออนาคตของเขาเอง แล้วสิ่งที่เขาทำสำหรับผมมันยิ่งใหญ่กว่าที่ผมทำมาก</p>
<p>“ผมทำงานผมได้เงินเดือนผมมีหน้าที่ที่ต้องทำ ถ้าผมไม่ทำผมไม่ควรมีชีวิตอยู่ ผมเป็นองค์กรที่ทำเรื่องรัฐธรรมนูญประชาชนช่วยบริจาคเงิน ช่วยสนับสนุน ถ้าถึงเวลารัฐบาลกำลังจะทำประชามติที่มีคำถามที่ห่วยแตกแล้วเราไม่ทำอะไรเลย เราไม่ควรมีชีวิตอยู่ แต่เพราะเรารู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่าง เราก็ทำ แต่ประชาชนที่ออกค่าใช้จ่ายเอง ทุกคนน่าชื่นชมกว่าสิ่งที่ผมทำมาก ผมขอคืนคำชื่นชมทั้งหมดให้กับประชาชนที่ลุกขึ้นมาทำอะไรเป็นร้อยๆ พันๆ ในช่วงเวลา 3-4 วัน”</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ต้องแก้ทั้งฉบับและเลือกตั้ง สสร. 100 เปอร์เซ็นต์</span></h2>
<p>รายชื่อประชาชน 200,000 รายชื่อเพื่อขอทำประชามติด้วยคำถามว่า</p>
<p>‘ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่ารัฐสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน’</p>
<p>ถูกวางอยู่บนโต๊ะของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีอำนาจดำเนินการต่อ ทว่า ยิ่งชีพยอมรับว่า 200,000 รายชื่อก็ไม่มีผลกดดันฝ่ายอนุรักษนิยมแต่อย่างใด ต่อให้ได้มากกว่า 200,000 รายชื่อก็ไม่มีผล เพราะแทนที่ ครม. จะสรุปจบว่ารับหรือไม่รับ แต่กลับตั้งคณะกรรมการศึกษาว่าจะทำประชามติด้วยคำถามแบบไหน มีแนวทางการทำประชามติอย่างไร ผลที่ได้จากคณะกรรมการกลับตรงกันข้ามกับคำถามที่ประชาชน 200,000 รายชื่อเสนอไป ทั้งหมดนี้ยิ่งชีพมองว่าเป็นเพียงการยื้อเวลา พอหลังปีใหม่ ครม. ก็น่าจะอนุมัติให้ทำประชามติด้วยคำถามที่ตั้งธงไว้แต่ต้นแล้วว่า</p>
<p>‘ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2’</p>
<p>“เราต้องการให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการแก้หมวด 1 หมวด 2 ผมคิดว่าคนที่บอกไม่ให้แก้หมวด 1 หมวด 2 คิดสั้นเกินไปมากและไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง คือคิดเพียงแค่ว่าต้องการบอกกับสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าเรามีความจงรักภักดีและต้องการคงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ แต่การคงไว้ไม่จำเป็นต้องคงหมวด 1 หมวด 2 แบบแช่แข็งไว้ตลอดกาล เราสามารถเขียนหมวด 1 หมวด 2 ใหม่ให้สถาบันพระมหากษัตริย์สง่างามกว่านี้หรือมีพระราชอำนาจมากกว่านี้ก็ได้ ส่วนการที่จะเขียนหมวด 1 หมวด 2 ใหม่โดยไปล้มล้างระบอบการปกครองมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะมาตรา 250 ห้าม”</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53423983325_9d1d709ff2_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">คำถามประชามติที่ ConforAll ล่ารายชื่อ</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทุกฝ่ายต่างต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่เป้าหมายต่างกัน</span></h2>
<p>อย่างไรก็ตาม การทำประชามติจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่จะเป็นประชามติที่ประชาชนมีส่วนร่วม 100 เปอร์เซ็นต์หรือถูกอำนาจต่างๆ แทรกแซงเพื่อล็อกให้รัฐธรรมนูญเป็นไปตามที่ต้องการ ซึ่งยิ่งชีพเชื่อว่าจะเป็นแบบหลังแน่ๆ เพียงแต่ฟากประชาชนจะสู้จุดไหนได้แค่เท่านั้น</p>
<p>“สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเราจะทำให้เขาเดินหน้าไปสู่ธงของเขาได้ยากลำบากขึ้น” ยิ่งชีพกล่าว “ซึ่งเราทำแล้วสำเร็จแล้ว เพราะถ้าเราไม่ยื่นไป ไม่ทำเรื่องนี้ เขาเคาะคำถามนี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายนแล้ว แต่พอเรายื่นไป กระแสเรื่องนี้มันมา เขาไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยยื้อเวลาไปก่อน ตั้งกรรมการศึกษา ผ่านไป 3 เดือนคำตอบก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรขยับคืบหน้า ก็เห็นได้ว่าคุณยื้อเวลาไปอย่างนั้นเองเพราะคุณรู้ว่าตอนเดือนกันยายนคุณอาจจะสู้กระแสไม่ไหว คุณก็เตะไปอีก 3 เดือนแล้วเพิ่งประกาศมาเมื่อคืน (25 ธันวาคม 2566) เพราะคุณคิดว่ากระแสมันจะตกแล้ว ซึ่งกระแสตกแล้วจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ต้องคอยดูกันในสองสามวันนี้ว่าประชาชนจะตื่นตัวกันหรือเปล่า”</p>
<p>ยิ่งชีพวิเคราะห์ต่อว่า</p>
<p>“รัฐธรรมนูญ 60 เขียนขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจให้ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่ในอำนาจได้ไปเรื่อยๆ และก็ทำสำเร็จแล้วในปี 62 พอปี 66 มันทำไม่ได้ เครื่องมือมันหมด สิ่งที่ทำได้คือเอาก้าวไกลออก เอาเพื่อไทยขึ้น กลไกของ สว. ก็จะหมดในเดือนพฤษภาคมนี้และต้องเลือกสวชุดใหม่ซึ่งเป็นไปได้สูงที่ สว. ชุดใหม่เขาจะควบคุมไม่ได้ แล้วอีกสักสามสีปีหลังได้ สว. ชุดใหม่ก็ถึงเลือกตั้ง 70 พอดีกลไกต่างๆ ในรัฐธรรมนูญเขาก็คุมไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นการคงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ 60 มันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่ออำนาจของ คสช. หรืออำนาจเดิมอีกต่อไป อำนาจจะค่อยๆ อ่อนลงเอง</p>
<p>“การเขียนใหม่และหาช่องทางหาที่จะเอาอำนาจตนเองเข้าไปในรัฐธรรมนูญใหม่ก็เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำ มันไม่ได้เสียอำนาจอะไรไปมีแต่ไปเดิมพันเอาข้างหน้า แต่ถ้าอยู่อย่างนี้เขาอยู่นานไม่ได้ ทุกคนก็ประเมินตรงกันว่าเลือกตั้งครั้งหน้ายังไงก้าวไกลก็ถล่มทลายไม่ว่าจะเป็นระบบเลือกตั้งแบบไหน เพราะฉะนั้นการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่แล้วไปวัดดวงเอาข้างหน้าก็เป็นสิ่งที่กลุ่มอำนาจเก่าต้องการจะไป เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการจะไป ผมจึงเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น”</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>
‘iLaw’ เตือนคำถามประชามติที่มีปัญหาคนอาจโหวต No - ต้องเปิดกว้างไว้แล้วให้ประชาชนเลือก สสร.ที่อยากได้</li>
<li>
Conforall เรียกร้องให้ ครม.ทบทวนการตั้งคำถามประชามติ แนะใช้คำถามเปิดกว้าง</li>
<li>
PrachaTalk EP.12 | คนแห่งปี ข่าวแห่งปี และประชามติที่ไม่แก้ทั้งฉบับ</li>
</ul>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">ประชามติที่ไม่ควรต้องมี</span></h2>
<p>ความจริงแล้วหากย้อนไปดูเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ การทำประชามติว่าต้องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ไม่จำเป็นต้องทำ ยิ่งชีพอธิบายว่ากฎหมายระบุเพียงว่าให้ทำประชามติก็ต่อเมื่อแก้รัฐธรรมนูญ 60 แล้ว สภาพิจารณาผ่านแล้วว่าการตั้ง สสร. จะมีหน้าตาอย่างไร มีที่มาอย่างไร มีอำนาจหน้าที่แค่ไหน มีระยะเวลาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่าไหร่ เมื่อข้อเสนอเหล่านี้ผ่านสภาเรียบร้อยแล้วจึงทำประชามติเพื่อให้ประชาชนอนุมัติ</p>
<p>ยิ่งชีพกล่าวว่าแต่เนื่องจากมีกลุ่มที่ไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ กลุ่มกลุ่มแรกคือพรรคพลังประชารัฐนำโดยไพบูลย์ นิติตะวัน และกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาสวนำโดยสมชาย แสวงการ เพราะถ้ารัฐธรรมนูญปี 60 ถูกแก้พวกเขาอยู่ไม่ได้ทางการเมือง ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต้นปี 2564 คนกลุ่มนี้จึงพูดเองเออเองว่าสภาจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ต้องทำประชามติก่อน</p>
<p>คนกลุ่มนี้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าต้องทำประชามติก่อนเริ่มทุกกระบวนการหรือไม่ คำวินิจฉัยกลางระบุว่าสภาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญและตั้ง สสร. ได้ต้องมีประชามติ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องทำตอนไหนและต้องทำกี่ครั้ง แต่เมื่อดูคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐธรรมนูญพบว่า 6 คนจาก 9 คนเห็นว่าประชามติครั้งนี้ไม่ต้องทำ แต่ให้ทำหลังจากผ่าน 3 วาระไปแล้ว</p>
<p>“ทีนี้ไพบูลย์ นิติตะวันซึ่งแพ้เลือกตั้งก็ไม่ได้อยู่ในสภาแล้ว สว. ก็จะหมดอายุในเดือนพฤษภาคม ถ้าหากทำประชามติในเดือนกันยายนหรือตุลาคมที่ผ่านมา ผมคิดว่ายังเป็นไปได้ที่จะทำประชามติเพื่อปิดปาก สว. แล้วเราก็จะได้เริ่มเกมทุกอย่างตั้งแต่ธันวาคมมกราคม แต่พอถึงวันนี้ยังไม่ได้ทำประชามติ จะทำอย่างเร็วก็เดือนเมษายน แต่เดือนพฤษภาคม สว. ก็ไปแล้วไม่ต้องทำก็ได้ ไปถึงก็เริ่มเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 60 ตั้ง สสร. กันพอผ่านสภาก็ค่อยไปทำประชามติ”</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ตั้งคำถามแบบนี้อย่าทำประชามติดีกว่า</span></h2>
<p>นอกจากนี้ การตั้งคำถามประชามติที่ว่า ‘ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2’ จะยิ่งเพิ่มความยุ่งยากขึ้นไปอีก ยิ่งชีพอธิบายว่า</p>
<p>“ถ้าตั้งคำถามแบบนี้จะมีปัญหาตามมามากเพราะคนที่อยากเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ไม่อยากแก้หมวด 1 หมวด 2 ก็ไม่รู้จะโหวตอะไร คนเห็นด้วยกับคำถามแต่ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขก็ไม่รู้จะโหวตอะไร คนที่อยากปกป้องหมวด 1 หมวด 2 แต่ไม่อยากได้รัฐธรรมนูญใหม่คือไม่อยากให้แก้อะไรเลยก็ไม่รู้จะโหวตอะไร เพราะถ้าโหวตรับก็แปลว่าเอารัฐธรรมนูญใหม่ ถ้าโหวตโนก็แปลว่าจะแก้หมวด 1 หมวด 2 คน 2 กลุ่มนี้อย่างน้อยๆ ไม่รู้จะโหวตอะไร</p>
<p>“ผลการทำประชามติไม่ว่าจะออกมาอย่างไร ถ้าโหวตเยสชนะก็ไม่รู้จริงๆ ว่าประชาชนคิดอะไรประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญใหม่หรือต้องการปกป้องหมวด 1 หมวด 2 กันแน่ ถ้าโหวตโนชนะก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ไม่รู้ว่าประชาชนไม่ต้องการรัฐธรรมนูญใหม่หรือต้องการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 แล้วต่างฝ่ายต่างก็จะไปตีความเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนส่วนใหญ่และทะเลาะต่อกันต่อไปในอนาคต ผลประชามติที่เกิดขึ้นก็จะไม่ได้แก้ไขความขัดแย้งและเดินหน้า แต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่ที่ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองเป็นคนส่วนใหญ่”</p>
<p>แต่ถ้าเริ่มยื่นร่างเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 60 เข้าสู่สภา 3 วาระพิจารณา ถ้าต้องการแก้หรือไม่ต้องการแก้หมวด 1 หมวด 2 อยากให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือมาจากการแต่งตั้ง สสร. จะมีหน้าที่อะไรบ้าง ประเด็นเหล่านี้ก็ไปใส่ในรายละเอียดให้ครบแล้วจึงทำประชามติ ประชาชนก็จะตัดสินใจได้ว่าจะรับหรือไม่รับร่างนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าต้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่</p>
<p>“บางคนอาจจะเอารัฐธรรมนูญใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับร่างที่ออกมา ไม่เห็นด้วยกับโมเดล สสร. ไม่เห็นด้วยกับกรอบเวลาเขาก็โหวตโนได้ ผลออกมาก็จะพอเข้าใจกันได้ว่าโหวตเยสหรือโหวดโนชนะแปลว่าอะไร แล้วระหว่างกระบวนการทำประชามติก็จะถกเถียงกันอย่างมีคุณภาพว่าคุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับส่วนไหนอย่างไร ว่ากันด้วยเหตุผลได้”</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เพดานที่ลดไม่ได้</span></h2>
<p>ในกระบวนการทางการเมืองย่อมต้องมีการเจรจาต่อรองอย่างเลี่ยงไม่พ้น เพดานต่ำสุดที่ ConforAll ยอมรับอยู่ตรงไหน ยิ่งชีพกล่าวว่าหากพูดในนามของ ConforAll คือลดไม่ได้ ยืนกรานว่าคำถามประชามติต้องเป็น</p>
<p>‘ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่ารัฐสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน’</p>
<p>เพราะ...”ทุกคนที่เซ็นชื่อมา 200,000 รายชื่อไม่ได้เซ็นมอบอำนาจให้ผมไปต่อรอง ไม่เหมือน ส.ส. คนเลือกตั้งส.ส. ไปถึงเขาต่อรองได้เพราะเป็นตัวแทนของประชาชนได้มอบอำนาจไว้แล้ว แต่คนที่เซ็นชื่อ 2 แสนรายชื่อต้องการเสนอให้เขียนใหม่ทั้งฉบับและเลือกตั้งสสร 100 เปอร์เซ็นต์ ผมไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย”</p>
<p>“เราก็ยืนกระต่ายขาเดียวเสนอไว้เช่นนี้ ถ้าสุดท้ายเขาตัดสินใจออกมาเราก็มีหน้าที่แค่ไม่เห็นด้วย แต่มันก็จะเดินไปไม่ได้ สมมุติออกมาเลือกตั้งแต่ 80 เปอร์เซ็นต์ เราไม่เห็นด้วยเราต้องการ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แล้วเราก็จะไปขัดขวางหรือล้มการเลือกตั้งก็ไม่ใช่ มันก็จะเดินไปแบบนั้นแหละ แต่ให้เราเปลี่ยนจุดยืนว่าเห็นด้วยกับ 80 เปอร์เซ็นต์ไหม เราเห็นด้วยไม่ได้”</p>
<p>และหากรัฐบาลยืนกรานจะใช้คำถามประชามติของคณะกรรมการข้างต้น ยิ่งชีพคิดว่าผลที่ได้จะออกมาใน 3 รูปแบบคือคือไม่ผ่าน ถ้าออกรูปนี้ก็ต้องตีความกันวุ่นวายว่าเราจะไม่ได้ทำรัฐธรรมนูญใหม่เลยใช่หรือไม่ ประการที่ 2 ผ่านแบบทุลักทุเลหมายความว่ามีคนไปใช้สิทธิ์ 25 ล้านคนเท่ากับครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงประชามติทั้งหมดเพราะถ้าไม่ถึงครึ่งจะถือไม่ผ่านเลย แต่หากคนไปใช้สิทธิ์ 25 ล้านเห็นด้วย 12 ล้านไม่เห็นด้วย 10 และงดออกเสียงเยอะมากหลายล้านมาก แล้วไม่ไปใช้สิทธิ์เยอะมาก มันจะทำไปทำไมทำแล้วคนที่เห็นด้วยมันมีน้อยมากไม่มีความหมายไม่มีพลัง และรูปแบบสุดท้ายอาจจะผ่านอย่างสวยงาม แต่ทุกฝ่ายก็จะนำผลไปตีความเข้าข้างฝั่งของตน และเกิดเป็นความขัดแย้งรอบใหม่</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ปี 67 ปีที่เหนื่อยและแคมเปญที่ใหญ่ขึ้น</span></h2>
<p>ยิ่งชีพเชื่อว่ากระบวนการทำประชามติจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะทุกฝ่ายไม่ต้องการอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เพียงแต่ถ้าประชาชนไม่ส่งเสียง กระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อาจจะดีกว่าฉบับปี 2560 ก็เป็นได้ แต่จะไม่ดีมากเท่าที่ประชาชนต้องการและไม่รู้สึกเป็นเจ้าของดังเช่นรัฐธรรมนูญปี 2540</p>
<p>“ประชาชนก็จะรู้สึกว่านี่มันฉบับพรรคเพื่อไทย ฉบับรัฐบาลผสม ฉบับรัฐบาลแกงส้มผลักรวม สมมติทำเสร็จปี 70 เรารู้สึกว่ารัฐธรรมนูญ 70 เป็นของเขาไม่ใช่ของเรา ประชาชนก็ไม่ได้หวงแหน ไม่ได้ผูกพันกับกติกาที่ปกครองบ้านเมือง แต่กลับรู้สึกเป็นศัตรู รู้สึกรังเกียจเหมือนกับที่รู้สึกกับรัฐธรรมนูญ 60”</p>
<p>ผลดังกล่าวย่อมไม่ใช่เรื่องดีเพราะสิ่งที่ก่อเกิดจากรัฐธรรมนูญนี้จะพลอยถูกรังเกียจไปด้วย แล้วก็ต้องกลับมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2580 กันใหม่เป็นวงจรไม่จบสิ้น</p>
<p>“สิ่งที่อยากเห็นก็แค่ว่าถ้าจะเกิดขึ้นก็เกิดให้มันดี ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมจริงๆ และให้รู้สึกว่าเขาเขียนอะไรออกมา มันก็ไม่ได้ดีที่สุดหรอก มันต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ แต่อย่างน้อยฉบับนี้มันเป็นฉบับที่เรารู้สึกหวงแหนพูดถึงทีไรก็คิดถึงเหมือนรัฐธรรมนูญ 40 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการที่กำลังสร้างขึ้น แต่ด้วยคำถามประชามติแบบนี้ ถ้าต้องทำประชามติจริง ผมว่าพัง”</p>
<p>ในปี 2567 นี้จึงเป็นปีที่เหนื่อยยากสำหรับประชาชนเพื่อผลักดันรัฐธรรมนูญของประชาชนให้เป็นจริง และจากปรากฏการณ์ 200,000 รายชื่อ ทำให้ยิ่งชีพรู้สึกกล้าที่จะรณรงค์และออกแบบประเด็นที่ใหญ่ขึ้นเพราะเชื่อว่าจะมีประชาชนมาร่วมด้วยช่วยกัน</p>
<p>“เราจะทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อน อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง แล้วปี 67 มาเหนื่อยด้วยกัน ผมจะชวนทำอะไรเยอะมากซึ่งยังบอกตอนนี้ไม่ได้เพราะคิดไม่ออก แต่อย่างน้อยๆ 2 เรื่องคือการนิรโทษกรรมประชาชนกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เราต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนเพื่อผลักดันให้มันเป็นจริง ก็หวังว่าจะได้เห็นพลังของคนทุกคนเช่นเดียวกับช่วงที่ผ่านมาและมากขึ้นไปเรื่อยๆ”</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-0" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สัม
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/12/107424 ![Share this topic on Ask Share this topic on Ask](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/ask.gif)
![Share this topic on Digg Share this topic on Digg](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/digg.gif)
![Share this topic on Facebook Share this topic on Facebook](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/facebook.gif)
![Share this topic on Google Share this topic on Google](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/google.gif)
![Share this topic on Live Share this topic on Live](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/live.gif)
![Share this topic on Reddit Share this topic on Reddit](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/reddit.gif)
![Share this topic on Twitter Share this topic on Twitter](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/twitter.gif)
![Share this topic on Yahoo Share this topic on Yahoo](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/yahoo.gif)
![Share this topic on Google buzz Share this topic on Google buzz](http://www.sookjai.com/Themes/default/images/share/gbuzz.gif)