22 ธันวาคม 2567 00:03:22
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ อนามัย
.:::
น้ำพริก ภูมิปัญญารสเผ็ดคู่เมืองสยาม
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: น้ำพริก ภูมิปัญญารสเผ็ดคู่เมืองสยาม (อ่าน 120 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2497
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 126.0.0.0
น้ำพริก ภูมิปัญญารสเผ็ดคู่เมืองสยาม
«
เมื่อ:
27 กรกฎาคม 2567 12:53:00 »
Tweet
น้ำพริก ภูมิปัญญารสเผ็ดคู่เมืองสยาม
ที่มา- มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2567
คอลัมน์ - โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง
เผยแพร่ - วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2567
พริกกลายเป็นสมุนไพรข่าวดังทั่วโลกจากกรณีที่สำนักงานอาหารแห่งชาติเดนมาร์ก ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้วางจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้มยำไก่ที่มีความเผ็ดจัด จำนวน 3 รายการจากเกาหลีใต้ ด้วยเหตุผลว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายเฉียบพลันแก่ผู้บริโภค หลังจากพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวมีปริมาณสารแคปไซซิน (
Capsaicin
) ซึ่งเป็นสารรสเผ็ดจากพริกในระดับสีแดง (หน่วยความเผ็ด 40,000-250,000 สโกวิลล์) ถึงสีแดงเข้ม (250,000-1,000,000 สโกวิลล์) ที่สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพอ่อนแอ
ทั้งนี้ อย.เดนมาร์กต้องการตัดไฟแต่ต้นลมเพราะเกิดกระแสการแข่งขันกันกินเผ็ดในหมู่เด็กเยาวชนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ด้วยคำถามว่า “คุณกินบะหมี่เผ็ดจัดได้ไหม?” ซึ่งการท้าทายนี้ ผู้เข้าร่วมต้องกินบะหมี่ที่เผ็ดจัด ซึ่งมีปริมาณสารแคปไซซิน สูงเกินขนาดความปลอดภัย ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเพื่อนบ้านอย่างเช่นเยอรมนี มีเด็กหลายคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากได้รับพิษแคปไซซินจากการกินมันฝรั่งทอดที่มีพริกเผ็ดจัด
แต่คนไทยหลายคนที่ได้ฟังข่าวพริกอันตราย คงขำๆ เพราะในเมืองไทยยังไม่เคยมีผลิตภัณฑ์อาหารยี่ห้อใดที่ใส่สารแคปไซซินโดนแบนยกเค้าแบบในเมืองฝรั่ง เพราะรสเผ็ดจัดจ้านเป็นรสยอดนิยมของอาหารไทยมาแต่ไหนแต่ไร ดังมีหลักฐานอยู่ใน “จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรฤสยาม” ที่กล่าวถึง “น้ำจิ้มของสยาม” รสเผ็ดเมนูโปรดสมัยอยุธยาว่า “พวกเขาชอบบริโภคน้ำจิ้มเหลวชนิดหนึ่งคล้ายกับมัสตาร์ด ประกอบด้วยกุ้งเคยเน่าเพราะหมักไม่ได้ที่เรียกว่า กะปิ (
capi
)”
แม้ลาลูแบร์ไม่ได้บอกชื่อน้ำจิ้มดังกล่าว แต่คนไทยยุคนี้ก็เดาได้ทันทีว่า น้ำจิ้มรสมัสตาร์ดนี้ คือ “น้ำพริก” นั่นเอง
มัสตาร์ด คือ เครื่องเทศชนิดหนึ่งใช้เป็นเครื่องปรุงรสเผ็ดของฝรั่ง ไร้สารแคปไซซิน ได้จากเมล็ดของพืชล้มลุก ในสกุล
Brassica
วงศ์
Crucif.
แต่รสเผ็ดตระกูลพริกที่ชาวไทยและคนเมืองร้อนนิยมบริโภคเป็นพืชในวงศ์
Solanaceae
สกุล
Capsicum
ในเวลานั้นราชทูตฝรั่งเศสอาจยังไม่รู้จักพริก แต่ในสมัยอยุธยาตอนต้นไทยเรามี “ตำราพระโอสถพระนารายณ์” มีตำรับยาหลายขนานที่มี “พริก” เป็นส่วนประกอบสำคัญช่วยปรับแก้ “ไฟธาตุอันเย็นอันหย่อนให้เสมอเป็นปกติ ให้มีกำลัง แก้ลมเป็นก้อนและลมอันเสียดแทงชายโครง ตะโพก สันหลัง” และยังช่วยแก้ “ไฟธาตุเผาผลาญอาหารหย่อน” เพื่อมิให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วงและอาเจียนอย่างรุนแรง
มีปุจฉาว่าเหตุใดอาหารไทยทุกภาคจึงมีพริกและรสเผ็ดเป็นอัตลักษณ์
ข้อวิสัชนาตามหลักการแพทย์อายุรเวทคือ “ฉัฐรส : รส 6” เกิดประจำฤดูกาล 6 ในที่นี้ “กฎรส : รสเผ็ด” เกิดประจำฤดูร้อน ซึ่งมีคุณสมบัติของธาตุไฟกับธาตุลมผสมกัน ทั้งไฟและลมเหมือนกันตรงที่เป็นธาตุมวลเบาทั้งคู่ แต่ต่างกันที่ธาตุไฟมีคุณสมบัติร้อน ส่วนธาตุลมมีคุณสมบัติเย็น นี่คือคุณสมบัติพิเศษของ “รสเผ็ด” คือ มีทั้งร้อนเย็นผสมกันและมีมวลเบา ซึ่งตอบโจทย์ได้ว่า สมุนไพรหรือเครื่องเทศรสเผ็ดร้อน เช่น “พริก” ย่อมเกิดในดินแดนที่มีภูมิอากาศร้อน จึงเหมาะกับธาตุของคนเมืองร้อน เช่น คนไทย ด้วยประการฉะนี้
ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุใด “น้ำพริก” ปลาทูไทย จึงเป็นเมนูอาหารเผ็ดรสเด็ดประจำชาติไทยตลอดกาล
โบราณว่า “พริกเผ็ดใครให้เผ็ด ฉันใด” แต่แท้จริง พริกเผ็ดเองบ่ได้ดอกเพราะเคล็ดลับความเผ็ดบันลือโลกอยู่ที่ “สารแคปไซซิน” เผ็ดกำลังดีมีประโยชน์มากกว่าที่ฝรั่งกลัว
คนทั่วไปมักไม่รู้ว่า พริกแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ พริกเผ็ด มีสารแคปไซซินอยด์ (
Capsaicinoid
) กับพริกหวาน มีสารแคปซินอยด์ (
Capsinoid
) หรือเรียกง่ายๆ ว่าพริกร้อนกับพริกเย็น
ตามหลักการแพทย์อายุรเวทที่กล่าวว่า พริกมีฤทธิ์ร้อนของธาตุไฟ และฤทธิ์เย็นของธาตุลมนั่นเอง แต่สรรพคุณเด่นของพริกอยู่ที่สารสำคัญแคปไซซินอยด์มากกว่าแคปซินอยด์ ไม่ว่าจะใช้เป็นยาและอาหารสารแคปไซซินอยด์รสเผ็ดพบมากในส่วนที่เป็นไส้ของผลพริก ทนความร้อนสูง แม้จะถูกผัด ทอด ปิ้งย่างต้มยำทำแกงด้วยความร้อนสูงแค่ไหนก็ไม่หายเผ็ด
สรรพคุณของพริกในสถานการณ์สุขภาพยุคใหม่ คือสารแคปไซซินในพริกสามารถกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน บรรเทาอาการเจ็บปวดและลดการสร้างฮอร์โมนที่ทำให้เครียด ช่วยให้เราอารมณ์ดี สดชื่น ทำให้ความดันโลหิตลดลง รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น นี่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่กินพริกเผ็ดๆ ช่วยให้อารมณ์ดี แต่กินน้ำตาลหวานๆ กลับทำให้อารมณ์ร้าย ก้าวร้าว
จะเหมาได้ไหมว่า ฉายาสยามเมืองยิ้ม มาจากการที่คนไทยชอบกินพริกนั่นเอง
ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าสารแคปไซซินและสารต่างๆ ในพริก เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก ฯลฯ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ
ยกตัวอย่างการทดลองกินพริกชนิดเผ็ดที่อุดมด้วยสารแคปไซซินอยด์ เช่น พริกขี้หนู (ชื่อวิทยาศาสตร์
Capsicum frutescens L.
) เพื่อควบคุมคอเลสเตอรอล
มีงานทดลองทางคลินิกให้ผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูงกินพริกขี้หนูป่นแห้งวันละ 5 กรัม ร่วมกับอาหารปกติเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ แล้วนำผลมาเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่กินพริก ผลจากการทดลองพบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่กินพริกมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (
LDL
) คงที่ แต่มีระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (
HDL
) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่กินพริกเลย มีระดับคอเลสเตอรอลทั้งหมดสูงขึ้น
การศึกษานี้พบว่าการกินพริกช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีให้คงที่และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีได้ และยังพบว่าพริกช่วยให้การก่อตัวของคราบ (Plaque) ในหลอดเลือดลดลง ป้องกันการเกิดหลอดเลือดแข็งตัวด้วย
นอกจากนี้ สารแคปไซซินอยด์ในพริกยังลดการสะสมเนื้อเยื่อไขมัน (
Fat Tissue
)ในไตและบริเวณอัณฑะ ช่วยให้ท่านชายลดความเสี่ยงเป็นโรคต่อมลูกหมากโต และยังมีรายงานว่าพริกช่วยบำรุงสมอง มีการค้นพบโดยเฉพาะในพริกขี้หนูมีธาตุเหล็กและสารนิโคติน ที่ช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดในสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยปรับปรุงการรับรู้ของระบบประสาทและสมอง รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อมด้วย
การกินอาหารพร้อมพริกในปริมาณที่เหมาะสม วันละประมาณ 5 กรัม พริกในน้ำพริกสารพัดสูตรของคนไทย 4 ภาค และปรุงรสไม่เผ็ดรุนแรงจนกระเพาะอาหารแสบร้อน จะช่วยให้คนไทยห่างไกลจากโรคหัวใจและโรคทางสมองแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์ดี มีอายุยืน
และรักษาอัตลักษณ์สยามเมืองยิ้มไว้ได้ตราบเท่าที่คนไทยยังกินน้ำพริกกันอยู่ •
... อ่านต้นฉบับได้ที่ :
https://www.matichonweekly.com/column/article_782431
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...