อีกแล้ว ผีในคอกแพนด้าน้อยหลินปิง พี่เลี้ยงเจอเป็นชายร่างใหญ่นั่งกอดเข่า

ทีมพี่เลี้ยงแพนด้าน้อย ยันเจอจริง ผีดูหลินปิง เป็นชายร่างใหญ่นั่งกอดเข่าในคอกกัก ถึงขั้นขนหัวลุก พอถึงเช้าต้องรีบวิ่งโร่ไปทำบุญชุดใหญ่ ด้านผู้เชี่ยวชาญคาด คงแค่มาขอส่วนบุญ...

จากเหตุการณ์ขวัญผวาพาขนลุกซู่ ที่เกิดจากความน่ารักน่าชังของแพนด้าน้อยหลินปิง ที่มีคนนับหมื่นนับแสนแห่กันเข้าชมกัน จนเกิดเรื่องเล่าขานกันว่าคนเข้ามาชมจนหนำใจแล้ว วิญญาณ หรือภาษาชาวบ้านเรียกสั้นๆว่า "ผี" ก็ปรากฎร่างขอชมบ้าง เล่นเอาทีมพี่เลี้ยงที่ดูแลแพนด้าน้อยในช่วงกลางคืนเจอเข้าจังๆและนำมาเล่า สู่กันฟังจนเกิดผวาในตอนกลางคืน และเมื่องานฉลองครบรอบหลินปิง 1 ปี จึงมีการนิมนต์ครูบาน้อย เตชปัญโญ เกจิชื่อดังล้านนา เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล มาทำพิธีพรมน้ำมนต์และเขียนยันต์กาสะท้อนกลับ กำกับไว้ที่หน้าคอกกักหลินปิง เพื่อให้บรรเทาเบาบางไม่ให้เกิดเรื่องชวนขวัญผวาขึ้นอีกตามข่าว

โดย บรรยากาศภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ มีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปชมอย่างผิดตา และบรรดาแฟนคลับแพนด้าน้อยหลินปิง ได้ไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสนใจโดยเฉพาะนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ได้รับโทรศัพท์ถามเรื่องราวจากแฟนคลับจำนวนมาก ซึ่งทางนายประเสริฐศักดิ์ ก็ได้ตอบกับบรรดาแฟนคลับว่าเป็นเพียงทีมงานเลี้ยงหลินปิงเท่านั้น ที่พบเหตุการณ์ แต่เมื่อทำบุญไปแล้วก็ไม่มีอะไรเหตุที่เกิดตั้งแต่สร้างบ้านหลังใหม่ให้ แพนด้าน้อยหลินปิง ซึ่งสิ่งที่ปรากฎก็คงอยากจะมาดูหลินปิงจึงปรากฎให้เห็น

โดย นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผช.ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ข่าวผีดูหลินปิง ออกมาตนเองได้รับโทรศัพท์ไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าได้มีการนำครูบาน้อย มาทำพิธีแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมาอีก และได้ให้มีการพรมน้ำมนต์ พร้อมมอบพระเครื่องครูบาน้อย ให้กับทีมงานไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นมาถือเป็นสีสันที่เกิดเพราะความน่ารักของแพนด้าน้อยหลิน ปิง

นายนิพนธ์ ได้นำผู้สื่อข่าวไปพบกับทีมงานพี่เลี้ยงแพนด้า ที่มีอยู่หลายคนที่ประสบเหตุการณ์ขวัญผวาที่ยากจะอธิบายได้ โดยเฉพาะ นายอนุวงค์ วงศ์วิเชียร หรือชื่อเล่น พี่แต เป็นพี่เลี้ยงที่หลินปิงให้ความรักและไว้ใจมาก ได้เล่าเหตุการณ์ว่าตนเองได้ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง เพราะจะต้องดูแลหลินปิงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเวลาที่เจอนั้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ย้ายหลินปิงพร้อมหลินฮุ่ยมาอยู่ที่คอกกัก ส่วนจัดแสดงหลังใหม่ โดยตนจะเป็นคนตั้งกล้องถ่ายทีวีวงจรดูความเคลื่อนไหวของหลินปิงตลอดทั้งคืน ให้ทีมงานวิจัย ซึ่งขณะที่ได้มีการตั้งกล้องอยู่นั้น ตนได้ดูจอมอร์นิเตอร์ซึ่งถ่ายเข้าไปในกรงของหลินปิง ก็พบว่ามีชายรูปร่างใหญ่ตัวดำนั่งอยู่ในลักษณะกอดหัวเข่าอยู่ ตนจ้องมองในตอนแรกเข้าใจว่าตาฝาด อาจจะเห็นหลินปิงเป็นคนนั่งอยู่ แต่เมื่อตนเหลียวไปอีกมุมก็เห็นหลินปิงอยู่กับแม่หลินฮุ่ย

ตนจึงหันไปดูมุมที่กล้องถ่ายก็ไม่เห็นมีอะไร ตนขนลุกไปหมด และได้รีบขึ้นไปเปิดภาพดูใหม่แต่ก็ไม่เห็นอะไร และยังมีเพื่อนทีมงานหลายคนประสบกับเหตุการณ์ต่างๆกันบางคนกำลังนั่งอยู่ ไฟฟ้าก็ดับๆเปิดๆทั้งที่อาคารสร้างใหม่หลอดไฟฟ้าก็ใหม่ เรื่องนี้ได้มีการเล่ากันในทีมพี่เลี้ยง แต่ก็ได้เล่าให้ทางนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการฯให้รับทราบแล้ว ในส่วนของตนหลังจากที่เจอกลางคืนในตอนเช้า ก็รีบซึ่งอาหารคาวหวานมาวางทำบุญกรวดน้ำไปให้

ด้าน นายวัลลภ นามวงศ์พรหม อนุกรรมการฝ่ายศิลปกรรมท้องถิ่น สภาวัฒนธรรมเชียงใหม่ ซึ่งมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับภูตผีวิญญาณ ได้มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องผีดูหลินปิงว่า ตามปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีวิญญาณมาดูหลินปิง ขอบอกว่าวิญญาณจะปรากฎอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อมีมาปรากฎขึ้นที่ในคอกหลินปิงหรืออยู่ในลักษณะใดก็ตาม ส่อแสดงว่าวิญญาณนั้นปรากฎขึ้นเพื่อจะอะไรบางอย่างให้กับมนุษย์ที่อยู่ในโลก ได้รับทราบ แต่มนุษย์เรากลับไม่เข้าใจกับวิญญาณต่างๆที่มาแสดงออก จึงได้มีการขับไล่ด้วยวิธีการต่างๆ เรื่องนี้จะทำให้วิญญาณไม่พอใจอาจจะถึงขั้นโกรธมนุษย์ขึ้นได้

และอีกประการหนึ่งการปรากฎให้เห็นเพื่อจะมาขอส่วนบุญ เพราะในโลกวิญญาณจะอยู่ได้ด้วยบุญอย่างเดียว ดังนั้นเมื่อมาปรากฎให้เห็นก็อาจจะมาบอกเหตุหรือมาขอส่วนบุญ หากมนุษย์เข้าใจก็ไม่ควรจะไปไล่ไม่ควรจะไปเอาคาถาอาคมป้องกันเพื่อจะทำให้ ป้องกันยิ่งจะทำให้วิญญาณเหล่านี้เดือดร้อน แต่ควรจะใช้วิธีทำบุญให้กับวิญญาณที่ปรากฎเหล่านี้ เพราะจะทำให้มาปกป้องสิ่งที่อยู่ในที่แห่งนี้ให้ ดังนั้นหากเราไปขับไล่หรือป้องกันอาจจะทำให้วิญญาณเกิดความโกรธทำให้กิจการ ที่ทำได้รับผลกระทบขึ้นในทางที่ไม่ดี

"ดังนั้นคำแนะตามความเชื่อก็ ขออย่าได้ไปขับไล่หรือทำลายด้วยคุณไสยต่างๆแต่ขอให้ทำบุญเป็นสังขทานอุทิศ ส่วนกุศลไปให้วิญญานเหล่านั้น แล้วสิ่งที่จะตามมาก็คือความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันจะทำให้กิจการได้ดีตลอด ไป แต่หากไปขับไล่จะทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธและจะเกิดอุปสรรคในการทำงาน แก่ปัญหาไม่ได้และจะเกิดความเสียหายตามมา ส่วนที่เข้าใจว่ามาดูหลินปิงก็คงไม่ใช่เพราะวิญญาณเป็นนามธรรม เคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา การจะดูหลินปิงไม่ต้องปรากฎกายมาดูก็ได้สามารถดูได้ตลอดเวลา แต่ที่มาปรากฎให้เห็นก็เพื่อบอกอะไรให้กับมนุษย์เท่านั้น แต่เราไม่ทราบความหมายเท่านั้น จึงกลัวว่าเป็นผีหลอกบ้าง จนมีการขับไล่ แต่วิธีการที่ดีสุดเมื่อเห็นแล้วก็ควรจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ซึ่งผลดีก็จะ ตามมาเอง"นายวัลลภกล่าว

สำหรับบริเวณที่มีการสร้างบ้านหลังใหม่ให้ หลินปิงนั้นก่อนหน้าที่จะสร้างได้เคยมีคนงานก่อสร้างรางรถไฟฟ้าที่วิ่งในสวน สัตว์ได้เสียชีวิตจากถูกเหล็กตกใส่ แต่ไม่ได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ เมื่อมีการมาสร้างอาคารหลินปิงทับที่บริเวณนั้นจึงเกิดเรื่องลึกลับชวนขนลุกขึ้นมา

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/region/86143