[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 08:37:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระธรรมปาโมกข์รูปที่ ๑๓ : พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย)  (อ่าน 3410 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5797


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 26 เมษายน 2555 20:08:10 »

พระธรรมปาโมกข์ยุคกรุงรัตนโกสินทร์




พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น  มนฺตาสโย) วัดปทุมวนาราม  กรุงเทพมหานคร



พระธรรมปาโมกข์
รูปที่ ๑๓
พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น  มนฺตาสโย)



พระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น  มนฺตาสโย)   เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน ปีจอ ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๙ ณ บ้านคลองคราม ในคลองบางกอกน้อย  เป็นบุตรชายคนแรกของนายพันโท  พระบริคุตวรภัณฑ์ (คง สรวิสูตร์) ยกกระบัตรทหารบก  ท่านรอด เป็นมารดา  ท่านมีพี่สาวร่วมมารดาคนหนึ่ง คือคุณชุมแสง เทพหัศดินทร์  ซึ่งถึงแก่กรรมไปนานแล้ว  และมีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับท่านอีก ๒ คน คือ นางพิมลเสนี (ประพันธ์  หงสกุล)  คนหนึ่ง กับนายเพชร์  สรวิสูต  อีกคนหนึ่ง  ซึ่งทั้งสองท่านนี้ได้ถึงแก่กรรมไปก่อนแล้วเช่นกัน

เมื่อเยาว์วัย ท่านได้มีโอกาสติดตามคุณโยมบิดาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงในพระบรมมหาราชวังเป็นประจำ  และได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบเป็นรุ่นแรก รุ่นเดียวกับมหาอำมาตย์ตรีพระยาภะรตราชา (ม.ล.ทศทิศ  อิศรเสนา) เรียนจบประโยคหนึ่งแตกฉานในภาษาไทยเป็นอย่างดี และภาษาอังกฤษพอสมควร

เมื่อท่านมีอายุได้ ๑๗ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบวรนิเวศวิหาร  ได้มีโอกาสถวายการปฏิบัติต่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จนเป็นที่โปรดปรานเพราะความขยัน อดทน และอยู่จนดึกเป็นนิจ  ด้วยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงงานอยู่จนเลยสองยามแล้วจึงจะเสด็จเข้าที่พระบรรทม  ท่านเฝ้ารับใช้รวดเร็วทันพระทัยและรู้พระทัยเป็นอย่างดี โดยมิได้คำนึงถึงเวลาพักผ่อนของท่านเอง

ท่านเป็นสามเณรอยู่ได้ปีเศษ  ก็ลาสิกขาออกไปรับราชการของประเทศชาติในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติเป็นเวลาประมาณ ๓ ปีเศษ ก็ลาออก เพื่อไปหาความสงบและพักผ่อนเพื่อสุขภาพ  ในที่สุด ท่านก็ได้ตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนรนาถสุนทริการาม วัดเดียวกับที่คุณโยมบิดาของท่านเคยบรรพชา  โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ  กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธ  ทรงเป็นพระอุปัชฌายะ  พระวินัยมุนี เป็นพระกรรมวาจา  เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๐

พรรษาแรกที่อุปสมบท  ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ในวัดเล็ก ๆ ในป่าจังหวัดนครสวรรค์ หลังจากออกพรรษาแล้ว ท่านก็โดยสารรถไฟกลับกรุงเทพฯ พักอยู่ที่วัดนรนาถฯ บ่ายวันหนึ่ง ท่านนั่งรถรางมาลงที่สะพานยศเส (สะพานกษัตริย์ศึก ปัจจุบัน)  แล้วเดินต่อไปจนถึงชานเมืองได้พบวัดปทุมวนาราม ก็รู้สึกสนใจในความสงบร่มเย็นของวัดนี้   ท่านจึงเดินเข้าไปดูในลานวัด และพบกับพระวิสุทธสารเถระ (ผิว)  ผู้เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๔  ท่านจึงเข้าไปทำความเคารพและสนทนาอยู่พักหนึ่ง  จนเกิดความประทับใจในการต้อนรับของเจ้าอาวาส  ท่านจึงกราบขอมาอยู่วัดปทุมวนารามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  พระวิสุทธสารเถระ  เดิมเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดพระบาทตากผ้า  จังหวัดอุตรดิตถ์  มีผู้คนเคารพนับถือมาก  เดิมเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามองค์ที่ ๓ มรณภาพลง  พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงจึงโปรดให้นิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามสืบแทนต่อไป และอยู่มาไม่นานก็มรณภาพลง  กรมพระสวัสดิ์  จึงนิมนต์พระอาจารย์หนู  จิตปัญโญ  ซึ่งเป็นเพื่อสหธรรมมิก เดินธุดงค์กับพระอาจารย์มั่น  ภูริทัตตเถระ จากวัดบูรพา  จังหวัดอุบลราชธานี  มาเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ ของวัดปทุมวนารามต่อไป  เพราะฉะนั้น พระอาจารย์มั่นฯ จึงได้ลงมาพักอยู่ด้วยเป็นเวลาถึง ๓ ปี
          
พระธรรมปาโมกข์ (มนฺตาสโย  บุญมั่น  สรวิสูตร์)  มีความสนใจในทางธรรมปฏิบัติมาก จึงเข้ารับการอบรมกรรมฐานจากท่านอาจารย์มั่นฯ  และได้ติดตามธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ในภาคเหนือ  แล้วเลยเข้าไปอยู่เมืองมะระแหม่ง ๒ ปี กับที่เมืองเมาะตะมะอีก ๒ ปี  การอยู่ในประเทศพม่าต้องแอบพูดภาษาไทยกันอย่างเบา ๆ เพราะพม่ามีชาตินิยม  จึงไม่พอใจที่จะได้ยินภาษาอื่นนอกจากภาษาพม่า  เมื่อกลับประเทศไทยท่านอาจารย์มั่นฯ เข้ามาทางเชียงรายและเชียงใหม่  ส่วนพระธรรมปาโมกข์ลงเรือที่เมืองเมาะตะมะ มาขึ้นที่นครศรีธรรมราช แล้วเดินทางกลับวัดปทุมวนาราม เช่นเดียวกับพระอาจารย์มั่นฯ ซึ่งมาถึงกรุงเทพฯ ภายหลัง  และคงพักอยู่วัดปทุมวนารามชั่วระยะหนึ่ง  จึงมีการเดินทางไปธุดงค์ด้วยกันอีก  โดยมุ่งไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เลยไปถึงประเทศลาว เลาะมาตามริมฝั่งแม่น้ำโขง  ข้ามฟากเข้าประเทศไทยที่ปากเซ ขึ้นที่วัดธาตุพนม  แล้วเดินทางต่อไปยังจังหวัดสกลนคร  อุดรธานี  แล้วขึ้นรถไฟมาลงที่นครราชสีมา  เดินธุดงค์ต่อไปยังเพชรบูรณ์ พิษณุโลก  อุตรดิตถ์  จนมาถึงปากน้ำโพ  จึงขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ  ซึ่งเป็นการธุดงค์เที่ยวสุดท้าย  ครั้นเมื่อเจ้าอาวาสองค์ที่ ๕  ถึงแก่มรณภาพลง  สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์  ก็ทรงแต่งตั้งให้ท่านรักษาการเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๖ ในกาลต่อมา  ท่านได้รับสมณศักดิ์มาตามลำดับ คือ
   - ๖ พ.ย. ๒๔๗๖  พระครูประทุมธรรมธาดา
   - ๕ ธ.ค. ๒๔๙๑  พระปัญญาพิสารเถร
   - ๕ ธ.ค. ๒๕๐๐  พระปัญญาพิสารเถร (ชั้นราชในนามเดิม)
   - ๕ ธ.ค. ๒๕๐๕  พระเทพมงคลปัญญาจารย์
   - ๕ ธ.ค. ๒๕๒๐  พระธรรมปาโมกข์

พระธรรมปาโมกข์ทำอะไรก็ทำจริง ๆ เช่นการเดินธุดงค์ก็เดินจริง ๆ เป็นระยะทางทั้งหมดมากมายน่าพิศวง  ส่วนการแสดงธรรมเทศนานั้น เมื่อได้กลับจากธุดงค์อยู่วัดปทุมวนารามแล้ว ท่านก็แสดงได้ดีเป็นที่สบอารมณ์แก่ผู้ฟัง  เมื่อสมเด็จพระพันวษาอัยยิกาเจ้า เสด็จมาทรงสดับพระธรรมเทศนาในวันธรรมสวณะ  ที่สำคัญก็ทรงรับสั่งให้ท่านมั่นเทศน์ เจ้านายและคหบดีก็นิมนต์ให้ท่านไปเทศน์อยู่เสมอ จนเกือบจะไม่มีเวลาพักผ่อน  แต่ท่านก็ต้องรับนิมนต์เพราะไม่อยากจะขัดศรัทธา

พระธรรมปาโมกข์มีจริยาวัตรเรียบร้อยนิ่มนวล เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่บรรดาผู้ที่ได้มีโอกาสวิสาสะโดยทั่วไป  ซึ่งรวมทั้งคหบดีและเจ้านายหลายพระองค์  ท่านได้รับนิมนต์ไปในงานพระราชพิธีอยู่เสมอ จึงมีโอกาสได้เฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ อย่างใกล้ชิด  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ก็ได้เสด็จมาที่วัดปทุมวนารามอยู่เนือง ๆ ครั้งสุดท้ายได้เข้าเฝ้าเมื่อ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๐  ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมายกช่อฟ้าในพระอุโบสถที่ซ่อมใหม่ เมื่อเสร็จพิธีแล้วล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ก็เสด็จไปถวายความเคารพแด่พระบรมอัฐิของสมเด็จพระราชบิดา ซึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรม  และเมื่อเสด็จออกจากโรงเรียนก็ทรงพระราชดำเนินผ่านกุฏิของพระธรรมปาโมกข์ ซึ่งคอยเฝ้าอยู่ที่กุฏิ  ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ก็ได้หยุดรับสั่งกับท่านอยู่เป็นเวลานานพอสมควรจึงเสด็จกลับ

พระธรรมปาโมกข์มีสุขภาพดีมาตลอด  มีความแข็งแรง อดทน สามารถเดินธุดงค์อยู่เป็นเวลานานปีโดยปราศจากโรคภัยอันตราย เมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวนารามท่านออกบิณฑบาตเป็นประจำและบางครั้งไปตามถนนสุขุมวิทจนเกือบถึงพระโขนง  ท่านรับนิมนต์เจ้านายและคหบดีที่มีวังและคฤหาสน์ในย่านสุขุมวิทอยู่เป็นนิจ  ทำให้เกิดความใกล้ชิดและเกิดศรัทธาแก่เจ้านายและคหบดีเหล่านั้น  เป็นเหตุให้มีผู้ติดตามมาทำบุญที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวัยชราท่านไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ และท่านได้หกล้มหลายครั้ง ครั้งที่สำคัญครั้งแรกท่านต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นเวลาสองเดือนเศษ ประมาณ ๒ ปีต่อมา  ท่านก็ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึงสองเดือน  ในปลาย พ.ศ. ๒๕๒๒  ท่านเป็นลมล้มในกุฏิ  ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกเป็นแรมเดือน  แล้วย้ายมาอยู่โรงพยาบาลสงฆ์เพื่อความสะดวกบางประการ  ทุกครั้งที่ท่านป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์เป็นประจำหลายประการ  การป่วยของท่านครั้งสุดท้ายท่านมีพระฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถตั้งไว้ที่โต๊ะหัวนอนเตียง  และทุกเวลาเพลท่านจะสวดมนต์ถวายพระราชกุศลแด่ล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ ในระยะหลัง ๆ นี้ ท่านฉันได้น้อยและมีอาการอ่อนเพลีย

ครั้นมาถึงวันอังคารที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๒  เวลา ๘.๔๕ น. ท่านจำวัดแล้วก็ถึงแก่มรณภาพด้วยความสงบ นับอายุได้ ๙๓ ปี ๗ เดือน ๒๐ วัน และพรรษา ๗๓








กิมเล้ง : http://www.sookjai.com

ข้อมูลคัดลอกจาก
- อังกุรปัญญานุสรณ์ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด, ๒๕๔๕

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 เมษายน 2555 20:27:58 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น: พระธรรมปาโมกข์ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.344 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 19 ธันวาคม 2567 06:49:32