ฟ้าผ่านี่มันมีฤทธิ์เดชขนาดไหนกันนะ ถึงผ่าคนตายได้เนื่องจากฟ้าผ่าเป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูงระหว่าง ๑๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ แอมแปร์ และมีความร้อนสูงถึงประมาณ ๓๐,๐๐๐ องศาเซลเซียส การเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้ารวดเร็วมาก ฟ้าผ่าจะเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น เมื่อกระทบกับวัตถุใด ๆ บนพื้นดิน อำนาจการทำลายจะส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างมอดไหม้ในพริบตา พร้อมกับมีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น แม้กระทั่งคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่เกิดฟ้าผ่าก็จะได้รับผลกระทบจากเสียงสั่นสะเทือนของกระแสไฟฟ้าที่วิ่งลงมากระทบกับพื้นดินหรือวัตถุใด ๆ ทำให้คนตกใจจนอาจจะเกิดอาการช็อกหมดสติและหัวใจหยุดเต้นได้
วัตถุที่มีความสูงมาก ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า ตึกระฟ้าและยอดเขา เป็นต้น อาจเป็นเป้าเด่นและเป็นสื่อล่อสายฟ้าได้ง่าย คนที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น เกษตรกรและกรรมกร มีโอกาสถูกฟ้าผ่าได้มากกว่าคนที่ทำงานในเมืองหลวง เพราะคนในเมืองหลวงส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้หลังคาของอาคารบ้านเรือนซึ่งเป็นสื่อไฟฟ้าได้เร็วกว่ามนุษย์ อาคารจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันฟ้าผ่าได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปตึกสูง ๆ มักจะติดตั้งสายล่อฟ้าซึ่งช่วยให้กระแสไฟฟ้าจากก้อนเมฆวิ่งลงสู่พื้นดินได้โดยตรง
คนที่เสียชีวิตเนื่องจากฟ้าผ่าจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเพราะผู้ชายส่วนมากมักทำงานกลางแจ้งและไม่กลัว ไม่หลบฝนเวลาเกิดฝนตกฟ้าคะนอง ในแต่ละปีจะมีพายุฟ้าคะนองอย่างรุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลกประมาณ ๑,๕๐๐-๒,๐๐๐ ครั้ง แต่ละครั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้หลายครั้ง ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากฟ้าผ่าโดยเฉลี่ยห้าคนต่อปี
อำนาจของสายฟ้านั้นเมื่อกระทบพื้นดินหรือวัตถุใด ๆ จะเกิดแรงสั่นสะเทือนและสามารถทำให้วัตถุต่าง ๆ กระเด็นออกไปในอากาศได้หลายเมตร แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวเกิดจากกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านอากาศลงสู่พื้นดินหรือวัตถุต่าง ๆ ด้วยความเร็วสูงดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง และเนื่องจากฟ้าผ่ามีความร้อน อากาศบริเวณโดยรอบจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนเป็นผลทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนมากเพียงพอที่จะทำให้วัตถุเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้
ถ้าเกิดฟ้าผ่าลงบนวัตถุที่มีความชื้นหรือน้ำอยู่ภายในด้วยเช่น ต้นไม้ มนุษย์ ฯลฯ ไม่เพียงแต่ทำให้วัตถุนั้นไหม้เกรียมเท่านั้น แต่ยังทำให้ความชื้นหรือน้ำที่มีอยู่เกิดการเดือดขึ้นมาทันทีและเกิดระเบิดได้ เช่นที่ประเทศอังกฤษ เด็กหญิงผู้หนึ่งต้องเสียชีวิตเนื่องจากเธอเดินผ่านต้นโอ๊กที่กำลังถูกฟ้าผ่าเข้าพอดี เป็นเวลาเดียวกับที่ต้นโอ๊กเกิดระเบิดและชิ้นส่วนของต้นโอ๊กกระเด็นถูกศีรษะของเธอ ทำให้กะโหลกศีรษะร้าวและเสียชีวิตไปในที่สุด จึงเป็นไปได้ว่าผู้เคราะห์ร้ายอาจไม่ได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าโดยตรง แต่บางครั้งได้รับอุบัติเหตุที่เกิดจากฟ้าผ่าโดยทางอ้อม
“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”