มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:12:27 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:12:48 » |
|
ลูกรัก...... ลูกรู้ไหม สำหรับพ่อแล้ว การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการทำงาน มันทำให้เราถอยห่างออกจากแก่นสารของชีวิตการปฏิเสธที่จะใช้พลังที่มีอยู่ในตนไปทำงาน เท่ากับว่าเจ้าได้ลดคุณค่าของตัวเจ้าเอง เมื่อชีวิตขาดคุณค่า ลูกก็มีชีวิตอยู่อย่างหวั่นไหวไม่มั่นคง เมื่อลูก มองไม่เห็นประโยชน์สุขในการทำงานเสียแล้วลูกก็จะไม่พบหนทางใด อีกเลย ที่จะทำให้ชีวิตของตนมีประโยชน์สุขและคุณค่าอันลึกซึ้งใดๆ ได้อีก การงานและการเรียนรู้ชีวิตนี้เท่านั้น ที่มันจะทำให้ลูกประจักษ์ แจ้งในใจ ในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ มันจะเป็นเหตุทำให้เกิดความยอมรับ ความเคารพ ความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกับสรรพสิ่งและสรรพสัตว์ ความชำนาญต่างๆ ที่ลูกเรียนรู้ในขณะทำงาน จักกระตุ้นให้เกิดความเจริญงอกงาม ทำให้เกิดความพอใจและความหมายของชีวิตในทุกๆขณะจิตของลูกเอง และผู้อื่นทีเดียว ชีวิตและจิตใจของลูกจะมีแต่ความแจ่มใส สดชื่นอย่างอิสระดังธรรมชาติทีเดียวหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:13:07 » |
|
การงานเพื่อความแจ่มใส สำหรับพ่อแล้ว ควรจะเตือนเจ้า ให้มีลักษณะเป็นพิธีการสักนิดหน่อย เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการที่จะพัฒนา และปรับปรุงตัวเอง เมื่อพ่อได้พูดถึงอารัมภบทที่ผ่านมาของการเริ่มต้น ในการดำเนินชีวิตของพ่อแล้ว พ่อก็จะพูดถึงหลักการที่เจ้าควรจะใส่ใจมันไว้บ้าง ลูกรัก.... เมื่อจิตใจของลูกกลับคืนสู่ธรรมชาติแท้แห่งความแจ่มใส สดชื่น ลูกจะพบขุมทรัพย์ภายในตัวของลูกเองอย่างมากมาย อันได้แก่ความรัก ความอบอุ่น ความปลื้มปีติ ความนิ่งสงบ ลูกจะรู้สึกสัมผัสได้กับความสวยงามอันซาบซึ้งของชีวิต ลูกจะรับรู้และสัมผัสได้กับประสบการณ์ทุกๆ ขณะ ที่ไหลเรื่อยเข้ามาสู่การรับรู้ จิตของลูกจะเปิดรับสัมผัสกับความสุขในการมีชีวิต การที่ลูกจะประจักษ์ชัดถึงคุณภาพต่างๆ เหล่านี้ในตัวลูกได้นั้น มันต้องเกิดมาจากจิตใจอันแจ่มใสที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง อย่างไรก็ตาม คำถามมันมีอยู่ ว่า ลูกจะสามารถพัฒนาและเข้าถึงความแจ่มใสสดชื่นในจิตใจของ ลูกได้มากน้อยแค่ไหน ลูกจะสัมผัสสัมพันธ์กับธรรมชาติอันดีงามของชีวิตได้อย่างไร และลูกจะมีความละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ในความ รู้สึกนึกคิดได้มากขนาดไหน แม้ว่าบ่อยครั้ง ที่ลูกได้สัมผัสกับความอิ่มเอิบภายในที่ได้จากศานติ โปร่งเบาและแจ่มใส แต่เจ้ามักจะปิดบังตนเองจากมัน กลับไปเลือกทำสิ่งที่เรียกว่า สับสน วุ่นวาย หนักหน่วง เหนี่ยว และอึมครึม ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นสุขอย่างเบาบางหลายครั้งที่ลูกไม่อนุญาตให้ตนเองได้สัมผัสกับความสุขอันแท้จริงเลยเหตุเป็น เพราะเจ้าหลงผิด คิดผิด จึงทำผิด และพยายามทำให้เกิดความสุขแบบผิดๆ จนบางทีบางครั้ง ลูกก็ไม่สามารถจะเบิกบานกับความสำเร็จของลูกได้อย่างเต็มที่ อาจเป็นเพราะว่า ลูกยังมีความเคลือบแคลง สงสัย เป็นห่วงและหวงกังวลอยู่กับความรู้สึกในเชิงลบเช่นนี้ มันยิ่งทำให้ลูก ยิ่ง ห่างไกลออกจากเนื้อแท้ของชีวิต อีกทั้งยังทำให้ลูกต้องหลงทางไปแสวงหาความสุขและความอิ่มเอิบจากภายนอกเจ้าจะถูกชักจูงให้สับสน และสนใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆตัว และลูกก็จะใส่ใจอยู่กับมันอย่างจดจ่อ โดยไม่เชื่อว่าหรือโดยเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้ลูกมีความสุข ซึ่งลูกหารู้ไม่ว่า การที่ลูกใช้พลังงาน มุ่งสนใจแต่ภายนอกกายตน มันจะทำให้ลูกต้องพลาดจากกระแสแห่งความรู้สึก อันละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง กระจ่างชัด ที่มีอยู่ในความคิด ลูกจะไม่สามารถรับรู้อย่างลึกซึ้ง ในกระแสแห่งอารมณ์และการรับรู้ต่างๆ หากปราศจากความรู้แจ้ง อย่างแจ่มชัดภายในถึงกระแสต่างๆ เหล่านี้ลูกจะมีความรับรู้ต่อประสบการณ์ต่างๆ อย่างผิวเผินและตื้นเขินเต็มทีลูกจะใส่ใจกับประสบการณ์ต่างๆ เหล่านั้นอย่างไม่ชัดเจน ไม่ละเอียดลึกซึ้ง และในที่สุดกระแสที่ผ่าน เข้ามาในชีวิตของลูกเหล่านั้น ก็จะเป็นประสบการณ์ที่เป็นคุณภาพที่ต่ำที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:13:38 » |
|
ลูกรัก...... แม้ว่าลูกจะประสบความสำเร็จในการกระทำหลายๆ อย่าง แต่การที่ลูกแยกตนเองออกจากธรรมชาติอันแจ่มใสของจิตใจ มันจะทำให้ลูกเสียรากฐานที่แท้จริงของชีวิตลูกไป ซึ่งมันจะทำให้ลูกรู้สึกหวั่นไหว ไม่มั่นคง และลูกก็จะเริ่มรู้สึกว่า ชีวิตว่างเปล่า ไร้ คุณค่า เมื่อลูกไม่สามารถดื่มด่ำกับความอิ่มเอิบ จากการรู้จักตนเอง ได้อย่างแท้จริงแล้วละก็ ลูกก็มักจะมุ่งหาผู้อื่นหรือสิ่งอื่น เพื่อทำให้ลูกสบายใจหรือเป็นสุข ซึ่งมันก็เกิดมาจากเหตุที่ว่า ลูกไม่รู้ว่าลูกขาดอะไร ลูกจึงไม่สามารถชัดเจนและชัดแจ้งในความต้องการ ที่แท้จริงของลูกได้เพราะเหตุนี้ ลูกจึงรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด อยู่เสมอ ยิ่งลูกหม่นหมองหมกมุ่น ตกหลุมความไม่เป็นสุขเท่าใด ลูกจะรู้สึกไม่สบายใจ เป็นทุกข์ใจ ทุกข์กาย และอารมณ์ขุ่นมัวอย่างไม่มีเหตุผล จนทำให้เกิดความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจและหวั่นไหวมากขึ้น ความสัมพันธ์และความสัมผัสต่างๆ จากประสาทรับรู้ จากตาเห็น หูฟัง จมูกดม กายถูกสัมผัส ใจรับรู้อารมณ์ จะมีกลิ่นอายและรสชาติอันจืดชืด มันก็จะยิ่งเป็นเหตุให้เจ้าไม่รู้จักพอมากขึ้น แล้วลูกจะทำกิจกรรมหรือการงาน ด้วยความไม่เป็นสุข ด้วยความไม่แจ่มใสในจิตใจ ลูกจะถูกกักขังไว้ในอารมณ์ขัดเคือง เคลือบแคลง ระแวงสงสัยและหมกมุ่น ลูกจะขาดสามัญสำนึกอันละเอียดอ่อนในตน และลูกจะถูกดึงดูดให้ตกอยู่ในวงจรของความกังวล หมกมุ่น ไม่เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ลูกก็จะยิ่งดิ้นรน หมุนวนที่จะแสวงหาความสุข ความอิ่มเอิบแต่พ่อเชื่อแน่เหลือเกินว่าลูกจะไม่มีทางได้พบกับมันเลย การแสวงหาเช่นนี้ จะเกิดขึ้นอย่างซ้ำๆ ซากๆ จนกลับกลายเป็นความเคยชิน และแล้วลูกก็จะคิดว่ามันคือแนวทางในการดำเนินชีวิตของลูก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:14:10 » |
|
ลูกรัก...... พ่ออยากจะบอกเจ้าว่า การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ซึ่งมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมันก็อาจกดดันให้ลูกต้องตามมันให้ทัน ซึ่งพ่อก็คิดว่าทุกคนรวมทั้งเจ้าด้วย คงไม่ต้องการเป็นแน่ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ มันจะทำอย่างไรได้ล่ะ เพราะมันเป็นธรรมดาของสรรพสิ่งและสรรพสัตว์รวมทั้งสรรพธาตุ ก็ในเมื่อ การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ไม่มีอะไร ผู้ใดหนีมันได้พ้น สังคมและสิ่งแวดล้อม จึงหล่อหลอมและกดดันให้ลูกได้แสดงออกเพื่อให้ดูเหมือนว่า เจ้าได้ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ ได้ แต่จะมีใครบ้างเล่า ที่จะยอมรับว่าเจ้าได้ปรับใจไปพร้อมๆกับการปรับตัวนั้นด้วย เมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้ คนที่อยู่ในสังคมก็มักจะให้ความสำคัญที่จะทำกิริยาอาการภายนอกเพื่อให้ผู้อื่นเขาดูว่าดี เพื่อให้ผู้อื่นเขาดูว่า ตนนี้ช่างมีเสรีอิสระเสียนักหนา แต่ภายในจิตใจ นั้นเล่า อาจถูกทำร้ายทำลายด้วยความเครียด ความกังวล ความวิตก ความหวาดกลัว ซึ่งเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น และทุกคนก็จะรีบเร่ง ร้อนรน จนไม่มีโอกาสรับรู้ถึงกระแสแห่งอารมณ์ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอย่างซาบซึ้งเลย แล้วก็เป็นเหตุที่ มิได้ทำให้เกิด ทำให้ถึงธรรมชาติอันแจ่มใสของจิตใจตนเองได้ ลูกและทุกคน จึงจะดูยิ่งห่างเหินจากคุณภาพอันดีงามของการมีชีวิต และพลังอันมากมาย ที่ลูกจะพึงได้จากตัวลูกเอง คุณภาพและพลัง นั้นก็จะสับสนและขาดหายไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:16:00 » |
|
ลูกรัก...... ในขณะที่เราเป็นเด็ก เราจะรู้ว่า รู้สึกอย่างไรกับสรรพสิ่ง แต่เพราะความกดดันจากครอบครัวและมิตรสหาย ทำให้เราต้องจำใจรับทัศนคติที่คับแคบ และรับแนวความคิดตามความมุ่งหวังของผู้อื่น และเมื่อความคิด ความรู้สึก อันเป็นธรรมชาติของเราถูกยับยั้ง เราจึงเติบโตขึ้นมาภายนอกอาณาเขต ของความแจ่มใสแห่งจิตตน และเมื่อนั้นเองความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจของเราย่อมถูกขัดขวางและถูกทำลายไป เราจึงไม่ตระหนักถึงความรู้สึกอันแน่แท้ของเรา เมื่อการกักขังนี้แข็งแรง และมั่นคงขึ้น โอกาสของการแสดงความรู้สึกต่างๆ ก็จะลดน้อยถอยลงไป หรือไม่ก็หมด ไปจากตัวเราเลย เราจะพอใจกับการคล้อยตาม และเมื่ออายุมากขึ้น เราก็จะยินยอมให้สภาพเช่นนี้กำหนดชีวิตเรา และในที่สุดเราก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าของตัวเราเอง ลูกจะกลับมาสัมผัสกับตนเองใหม่ได้อย่างไร ลูกจะทำอย่างไร เพื่อให้ลูกมีความรู้สึกอิสระเสรีปลอดโปร่งอย่างแท้จริง คำถามเหล่านี้ลูกได้เคยตั้งขึ้น เพื่อจะถามตัวเองบ้างหรือเปล่า และถ้าลูกได้ถามตัวเองเช่นนี้ พ่อก็คงแน่ใจได้ว่า ลูกเริ่มที่จะมองหาธรรมชาติอันแจ่มใส ภายในจิตใจ ของลูกอย่างชัดเจนขึ้นแล้ว ลูกจะได้พบกับความสว่างที่ทำให้ลูกมีแนวทางดำเนินชีวิตอย่างสมดุล งอกงามต่อไปได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:17:41 » |
|
ลูกรัก...... เมื่อลูกได้สังเกตธรรมชาติแท้ภายในของลูก อย่างไตร่ตรองแล้วละก็ ลูกจะพบว่า ลูกได้กักขังตนเองอย่างไร และความรู้สึกแห่งธรรมชาติภายในได้ถูกจำกัดไว้อย่างไร และตอนนี้เอง ที่ลูกจะ สามารถให้พลังและความรู้สึกเหล่านั้นหลั่งไหลออกมา พลังเหล่านี้จะถูกนำมาใช้อย่างมีประโยชน์สูง ประหยัดสุด เมื่อลูกสงบนิ่ง ซื่อ ตรง และยอมรับตนเอง ความเชื่อมั่นของลูกจะเกิดขึ้น ลูกจะสามารถเรียนรู้วิถีทางใหม่ๆ และแนวทางอันดีงามที่จะรู้จักตนเองมากขึ้น และที่เกิดจากการรู้จักตนเองด้วย เมื่อเครื่องมือแห่งการรับรู้ของลูกแจ่มใสสะอาด ทั้งยังมีการเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา นั่น ก็คือจิตที่สะอาดปราศจากความปรุงแต่ง ซึ่งผู้อื่นอาจจะเรียกมันว่า "สมาธิ" ก็คงจะไม่ผิด ใครจะเรียกอะไรอย่างไรก็ได้ แต่สำหรับพ่อแล้ว มันก็คือตัวการกำหนดพลัง ที่พ่อสามารถจะใช้มันได้ตามความต้องการ การมีสมาธินั้น มิใช่การฝึกวินัยอย่างเข้มงวด กวดขันตายตัว แต่มันหมายถึง การผ่อนคลาย การทำใจให้สงบอย่างธรรมชาติที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:18:09 » |
|
ลูกรัก......เจ้าจงจำไว้ด้วยนะว่า พ่อพูดว่า การมีสมาธินั้น มิใช่การฝึกวินัยอย่างเข้มงวดกวดขันตายตัว แต่มันหมายถึงการผ่อนคลาย การทำใจให้สงบอย่างธรรมชาติที่สุด สมาธิที่ลูกต้องการนั้น มันควรจะรวมกับกายและใจ ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายแบบสบายๆ อันเป็นคุณภาพที่อ่อนโยน ไม่เข้มงวดตายตัวลูกสามารถทำสมาธินี้ได้ แม้ในการทำงาน โดยการทำงานทีละอย่าง อย่างทุ่มเทจดจ่อ ให้ความสนใจทั้งหมดแก่งานอย่างเต็มที่ และละเอียดถี่ถ้วน ใส่ใจอย่างต่อเนื่อง จนงานนั้นเสร็จเรียบร้อย ในขณะเดียวกันก็อย่าทำงานด้วยความกังวล อย่าทำงานด้วย ความเครียด และอย่าผูกใจไว้กับผลของงานเมื่องานเสร็จ เพราะ การผูกใจไว้กับผลของงาน เมื่องานนั้นได้ผล ลูกจะประมาทได้ใจ แต่ถ้าผลของงานนั้นเสีย ลูกก็จะต้องเสียใจ ลูกควรจะทุ่มเท สนใจ ผูกใจเฉพาะ ในขณะที่ทำงานนั้นๆ เท่านั้น แล้วลูกก็จะพบกับความชัดเจน ความเข้าใจลึกซึ้งถี่ถ้วนขึ้น นี่คือการทำงานตามวิถีทางแห่งธรรมชาติ ด้วยความโปร่งใจ แจ่มใส และสงบ ความ รู้เนื้อรู้ตัวของลูกก็จะเกิดขึ้น และมีความละเอียดอ่อนที่จะรู้ทั่วถึงการไหวแห่งความคิด ลูกจะสามารถรับรู้และรู้สึกถึงการไหวแห่งความคิด อารมณ์ การที่ลูกจะกระทำเช่นนี้ได้ เพราะอาศัยความ รู้เนื้อรู้ตัว จึงเป็นการรวมตัวของพลังอำนาจ ลูกจะเกิดความชัดเจน ใสสะอาดในสำนึกของตน ซึ่งมันก็สามารถสัมผัสได้ แม้กระทั่งความ เล็กน้อยที่สุดของประสบการณ์ และความรู้สึกนึกคิดต่างๆ หากปราศจากความรู้เนื้อรู้ตัวแล้ว แม้ว่าลูกจะให้ความใส่ใจ และเพียร พยายามจะสัมผัสซึมซาบกระทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความชัดเจน แจ่มใสเพียงใด ลูกก็จะเหมือนกับเด็กเล็กๆ ที่สร้างปราสาททรายเอาไว้ชายทะเล โดยไม่คำนึงว่า คลื่นลมจะทลายมันลงไปในเวลา อันรวดเร็ว พ่ออยากจะพูดให้เจ้าได้ฟังอีกสักครั้งหนึ่งว่า หากว่าเจ้าปราศจากความรู้เนื้อรู้ตัวแล้ว แม้ว่าลูกจะให้ความใส่ใจ และเพียรพยายามจะสัมผัสซึมซาบต่อการกระทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความชัดเจน แจ่มใสเพียงใด ลูกก็จะเหมือนกับเด็กเล็กๆ ที่สร้างปราสาททรายเอาไว้ชายทะเล โดยไม่คำนึงว่าคลื่นลมจะทลายมันลงไปในเวลาอันรวดเร็ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:19:44 » |
|
ลูกรัก...... เพราะพ่อคิดว่าความรู้เนื้อรู้ตัวนี้มันจะทำให้เกิดความมั่นใจต่อลูก มันจะทำให้ลูกเกิดความมั่นใจต่อสิ่งที่ลูกทำ ลูกจะทำมันด้วยพลังความสามารถของลูกอย่างเต็มที่ และลูกก็สามารถพัฒนาความรู้เนื้อรู้ตัว โดยมีความชัดเจนในการคิดพิจารณา ต่อกิจการงานที่กำลังจะทำ ลูกลองสังเกตวิธีการทำงานของลูกซิว่า ลูกเริ่มต้นอย่างไร และมันได้ดำเนินไปอย่างไร ลูกได้เข้าใจอย่างถ่องแท้หรือไม่ว่า ลูกต้องการอะไรลูกได้วิเคราะห์คำนวณล่วงหน้าถึงผลของงานก่อนที่ลูกจะทำหรือเปล่า และลูกแน่ใจ แล้วหรือว่า การวิเคราะห์คำนวณพิจารณาถึงผลของงานนั้น มันเป็นการวิเคราะห์คำนวณ ที่เต็มสมบูรณ์ไปด้วยการวิเคราะห์ ด้วยทัศนคติที่ละเอียดเรียบร้อย กว้างขวางเพียงพอ ลูกได้ใส่ใจในมันอย่างชัดเจนต่อขั้นตอนในการทำงานของลูกมากน้อยเพียงไร คำถามที่มากมายเหล่านี้ พ่อมิใช่จะถามเจ้าเพื่อให้เจ้าไปตอบชิงรางวัล แต่พ่อถามเจ้า เพื่อเจ้าจะได้มีไว้ถาม และหาคำตอบให้แก่ตนเองเมื่อมีคำถามก็ต้องหาคำตอบ เมื่อค้นหาคำตอบ ผู้ตอบ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้ ในขณะที่ลูกค้นหาคำตอบ เพื่อการพัฒนาความรู้เนื้อรู้ตัวอยู่นี้ ลูกก็จะเห็นถึงการขาดความเอาใจใส่ ว่ามันมีผลต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตของลูกอย่างมากทีเดียว หากลูกทำงานและดำเนินชีวิตด้วยความเอาใจใส่อย่างรู้เนื้อรู้ตัว การดำเนินชีวิตและการเคลื่อนไหวในความคิดของลูก ก็จะงดงามราบรื่น ความรู้สึกนึกคิดของลูก จะมีแต่ความชัดเจนเป็นระบบ ชีวิตและการงานก็จะเพิ่มพูนด้วยประสิทธิภาพ เนื่องจากลูกได้ทำให้เกิดความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ กับขั้นตอนแต่ละขั้นในการทำงาน เมื่อลูกทำได้เช่นนี้ ลูกก็จะรู้สึกถึงผลของงาน ที่ลูกได้กระทำนั้นในทันทีที่ทำ และมันก็จะเป็นแรงจูงใจ ให้ลูกได้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ ต่อการทำงาน อีกทั้งลูกยังจะมีความรู้สึกที่จะปิดกั้นความลืมหลง และผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นแก่ลูกได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ความแจ่มใสความรู้เนื้อรู้ตัว ยังจะทำให้ลูกมีความเข้าใจอันละเอียดถี่ถ้วน ในความรู้สึกนึกคิดและในการกระทำของลูกเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:20:37 » |
|
ลูกรัก...... ความชัดเจนใสสะอาดในการรับรู้ ความโปร่งใจแจ่มใส ความสงบและความรู้เนื้อรู้ตัวนี้ ลูกจะไม่สามารถเรียนรู้จากห้องเรียนได้เลย หรือจากหนังสือ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้คือ สาระ แก่นสาร ของธรรมชาติแท้ในมนุษย์ ซึ่งลูกจะต้องเรียนรู้ได้ จากตัวของลูกเองเท่านั้น ความมั่นใจในการเรียนรู้ และการรู้จักตัวเอง จะช่วยให้ลูกสามารถควบคุมกำหนดทิศทางและเป้าหมายของชีวิต ลูกได้ การกระทำของลูก หลังจากมีการกำหนดทิศทางเป้าหมาย อย่างมั่นใจ มันจะเต็มอิ่มไปด้วยความร่าเริง เบิกบานอย่างอิสระ ชีวิตและงานของลูก จะให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง เบาใจ ซึ่งจะคอยประคับประคอง ทะนุถนอมในทุกสิ่งที่ลูกกระทำ แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ ชีวิตทั้งหมดของลูกก็จะกลับกลายเป็นงานศิลปะ จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกายกับใจ ระหว่างการเรียนรู้ และประสบการณ์ของชีวิตในแต่ละขณะ ลูกจะสามารถเชื่อถือและพึ่งตนเองได้ ลูกจะมีความโปร่ง รู้สึกโล่งเบา ใสสะอาด ชัดเจนอย่างยิ่งยวด สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกมีความคิดได้อย่างฉลาด แจ่มใสชัดเจน เมื่อความรู้สึกอันนี้เกิดขึ้น มันจะทำให้ลูกได้มีเชื่อมั่นตนเองมากขึ้นอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:21:38 » |
|
ลูกรัก...... ความโปร่งใจ แจ่มใส สงบและรู้เนื้อรู้ตัวนี้ มันอยู่ในคนทุกคนมันขึ้นอยู่ที่ว่า คนใดจะสามารถพัฒนาให้ถึงมัน และนำมันออกมาใช้ ได้มากน้อยแค่ไหนต่างหาก และถ้าผู้ใดสามารถพัฒนาและนำมันออกมาใช้ได้แล้ว มันจะทำให้ผู้นั้นเห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง เขาจะเกิดความเข้าใจ ความสงบอย่างสันติ ทั้งยังจะทำให้เกิดความงอกงามในทางร่างกายและจิตใจ ชีวิต การงาน ครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสรรพสิ่งจะยิ่งเพิ่มพูนคุณค่า และความหมายมากขึ้น อีกทั้งยังจะเกิดความรู้สึกอิสระเสรี ในการมีชีวิต ชีวิตที่แท้ จะเกิดความปีติอย่างล้ำลึกยาวนาน ในการเกิดและการมีชีวิต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:22:14 » |
|
คุณค่าแห่งการเรียนรู้ ลูกรัก...... เจ้าจะรู้ไหมว่า ชีวิตของลูกทุกๆ วินาที มันเป็นโอกาสของการเรียนรู้สร้างสมประสบการณ์ได้ทุกขณะ ที่ลูกพบและได้สัมผัส ประสบการณ์เหล่านั้น มันจะนำความอิ่มเอิบและรสชาติให้แก่ชีวิตของลูก ทุกสิ่งในชีวิตของลูก ลูกสามารถจะเป็นผู้กำหนด แม้แต่สิ่งที่เรียกว่า อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคตของชีวิตลูกก็ตาม ขอเพียงลูกพยายามให้ดีเยี่ยม ที่จะเรียนรู้ชีวิตในปัจจุบันให้ชัดเจน มันจะเป็นเหตุให้ลูกกระทำกิจกรรมในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์ และเมื่อวินาทีนี้มันผ่านพ้นไป มันก็เท่ากับว่า ลูกเป็นผู้กำหนดอดีต อันสดใสให้แก่ตัวลูกเอง สำหรับอนาคตที่จะปรากฏในกาลข้างหน้านั้นเล่า มันก็ย่อมแน่นอนเหลือเกินว่า เมื่อลูกเพียรพยายามปูพื้นฐาน ในปัจจุบันของตนให้แจ่มชัด และแจ่มใส สมบูรณ์ อนาคตของลูก ก็ย่อมมีแต่ความงอกงาม รุ่งเรืองและสดใส แต่มันก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวของลูกเองอีกเหมือนกันว่า ลูกจะตระหนักว่า ชีวิตทุกขณะจิตของลูก ได้แสดงออกโดยคุณภาพอันสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจอันบริสุทธิ์ให้แก่งานประจำวันประจำชีวิตของลูก ได้มากแค่ไหน มันจึงจะเป็นโอกาสให้ลูก ได้พัฒนาความสมบูรณ์ให้เกิดขึ้นต่อชีวิตของลูกเอง หากลูกให้พลังงานทั้งหมดของลูก ให้หัวใจและแรงกายทั้งหมดแก่งาน งานก็จะเป็นรากฐานอันมั่นคง ที่ลูกจะสามารถสร้างชีวิตของลูก ให้มีความหมายอันสมบูรณ์ ให้แก่ชีวิตลูกได้และมันจะเป็นช่องทางให้เจ้า นำความคิดออกมาแปรสภาพให้เป็นการกระทำ งานมักจะต้องการให้เราทำอะไรบางอย่างเสมอ ดังนั้น มัน จึงทำให้ลูกเกิดความรู้สึกชอบที่จะทำอะไรให้สำเร็จ ซึ่งหาไม่ได้จากแหล่งอื่น ชีวิตของลูก จะเต็มไปด้วยความหมายและความสุข เมื่อลูกรู้จักทะนุถนอม เอาใจใส่งานและถ้าเจ้าเลือกที่จะทำงานที่ยากๆ และได้เพียรพยายามกระทำมันอย่างดีเยี่ยมแล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จ หรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เจ้าได้ ้เพิ่มพูนประสบการณ์ และความภาคภูมิให้กับตัวเจ้าเอง แต่ถ้างาน ไม่ได้มีสาระแห่งความเบิกบานดังกล่าวมานี้ นั่นมันอาจเป็นเพราะ เจ้าไม่ได้ทุ่มเทใส่ใจ และพลังทั้งหมดให้แก่งานนั้นๆ การให้คุณค่าแก่งาน หมายถึง การให้พลังอันเต็มที่ทั้งหัวใจและความรู้สึกนึกคิดแก่งาน และโดยการให้คุณค่าแก่งานเช่นนี้ ลูกสามารถจะเปลี่ยนแปลงความหงุดหงิด ความเบื่อหน่าย ซึ่งก็มักพบเสมอในขณะที่ทำงาน ทั้งยังจะเป็นแรงจูงใจอันใหญ่หลวง ที่จะทำให้ลูกกล้าเผชิญกับงานอันหนักหนาและสลับซับซ้อน ด้วยจิตใจอันเบิกกว้าง ปลอดโปร่ง ลูกจะเต็มใจที่จะทำงานทุกอย่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:23:36 » |
|
ลูกรัก...... การให้คุณค่าแก่งาน การมีความชอบหรือรักในงานจะปราศจากความหมายเลย หากลูกมองว่า งานเป็นแต่เพียงเครื่องหากินเท่านั้น เพราะมันจะกลับทำให้ลูก เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะต้องมาทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ไม่รู้จักจบสิ้น แต่ถ้าลูกมองว่างานคือวิถีทางแห่งการเรียนรู้ และมันเป็นประสบการณ์อันดื่มด่ำ และน่าภาคภูมิใจของชีวิตอย่างดียิ่ง ลูกก็จะรู้สึกรักมัน ไม่เบื่อหน่าย ในการที่จะทำมัน ลูกจะทำงานได้ทุกอย่าง ทุกเวลาที่มันมีให้ลูกทำลูกจะเห็นคุณค่าของการทำงาน ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นภายในตัวของลูกเอง ทั้งยังจะกลายเป็นตัวอย่าง อันดีงาม ให้คนอื่นได้ทำตามอีกด้วย ลูกสามารถค้นพบความสำเร็จ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการลงมือทำงาน ได้ให้แก่ลูก มิใช่ค้นหาความสำเร็จจากการขอหรืออ้อนวอนเมื่อลูกเริ่มต้นทำงานในตอนเช้าอันสดใส ขอให้ลูกใช้เวลาก่อนจะลงมือทำมันสักเล็กน้อย เพื่อเตรียม การสำรวจใคร่ครวญหาเหตุและผล เพื่อให้ได้วิถีทางใหม่ๆ ที่จะนำมาทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นการช่วยให้ลูก ได้รับรู้ถึงทิศทาง ที่แน่นอนชัดเจน ในการใช้พลังเพื่อการทำงานให้ตรงตามเป้าหมาย โดยมิได้อ้อมค้อมให้เสียเวลา ทั้งยังเป็นการประหยัดพลังงานได้อีกด้วย เมื่อลูกรู้จักทิศทางที่แน่นอนชัดเจนตรงตามเป้าหมายของงานแล้ว ลูกก็ลงมือทำมันด้วยความใส่ใจ ใส่พลัง ที่พร้อมไปด้วยความรู้สึกเบิกบาน ร่าเริงและแจ่มใส ขณะที่ลูกกำลังกำหนดทิศทางของงานที่ทำอยู่นั้น ลูกต้องอย่าลืมว่า ลูกต้องใคร่ครวญดูว่า ลูกต้องการอะไร ถ้าเผอิญจิตใจมันคิดกว้างไกลออกไป ซึ่งผิดจุดประสงค์ และผิดแนวทางแห่งความต้องการในขณะที่ทำงาน ลูกต้องทำแต่เพียง เป็นผู้ดูแลและควบคุมมันให้ได้แล้วค่อยๆ เลื่อนความรู้สึกนึกคิดทั้งหมด ให้เข้ามาหาตัวลูกเองอีกครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:24:44 » |
|
ลูกรัก...... ถ้าเจ้าจะตั้งปัญหาถามพ่อว่า จะทำงานมันมาเกี่ยวอะไรกับการเลื่อนความรู้สึกนึกคิดให้เข้ามาหาตัวเอง พ่อก็จะต้องรีบตอบเจ้าว่า การให้ความสำคัญต่อการใส่ใจแก่ตนเอง มันก็เป็นงานชนิด หนึ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่ง ทุกครั้งที่เจ้าจะทำงานนอกตัว เจ้าควร จะทำงานภายในตัวของเจ้าให้เสร็จเสียก่อน เพราะมันเป็นบ่อเกิดแห่งพลังสมาธิ ที่เจ้าจะนำออกไปใช้กับงานแต่ละชิ้น พลังที่ได้จาก การใส่ใจ เพื่อจะรวบรวมความรู้สึกนึกคิดให้คงอยู่ในตนเองนี้ มันจะคอยทำหน้าที่หนุนนำให้ลูกได้ทำการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสำเร็จก่อนที่ลูกจะหันไปหางานอื่นๆ การที่ลูกทำงานด้วยวิถีทางดังกล่าวมานี้ มันสามารถจะขจัดความคิดที่ว่าเราช่างมีงานมากเกินไป หรือไม่มีเวลาทำมันเลย โดย การวางทิศทางและเป้าหมายของงานอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งมุ่งมั่นตั้งใจทำ ในงานนั้นๆลูกจะสามารถทำงานให้สำเร็จได้มากกว่าที่คิดเสียอีก เมื่อการทำงานทุกอย่างอยู่ในวิถีทางที่เยี่ยมยอดดังกล่าวมานี้ จิตใจของลูกก็จะรู้สึกแจ่มใสสดชื่น ร่างกายก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ถึงแม้ว่าลูกอาจจะไม่บรรลุถึงเป้าหมายทั้งหมดที่ลูกได้ตั้งเอาไว้ก็ตาม แต่มันก็จะทำให้ลูก มีประสบการณ์และพลังงานมากขึ้น มันจะทำให้ลูกสามารถที่จะทำอะไรๆ ได้มากขึ้นในอนาคตอีกด้วย การทำงานอย่างดีเยี่ยม จะเป็นแบบฝึกหัดที่ดีแก่ร่างกายและจิตใจ ความสำนึกถึงการทำงานอย่างอ่อนโยนมันจะทำให้ลูก สามารถกำหนดทิศทางพลังงานของตนเองให้มุ่งตรงไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ชีวิตในแต่ละวันของลูก จะดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นสุข แทนที่จะรู้สึกเครียดและอ่อนล้า ลูกจะรู้สึกเป็นสุข สดชื่นเมื่อได้ทำการงาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:25:40 » |
|
ลูกรัก...... งานคือตราชูที่คอยวัดกำลังใจ ความเสียสละ ความอดทน ความเข้มแข็ง งานคือวิถีทางที่แสดงถึงคุณค่าของการมีชีวิต งาน คือแก้วสารพัดนึกที่วิเศษสุด ที่จะทำให้ลูกได้อะไรหลายๆ อย่างจากมัน เมื่อลูกทำความเข้าใจต่องานทั้งยากและง่ายได้ดังนี้ ลูก ก็จงลงมือกระทำมันอย่างจริงจังและจริงใจ ผู้คนทั้งหลายเขาจะได้ ไม่มองลูกในเชิงลบอีกต่อไป การให้ความสำคัญต่องานดังกล่าวมาแล้วนั้น ลูกจะสามารถทำงานทั้งยากและง่ายได้อย่างมีความโปร่งใจ ปราศจากอุปสรรคใดๆ แม้แต่ลูกจะเหน็ดเหนื่อยสักปานใด ลูกก็จะสามารถค้นพบแหล่งแห่งการเกิดพลังในการทำงาน แหล่งพลังนั้นก็คือ ความ จดจ่อ จับจ้อง จริงจัง ต่อการรวบรวมความรู้สึกนึกคิดให้เข้ามาสู่ตัวลูกเอง เพราะความรู้สึกนึกคิดนั้นคือพลังงาน ลูกจึงมีความ จำเป็นต้องรวบรวม เพื่อไม่ให้พลังงานหรือความรู้สึกนึกคิดนั้นๆ แตกกระสานซ่านเซ็นออกไป ครั้นเมื่อลูกสามารถรวบรวมพลังงานได้แล้ว ลูกก็ใช้พลังงานนั้นไปในการทำงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เราทุกคนมีพลังงานอันมากมายนี้ เพียงแต่ลูกต้องรู้จักวิธีใช้ หรือรู้จักวิธีนำพลังที่มี เอามาใช้อย่างเหมาะสมเท่านั้นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:26:35 » |
|
ลูกรัก...... เมื่อลูกได้เข้าถึงความสำเร็จของงานแล้ว ลูกจะรู้สึกได้ว่า ลูกยังมีเวลาเหลืออยู่อีกมาก เพราะการทำงานด้วยจิตใจที่จดจ่อ จริงจัง และใช้พลังอย่างต่อเนื่อง มันจะช่วยให้งานนั้นๆ สำเร็จได้โดยเร็วพลัน มันจะทำให้ลูกเป็นผู้ที่สามารถควบคุมการใช้เวลาและพลังงานอย่างประหยัด พร้อมทั้งมีประโยชน์ งานจะมีคุณค่า ทำให้ลูกเกิดความเบิกบานและมีพลัง ลูกจะเริ่มรู้สึกถึงคุณค่าและความหมายของงานเพิ่มขึ้นโดยมิต้องลำบากต่อการที่จะฝึกปรือเพื่อให้รู้จักความหมายอีกต่อไป การให้คุณค่าและความหมายแก่งานนี้ จะมีรางวัลในตัวของมันเอง แล้วก็จะมีรางวัลให้แก่ตัวลูกเองด้วย การให้คุณค่าแก่งานเป็นเคล็ดลับ ทำให้เกิดความงอกงามแจ่มใสชื่นบานในงานที่ลูกทำ เจ้าจงจำไว้เถิดว่า เมื่อเจ้าให้คุณค่าแก่สิ่งใดก็ตาม ความรู้สึก ตื่นตัวอย่างละเมียดละไม จะประคับประคองส่งเสริมเจ้าเอง งานที่ลูกทำ จะกลายเป็นแหล่งแห่งความรู้อย่างลึกซึ้ง และเจ้าจะมีความรู้สึกลึกๆ ที่จะขอบคุณต่อผู้ให้งานนั้นๆ อย่างอ่อนโยน พ่อจึงกล้าที่จะบอกเจ้าว่า งานคือความเบิกบานของชีวิต มันเป็นแหล่งกำเนิดพลัง เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างล้นเหลือ ที่ลูกจะต้องทะนุถนอมและจะยอมสูญเสียมันไปมิได้แม้แต่วินาทีเดียว ลูกควรจะรักษาคุณสมบัติของความเบิกบานในชีวิตอันนี้ไว้ จนถึงที่สุดของการมีชีวิตทีเดียวแหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:27:19 » |
|
ความสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิด ลูกรัก...... พลังงานที่เกิดจากการรวบรวมความรู้สึกนึกคิด ให้ผนึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับกายและใจ นับว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในการมีชีวิต เพราะว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ติดตัวเรามาตลอดตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายทั้งยังเป็นเครื่องบอกถึงคุณประโยชน์ที่ลูกจะนำมาสร้างสรรค์ชีวิตและกิจกรรมการงาน หน้าที่สรรพสิ่ง ให้มีความสมบูรณ์ เพิ่มพูนคุณภาพ สาระให้แก่ชีวิตและสังคมโลกและจักรวาล ลูกจึงต้องยอมรับว่า ร่างกาย จิตใจ และความรู้สึก นึกคิดเป็นสิ่งแสดงออกของพลังงานอันมีคุณค่านี้ เมื่อใดที่ลูกเปิดใจให้กว้างต่อการเรียนรู้ ต่อการมอง และรับเหตุผลของสรรพสิ่งความคิด จิตใจ ร่างกาย พลังงาน จะผสมผสาน กลมกลืน สอดคล้องต่อการสัมผัสและรวมกันทำกิจกรรมการงานหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ สิ่งที่ลูกจะได้รับ นอกจากผลสำเร็จของหน้าที่ การงานแล้ว ยังแถมพกไปด้วยประสบการณ์อันมีคุณค่าพร้อมทั้งความดื่มด่ำจากสาระของชีวิตอย่างเต็มอิ่มอีกด้วย ขณะที่ลูกอยู่ในวัยเยาว์ กระแสแห่งพลังของลูกจะเข้มข้นมากมาย อาจเป็นเพราะจิตใจของลูกยังคงความบริสุทธิ์แจ่มใส ลูกจึงสามารถกระทำกิจกรรมใดๆให้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย หรืออาจ เป็นเพราะลูกมีพลังให้ใช้อย่างมากมาย รวมทั้งได้มันมาอย่างง่ายดายเกินไป ลูกจึงใช้มันอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย สุรุ่ยสุร่าย ดูเหมือนเป็น สิ่งไร้ค่า ลูกใช้มันแค่จุดมุ่งหมายส่วนตัวและกับสิ่งที่พอใจเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งดูช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลย แทนที่ลูกจะใช้มันในทุกๆ สิ่ง ทุกๆ ส่วน กับกิจกรรมของชีวิตประจำวัน และบางทีลูกอาจคิดว่า การปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงงานหนัก ชีวิตอาจจะมีความสุขขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ เพราะลูกเพียงต้องการจะเก็บเวลาและพลังงานไว้ใช้กับสิ่งที่ลูกอยากทำเท่านั้น ลูกอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า ความสำเร็จที่แท้จริง นั้น จะต้องเกิดขึ้นจากความเพียรพยายาม อดทน อดกลั้น จริงจัง และตั้งใจเท่านั้น การปฏิเสธหลีกเลี่ยงงานทุกชนิด นั่นแสดงว่า เจ้าไม่รู้จักใช้พลัง เจ้าคงไม่รู้หรอกว่า พลังที่มีอยู่ในตัวเจ้านั้น ถ้าเจ้ายิ่งใช้ให้มันทำกิจกรรมการงานต่างๆมากเท่าไร ประสบการณ์และการเรียนรู้ก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น นั่นแหละคือวิธีการเพิ่มพูนพลังของเจ้าเองแล้วหละ แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธการงานน้อยใหญ่ทั้งง่ายและยากพลังที่มีอยู่ในตัวเจ้าก็จะถูกละเลย ปล่อยให้มันสูญเสียไป โดยมิได้สาระอันใดเลย ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะเจ้าไม่รู้จักใช้พลังอย่างชาญฉลาด เจ้าจึงปล่อยให้พลังสูญเสียไป มันเป็นการลดโอกาสแห่งความเจริญงอกงามของตัวลูกเอง ชีวิตก็จะกลับกลายเป็นความหลับใหลหลง โดยไม่รู้จักตื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:27:58 » |
|
ลูกรัก...... ถ้าเจ้าจะรู้สักนิดว่า พลังงานและชีวิตที่สูญเสียไปกับเวลานั้น เจ้าจะไม่มีโอกาสเรียกร้องมันกลับคืนมาได้เลย พ่อเชื่อว่า ที่เจ้ายอมสูญเสียมันไปนั้น อาจเป็นเพราะเจ้าคงมีความเชื่อว่า ชีวิตและกาลเวลาทั้งหมดในโลกเป็นของเจ้า ลูกจึงมักทำอะไรๆ อย่างเชื่องช้า เชือนแช คอยแต่จะผัดวันประกันพรุ่งออกไปเรื่อยๆ ไม่พยายามที่จะทำมันสักที ขืนปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วละก็ พ่อก็อยากจะเตือนเจ้าว่า ชีวิตที่ผ่านมา และที่กำลังจะผ่านไปของเจ้า คงจะไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังหลับใหลและละเมอ เพ้อพก ไม่มีสาระแก่นสารอะไรกับการมีลมหายใจของลูกเป็นแน่ การที่ลูกยอมให้พลังงานและกาลเวลาสูญเสียไป โดยมิได้ทำอะไร ผลที่ได้รับก็คือ ความรู้สึกว่างเปล่าต่อการมีชีวิต เจ้าจะรู้สึกว่าขาดหายอะไรไปบางอย่าง มันจะทำให้ลูกมองเห็นสิ่งที่ลูกจะต้องทำมีความสำคัญแค่เล็กน้อยเท่านั้นเองต่อพลังงานและเวลาที่สูญเสียไป เหตุอาจจะเกิดจากความไม่ใส่ใจต่องานในทุกแง่มุมและทุกงาน แล้วก็ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นมันผ่านเลยไป โดยมิได้มีการเรียนรู้ ฝึกฝนหรือลงมือกระทำเลย หรือเจ้าอาจกระทำ แต่เป็นการกระทำด้วยความซังกะตายไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่ มันย่อมแน่นอนเหลือเกินว่า สิ่งเหล่านี้คงไม่เกิดประโยชน์สักปานใดเป็นแน่ แล้วถ้าขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ครั้นเมื่อถึงยามที่เจ้าแก่เฒ่าลง ลูกจะต้องรู้สึกเสียใจต่อพลังและเวลาที่สูญเสียไปโดยไร้สาระ เฮ้อ...เจ้าจะรู้สึกท้อแท้และท้อถอย เมื่อมีใครเขาใจอารีมาชักชวนให้ลูกได้กลับเข้ามาขวนขวายหาประโยชน์ ลูกก็จะบอกกับเขาไปว่า มันสายเกินกว่าที่จะทำอะไรมันได้แล้ว ซึ่งพ่อก็จะต้องค่อยๆ ตะโกนออกมาว่า โอ้หนอ...ดูช่างน่าสมเพชเสียจริงๆ น่าเสียดายอากาศ ทรัพยากรและโอกาสที่ลูกใช้มันไปเสียจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:28:44 » |
|
ลูกรัก...... พ่ออยากจะเตือนเจ้าให้ได้รู้สึกตัวเอาไว้ว่ากาลเวลา มันคือเครื่องพาและผลาญชีวิต พร้อมทั้งสรรพสิ่ง ฉะนั้น เจ้าจะทิ้งให้มันผ่านไปเสียเฉยๆกระนั้นหรือ ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ประโยชน์ของชีวิตสูญเสียไปเช่นนี้ ลูกก็ต้องลงมือกระทำต่อทุกๆกิจกรรมการงานอย่างจดจ่อ จริงจังและใส่ใจ พร้อมด้วยความสังเกต วิเคราะห์พิจารณา เพื่อให้รู้ถึงจุดดีจุดด้อย จุดได้จุดเสียของงานและ ผลของงาน ชีวิต และวิธีการทำงาน ลูกจะได้เรียนรู้ที่จะวางแนวทาง จุดมุ่งหมายให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องมันจะได้เป็นเครื่องมือ ทำให้ เจ้าปิดกั้นความสูญเสียและได้เข้าถึงความสำเร็จของการงานและชีวิตแต่ถ้าลูกทำมันโดยไม่ได้สังเกต วิเคราะห์ พิจารณาลูกจะใช้เวลาและพลังไปอย่างไม่บันยะบันยัง ซึ่งดูๆแล้วก็ไม่ค่อยจะเหมาะกับงาน นั้นๆ สักเท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น งานใดที่เล็กๆ น้อยๆ ลูกกลับใช้เวลา พลังให้ หมดไปกับมันอย่างมากมายแต่กับงานที่ละเอียดอ่อนประณีต ลูกกลับไม่ให้ความสำคัญกับมันเลย ถ้าจะพูดกันให้ถูกต้องจริงๆ แล้วละก็ การขาดความสังเกตวิเคราะห์พิจารณานั้น มันจะทำให้เจ้าไม่สามารถจะรู้เสียด้วยซ้ำไปว่างานอย่างไหนเล็กน้อย อย่างไหนละเอียดอ่อนประณีตมันจึงทำให้เจ้าพลาดหวังต่อประโยชน์และผลของงานที่เจ้าทำ แล้วทีนี้...ทีนี้อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ อ้าว...ก็ความผิดหวังไงล่ะ ความผิดหวัง ความวิตกกังวล ความเครียด ที่มันจะเกิดขึ้นไง แล้วเจ้าก็จะต้องจำใจยอมรับผลตอบแทนแห่งความไม่เอาไหนของเจ้านั้น เมื่อความอึดอัดเหล่านี้เกิดขึ้น สิ่งที่จะตามมาก็คือ ความละเลย ล้มเหลว ล้มเลิกต่อการกระทำต่างๆ แทนที่เจ้าจะกลับเข้ามาสังเกต วิเคราะห์พิจารณาหาทางแก้ไข เจ้ากลับหันความสนใจไปในเรื่องอื่นๆสิ่งอื่นๆ และก็ทิ้งงานที่ผ่านมาให้เป็นปัญหาของผู้อื่นทำต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553 20:29:15 » |
|
ลูกรัก...... ทีนี้ละ...ทีนี้ลูกก็จะเป็นคนเลวเหลวไหลในสายตาของคนอื่น ความรู้สึกขัดแย้งภายในตนและคนอื่นก็จะเกิดขึ้น ความรู้สึกเป็นสุข มิตรสหายและสังคมของลูกก็จะค่อยๆ ลดน้อย ถดถอย และสูญหายไปในที่สุด เฮ้อ...พ่อดูว่าชีวิตของเจ้าช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียจริงๆ น่ะ พ่อจะบอกอะไรให้สักอย่าง เอาไหมล่ะ ถ้าลูกปรารถนาจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพียงแต่ลูกเริ่มกลับเข้ามาฝึกหัดตัวเอง โดยการริเริ่มทำงานทุกอย่างด้วยความใส่ใจอย่างจริงจัง เจ้าอาจจะเริ่มจากงานที่ง่ายๆ ก่อนก็ได้ พร้อมทั้งให้ความสนใจและใส่ใจดูว่า ลูกใช้พลังงานนั้นอย่างไรบ้าง เจ้ามีการสัมผัสถึงกลิ่นอาย ขั้นตอน และ ปัญหาของงานได้อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจนแค่ไหน ลูกสามารถใช้พลังทำงานได้อย่างเต็มที่หรือไม่ ความรู้สึกจดจ่อ จับจ้อง จริงจัง ได้ เกิดขึ้นอย่างตั้งมั่นไหม อีกทั้งลูกได้ถูกฉุดกระชากหรือถูกชักจูงให้ หลงลืม ไหลลื่น ไปตามกระแสแห่งความเพลิดเพลิน เกียจคร้าน และอื่นๆ ซึ่งนอกเหนือจากงานนั้นๆ บ้างหรือเปล่า และถ้ามี ลูกก็ต้องหยุดความรู้สึกเพลิดเพลิน เกียจคร้านเหล่านั้นให้ได้ โดยการสร้างแรงจูงใจ คือใส่ใจต่อความรู้สึกลึกๆ ของตนจนกลายเป็นความรู้เนื้อรู้ตัว เมื่อความรู้เนื้อรู้ตัวเกิดขึ้นแก่ตัวเจ้า เจ้าก็จะรู้ได้ด้วยตนเองว่า เจ้าต้องการอะไร และควรจะทำอะไร ลูกก็จะยอมรับต่องาน ซึ่งแม้จะดูซ้ำๆ ซากๆ จำเจเป็นประจำที่จะต้องทำประจำวัน ลูกจะทำมันด้วยความโปร่งเบาและเป็นสุข ความรู้เนื้อ รู้ตัวยังจะทำให้ลูก ค้นพบว่าความแตกต่างของงานที่มันเกิดขึ้นมา ได้นั้น เป็นเพราะความคิดที่จะให้ความสำคัญมากหรือน้อยต่องาน ของลูกเองต่างกันต่างหาก การสังเกตวิเคราะห์พิจารณาได้อย่างนี้ มันจะทำให้ลูกสามารถ ใช้พลังกาลเวลาอย่างชาญฉลาดและต่อเนื่อง ความอดทนบากบั่นจะเกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ ลูกจะรู้สึกมั่นคงต่อเจตนารมณ์ของตัวลูกเอง ซึ่งไม่ใช่เกิดมาจากการบังคับ กดขี่ แต่เป็นด้วยความสมัครใจอย่างจริงจัง มันเป็นความสมัครใจที่จะกระทำอย่างร่าเริง แจ่มใส ประสบการณ์แต่ละขณะของชีวิตที่ผ่านมาและผ่านไป จะมีแต่การเรียนรู้เต็มอิ่มอย่างบริบูรณ์ ความใส่ใจ ความละเอียดถี่ถ้วน ชัดเจนของลูกจะขยายเบิกกว้างออกไปสู่สังคมโลกและจักรวาล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม นะตะเอง
|
|
|
|
กำลังโหลด...