[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 17:37:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุญ ให้กันได้ ไม่มีลด มีแต่จะยิ่งเพิ่มขึ้น  (อ่าน 3511 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 19.0.1084.46 Chrome 19.0.1084.46


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2555 11:13:48 »

บุญ ให้กันได้ ไม่มีลด มีแต่จะยิ่งเพิ่มขึ้น

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นนิดนึง ตัวน้าแม๊คเองเคยเจอทฤษฎีแปลก ๆ ของสมาชิกท่านหนึ่งทีชื่อ phonsak ซึ่งเคยเป็นสมาชิกที่เว็บสุขใจ

ก่อนจะโดนแบนเพราะนอกจากมีทฤษฎีเพี้ยน ๆ แล้วยังปรามาสพระพุทธเจ้าจึงโดนแบนไปตามระเบียบ ซึ่งพลศักดิ์ได้กล่าวไว้ดังนี้


อ้างถึง

ผมไม่แนะนำให้ใช้บทแผ่เมตตาใดๆของคุณทั้งนั้น  เพราะอะไรรู้ไหมครับ
บทเหล่านั้นเป็นบทของพระภิกษุทั่วๆไป ประชาชนนำไปใช้  ผมรับประกันเลยครับ  เจอผีหลอกแน่นอน
ผีที่ได้รับกุศลจากการแผ่เมตตาของคุณ พวกมันไม่หลอกคุณแน่ ไอ้ผีที่หลอกเป็นพวกที่ไม่ได้รับกุศลจากคุณ
สัพเพ สัตตา = ทั้งหมด หรือทุกดวง
แล้วคุณมีผลบุญขนาดไหนกัน  จึงเรียกทุกสรรพชีวิตทั้งหมดมารับส่วนแบ่งกัน  เหมือนคุณมีข้าวจานเดียว
เสือกไปตะโกนว่า "พวกเราทั้งหมดมากินอาหารกัน" ...มันบ้าไหม


แล้วก็อีกประมาณนี้.....

อ้างถึง

พอสมาธิเราแข็งแกร่งขึ้น  วิญญาณที่เขาเดือดร้อนเขาจะมาให้เรารู้เองตอนอยู่ในสมาธิ  บางทีมากันเป็นแสนดวง
ก็พายุนากิสที่ฆ่าประชาชนพม่านั่นไง  วิญญาณเหล่านั้นมาหาผม (รู้ในจิต)  ผมเห็นแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นแสนดวง
ผมเลยบอกพวกเขาว่า ช่วยไม่ไหวในวันเดียว  ใครรับกุศลจากการแผ่เมตตาของผมแล้วก็ไปเลย  ไม่ต้องมาขอบคุณ
และไม่ต้องมาหาอีก  มาเฉพาะที่ยังไม่ได้รับกุศล  พวกเขาก็ทำตามนั้น

กว่าวิญญาณพวกพม่าจะรับผลบุญครบ  ผมต้องแผ่เมตตา 6 วัน  วันสุดท้ายผมขอให้เขาส่งตัวแทนมาคนหนึ่ง
ให้ผมเห็นทางจิตเลย  และให้มาสัมผัสตัวผมได้  ผมจะได้รู้ว่า  ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง  เพราะตอนที่พวกเขามา
ผมเห็นแต่หัวในความมืด เยอะมากเหลือเกิน

วิญญาณพวกพม่าก็ส่งตัวแทนมาคนหนึ่งจริงๆ เป็นผู้ชายนุ่งสโร่งแบบพม่า อ้วนนิดๆพองาม  มาจับมือขอบคุณผมใหญ่
ผมเห็นจะจะ  วิญญาณของเขามาจับมือ สัมผัสตัวผม(กายทิพย์,วิญญาณ)ด้วย จึงรูว่าไม่ใช่ความฝัน

ครั้งนั้นผมประเมินว่า กระแสเมตตาของผม วิญญาณที่ได้รับประมาณ 20,000 ดวง ต่อครั้ง แล้วก็ต้องชาร์ตพลังใหม่


ฟังแล้วเป็นไงครับ ดูแปลก ๆ แหม่ง ๆ ไหม ?

เหมือนกับบุญ หรือที่เรียกว่าเมตตาของเค้า เป็นสิ่งของอะไรสักอย่าง ที่พอให้แล้วมันจะหมดไป

...

นอกจากพลศักดิ์แล้ว ผมยังมีเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่พอทำบุญ พอสวดมนต์แล้วจะไม่ยอมแผ่เมตตา อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล

ซึ่งพอถามเหตุผลมาก็ได้เหตุผลมาดังนี้ครับ

"กลัวว่าไอ้ที่ทำมาทั้งหมด แผ่ให้เค้าไปแล้วเราจะไม่เหลืออะไร"

 ช๊อค ช๊อคครับ ได้ฟังคำตอบแบบนี้ เป็นคำตอบเหนือความคาดหมายจริง ๆ

ถ้างั้น เราลองมาปรับเปลี่ยนมุมมองและทำความเข้าใจกันใหม่ดูครับ

หลายคนอาจจะเคยเห็นคนทำบุญแล้วมีคนมาอนุโมทนา หรือบางครั้งบ้างที่มีแม้แต่การแบ่งบุญ บางคนอาจสงสัย

บุญไม่ใช่สิ่งของ ใครทำใครได้ แล้วจะมาเที่ยวให้คนอื่น ๆ ได้อย่างไร การที่มีคนเอาบุญมาให้เรา เราจะได้บุญจริงหรือ

วันนี้เลยมีเรื่องราวของท่านพระอนุรุทธเถระมาฝาก ครั้งหนึ่งในอดีตท่านเคยเกิดเป็นบุรุษเข็ญใจ ชื่อนายอันนภาระ

เรื่องราวมีดังนี้......






Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 19.0.1084.46 Chrome 19.0.1084.46


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2555 11:18:47 »

เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่อุบัติขึ้น พระอนุรุทธเถระถือปฏิสนธิในเรือนของตระกูลเข็ญใจ เป็นคนหาบหญ้า

อาศัยสุมนเศรษฐีอยู่ เขาได้มีชื่อว่า อันนภาระ ฝ่ายสุมนเศรษฐีนั้น ให้มหาทานที่ประตูบ้าน แก่คนกำพร้า

คนเดินทาง วณิพกและยาจก ทุกวันๆ

ภายหลัง ณ วันหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่าอุปริฏฐะ เข้านิโรธสมาบัติที่ภูเขาคันธมาทน์ ออกจากสมาบัตินั้นแล้ว

พิจารณาว่า วันนี้ควรจะทำการอนุเคราะห์ใคร ก็ธรรมดาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมเป็นผู้อนุเคราะห์คนเข็ญใจ

ท่านคิดว่าวันนี้เราควรทำการอนุเคราะห์ นายอันนภาระ ทราบว่านายอันนภาระจักออกจากดงมายังบ้านตน

จึงถือบาตรและจีวรจากภูเขาคันธมาทน์ เหาะขึ้นสู่เวหาสมาปรากฏเฉพาะหน้านายอันนภาระที่ประตูบ้านนั่นเอง

นายอันนภาระ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ถือบาตรเปล่าจึงอภิวาทพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วถามว่า

"ท่านได้ภิกษาบ้างไหมขอรับ" พระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวว่า จักได้ผู้มีบุญมาก เขากล่าวว่า โปรดรออยู่ที่นี้ก่อนเถิดขอรับ

แล้วรีบไปถามแม่บ้านในเรือนของตนว่า นางผู้เจริญภัตอันเป็นส่วนเก็บไว้เพื่อเรา มีหรือไม่ นางตอบว่า มี จ้ะนาย

เขาไปจากที่นั้นรับบาตรจากมือพระปัจเจกพุทธเจ้ามากล่าวว่า นางผู้เจริญ เพราะค่าที่ไม่ได้ทำกัลยาณกรรมไว้ในชาติก่อน

เราทั้ง ๒ จึงหวังได้อยู่แต่การรับจ้าง เมื่อความปรารถนาจะให้ของพวกเรามีอยู่ แต่ไทยธรรมไม่มี เมื่อไทยธรรมมี

ก็ไม่ได้ปฏิคาหก วันนี้เราพบพระอุปริฏฐปัจเจกพุทธเจ้าเข้าพอดี และภัตอันเป็นส่วนแบ่งก็มีอยู่

เจ้าจงใส่ภัตที่เป็นส่วนของฉันลงในบาตรนี้ หญิงผู้ฉลาดคิดว่า เมื่อใดสามีของเราให้ภัตซึ่งเป็นส่วนแบ่ง

เมื่อนั้นแม้เราก็พึงมีส่วนในทานนี้ จึงวางแม้ภัตอันเป็นส่วนของตนลงในบาตรถวายแก่พระอุปริฏฐปัจเจกพุทธเจ้า

นายอันนภาระ นำบาตรอันบรรจุภัตมาวางในมือของพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วกล่าวว่า ขอให้พวกข้าพเจ้า

พ้นจากความอยู่อย่างลำบากเห็นปานนี้เถิดขอรับ พระปัจเจกพุทธเจ้า อนุโมทนาว่า จงสำเร็จอย่างนั้นเถิดผู้มีบุญมาก

เขาลาดผ้าห่มของตนลง ณ ที่ส่วนหนึ่งแล้วกล่าวว่า ขอจงนั่งฉันที่นี้เถิดขอรับ พระปัจเจกพุทธเจ้านั่ง ณ อาสนะนั้นแล้ว

พิจารณาความเป็นของปฏิกูล ๙ อย่าง แล้วจึงฉัน

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 19.0.1084.46 Chrome 19.0.1084.46


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2555 11:24:57 »

เมื่อฉันเสร็จแล้ว นายอันนภาระจึงถวายน้ำสำหรับล้างบาตร พระปัจเจกพุทธเจ้า เสร็จภัตกิจแล้วกระทำอนุโมทนาว่า

สิ่งที่ท่านต้องการแล้ว ปรารถนาแล้ว จงสำเร็จพลันเทียว ความดำริจงเต็มหมดเหมือนพระจันทร์เพ็ญ ๑๕ ค่ำ ฉะนั้น

สิ่งที่ท่านต้องการแล้วปรารถนาแล้ว จงสำเร็จพลันเทียว ความดำริจงเต็มหมด เหมือนมณีมีประกายโชติช่วง ฉะนั้น

แล้วออกเดินทางไป


เทวดาที่สิงอยู่ที่ฉัตรของสุมนเศรษฐีกล่าวว่า น่าอัศจรรย์ทานที่ตั้งไว้ดีแล้วในพระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า อุปริฏฐะ

เป็นทานอย่างยิ่งถึง ๓ ครั้ง แล้วได้ให้สาธุการ สุมนเศรษฐีกล่าวว่า ท่านไม่เห็นเราให้ทานอยู่ตลอดเวลา

มีประมาณเท่านี้ดอกหรือ  เทวดากล่าวว่า เราไม่ให้สาธุการในทานของท่าน เราเลื่อมใสในบิณฑบาตที่นายอันนภาระถวาย

แด่พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่าอุปริฏฐะ จึงให้สาธุการ สุมนเศรษฐีดำริว่า เรื่องนี้น่าอัศจรรย์หนอ เราให้ทานตลอดเวลา

มีประมาณเท่านี้ ก็ไม่อาจทำให้เทวดาให้สาธุการ นายอันนภาระนี้อาศัยเราอยู่  ด้วยการถวายบิณฑบาตครั้งเดียวเท่านั้น

ทำให้เทวดาให้สาธุการได้ เพราะได้บุคคลผู้เป็นปฏิคาหกที่สมควรเราให้สิ่งที่สมควรแก่นายอันนภาระนั้น

แล้วทำบิณฑบาตนั้นให้เป็นของของเราจึงจะควร ดังนี้ เรียกนายอันนภาระมาแล้วถามว่าวันนี้เจ้าให้ทานอะไร ๆ

แก่ใครหรือ ขอรับนายท่าน ข้าพเจ้าถวายภัตรที่เป็นส่วนของข้าพเจ้าแก่พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่าอุปริฏฐะ

เศรษฐีกล่าวว่า เอาเถอะเจ้า เธอจงรับกหาปณะไปแล้วให้บิณฑบาตนั้นแก่เราเถอะ ให้ไม่ได้หรอกนายท่าน

เศรษฐีเพิ่มทรัพย์ขึ้นจนถึงพันกหาปณะ นายอันนภาระก็ยังกล่าวว่า แม้ถึงพันกหาปณะก็ยังให้ไม่ได้

เศรษฐีกล่าวว่า  ช่างเถอะเจ้า  หากเจ้าไม่ให้บิณฑบาต ก็จงรับทรัพย์พันกหาปณะไปแล้วจึงให้ส่วนบุญแก่ฉันเถอะ

นายอันภาระกล่าวว่า ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าแม้ส่วนบุญนั้น ควรให้หรือไม่ควรให้แต่ข้าพเจ้าจะถามพระปัจเจกพุทธเจ้า

นามว่าอุปริฏฐะดู  ถ้าควรให้ก็จักให้ ถ้าไม่ควรให้ก็จักไม่ให้


นายอันนภาระเดินไปทันพระปัจเจกพุทธเจ้า ถามว่า ท่านเจ้าข้า สุมนเศรษฐีให้ทรัพย์แก่ข้าพเจ้าพันหนึ่ง

ขอส่วนบุญในบิณฑบาตที่ถวายแก่ท่าน ข้าพเจ้าควรจะให้หรือไม่ให้

พระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวว่า บัณฑิต เราจักทำอุปมาแก่ท่าน เหมือนอย่างว่า ในบ้านตำบลนี้มีร้อยตระกูล

เราจุดประทีปไว้ในเรือนหลังหนึ่งเท่านั้น ตระกูลพวกนี้เอาน้ำมันเติมให้ใส้ตะเกียงชุ่มแล้วมาต่อไฟถือไป

แสงของประทีปดวงเดิมยังมีอยู่หรือหาไม่


นายอันนภาระกล่าวว่า ท่านเจ้าข้า แสงประทีปก็สว่างขึ้นไปอีกเจ้าข้า

ข้อนี้อุปมาฉันใด ดูก่อนบัณฑิต ข้าวยาคูกระบวยหนึ่ง หรือข้าวสวยทัพพีหนึ่งจงยกไว้

เมื่อท่านให้ส่วนบุญแก่คนเหล่าอื่นในบิณฑบาตของตน พันคนหรือแสนคนก็ตาม ให้แก่คนเท่าใด

บุญก็เพิ่มขึ้นแก่ตนมีประมาณเท่านั้น เมื่อท่านให้ก็ให้บิณฑบาตอันเดียวนั่นแหละ

ต่อเมื่อให้ส่วนบุญแก่สุมนเศรษฐีอีกเล่า บิณฑบาตก็ขยายไปเป็น ๒ คือของท่านส่วนหนึ่ง ของเศรษฐีส่วนหนึ่ง



ดังนี้นายอันนภาระกราบพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วกลับไปยังสำนักของสุมนเศรษฐีกล่าวว่า ขอท่านจงรับส่วนบุญ

ในบิณฑบาตทานเถิด นายท่าน เศรษฐีกล่าวว่า เชิญท่านรับทรัพย์พันกหาปณะไปเถิด นายอันนภาระกล่าวว่า

ข้าพเจ้าไม่ได้ขายบิณฑบาตทาน แต่ข้าพเจ้าให้ส่วนบุญแก่ท่านด้วยศรัทธา เศรษฐีกล่าวว่า พ่ออันนภาระ

พ่อให้ส่วนบุญแก่เราด้วยศรัทธา แต่เราบูชาคุณของพ่อ ฉันให้พันกหาปณะนี้ จงรับไปเถอะพ่ออันนภาระ

นายอันนภาระกล่าวว่า จงเป็นอย่างนั้น จึงถือเอาทรัพย์พันกหาปณะไป เศรษฐีกล่าวว่า พ่ออันนภาระ

ตั้งแต่พ้อได้ทรัพย์พันกหาปณะแล้ว ไม่ต้องทำกิจเกี่ยวแก่กรรมกรด้วยมือของตน จงปลูกเรือนอยู่ใกล้ถนนเถิด

ถ้าพ่อต้องการสิ่งใด ฉันจะมอบสิ่งนั้นให้ พ่อจงมานำเอาไปเถอะ

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 19.0.1084.46 Chrome 19.0.1084.46


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2555 11:28:26 »

ธรรมดาบิณฑบาตที่บุคคลถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติ ย่อมให้ผลในวันนั้นนั่นเอง

เพราะฉะนั้นสุมนเศรษฐีในวันอื่นแม้ไปสู่ราชตระกูล  ไม่เคยชวนนายอันนภาระไปด้วย แต่ในวันนั้นได้ชวนไปด้วย

เพราะอาศัยบุญของนายอันนภาระ พระราชาไม่มองดูเศรษฐีเลย ทรงมองแต่นายอันนภาระเท่านั้น

เศรษฐีจึงทูลถามว่า เทวข้าแต่สมมติเทพ เหตุไฉนพระองค์จึงทรงมองดูแต่บุรุษผู้นี้ยิ่งนักพระเจ้าค่ะ

พระราชาตรัสว่า เรามองดูเพราะไม่เคยเฝ้าในวันอื่น ๆ เศรษฐีทูลว่า เทวเขาสมควรมองดูอย่างไร

คุณที่ควรมองดูของเขาคืออะไร เพราะวันนี้เขาไม่บริโภคภัตรที่เป็นส่วนของตนด้วยตนเอง

แต่ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่าอุปริฏฐะ เขาได้ทรัพย์พันกหาปณะจากมือของข้าพระองค์พระเจ้าข้า

พระราชาตรัสถามว่า เขาชื่อไร ชื่อนายอันนภาระพระเจ้าข้า เพราะได้จากมือของท่าน ก็ควรจะได้จากมือของเราบ้าง

เราเองก็จักทำการบูชาเขา จึงพระราชทานทรัพย์พันกหาปณะแล้วตรัสว่า พนาย จงสำรวจดูเรือนที่คนนี้จะอยู่ได้

ราชบุรุษทูลว่า พระเจ้าข้า  ราชบุรุษทั้งหลายจัดแจงแผ้วถางที่สำหรับเรือนนั้นได้พบขุมทรัพย์ชื่อปิงคละ

ในที่ ๆ จอบกระทบแล้วๆ ตั้งเรียงกัน  จึงมากราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ


พระราชาตรัสว่า ถ้าอย่างนั้นจงไปขุดขึ้นมา เมื่อราชบุรุษเหล่านั้นขุดอยู่ ขุมทรัพย์ก็จมลงไป ราชบุรุษเหล่านั้น

ไปกราบทูลพระราชาอีก พระราชาตรัสว่า จงไปขุดตามคำของนายอันนภาระ ราชบุรุษก็ไปขุดตามคำสั่ง

ขุมทรัพย์เหมือนดอกเห็ดตูมๆ ผุดขึ้นในที่ๆ จอบกระทบแล้ว ราชบุรุษเหล่านั้นขนทรัพย์มากองไว้ในพระราชสำนัก

พระราชาประชุมอำมาตย์ทั้งหลายแล้วตรัสถามว่า ในเมืองนี้ ใครมีทรัพย์มีประมาณถึงเท่านี้ไหม

อำมาตย์ทูลว่า ไม่มีของใครพระเจ้าข้า ตรัสว่า ถ้าอย่างนั้น นายอันนภาระนี้จงชื่อว่าธนเศรษฐีในพระนครนี้

เขาได้ฉัตรประจำตำแหน่งเศรษฐีในวันนั้นนั่นเอง


ตั้งแต่วันนั้น   เขากระทำแต่กรรมอันดีงามจนตลอดชีวิต จุติจากภพนั้นไปเกิดในเทวโลก เวียนว่ายอยู่ในเทวดา

และมนุษย์เป็นเวลานาน ครั้งที่พระศาสดาของพวกเราทรงอุบัติ ก็มาถือปฏิสนธิในนิเวศน์เจ้าศากยะพระนามว่า

อมิโตทนะ กรุงกบิลพัสดุ์ ในวันขนานนาม ผู้คนทั้งหลายตั้งชื่อเขาว่า เจ้าอนุรุทธ


ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวในอดีตของพระอนุรุทธเถระ ซึ่งพระอุปริฏฐปัจเจกพุทธเจ้าได้ยืนยันว่าบุญสามารถแบ่งให้กันได้

ดั่งการตามประทีปโคมไฟ ดังนั้นต่อไปนี้หากมีใครมีไปทำบุญมา แล้วเอาบุญมาฝาก อย่ามัวแต่สงสัยหัวเราะ

รีบอนุโมธนาสาธุการ จะยังผลให้เรามีส่วนในบุญนั้นด้วย




ขอบคุณที่มาบางส่วนจาก: dhammaweekly.wordpress.com
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: บุญ ให้บุญ อนุโมทนา โมทนา สาธุ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.528 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 22 พฤศจิกายน 2567 20:36:41