[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 พฤศจิกายน 2567 14:50:32 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "พาแม่กลับบ้านนะลูก........."  (อ่าน 5397 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.5.10 Firefox 3.5.10


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553 07:31:29 »



"พาแม่กลับบ้านนะลูก........."

โดย..สร้อยดอกหมาก

ตรงหน้าตึกร้างหัวมุมถนน ยายคนนั้น​ยังคงนั่งอยู่​​ที่เดิม

ยายในชุดผ้านุ่งไหมเก่า ๆ​ สีน้ำตาลอมเขียว​กับเสื้อคอกลมแขนสั้นสีขาวมอ ๆ​
ผมสีเงินแซมสีเทาสั้นเกือบติดหนังหัว ​และดอกเข็มสีแดงดอกจิ๋วในรู​ที่ติ่งหู​ทั้งสองข้าง
ทำให้เดา​ได้ไม่ยากว่ายายมาจากไหน ข้าง ๆ​ ตัวยาย​คือตะกร้าไม้ไผ่สานใบเล็ก ๆ​
มีผ้าสีแดงคล้ำโผล่ให้เห็นพอมองออกว่า​เป็นผ้าเช็ดน้ำหมาก

เฉลาเห็นภาพนี้จนเจนตาชินใจ ราว​กับมัน​คือสิ่งเดียว​กับทุกอย่าง​ที่นั่น
สี่แยก​ที่รถติด​เป็นแพ​ทั้งเช้า​สายบ่ายค่ำ ตึกร้างไร้ผู้คน
​และยาย​ที่สอดส่ายสายตาตามผู้คน​และรถรา​ที่ขวักไขว่

ยายไม่ใช่ขอทาน​ที่มานั่งรอเศษเงินจากผู้ใจบุญ ​ที่ ๆ​ ยายนั่งแทบ​จะไม่มีคนเดินผ่านเสียด้วยซ้ำ

"เฉลา นี่น้าหลวงนะ ฉลวยหาไม่แล้ว​"
นั่น​คือเสียงดังมาจากโทรศัพท์มือถือถูก ๆ​ ​ที่เธอซื้อมาให้ตัวเอง​และพี่สาว​เมื่อรับเงินเดือนเดือนแรก

"หา...​น้าหลวงว่ายังไงนะ"
เอ๊ะ ฝันหรือว่าตื่นอยู่​หรือนี่ เธอยกมือขึ้น​ลูบหน้าขับไล่​ความง่วงงุน พยายามรวบรวมสติให้อยู่​​กับปัจจุบัน

"พี่ฉลวยของเอ็งตายเสียแล้ว​ลูก ​เมื่อกี้นี่เอง"
เสียงของน้าชายต่ำพร่า ย้ำว่าเธอไม่​ได้ฝัน ​แต่ทำไมล่ะ
ทำไมพี่สาวคนเดียวของเธอถึงตาย ก็พี่​เขายังสาว ยังแข็งแรง

"งูกัดลูกเอ๋ย พา​ไปหาหมอไม่ทัน ดำหมด​ทั้งตัวเลย​"
เสียงน้าชายบอกต่อ​ไปเหมือนรู้ว่าเธอ​จะถาม

"พรุ่งนี้มาเลย​นะลูก พี่ฉ่ำให้สวดสามวันแล้ว​เผา"
น้ายังคงพร่ำสั่งนู่นนี่​ที่เธอ​ต้องทำ แม่ว่าอย่างนั้น​หรือ อ้อ...​

"หนูขอพูด​กับแม่หน่อย​นะน้าหลวง"
เธอรวบรวมสติขึ้น​มา​ได้​เมื่อน้าชายเอ่ยถึงแม่
แม่​จะ​เป็นอย่างไรบ้าง​​เมื่อพี่ฉลวยมาจาก​ไปกะทันหันอย่างนี้

"โหล ๆ​" เสียงแม่ดังมาตามสาย "เหลาหรือลูก หลวยไม่มีแล้ว​ลูกเอ๋ย"
เสียงนั้น​สงบราบเรียบเหมือนพูดเรื่อง​ปกติธรรมดา​ที่เกิดขึ้น​ทุกวัน
เฉลาฟังแล้ว​ใจชื้น แม่​เป็นอย่างนี้เอง ไม่มีอะไร​​ที่แม่หวาดหวั่น รวม​ทั้ง​ความตายของลูกในไส้ด้วยหรือ

"ทำไมล่ะแม่ ทำไมพี่​เขาถึงตาย​ได้ล่ะ"
เฉลาไม่​ได้เข้มแข็งอย่างแม่ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอถูกเลี้ยงมาอย่างตัวเล็กของบ้าน
​เป็นลูกคนเล็กของแม่ ​เป็นน้องสาวคนเล็กของพี่ คำยืนยันของแม่ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น
มือ​ที่ถือโทรศัพท์เย็นชื้นด้วยเหงื่อ น้ำตาทะลักทะลายออกมาเหมือนทำนบพัง

"​เขา​ไปรายเบ็ด​เมื่อหัวค่ำ แล้ว​ไม่กลับมาสักที แม่ก็เลย​ออก​ไปตาม พบนอนอยู่​บนคันนาไม่หายใจแล้ว​"
ฤดูฝนน้ำเจิ่งนองทั่วท้องทุ่ง พี่ฉลวยคงออก​ไปธงเบ็ดหาปลาเหมือน​กับ​ที่เคยทำมาชั่วตาปี

"แม่​จะอุ้มกลับมาก็อุ้มไม่ไหว จึง​ไปตามเณรเฉิมมาช่วย เพิ่งหามมาถึงเรือนเดี๋ยวนี้เอง
ให้พวกนี้​เขาช่วยกันหาไม้กระดานมาทำโลงอยู่​ หนูมาพรุ่งนี้ก็​ได้นะ ลางานอะไร​เสียให้เรียบร้อย​
แม่ไม่​เอาไว้นานหรอก สวดสามคืนก็พอ หนู​จะ​ได้รีบกลับมาทำงาน ไม่​ต้องลาหลายวัน เท่านี้ก่อนนะลูก
เดี๋ยวแม่​ต้อง​ไปเตรียมผ้าอาบน้ำให้พี่​เขา"

แม่วางสาย​ไปแล้ว​ ​แต่เฉลายังใจสั่นริก ๆ​ ทำอะไร​ไม่ถูก พี่สาวคนเดียวของน้องตายเสียแล้ว​อย่างนั้น​หรือ

"​ไปเถอะ ไม่​ต้องห่วง พี่ยังอยู่​​ทั้งคน"
นั่น​คือคำมั่นสัญญาของพี่ ​เมื่อวัน​ที่เธอ​ได้บรรจุ​เป็นครูในกรุงเทพฯ ​
ซึ่งนับ​เป็นเรื่อง​​ที่หาไม่​ได้เลย​ในหมู่บ้านของเธอ

​ที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรก​ที่เฉลา​ไปกรุงเทพ ​เมื่อเธอเรียนจบมัธยมหกจากโรงเรียนประจำอำเภอ
คะแนนของเฉลา​สามารถเข้าสถาบันราชภัฏ​ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง​ของประเทศใน กรุงเทพ​ได้
เธอเกือบ​จะ​ต้องสละสิทธิ์​เพราะไม่​สามารถ​ไปเรียน​ได้

พี่ฉลวยคนนี้เอง​ที่ใจใหญ่คิด​จะจำนอง​ที่นา​เอาเงินมาส่งเสียเธอ
ดี​ที่อาจารย์ใหญ่สาวโสดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ให้ยืมค่าหน่วยกิต ​
และค่าหอพักจนกว่าเธอ​จะเรียนจบ มีเพียงค่ากิน ​และค่า​ใช้จ่าย​ส่วนตัวเพียงเล็กน้อย​ที่​ต้องออกเอง
​แต่ก็​คือราย​ได้เกือบ​ทั้งหมดจากการทำงานหนักของแม่​และพี่สาวคนเดียว

เฉลาเรียนจบภายในเวลาเพียงสามปีครึ่งด้วย​ความสำนึกใน​ความยากลำบากของทุก ๆ​ คน
เธอไม่ลงชื่อเข้าพิธีรับปริญญา ​เพราะนั่นเท่า​กับหยาดเหงื่ออีกมากมาย​ของแม่​และพี่
เธอ​ไปขอรับปริญญาจากฝ่ายธุรการของสถาบันฯ นำมันมาวางลงบนฝ่ามืออันหยาบกร้านของ​ทั้งสอง​ที่บ้าน
แม่อมยิ้ม ​แต่พี่ฉลวยฉีกยิ้มเสียจนแก้มดำ ๆ​ บานแฉ่ง ​ความภูมิอกภูมิใจ​ที่พี่ฉลวยแสดงออกนั้น
​ลึกล้ำฉ่ำเย็นอยู่​ในใจเฉลาอย่าง แนบแน่น

เงินเดือนข้าราชการครูปริญญาตรี​เมื่อ​ต้องอยู่​ในกรุงเทพนับว่ากระเบียด กระเสียรอย่างมาก
เฉลาวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ รายการค่า​ใช้จ่ายของเธอมีไม่มากอย่าง
ค่าหอพักถูก ๆ​ ย่านชานเมือง ค่ารถเมล์ต่อเดียวถึง​ที่ทำงาน ค่าข้าวเช้า​ไม่มี ​
ซึ่งเธอก็ทำมาแล้ว​ตั้งแต่ยัง​เป็นนักศึกษา ค่าข้าวเ​ที่ยงไม่​ต้อง​เพราะทางโรงเรียนเลี้ยง
ค่ามื้อเย็นเท่านั้น​​ที่เธอตั้งงบไว้สำหรับแกง​และข้าวอย่างละถุงหิ้วมากิน ​ที่ห้อง
บางครั้งก็เปลี่ยน​เป็นกล้วยน้ำว้า​ที่ซื้อมา​เป็นหวี ปลิดกินวันละสองลูกแทนข้าว

ค่า​ใช้จ่าย​ส่วนใหญ่ของเธอ​คือเงิน​ที่​จะ​ใช้คืนอาจารย์ใหญ่ ​และส่งให้แม่​กับพี่
​ที่เหลือจึงเก็บไว้สำหรับตัวเองเพียงเล็กน้อย ไม่มากกว่า​ที่เคย​ใช้​เมื่อ​เป็นนักศึกษา
ด้วยหวังว่าแม่​และพี่​จะ​ได้สบายขึ้น​บ้าง ทดแทนสิ่ง​ที่​ทั้งสองทำให้​กับเธอตลอดมา

"โอ๊ย พี่ไม่​เอาตังค์ของหนู พี่​กับแม่อยู่​บ้านไม่อดหร็อก ข้าวเราก็มีกิน ปูปลาก็หา​ได้ถม​ไป
เคยเกลือก็นิด ๆ​ หน่อย​ ๆ​ หาปลา​ไปขาย​เอาตังค์มาซื้อก็เกินพอ"
พี่บอกอย่างนั้น​ น้ำเสียงเชื่อมั่นในสิ่ง​ที่ตัวเองพูดอย่างแน่นหนัก

"หนูนั่นแหละ​​เอาไว้​ใช้เอง ซึ้อเสื้อผ้าใส่มั่งสิ พี่เห็นเดี๋ยวนี้​เขาใส่เสื้อยืดกางเกงขายาวกันสวย ๆ​ ของหนูไม่เห็นมี"
ดวงตาสุกใสบนใบหน้าอวบกลมนั้น​ฉายประกายแห่ง​ความสุข ​ความสุข​ที่น้อง​ได้ดี

พี่ฉลวย​เป็นคนร่างท้วม อวบกลม เดินเหินว่องไวคล่องแคล่ว ญาติพี่น้องเรียกเธอว่า "เณรหลวย"
ด้วยเธอทำงานอย่างผู้ชาย​ได้ทุกอย่าง น้ำใสใจคอเล่าก็กว้างขวางซื่อตรง ​เป็นหลักให้น้องพึ่ง ​
เป็นคู่ชีวิตให้แม่อบอุ่นนับจากสิ้นพ่อ

วันเวลา​ที่สวยงามลงตัวเพิ่งเกิดขึ้น​ไม่ทันถึงปี

"แม่​ไปอยู่​​กับหนูเถอะ พี่ฉลวยไม่อยู่​แล้ว​ แม่อยู่​คนเดียว หนู​เป็นห่วง"
เฉลาอ้อนวอนแม่ครั้งแล้ว​ครั้งเล่า

​เมื่องานศพเสร็จลง ญาติพี่น้อง​ที่มาช่วยงานต่างพากันกลับบ้าน เหลือกันอยู่​แค่สองคนแม่ลูก
บ้านเหมือนไม่ใช่บ้าน​เมื่อไม่มีพี่ฉลวยคอยทำนู่นทำนี่อยู่​ใกล้ ๆ​

เฉลาหยิบจับอะไร​แทบไม่ถูก​เมื่อไม่มีพี่คอยแนะนำ
​แม้​แต่แม่เองถึง​จะทำทุกอย่าง​ได้อย่างเคย ​แต่ก็นิ่งขึงพูดไม่ออก​เป็นพัก ๆ​

"ก็ดีเหมือนกันนะพี่ฉ่ำ ลอง​ไปอยู่​​กับเฉลามันสักพัก ก็เหลือกันอยู่​แค่นี้ อยู่​ด้วยกันดีกว่า
ลูกมันก็ทำมาหากิน​ได้แล้ว​ มันเลี้ยงพี่​ได้อยู่​หรอก"
น้าเฉิมมองเห็น​ความเปล่าเปลี่ยวของเราสองแม่ลูก

"อยู่​ทางนี้ ฉัน​จะคอยดูแลให้ นาของพี่ฉัน​จะทำให้แล้ว​ขายข้าวส่งค่าเช่าให้​เป็นเงิน
พี่ไม่​ต้อง​เป็นห่วง บ้านนี่ก็ปิดไว้ ไม่มีอะไร​ อยู่​ใกล้กันแค่นี้ ว่าง ๆ​ ก็​จะมานอนให้"
น้าชายช่วยแม่คิดแก้ปัญหาต่าง ๆ​



แม่ยังพูดอะไร​ไม่ออก ดูเหมือนสมองแม่หยุดคิด​ไปหลังจากไม่มีพี่ฉลวย เฉลาไม่เคยเห็นแม่​เป็นอย่างนี้
​เมื่อครั้งพ่อตายเธอก็ยังเด็กเกิน​ไป​ที่​จะซึมซับอารมณ์เศร้าหมองของผู้​เป็นแม่ ​แต่​เมื่อพี่มาจาก​ไป
เฉลาเห็นซึ้งถึง​ความเงียบเหงาวังเวงใจของแม่ เธอ​จะทิ้งแม่ในสภาพนี้​ไป​ได้อย่างไร

"แม่​ไปอยู่​​กับหนูเถอะ หนูลาต่อไม่​ได้แล้ว​ เด็ก​กำลัง​จะสอบ หนู​ต้อง​ไปสอน"
เฉลาพะว้าพะวัง เธอไม่กล้าเสียประวัติการทำงาน ชีวิตเธอกว่า​จะมาถึงตรงนี้​ได้นั้น​
ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก​ทั้งของตนเอง​และคนรอบข้าง ​ถ้า​ต้องมาเสีย​ไปเธอ​จะมีปัญญา​ที่ไหนหามา​ได้อีก

"​ไปก็​ไป"
แม่พูดแค่นั้น​ แล้ว​เดินเข้าใต้ถุน​ไปเงียบ ๆ​ เฉลาสงสารแม่จับใจ ​แต่เธอไม่มีเวลาคิด​เป็นอย่างอื่น

"แม่ หนูซื้อข้าว​กับแกงไว้ให้แม่ อยู่​ในถุงนี้นะ น้ำกินก็ในขวดนี้
แม่หิวตอนไหนก็กินตอนนั้น​ ไม่​ต้องคอยหนูนะ ตอนเย็นหนูกลับมา​จะซื้อมาอีก"

เฉลา​ต้องย้ายห้องพักจากห้องเตียงเล็กอยู่​คนเดียว​ไป​เป็นห้องเตียงใหญ่
สำหรับสองคน เพิ่มค่าเช่าอีกเกือบเท่าตัว ​แต่มันก็​เป็นเพียงห้องเล็ก ๆ​ แคบ ๆ​
มีหน้าต่างบานเล็กเปิดออก​ไป​เป็น​ที่ตากผ้า ดี​ที่มีห้องน้ำห้องส้วมอยู่​ในห้อง
แม่​จะ​ได้ไม่​ต้องลำบากออก​ไปข้างนอก

เรื่อง​อาหารการกินนั้น​ มื้อเช้า​ ปกติ​เมื่ออยู่​​ที่บ้านแม่​จะกินตอนสาย ๆ​ อยู่​แล้ว​ ​
เพราะ​ต้องออก​ไปนา​แต่เช้า​มืด เธอจึงซื้อเพียง​กับข้าวมื้อเดียวให้แม่กินใกล้เ​ที่ยง
ตอนเย็นเธอ​จะซื้อมาอีกครั้งสำหรับสองคน

เธอสอนให้แม่เปิดปิดประตูห้อง​ที่​ใช้ลูกบิด สอนให้แม่​ใช้ส้วมชักโครก สอนให้แม่อาบน้ำฝักบัว ​
และคิดว่าเย็นนี้​จะซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้าใบเล็ก ๆ​ ​กับข้าวสารมาให้แม่​ได้หุงข้าวกินเองตอนมื้อเ​ที่ยง

เงินเก็บเล็ก ๆ​ น้อย ๆ​ ​ที่เพียรสะสมมาตั้งแต่เริ่มทำงาน
รวม​กับเงินทำบุญงานศพ​ที่เหลือคง​จะหมด​ ไปในคราวนี้
เฉลาไม่คิดเสียดาย ถึงเวลา​ที่เฉลา​จะ​ได้ดูแลแม่บ้างแล้ว​ เธอตั้งใจ​จะทำอย่างเต็ม​ที่

แม่เงียบกริบ ไม่ตอบคำ สีหน้าเรียบเฉยของแม่ทำให้เธอห่วงหน้าพะวงหลัง
ออกจากห้องไม่​ใคร่​ได้ ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ​ แทบไม่มี​ที่ว่างเช่นนี้ แม่​ต้องไม่คุ้นเคย ​
แต่งานในหน้า​ที่ก็ฉุดกระชากเธอ​ไปจาก​ความห่วงใย
หวังเพียงว่าแม่​จะอยู่​​ได้​ถ้าทำทุกอย่างตาม​ที่เธอสอนไว้

เย็นนั้น​ เฉลา​ต้องอยู่​เคลียร์งาน​ที่ฝาก​เพื่อนครูไว้ตอนลา
เธอมองแสงสีส้มของกลางวัน​ที่ค่อยจางหายปล่อยให้แสงสีเทาของกลางคืนโรยตัวลง
มาปกคลุมแทนอย่างไม่สบายใจ แม่​จะ​เป็นอย่างไรบ้าง​ ​จะกลัวไหม​ถ้ามืดแล้ว​ไม่เห็นเธอกลับ

กว่าเธอ​จะ​ได้ออกจาก​ที่ทำงาน นั่งรถเมล์จนกว่า​จะถึงหอพักเวลาก็ล่วงเลย​​เป็นค่ำมืด
ถึงอย่างไรเธอก็ยัง​ต้องแวะซื้อข้าวมื้อเย็นให้ตัวเอง​กับแม่ ไหนยัง​จะหาซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
ซื้อข้าวสาร อาจ​จะ​ต้องซื้อน้ำปลาไว้ให้แม่สักขวด เผื่อแกง​จะจืด​ไป
หรือ​จะซื้อพริกขี้หนูด้วย สมองเธอคิดหาทางให้แม่อยู่​​ได้อย่างมี​ความสุข

"แม่ แม่ หนูกลับมาแล้ว​"

เธอเคาะประตู ​พร้อม​กับส่งเสียงเรียก โล่งใจ​ที่​ได้กลับถึง​ที่พักเสียที
ข้าวของสองมือพะรุงพะรังหนักอึ้งนิ้ว​จะขาด

ภายในห้องเงียบกริบ ​แม้​แต่แสงไฟก็ไม่ลอดออกมา เฉลาใจหายวาบ

"แม่ แม่ เปิดประตูสิแม่"

​ความกลัวเกาะกินใจเธออย่างรุนแรง
รีบวางข้าวของในมือลง​กับพื้น สองมือระดมทุบประตูอย่างขวัญเสีย

"มีอะไร​หรือน้อง"
​เพื่อนร่วมหอโผล่หน้าออกมาดู

"แม่หนูค่ะ​พี่ แม่หนูอยู่​ในห้อง ​แต่หนูเรียกแล้ว​แม่ไม่เปิดประตู ไฟก็ไม่เปิด"

เธอพร่ำบอกเสียงขาด​เป็นห้วง ๆ​ น้ำตาพรั่งพรูทำอะไร​ไม่ถูก
เธอผู้นั้น​จึงมาลองขยับลูกบิดประตู มันติดล็อคข้างในอย่าง​ที่เฉลาทำให้แม่​เมื่อเช้า​นี้

"น้องมีกุญแจห้องหรือเปล่าล่ะ"

"มีค่ะ​มี"
เธอลนลานล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจห้องส่งให้​เพื่อนไขประตู



ประตูเปิดผลัวะ​พร้อม​กับร่างของเฉลา​ที่ผวาตามบานประตูเข้า​ไป
แม่นั่งชันเข่าอยู่​​กับพื้นใน​ความมืดนิ่งเฉย สติของเฉลาก็ขาดผึง

"แม่ ทำไมแม่ทำอย่างนี้ล่ะ ทำไมไม่เปิดประตู"

เธอตะโกนอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่​ น้ำเสียงเช่นนั้น​
เฉลาไม่เคยพูด​กับแม่ หรือ​กับ​ใครเลย​ก็ว่า​ได้ ​แต่คราวนี้ วันนี้
มันหลุดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ​ที่เหน็ดเหนื่อย หวาดกลัว​ที่สู้ทนเก็บข่มมาหลายวัน

"ใจเย็น ๆ​ น้อง ใจเย็น"
​เพื่อนส่งเสียงเตือนเบา ๆ​ แล้ว​เดินมาเปิดไฟให้

​เมื่อนั้น​เอง​ที่เฉลา​ได้เห็นสีหน้าของแม่ สีหน้านั้น​ของแม่
เฉลาก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน มันช่างไร้ชีวิต เหนื่อยล้า สิ้นหวัง เศร้าสร้อย ทุกข์ตรม
เหมือนไม่ใช่แม่คนเข้มแข็งของเธอ

"แม่อย่าทำอย่างนี้ แม่อย่าทำ หนูกลัว"
เฉลาผวาเข้ากอดแม่ เขย่าร่างนั้น​สะอื้นไห้จนตัวโยน แม่ค่อย ๆ​ อ้าแขนออกโอบเธอ
ตบหลังให้เบา ๆ​ เหมือน​เมื่อเธอ​เป็นเด็ก ​แต่ดูเหมือนแม่​จะ​เป็นใบ้​ไปเสียแล้ว​
ไม่มีคำพูดใด ๆ​ หลุดจากปากแม่มาให้เฉลา​ได้ยิน

แม่คงกลัว ดูเหมือนแม่​จะนั่งอยู่​​ที่เดียว​กับ​ที่เฉลาเห็น​เมื่อเช้า​ไม่​ได้ขยับ​ไปไหน

โถแม่...​"พี่​ไปนะ"
เสียง​เพื่อนเอ่ยขึ้น​เบา ๆ​ ทำให้เฉลา​ได้สติ เธอหัน​ไปขอบคุณ​เพื่อน

"ไม่​เป็นไรหรอกน้อง มีอะไร​ให้ช่วยก็บอกนะ แม่พี่ก็เคยมานอนค้าง​กับพี่เหมือนกัน"
เธอบอกอย่างคนเข้าใจสถานการณ์

แม่ยังคงเงียบเฉยหม่นหมองจนเฉลาทำงานแทบไม่​ได้ กลางวันแม่กินข้าวเท่า​ที่เฉลาจัดไว้ให้
แม่ไม่แตะ​ต้องสิ่งอื่น ไม่ว่าน้ำปลาหรือพริกขี้หนู​ที่แม่เคยเกร็ดกิน​กับข้าวอย่างเอร็ดอร่อย​
เมื่อครั้งอยู่​​ที่บ้าน ​แม้​แต่หมาก​ที่แม่​ต้องเคี้ยวอยู่​ตลอดเวลา เฉลาก็เห็นมันอมค้างอยู่​ในปากแม่

เฉลาพยายามเร่งทำทุกอย่างใน​ที่ทำงานให้เสร็จทันเวลาเลิกงานทุกวัน ​
เพื่อ​จะ​ได้รีบกลับมาอยู่​​กับแม่ ซื้อหมากพลู ซื้อ​กับข้าวมาให้แม่

ตอนเช้า​ก่อนออกจากห้องก็​จะซักผ้า ถูพื้นไว้เรียบร้อย​ ไม่ให้แม่​ต้องทำอะไร​
​แต่แม่ก็ไม่ดีขึ้น​ บางคืนเฉลายัง​ได้ยินเสียงแม่ละเมอเรียกชื่อพี่



แล้ว​วันหนึ่ง​ เฉลาก็เห็นแม่ออกมานั่งหน้าประตูห้องคอยเธอกลับจากทำงาน

บนทางเดินยาวเหยียดหน้าห้องพัก​ที่ติดกัน​เป็นแถวของแสงยามเย็น
หญิงวัยกลางคนร่างผอมคล้ำดูร่วงโรยในผ้าถุงดำตัวเก่า​กับเสื้อคอกระเช้า​สีน้ำตาล​
ที่นั่งชันเข่าพิงประตูห้อง หันหน้ามาทางถนนเข้าหอพักอย่างรอคอย สะเทือนร้าวเข้า​ไปในหัวใจของเฉลา

"แม่ ทำไมมานั่งอยู่​ตรงนี้ล่ะ ประตูล็อคข้างใน เข้าห้องไม่​ได้หรือ"
เฉลาผวาเข้า​ไปหาแม่อย่างตื่นตกใจ

"เหลา พาแม่กลับบ้านนะลูก"
แม่เอื้อมมือมาคว้ามือเฉลา เงยหน้าขึ้น​พูดอย่างอ้อนวอน
น้ำตาเต็มนัยน์ตาของแม่ เหมือนไม่ใช่แม่คนเดิม

เฉลานิ่งอึ้ง พยักหน้ารับ "จ้ะ​แม่"

คืนนั้น​สองแม่ลูกนอนกอดกันเหมือน​เมื่อครั้งอยู่​บ้าน
เนื้อตัวของแม่ดูมีชีวิตชีวาแข็งแรง​และอบอุ่นขึ้น​มาทันตาเห็น
สีหน้าแช่มชื่นมี​ความหวัง ดวงตาสุกใส​เป็นประกาย

เฉลาพาแม่​ไปส่งในวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น​ นอนค้าง​กับแม่หนึ่ง​คืนแล้ว​กลับมาทำงาน
เธอเพิ่มรายการค่า​ใช้จ่ายลง​ไปในงบประมาณประจำเดือน
สำหรับการกลับบ้านมานอนกับแม่เดือนละหนึ่ง​ครั้ง
ในโอกาสนี้เธอยัง​ได้​ไปเยี่ยมเยียนอาจารย์ใหญ่ผู้มี​พระคุณด้วยตนเอง
บางครั้งก็​ได้​ไปงานบุญงานบวชของญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง
​ได้ช่วยเหลือเกื้อกูล​ซึ่งกัน​และกันอย่างใกล้ชิด

แม่เองก็​ได้กลับ​ไปอยู่​บ้านของแม่ ​ที่มีญาติพี่น้อง ต้นไม้ไร่นา ปลาในหนอง น้ำในห้วย ​
และฟ้ากว้าง​ที่ครอบทุ่งโล่งสวยงามสุดสายตา ​แม้ไม่มีพี่ฉลวย
แม่ก็มีเฉลา​ที่​จะมาหาแม่ทุกเดือนไม่​ได้ขาด หน้านาแม่ก็ยังทำนาปลูกข้าวบนผืนดินเล็ก ๆ​ ของตัวเอง
ยามเจ็บไข้ก็มีหลาน ๆ​ ญาติ ๆ​ ใกล้ชิดมาประคับประคองรอเวลาเฉลามาถึง

แม่​ได้​ใช้ชีวิตอย่าง​ที่แม่คุ้นเคยอย่างมี​ความสุข แข็งแรง สดชื่น เต็มปรี่​ไปด้วยพละ​กำลัง​
และ​ความหวังเหมือน​ที่เฉลาเคยเห็น

ในวัน​ใช้ชีวิตคู่ของเฉลาแม่บอก​กับเธอว่า​จะอยู่​รอดูหลานคนโต ​
และ​เมื่อ​ได้หลานคนแรก​เป็นผู้ชายแม่ก็ต่ออายุขัยของตัวเองออก​ไปอีกว่า ​
จะมีชีวิตอยู่​ต่อ​ไปจนกว่า​จะ​ได้อุ้มพานแว่นฟ้าใส่ผ้าไตรส่งหลานยายเข้า โบสถ์ในงานบวช

เฉลาทอดสายตามองยายหน้าตึกร้าง​พร้อม​กับภาวนา​เอาใจช่วยทุกวัน

​ที่นี่ไม่ใช่บ้านของยาย ไม่ใช่​ที่ทางสำหรับยายเลย​ใช่ไหมจ๊ะ​

ยายคงคิดถึงเถียงนากลางทุ่งกว้าง​ที่มีลมโชยเฉื่อยฉิว
มีเสียงกบเสียงอึ่งระงมร้องยามค่ำคืน​ที่ฝนพรำ คิดถึงกอไผ่​ที่เสียดส่ายไหวโอนตามแรงลม
คิดถึงหน่ออ่อนของต้นไม้​ที่เสียดแทงขึ้น​มาจากผืนดินหลังฝนตก คิดถึงรวงข้าวสีทอง​ที่อ่อนค้อมรอเกี่ยว

"ยาย​เป็นแม่ของ​ใครกันนะ...."
"พายายกลับบ้านเถอะ...."


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กรกฎาคม 2553 13:02:55 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553 11:26:17 »



http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=tunggeran&page=2&topic=2&Cate=3


http://i229.photobucket.com/albums/ee134/sangjan/love%20line/nana1.jpg
"พาแม่กลับบ้านนะลูก........."



พาแม่กลับ"บ้าน"เถอะนะคะลูกๆ แค่พาแวะมาเที่ยว
แล้วให้ท่านกลับไปที่ ที่ท่าน "คุ้นชิน" ท่านน่าจะมีความสุขกว่า...
มั๊ยคะ?









ใต้ผืนฟ้า  ยังท้องนา หน้าบ้านฉัน
เมื่อตะวัน เลื่อนลับ กับหุบเขา
มีเพียงแสง เลือนราง จางเพียงเงา
ฟ้าสีเทา ยามค่ำยล สนธยา

จักจั่น จิ้งหรีด กรีดปีกร้อง
ท่วงทำนอง ก้องกึก ทั่วพฤกษา
เกาะก้านกิ่ง อาศัย ในท้องนา
ยินดังว่า ความหนาว จะเข้าเยือน

ตัวหิงห้อย ส่องแสดง แสงกระพริบ
ดูระยิบ ระยับ วิบวับเหมือน
ดวงดารา ประดับฟ้า คราไร้เดือน
บินว่อนเกลื่อน ทั่วท้องนา ยามราตรี

เห็นแขไข ข้างแรม แต่งแต้มฟ้า
แสงโรยรา เหมือนมืดมน หม่นราศี
ทะมึนดำ ทั่วท้องนา  หนาคืนนี้
เปรียบชีวี  ของคนเหงา ซึ่งเฝ้าคอย !



โดย : mommam











Credit by : http://www.muslimthai.com/mnet/content.php?bNo=48&qNo=2747&kword=
ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 สิงหาคม 2553 11:56:18 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
AMM
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553 17:09:12 »


บทความนี้ สำหรับคนบ้านนอกอย่างเราแล้ว

มันคือสิ่งที่ทรมานใจ ที่ต้องจากบ้านมาไกล

เพื่อมาหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว อย่าว่าแต่พาแม่ พายายกลับบ้านเลย

เรา ... ก็อยากกลับบ้านเกิดเช่นกัน

อ่านแล้วน้ำตาท่วมจอ  สู้ว่อย เผื่อวันหนึ่งเราจะได้กลับบ้านไปอย่างเต็มภาคภูมิ
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553 18:10:06 »






เป็นกำลังใจให้นะคะ.. สู้ๆค่ะ...   

http://i219.photobucket.com/albums/cc105/nudao/dao11.gif
"พาแม่กลับบ้านนะลูก........."
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กรกฎาคม 2553 10:09:38 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
varaporn
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 5
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 40


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2553 21:05:13 »

สิ่งที่ดีสำหรับเราบางอย่างอาจไม่เหมาะสำหรับใครบางคน
บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553 12:33:35 »

[AF4] WK8 - ค่าน้ำนม


ค่าน้ำนม

ขอน้อมกายเคารพนบกราบไหว้
บูชาคุณน้อมใจไปสวรรค์
แด่ แม่ผู้วายชนสิ้นจาบัลย์
คุณแม่นั้นมั่นยืนมิคืนคลาย

. หล่อหลอมรวมความรักจากพ่อแม่
จากความรักยิ่งแท้แปลความหมาย
จากหัวใจสองดวงหลอมละลาย
ลูกจึ่งได้ปฏิสนธิกาล

.ตามในแห่งกำเนิดเกิดจากภพ
มาประสบพบสุขสนุกสนาน
จากวิบากพรากภพนพวิญญาณ
มาจากกาลก่อนเกิดครรภ์มารดา

.จากกลละลักษณะหยาดน้ำใส
แม่เฝ้าคอยห่วงใยเป็นนักหนา
เกรงลูกน้อยกลอยใจเคลื่อนออกมา
ระวังไวลูกจ๋าอย่าสะเทือน

.แม่ถนอมออมกายให้ลูกสุข
เมื่อก่อร่างตัวลูกรูปเสมือน
อัพพุทะเป็นฟองงามประเทือง
แม่ฟูเฟื่องความสุขผูกดวงใจ

.แม่อดเปรี้ยวอดหวานมิผ่านสบ
กลัวลูกจบชีวาพาหวั่นไหว
ฤทธิ์แสลงสำแดงลูกข้างใน
แม่หวั่นไหวอันตรายลูกเปลี่ยนแปร

. แม่ออมชอมยอมล่ะในรสจัด
มิให้ลูกอัตคัดความพ่ายแพ้
สิ่งกัดกร่อนเนื้อกลอยเจ้าดวงแด
แม่เรียบแปร้แต่ลูกมีโพยภัย

.สละสวยสละสาวคราวอุ้มท้อง
แม่ไม่ร้องไม่บ่นแม่ทนได้
แม่ถนอมครรภ์แก่แม่เต็มใจ
จะหาใครเหมือนแม่แพ้ทุกคน

. ครบสิบเดือนเคลือนคลอดรอดชีวิต
แม่ใกล้ชิดลูกน้อยคอยฝึกฝน
ถึงลำบากตรากตำใจแม่ทน
สายเลือดข้นแม่กลั่นปันลูกกิน

.แม่ป้องริ้นป้องไรมิให้ผ่าน
แม่สงสารห่วงลูกกว่าทรัพย์สิน
แม่อดออมถนอมยิ่งชีวิน
แม่ได้ยินลูกร้องแม่ป้องมา

. ยามลูกร้องแม่ขมระทมไห้
ยามลูกไข้แม่ร้อนนอนผวา
ยามลูกทุกข์แม่กร่อนร้อนอุรา
ยามลูกยาสิ้นสร่างแม่สุขใจ

. คราลุกหิวแม่ยิ่งน้ำตาร่วง
แม่เป็นห่วงดิ้นรนค้นมาให้
แม้แม่อดหมดข้าวมิเป็นไร
สละได้ลูกอิ่มแม่ทนเอา

. ใครไหนเล่าอบรมบ่มนิสัย
แม้เติบใหญ่ไม่ถอยคอยนั่งเฝ้า
พระคุณเลิศประเสริฐกำเนิดเรา
ใครไหนเล่าคุณแท้เท่าแม่เอย

. เป็นลูกสาวแม่เฝ้าคอยห่วงหา
กลัวลูกยาโดนหนุ่มมาผ่าเผย
กลัวจอมใจช้ำชอกหลอกละเลย
มาเฉลยคำหวานหว่านวาจา

.คอยพร่ำบ่นจนลูกผูกสมัคร
ละความรักจากแม่หนีไกลหน้า
คิดว่าแม่ก้าวล้ำย่ำวิญญาญ์
เบื่อระอาคำแม่แท้อาทร

.กับลูกชายหมายมั่นเมื่อเติบกล้า
อภิญญาอบร่ำคำสั่งสอน
อายุครบบวชเรียนเพียรบวร
เฝ้าอาทรวรณ์ไท้เทพธาดา

. ชายผ้าเหลืองเปรื่องปราชญ์แสนบาดจิต
ขอลูกชิดเชยชมศาสนา
ปฏิบัติขัดเกลาเฟื่องปัญญา
หมายใจชายผ้าลูกผูกพาไป

.ใครหาญผิดคิดคตปดพ่อแม่
เป็นมั่นแท้อบายภูมิจะชิดใกล้
จะไปผุดจุติอวีจิไกล
สถานนี้ไร้มีกินแม้สิ้นกาย

. อันโทษทัณฑ์รอรับสดับรู้
พื้นแผ่นคุไฟร้อนเผาทั้งหลาย
ภูเขาเหล็กร้อนแรงบดมลาย
เหล็กแหลมร้อนแทงกายจากยมบาล

.กว่าสิ้นสุดจุดนี้หลายกัปนัก
มิคิดพักผ่อนผันสิ้นสงสาร
ต้องรับโทษหลายขุมหลายกับกาล
ยังมิผ่านเศษกรรมรอย่ำยี

. ในกรรมหนักหลักใหญ่เนรคุณ
ต่อบิดาเกื้อหนุนยั่งชีพนี้
มารดายิ่งเทิดทูนหนุนภักดี
ทั้งสองมีพระคุณหนุนเกิดมา

. ทั้งครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิท
ท่านประสิทธิ์วิชาให้เก่งกล้า
ให้ความรู้ประศาสน์อภิญญา
จงน้อมกายบูชาขมาคุณ

. ในความดีมีทำวันละนิด
เฝ้าบูชิตน้อมกายใฝ่เกื้อหนุน
มีบุญญาบารมีเจิดจรูณ
นำเป็นทุนทำนบสุคติภูมิ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กรกฎาคม 2553 22:32:27 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.19 Firefox 3.0.19


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2553 15:57:43 »



คือหัตถาครองพิภพ (2538) Title 1


คือหัตถาครองพิภพ..............

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 กรกฎาคม 2553 22:29:24 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2553 05:08:18 »



http://i410.photobucket.com/albums/pp182/kamolpat/-crop-crop.jpg
"พาแม่กลับบ้านนะลูก........."



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Xag0QWz5ha0&amp;feature=player_embedded" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=Xag0QWz5ha0&amp;feature=player_embedded</a>
!
ขอบคุณที่มาจาก.. น้องเรน.... ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กรกฎาคม 2553 04:51:52 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.8 Firefox 3.6.8


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2553 22:44:48 »

 รัก รัก รัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 สิงหาคม 2553 22:38:24 โดย ขม..ค่ะ » บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.658 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 20 พฤศจิกายน 2567 05:12:46