[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
21 ธันวาคม 2567 23:12:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 2 [3] 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้าแม๊คพาเที่ยว วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ วัดในพระองค์ สมเด็จพระพี่นาง (วัดพระพี่นาง)  (อ่าน 51178 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.70 Chrome 5.0.375.70


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553 23:02:57 »

เอาละ ในเมื่อน้องเค้าไล่เรามาหน้านี้

เราก็มาเริ่มที่หน้านี้กันต่อ

๕๕๕๕๕๕

(คิดได้ไงวะมุกนี้)
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.70 Chrome 5.0.375.70


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553 23:08:22 »

ด้านนอกพุทธคยาจำลองครับ




ถึงกับต้องเช็ดเหงื่อกันเลยทีเดียว ผ้าเย็นผืนละ 15 บาท ราคาไม่ใช่เล่น
แต่ถ้าเจอสภาพอากาศแบบนี้ ผ้าเย็นผืนน้อยผืนนี้นี่แหละครับคือสวรรค์



ขอถ่ายรูปกับเจดีย์พุทธคยาสักหน่อย สังเกตครับ เหงื่อบาน เสื้องี้ชุ่ม








ฮั่นแน่เห็นพระด้านในแล้วใช่ไม๊ครับ...

ใช่แล้วครับ แล้วผมจะพาเข้าไปชมด้านใน...

...

......





บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.70 Chrome 5.0.375.70


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2553 02:49:36 »

ขอนอนก่อนครับ พรุ่งนี้คาดว่างานจะเยอะมาก

ไว้เดี๋ยวมาโพสท์ต่อ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.86 Chrome 5.0.375.86


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 02:37:09 »

โพสท์ไม่เสร็จสักทีกระทู้นี้

ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ

งานเยอะมาก
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 05:34:11 »






บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.86 Chrome 5.0.375.86


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 12:51:11 »

ก่อนเข้าในตัวเจดีย์

เรามาดูความสวยสงบ เย็น ๆ รอบตัวเจดีย์กันครับ

ไม่เยอะ ไม่รก กำลังดี














ถ้าสังเกตจากภาพข้างต้นจะเห็นว่ามีน้ำล้อมรอบตัวเจดีย์

สวยงามครับ เป็นทางน้ำเล็ก ๆ ทุกอย่างลงตัว





บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.86 Chrome 5.0.375.86


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #46 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 13:18:05 »

ในที่สุดหลังจากยืดเยื้อกันมานานหลายวัน

ผมก็ได้พาพ่อแม่พี่น้องเข้ามาชมบรรยากาศภายในเจดีย์พุทธคยาจำลองได้กับเค้าสักที

ภายในเจดีย์ (ชั้นแรก) จะมีองค์พระพุทธประดิษฐานอยู่

มีจุดให้เช่าพระ วัตถุมงคล มีมุมเล็ก ๆ ด้านซ้ายมือ ซึ่งมีพระนเรศวร กับพระเจ้าตากให้กราบไว้

นอกจากนี้ในชั้นนี้ยังมีพระแผนที่ประเทศไทยอีกด้วย








รูปสุดท้ายนี่ลุงที่ไหนมาติดกล้องหละฟระเนี่ย !!!

เล่นซะเด่นเลยนั่น

ปล. ลุงคนนี้แกไม่ได้มากับพวกผมนะคร๊าบบบบ



 โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 กรกฎาคม 2553 13:24:09 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.86 Chrome 5.0.375.86


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553 13:27:28 »

หากอ่านความเห็นข้างบน หลายท่านอาจไม่คุ้นกับชื่อ "พระแผนที่ประเทศไทย"

และอาจสงสัยว่าอะไรคือพระแผนที่ประเทศไทย

สุขใจเรามีคำตอบให้ครับ




วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จัดสร้าง พระแผนที่ประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติ

        นางสุมนา อภินรเศรษฐ์ รองประธานวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการจัดสร้างพระแผนที่ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

         เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี "54 วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ได้จัดสร้าง พระแผนที่ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติขึ้น สำหรับการดำเนินการนั้น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ แป้งเจิม

        พระแผนที่ประเทศไทย เป็นรูปแบบที่ไม่เคยมีใครจัดสร้างมาก่อน หล่อด้วยโลหะสำริด รูปทรงสามเหลี่ยม (ทรงอุบะ) มียอดฉัตร 7 ชั้น ด้านหน้า ประกอบด้วย บนสุดประดิษฐานพระพุทธเอกนพรัตน์ ตรงกลางเป็นแผนที่ประเทศไทย อักขระโอม อยู่ตรงกลางแผนที่ ด้านซ้ายและขวา ประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช ด้านล่างมีท้าวจตุโลกบาล ด้านหลัง ประดิษฐานตราสัญลักษณ์วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ และจารึกคำไหว้กราบพระ 5 ครั้ง

        โดยจัดสร้าง 2 ขนาด คือ ขนาดใหญ่ สูง 293 เซนติเมตร ยาว 128 เซนติเมตร หนา 68 เซนติเมตร จำนวน 5 องค์ นำไปประดิษฐานวัดประจำ 5 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนขนาดเล็ก สูง 84 เซนติเมตร ยาว 36 เซนติเมตร หนา 21 เซนติเมตร จำนวน 152 องค์ ซึ่งได้ถวายให้จังหวัดละ 2 วัด คือ วัดสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต และวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดละ 1 องค์



ที่มาข้อมูล : เวบไซท์ อิทธิปาฏิหาริย์
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:17:58 »

ชมข้างในกันต่อครับ






พระแผนที่ประเทศไทยองค์ใหญ่ครับ






แท่นเล็ก ๆ นี้มีรูปหล่อ พระเจ้าตากสินมหาราช ครับ ผมมาที่วัดนี้นี่อิ่มใจมาก

เพราะเวลาสวดมนต์ผมจะระลึกถึงคุณของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตด้วย โดยเฉพาะพระเจ้าตากฯ กับพระนเรศวร






พระประธานในเจดีย์ครับ อยู่ชั้นล่างสุด (พระที่เห็นด้านหลังผมตอนผมถ่ายรูปหน้าเจดีย์)






ฤๅษีชีวก โกมารภัจจ์





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กรกฎาคม 2553 00:25:37 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:30:52 »

สุขใจ แทรกความรู้ครับ

หากดูที่ความเห็นด้านบน จะเป็นรูปหล่อของ ฤๅษีชีวก

หลายท่านอาจยังไม่รู้ว่าท่านคือใคร มีประวัติที่มาอย่างไร ทำไมถึงหล่อรูปมาให้คนกราบไหว้



ประวัติย่อหมอชีวกโกมารภัจจ์

สมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ ณ พระเวฬุวันวิหาร พระนครราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธ
มีเรื่องสืบเนื่องมาจากแคว้นวัชชีมีอานาเขตติดต่อกับแค้วนมคธทางทิศใต้
มีเพียงแม่น้ำคงคาเป็นเครื่องกั้นแบ่งเขต แคว้นวัชชีนี้มีเมืองหลวงชื่อว่า พระนครเวสาลี
มีความเจริญรุ่งเรื่องมาก และอุดมสมบรูณ์ด้วยอาหารทั้งปวง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าอีกด้วย

นอกนี้พระนครเวสาลียังมีอะไรอื่นเป็นพิเศษกว่าพระนครอื่น ๆอีกด้วย นั่นก็คือ “ โสเภณี “
คือหญิงงามเมือง คำเต็มเรียกว่านครโสเภณี หรือเรียกหญิงประเภทนี้ว่า “คณิกา”
แปลว่าหญิงผู้นับเนื่องในหมู่

หญิงผู้เป็นนครโสเภณีของพระนครเวสาลีนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น ชื่อนาง อัมพปาลี
เป็นหญิงเลอโฉม รูปร่างทรวดทรงสะคราญเลิศ ชวนให้บุรุษทั้งหลายที่ได้ยลโฉมสิริ
ย่อมเว้นไม่ได้ที่ต้องเกิดความต้องการเสน่หาต่อนาง และนางยังรอบรู้เชี่ยวชาญในคณิกาศิลป์
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของหญิงผู้ประกอบอาชีพเป็นนครโสเภณีอีกด้วย
คณิกาศิลป์ คือ การแสดงออกให้ให้ปรากฏขึ้นอย่างงดงาม และเกิดอารมณ์สะเทือนใจ
เพื่อบำเรอแก่บุรุษผู้ปรารถนาความสุขในกามรสให้ได้รับอย่างครบถ้วน โดยมิรู้เบื่อ ได้แก่การฟ้อน
การร่ายรำ การขับร้องเป็นต้น

นางอัมพปาลี ได้ตั้งค่าตัวของนางไว้ที่ 50 กษาปณ์ นับว่าเป็นเงินที่สูงมาก (1 ก ษาปณ์
เท่ากับเงินไทย 4 บาท ) บุรุษผู้ร่ำรวยจึงหลั่งไหลมาสู่พระนครเวสาลีเป็นอันมาก

ต่อมาได้มีคณะคหบดีจากชาวพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ คณะหนึ่ง
เดินทางมาทำธุระบางประการที่พระนครเวสาลี ได้เห็นความเจริญรุ่งเรื่องและรู้เรื่องราวของนาง อัมพปาลี
ซึ่งมีส่วนช่วยให้พระนครเวสาลีมีความเจริญรุ่งเรื่อง
ครั้นเมื่อเสร็จธุระก็เดินทางกลับพระนครราชคฤห์
ก็นำความนั้นไปกราบทูลพระเจ้าพิมพิสารให้ทรงทราบโดยละเอียด
และได้แนะนำให้มีโสเภณีในพระนครราชคฤห์มั่ง จะได้มีความเจริญรุ่งเรืองเหมือนอย่างพระนครเวสาลี
พระเจ้าพิมพิสารก็เห็นดีด้วย จึงได้บอกให้บรรดาคหบดีไปแสวงหา ให้ได้หญิงงามดั่งนางอัมพปาลี

ขณะนั้นในพระนครราชคฤห์ ก็มีหญิงสาวรุ่นคนหนึ่ง ชื่อว่า “สาลวดี” มีรูปร่างทรวดทรงงาม
ผิวพรรณงดงามยิ่งนัก นับว่าเลอโฉมเป็นเลิศกว่าหญิงอื่น ๆ จึงได้เลือกนางมาเป็นหญิงงามเมือง
และได้ช่วยฝึกฝนใน คณิกาศิลป์จนมีความรู้และความชำนาญในเวลาอันไม่นาน
ครั้นนางสาลวดีพร้อมที่จะประกอบอาชีพเป็นหญิงงามเมืองของพระนครราชคฤห์แล้ว
ก็ได้ประกาศให้ผู้คนรู้ทั่วกัน และนางได้ตั้งค่าตัวไว้ คืนละ 100 กษาปณ์
ก็มีบุรุษทั้งหลายมาจองตัวและรับนางไปสมสู่ด้วยเกือบทุกคืน แทบไม่มีวันเว้นว่าง
นางสาลวดีจึงมีรายได้ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว
ครั้นต่อมามิช้ามินาน นางเกิดความประมาท เพราะขาดการระมัดระวังในการสมสู่กับบุรุษ จึงได้ตั้งครรภ์
ครั้นนางสังเกตุรู้แม้ครรภ์ของนางจะยังไม่นูนจนปรากฏก็ตาม นางจึงคิดว่า ธรรมดาบุรุษทั้งหลาย
ย่อมไม่พอใจและไม่ยินดีที่จะสมสู่กับสตรีที่ตั้งครรภ์ หากมีผู้รู้ว่าตั้งครรภ์
นางก็จะเสื่อมจากลาภผลที่เคยได้ นางจึงปกปิดไว้ โดยการเรียกคนเฝ้าประตูมารับคำสั่งว่า
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจงอย่ายอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดทุกคน
ลาวงล้ำผ่านประตูเข้ามาในบ้านเพื่อพบฉันเป็นอันขาด
ให้บอกว่าฉันป่วยจำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวโดยนานวัน คนเฝ้าประตูก็รับสั่ง
และยืนยันปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

เวลาผ่านไปนางได้คลอดบุตรเป็นชาย เมื่อนางทราบว่าเป็นชาย ก็เลยตัดสินใจไม่ยอมเลี้ยง เพราะคิดว่า
ลูกชายไม่สามารถสืบทอดอาชีพโสเภณีต่อไปได้ จึงเรียกสาวใช้คนสนิท
ให้เอาทารกนี้ใส่ในกระด้งแล้วเอาไปทิ้งที่กองขยะ และอย่าให้ใครเห็นด้วย
สาวใช้ก็ทำตามโดยเอาไปทิ้งที่กองขยะในตอนกลางคืน

ในเวลาเช้าตรู่ได้มีกาฝูงใหญ่บินลงมาจับในกองขยะ แล้วห้อมล้อมร่างทารกนั้นไว้
เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น และกันสัตว์ร้ายเช่น สุนัขเป็นต้น พอสว่าง บังเอิญเจ้าชาย “อภัย “
พระโอรสของพระเจ้าพิมพิสารเสด็จออกจากวังของพระองค์ เพื่อไปสู่พระราชวัง ขณะเสด็จผ่านกองขยะ
ทอดพระเนตรเห็นฝูงกาห้อมล้อมอยู่ที่กองขยะเป็นวง และไม่ส่งเสียงร้องตามประสา น่าอัศจรรย์
จึงให้มหาดเล็กผู้หนึ่งไปดู มหาดเล็กไปดูแล้วเห็นชัดเจน ก็กลับกราบทูล บอกว่า
ฝูงการุมกันตอมทารกพ่ะย่ะค่ะ ตรัสถามว่า ทารกนั้น เพศหญิงหรือเพศชาย
และยังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายแล้ว
ทารกเพศชาย เข้าใจว่าเพิ่งเกิด และยังมีชีวิตอยู่พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชายอภัย ตรัสว่า ดีแล้ว
เจ้าจงรีบเอาทารกกลับวัง มอบให้แม่นมช่วยเลี้ยงให้รอดด้วย แล้วเสด็จไปพระราชวัง
ทารกจึงได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
เพราะเหตุที่เจ้าชายอภัยตรัสถามมหาดเล็กในวันที่พบทารกนี้ โดยพระวาจาว่า “ ชีวติ ภเณ
หมายความว่า ยังเป็นอยู่หรือ ?” จึงได้ขนานนามเรียกทารกนี้ในต่อมาว่า “ ชีวก “ หมายความว่า “
เป็นอยู่ “ ยังไม่ตาย และชีวกกุมารนี้ เจ้าชายอภัยได้ทรงโปรดให้บำรุงเลี้ยงไว้
จึงได้มีชื่อสกุลว่า “โกมารภัจจ์ ซึ่งหมายความว่า “อันเจ้าชายให้เลี้ยงไว้ “ ฉะนั้น
ทารกนี้จึงมีชื่อตัวและสกุลที่มีผู้รู้และเรียกกันตั้งแต่นั้นสืบมาจนกระทั่งบัดนี้ว่า “ ชีวกโกมารภัจจ์
“ ดังนี้แล ฯลฯ


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:32:50 »

หมอชีวกกับพระพุทธศาสนา

ในครั้งแรก ที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาสู่พระนครราชคฤห์แคว้นมคธนั้น
เข้าใจว่าหมอชีวกโกมารภัจจ์ยังไม่เกิด
โดยเกิดต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับมาประทับอยู่ในพระเวฬุวันวิหาร พระนครราชคฤห์เป็นครั้งที่สอง
ฉะนั้นเมื่อหมอชีวกฯยังเป็นเด็กอยู่ในวังของพระเจ้าอภัยก็ดี
เมื่อลอบหนีออกจากวังไปเรียนศิลปวิทยาก็ดี ซึ่งเวลาตามช่วงดังกล่าวนี้เพียง 17-18 ปีโดยประมาณ
จึงเป็นระยะเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่อื่น
แต่ก็มีพระสงฆ์จำนวนมากแยกย้ายกันพักอยู่ตามอารามต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ทั้งในนครราชคฤห์
และนอกพระนครของแคว้นมคธ เพราะขณะนั้นพระพุทธศาสนาได้ตั้งมั่นลงด้วยดีแล้วในแคว้นมคธ
พระเจ้าพิมพิสารทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก คือทรงทะนุบำรุงพระศาสนาอย่างประเสริฐ
จึงเป็นกำลังยิ่งต่อพระพุทธสาสนา จึงน่าเชื่อได้ว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกลับมาสู่พระนครราชคฤห์เป็นครั้งที่สอง
และคงเป็นเวลาพอดีหรือไล่เลียกันกับที่หมอชีวกฯสำเร็จการศึกษาศิลปวิทยา
และกลับจากเมืองตักศิลามาถึงพระนครราชคฤห์แล้ว และใช้วิชาชีพของตนเป็นหมอ
จนได้รับพระราชโองการโดยพระเจ้าพิมพิสาร แต่งตั้งให้เป็นหมอประจำราชสำนัก หมอหลวง
โดยเป็นหมอถวายการรักษาโรคแก่พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย

หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้ รับสนองพระมหากรุณาธิคุณตามที่พระเจ้าพิมพิสารทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
รักษาโรคที่เกิดแต่พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข โดยปฏิบัติเป็นอย่างดียิ่ง
จึงเป็นหมอที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เลื่องลือสรรเสริญเกียรติคุณกว่าหมออื่น
การถวายบำบัดโรคแก่พระพุทธเจ้านั้น หมอชีวกฯ มีความเอาใจใส่ ตั้งใจปฏิบัติเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ
ที่เป็นงานไม่มีสิ่งตอบแทน เพราะหมอชีวกฯ เป็นอุบาสกผู้หนึ่งในพระพุทธสาสนา
ซึ่งเข้าถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะของตน ทั้งมีความเคารพนับถือ และยำเกรงพระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งนัก
จนพระเจ้าพิมพิสารสละราชสมบัติและได้ถูกพระเจ้าอชาตศัตรูทำปิตุฆาต หมอชีวกฯก็ยังคงทำหน้าที่เป็นหมอ
ถวายอภิบาลพระสุขภาพของพระผู้มีพระภาคเจ้าตามเดิมต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง



บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:35:43 »

หมอชีวกฯถวายพระโอสถขับถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระพุทะประสงค์จักเสวยยาถ่าย
เพื่อขับถ่ายสิ่งที่หมักหมมอันเป็นโทษออกเสียจากพระวรกาย จึงรับสั่งกะพระอานนท์
ผู้เป็นพระสาวกพุทธอุปัฏฐากว่า ดูกรอานนท์ ตถาคต ประสงค์ฉันยาถ่าย

พระอานนท์จึงไปหาหมอชีวกโกมารภัจจ์ แจ้งพระพุทธประสงค์เรื่องนี้ให้หมอชีวกฯทราบ

หมอชีวกฯได้ถามถึงพระอาการ จนทราบโดยแน่ใจแล้ว
นมัสการขอให้พระอานนท์ช่วยถวายการชำระพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้มีความชุ่มชื่นสัก 2-3 วันก่อน
และตนจะประกอบพระโอสถเพื่อทรงขับถ่ายตามพุทธประสงค์

พระอานนท์จึงลากลับไปจัดการตามที่หมอชีวกฯสั่งนั้น เป็นที่เรียบร้อยทุกประการ
แล้วแจ้งให้หมอชีวกฯได้ทราบ
หมอชีวกฯพิจารณาเรื่องจะถวายพระโอสถแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อจะได้ทรงขับถ่าย เห็นว่า
ไม่ควรประกอบเป็นพระโอสถเสวย เพราะจักทรงขับถ่ายอย่างหยาบ และเป็นเหตุให้ต้องอ่อนเพลียเสียพระกำลัง
ควรที่จะถวายพระโอสถด้วยประกอบยาต่าง ๆ แล้วอบ คือ
ปรุงกลิ่นด้วยควันให้ยาทั้งหลายนั้นจับอยู่ที่ก้านอุบล 3 ก้าน เพื่อที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงสูดก้านบัวที่อบเป็นพระโอสถ โดยไม่ต้องเสวย จักทรงขับถ่ายอย่างอ่อน ๆด้วย
และทรงพระสำราญเป็นปกติ ไม่ต้องอ่อนเพลียเสียพระกำลังอีกด้วย
ฉะนั้นหมอชีวกฯ จึงจัดการปรุงยาตามที่พิจารณาว่าสมควรแล้วนั้น จนสำเร็จ จึงนำก้านดอกบัวทั้ง 3
ที่อบแล้วเพื่อเป็นพระโอสถขับถ่าย ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ที่ประทับ ถวายบังคมพระองค์แล้ว
น้อมถวายก้านดอกบัวครั้งล่ะหนึ่งก้าน และกราบทูลโดยลำดับ ดังนี้

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงสูดก้านดอกบัวที่ 1 นี้
อันข้าพระพุทธเจ้าอบด้วยพระโอสถแล้วเป็นก้านแรก จักยังให้พระองค์ขับถ่ายถึง 10 ครั้ง
พระพุทธเจ้าข้า

จากนั้น ถวายก้านที่ 2 พร้อมกับกราบทูลทำนองเดียวกันว่า เมื่อทรงขับถ่ายครบ 10
ครั้งเพราะทรงสูดก้านที่ 1 แล้ว ขอพระองค์จงทรงสูดก้านอุบลที่ 2 จักยังพระองค์ให้ทรงขับถ่ายถึง 10
ครั้ง อีกเช่นกัน

ต่อแต่นั้น จึงถวายก้านอุบลที่ 3 และกราบทูลอธิบายว่า เมื่อทรงขับถ่ายเพราะสูดก้านอุบลที่ 2 ครบ 10
ครั้งแล้ว ขอจงทรงสูดก้านอุบลก้านที่ 3 อันอบด้วยพระโอสถแล้วเช่นกัน
จักยังพระองค์ให้ขับถ่ายอีกถึง 10 ครั้ง ด้วยวิธีเช่นนี้ พระองค์จักทรงขับถ่ายอ่อน ๆ ถึง 30
ครั้งด้วยกันพระพุทธเจ้าข้า


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #52 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:37:29 »

เมื่อหมอชีวกฯถวายพระโอสถขับถ่ายอันอบในก้านดอกอุบลรวม 3 ก้านแล้ว
และกราบทูลอธิบายเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว จึงกราบบังคมทูลลาพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทำประทักษิณพระองค์แล้วกลับไป
หมอชีวกฯ กราบถวายบังคมทูลลาไปแล้ว และเดินออกไปพ้นซุ้มประตูพระวิหาร
ฉุกคิดขึ้นมาได้แล้วเกิดเป็นทุกข์หนักใจว่า เราถวายพระโอสถเพื่อทรงขับถ่ายให้ได้ครบ 30 ครั้ง
สิ่งที่หมักหมมอันเป็นโทษวึ่งมีในพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าจักถูกขับถ่ายออกได้หมด
แต่ไม่ได้กราบทูลว่า เมื่อทรงสุดก้านอุบลที่ 3 แล้ว จักทรงขับถ่ายเพียง 9 ครั้งก่อน
รวมกับการขับถ่ายแล้ว 20 ครั้ง จึงทรงขับถ่ายได้ 29 ครั้ง ต่อจากนั้นต้องสรงพระกายก่อน
เมื่อสรงพระกายแล้ว จักทรงขับถ่ายอีก 1 ครั้ง เพื่อครบ 30 ครั้งได้
ฉะนั้นหมอชีวกฯจึงบ่ายหน้ากลับเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า และกราบทูลให้ทรงทราบในเรื่องนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความปริวิตกของหมอโกมารภัจจ์ โดยตลอด ด้วยพระญาณอันประเสริฐ
รับสั่งให้พระอานนท์ ทราบ แล้วจัดเตรียมน้ำร้อนไว้คอยท่าเพื่อจักได้ทรงสรง
เพียงไม่นานจากนั้น หมอชีวกก็มาเข้าเฝ้า แล้วได้กราบทูลพระองค์ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์ทรงถ่ายแล้วหรือยัง พระพุทธเจ้าข้า
ตรัสตอบว่า ตถาคตถ่ายแล้ว กราบทูลถามว่า ทรงถ่ายแล้วกี่ครั้งพระพุทธเจ้าข้า?
และเมื่อทราบว่าทรงถ่ายแล้ว 29 ครั้ง จึงกราบทูลเรื่องที่ตนปริวิตกให้ทรงทราบ
และขอให้พระองค์ทรงสรงพระกาย เพื่อได้ทรงขับถ่ายอีกครั้งหนึ่ง พอกราบทูลจบ
พระอานนท์ก็มากราบทูลเสด็จเพื่อสรงพระกายด้วยน้ำอุ่น เสร็จแล้วทรงขับถ่ายอีกครั้งหนึ่ง จึงครบ 30
ครั้ง
หมอชีวกจึงมีความยินดีที่ตนถวายพระโอสถ และพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงขับถ่ายได้ครบจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว
ได้กราบทูลต่อพระองค์อีกว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในระยะเวลา 2-3 วันนี้ ขอจงทรงเว้น
โดยไม่เสวยพระกระยาหารที่ปรุงด้วยน้ำต้มผักต่าง ๆ ก่อน จนกว่าจะทรงพระสำราญแข็งแรงขึ้นแล้ว
จึงควรเสวยได้ เมื่อหมอชีวกฯเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพอสมควรแก่เวลาแล้ว
จึงกราบถวายบังคมลาออกจากพระสำนักไปฯ



บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:39:40 »

หมอชีวก

พบเห็นได้จากหลาย ๆ โรงพยาบาล

ญาติผู้ป่วยมักมาขอพร ขอให้ช่วยคุ้มครองผู้ป่วย ขอให้หายเจ็บหายไข้






พระคาถา อัญเชิญ ดวงจิต วิญญาณ
ปรมาจารย์ทางการแพทย์ " ชีวกโกมารภัจจ์"



โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง กรุณิโก สัพพะสัทธานัง
โอสะถะ ทิพพะมันตัง ประภาโส สุริยาจันทัง โกมารภัจจ์โต
ประภาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมทะโส อะโรคา สุมนาโหมิ
( ว่า ๓ ครั้ง )

นะอะ นะวะ โรคา พยาธิ วินาสสันติ
( ว่า ๓ ครั้ง )

คำไหว้ครูว่านยา : ชีวกโกมารภัจจ์

ข้าขอประนมหัตถ์ พระไตรรัตน์นาถา

ตรีโลกอมรา อภิวาทนากร


หนึ่งข้าอัญชลี พระฤษีผู้ทรงญาณ

แปดองค์เธอมีญาณโดยรอบรู้ในโรคา


ไหว้คุณอิศวเรศ ทั้งพรหมเมศทั่วชั้นฟ้า

สาบสรรซึ่งว่านยา ประทานทั่วโลกธาตรี


ไหว้คุณกุมารภัจจ์ ผู้เจนจัดในคัมภีร์

เวชศาสตร์บรรดามี ให้ทานทั่วแก่นรชน


ไหว้ครูผู้สั่งสอน แต่ปางก่อนเจริญผล

ล่วงลุนิพานดล สำเร็จกิจประสิทธิพรฯ



บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 00:42:13 »

เกร็ดพ่อปู่ชีวก


ความหมายของคำว่า ชีวก

ชีวก ชื่อหมอใหญ่ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาและมีชื่อเสียงมากในครั้งพุทธกาล เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้าด้วย,

เรียกชื่อเต็มว่า ชีวกโกมารภัจจ์ หมอชีวกเกิดที่เมืองราชคฤห์แคว้นมคธ เป็นบุตรของนางคณิกา (หญิง งามเมือง) ชื่อว่าสาลวดี แต่ไม่รู้จัก มารดาบิดาของตน เพราะเมื่อนางสาลวดีมีครรภ์ เกรงค่าตัวจะตกจึงเก็บตัวอยู่ ครั้นคลอดแล้วก็ให้คนรับใช้เอาทารก ไปทิ้งที่กองขยะ แต่พอดีเมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ เจ้าชายอภัย โอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าพิมพิสาร จะไปเข้าเฝ้า เสด็จผ่านไป เห็นการุมล้อมทารกอยู่ เมื่อทรงทราบว่าเป็นทารกและยังมีชีวิต อยู่ จึงได้โปรดให้นำไปให้นางนมเลี้ยงไว้ในวัง ใน ขณะที่ทรงทราบว่าเป็นทารกเจ้าชายอภัยได้ตรัสถามว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ (หรือยังเป็นอยู่) หรือไม่ และทรงได้รับคำตอบ ว่ายังมีชีวิตอยู่ (ชีวติ = ยังเป็นอยู่ หรือยังมีชีวิตอยู่) ทารกนั้นจึงได้ชื่อว่า ชีวก (ผู้ยังเป็น) และเพราะเหตุที่เป็นผู้อันเจ้าชายเลี้ยงจึงได้มีสร้อยนามว่า โกมารภัจจ์ (ผู้อันพระราชกุมารเลี้ยง)

ครั้นชีวกเจริญวัยขึ้น พอจะทราบว่าตนเป็นเด็กกำพร้า ก็คิดแสวงหาศิลปวิทยาไว้เลี้ยงตัว จึงได้เดินทางไป ศึกษาวิชาแพทย์กับอาจารย์แพทย์ทิศาปาโมกข์ ที่เมืองตักสิลา ศึกษาอยู่ ๗ ปี อยากทราบว่าเมื่อใดจะเรียนจบ อาจารย์ให้ ถือเสียมไปตรวจดูทั่วบริเวณ ๑ โยชน์รอบเมืองตักสิลา เพื่อหาสิ่งที่ไม่ใช่ตัวยา ชีวกหาไม่พบ กลับมาบอกอาจารย์ ๆ ว่า สำเร็จการศึกษามีวิชาพอเลี้ยงชีพแล้ว และมอบเสบียงเดินทางให้เล็กน้อย ชีวกเดินทางกลับยังพระนครราชคฤห์เมื่อ เสบียงหมดในระหว่างทาง ได้แวะหาเสบียงที่เมือง สาเกต โดยไปอาสารักษาภรรยาเศรษฐีเมืองนั้นซึ่งเป็นโรคปวด ศีรษะมา ๗ ปี ไม่มีใครรักษาหาย ภรรยาเศรษฐีหายโรคแล้ว ให้รางวัลมากมาย หมอชีวกได้เงินมา ๑๖,๐๐๐ กษาปณ์ พร้อมด้วยทาสทาสีและรถม้าเดินทางกลับถึงพระนครราชคฤห์ นำเงินและของรางวัลทั้งหมดไปถวายเจ้าชายอภัยเป็น ค่าปฏิการะคุณที่ได้ทรงเลี้ยงตนมา เจ้าชายอภัยโปรดให้หมอชีวกเก็บรางวัลนั้นไว้เป็นของตนเอง ไม่ทรงรับเอา และ โปรดให้หมอชีวกสร้างบ้านอยู่ในวังของพระองค์ ต่อมาไม่นานเจ้าชายอภัยนำหมอชีวกไปรักษาโรคริดสีดวงงอกแด่ พระเจ้าพิมพิสาร จอมชนแห่งมคธทรงหายประชวรแล้ว จะพระราชทานเครื่องประดับของสตรีชาววัง ๕๐๐ นางให้ เป็นรางวัล หมอชีวกไม่รับ ขอให้ทรงถือว่าเป็นหน้าที่ของตนเท่านั้น พระเจ้าพิมพิสารจึงโปรดให้หมอชีวกเป็นแพทย์ ประจำพระองค์ ประจำฝ่ายในทั้งหมด และประจำพระภิกษุสงฆ์อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข หมอชีวกได้รักษาโรค ร้ายสำคัญหลายครั้ง เช่น

ผ่าตัดรักษาโรคในสมองของเศรษฐีเมืองราชคฤห์ ผ่าตัดเนื้องอกในลำไส้ของบุตรเศรษฐี เมืองพาราณสี รักษาโรคผอมเหลืองแด่พระเจ้าจัณฑปัชโชตแห่งกรุงอุชเชนี และถวายการรักษาแด่พระพุทธเจ้าใน คราวที่พระบาทห้อพระโลหิต เนื่องจากเศษหินจากก้อนศิลาที่พระเทวทัตกลิ้งลงมาจากภูเขาเพื่อหมายปลงพระชนม์ชีพ หมอชีวกได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน และด้วยศรัทธาในพระพุทธเจ้า ปรารถนาจะไปเฝ้าวันละ ๒-๓ ครั้ง เห็นว่าพระเวฬุวันไกลเกินไปจึงสร้าง วัดถวายในอัมพวันคือสวนมะม่วงของตนเรียกกันว่า ชีวกัมพวัน (อัมพวัน ของหมอชีวก) เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเริ่มน้อมพระทัยมาทางศาสนา หมอชีวกก็เป็นผู้แนะนำให้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

ด้วยเหตุที่หมอชีวกเป็นแพทย์ประจำคณะสงฆ์และเป็นผู้มีศรัทธาเอาใจใส่เกื้อกูลพระสงฆ์มาก จึงเป็นเหตุให้ มีคนมาบวชเพื่ออาศัยวัดเป็นที่รักษา ตัวจำนวนมาก จนหมอชีวกต้องทูลเสนอพระพุทธเจ้าให้ทรงบัญญัติข้อ ห้ามมิ ให้รับบวชคนเจ็บป่วย ด้วยโรคบางชนิด นอกจากนั้นหมอชีวกได้กราบทูลเสนอให้ทรงอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ เพื่อเป็นที่บริหารกายช่วยรักษาสุขภาพของภิกษุทั้งหลาย หมอ ชีวกได้รับพระดำรัสยกย่องเป็นเอตทัคคะในบรรดา อุบาสกผู้เลื่อมใสในบุคคล



ที่มาประวัติ และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับพ่อปู่ >>> Click Here !!! <<<
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553 12:58:38 »






ขอบคุณน้องแม๊คนะคะ.. มากมาย...


  http://img240.imageshack.us/img240/3048/exc09lqn0.jpg
น้าแม๊คพาเที่ยว วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ วัดในพระองค์ สมเด็จพระพี่นาง (วัดพระพี่นาง)

นำข้าวเหนียวมะม่วง ขนมเฉาก๊วย ทองเอก กับจ่ามงกุฏ มาฝากด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 14:11:23 »

ต่อครับ

มีเวลาโพสท์แค่วันละนิด เพราะงานยุ่งมาก





อีกมุมหนึ่งภายในเจดีย์พุทธคยาจำลองครับ

เป็นรูปพระเจ้าอโศกมหาราช





พระแผนที่ประเทศไทยองค์เล็กครับ

วางข้างพระประธานชั้น 1 ในเจดีย์พุทธคยาจำลอง





มุมจำหน่ายจัตถุมงคลครับ เข้ามาในเจดีย์พุทธคยาจำลอง

จะอยู่ทางด้านขวามือ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2553 14:13:38 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 14:15:26 »




หันกลับไปมองด้านหลัง

มองจากในสู่นอก
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #58 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 14:22:38 »

ในขณะที่ทุก ๆ คนไหว้พระเสร็จแล้ว

ไหว้พระนเรศวรฯ พระเจ้าตากฯ พระแผนที่ประเทศไทย พระเจ้าอโศกฯ กันจนครบหมดแล้ว

ก็ต่างอิ่มอกอิ่มใจพร้อมเดินทางกลับ

แต่....






บันไดครับ

มันคือบันไดขึ้นไปชมชั้นสอง ซึ่งตอนเข้ามาไม่มีใครได้ทันสังเกต

บันไดนี้เป็นบันไดแคบ ๆ ครับ อยู่เกือบหน้าทางเข้า

แต่ตอนเข้ามา จิตใจเราไปโฟกัสอยู่กับความสวยงามภายในซะแล้ว

จึงทำให้เดินป่านบันไดกันมาโดยไม่ทันได้สังเกต



เมื่อบันไดอยู่ตรงหน้า

จะไม่ขึ้นไปได้อย่างไร ???





เดี๋ยวเผื่อเจออะไรดี ๆ จะได้เอามาให้สมาชิกสุขใจ ได้ชมกัน





ปล. เจอบันไดมาตลอด เจออีกซักหน่อยมันจะเป็นไรวะ ๕๕๕๕
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553 14:31:06 »

ไต่กันมาหลายสิบขั้น บันไดชัน ๆ ขั้นเล็ก ๆ หากเดินไม่ดีพร้อมที่จะล้มได้ทุกเมื่อ

และหากมีคนเดินตามก็พร้อมจะลากคนอื่นตกลงไปได้ทุกเมื่ออีกเช่นกัน เพราะราวจับ

มันช่างจับไม่ถนัดมือเอาซะเลย



ในที่สุด !!!

...

...

...

...




โอ เมื่อพ้นประตูนี้ไป เราก็เข้าสู่ชั้นบนของเจดีย์แล้ว

ฮ่า ๆ ๆ (บรรยายเว่อร์ซะ)




บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: น้าแม๊ค พาเที่ยว เที่ยว ท่องเที่ยว วัด วัดพระพี่นาง นครสวรรค์ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ 
หน้า:  1 2 [3] 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.561 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 16 พฤศจิกายน 2567 11:38:16