[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 พฤศจิกายน 2567 17:57:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพลินอ่านนิทานธรรม ตอน แผนร้ายของพระราชา เมื่อพระอินทร์ร้อนอาสน์เพราะนางสุชาดา  (อ่าน 2749 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 2097


【ツ】ต้นไม้แห่งแสง

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Firefox 13.0.1 Firefox 13.0.1


หน้ากู
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555 11:45:02 »


แผนร้ายของพระราชา

คราวที่พระเจ้าแผ่นดิน ผู้ไม่ต้องอยู่ในธรรมครองเมืองย่อมเกิดอาเพศ คือ ฝนตกผิดเวลา คราวที่ควรจะตกไม่ตกแต่กลับตกในคราวทีไม่ควรจะตก

ใกล้ๆ บริเวณเมืองพาราณสี มีหมู่บ้านใหญ่หมู่บ้านหนึ่งซึ่งมีตระกูลเศรษฐีอยู่ร่วมกัน
ชาตินั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นลูกชายของเศรษฐีตระกูลหนึ่ง เมื่อเจริญวัยขึ้น บิดามารดาได้จัดการแต่งงานให้กับลูกสาวเศรษฐีในเมืองพาราณสี ซึ่งมีชื่อว่า “ สุชาดา ”

นางสุชาดาเป็นหญิงสวยงามมีกิริยามารยาทเรียบร้อย ตั้งแต่มาอยู่บ้านสามีนางก็ทำหน้าที่เป็นสะใภ้ที่ดีของตระกูล ดูแลสามีบิดามารดาของสามีเป็นอย่างดี ครองครัวของนางมีความสุขมาก เนื่องจากสามีก็รักและเอาใจใส่ดูแลนางเป็นอย่างดี
อยู่มาวันหนึ่ง นางสุชาดาต้องการจะเดินทางไปเยี่ยมบิดามารดาในตัวเมืองพาราณสี จึงบอกให้สามีทราบ ฝ่ายสามีก็ไม่ขัดข้องและสั่งให้คนใช้เตรียมข้าวปลาอาหารสำหรับเดินทางให้พร้อม ครั้นได้เวลาอันเหมาะสม สามีหนุ่มกับภรรยาสาวก็นั่งรถขับออกไป มุ่งหน้าเข้าเมืองพาราณสีโดยสามีนั่งอยู่ตอนหน้า ภรรยานั่งอยู่ตอนหลัง
เมื่อทั้งสองขับไปใกล้เมืองพาราณสีก็ปรึกษากัน
“ พี่ว่าเราพักกินข้าวกันตรงนี้ก่อนดี ”
สามีปรารถขึ้น
“ ดีเหมือนกัน เพราะใกล้แม่น้ำด้วย ” ภรรรยาเห็นด้วย

ครั้นแล้วสองสามีภรรยาก็จอดรถแก้ม้าออกพักผ่อน หายเหนื่อยสักครู่จึงรับประทานอาหาร จากนั่นก็เทียมรถและเริ่มออกเดินทาง แต่คราวนี้นางสุชาดาเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่สวยงาม นั่งอยู่ด้านหลัง ฝ่ายสามีนั่งอยู่ด้านหน้า
วันนั้น พระเจ้าพรหมทัตเสด็จเลียบพระนคร และเสด็จมาถึงประตูเมืองนั้นพอดีเช่นกัน นางสุชาดาลงจากรถเดินอ้อมไปข้างท้ายพระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรเห็นนางแล้วเกิดมีพระทัยปฏิพัทธิ์นางขึ้นมาทันที
“ แม่นางช่างสวยจริง ”
พระองค์ทรงรำพึงพลางตรัสสั่งอำมาตย์คนหนึ่งให้ไปสืบดูว่านางมีสามีแล้วหรือยัง
“ ขอเดชะ... ” อำมาตย์คนนั้นกราบทูล
“ นางมีสามีแล้ว ผู้ชายคนที่นั่งอยู่บนรถม้านั่นแหละ คือสามีของนาง ”
“ มีผัวแล้วหรือ ” พระเจ้าพรหมทัตตรัสถามย้ำเพื่อให้แน่พระทัย
“ มีแล้วพระเจ้าข้า ” อำมาตย์คนเดิมกราบทูล
“ ถึงมีผัวแล้วข้าก็จะชิงนางมาให้ได้ ” พระเจ้าพรหมทัตทรงคิดหาอุบายที่จะชิงนางมาจากสามี และทันใดนั่นเอง พระองค์ก็คิดอุบายได้ จึงตรัสเรียกอำมาตย์อีกคนหนึ่งมาปรึกษา

หลังจากได้รับคำปรึกษาแล้ว อำมาตย์นายนั้นก็นำแก้วมณีของพระราชาไปวางไว้ในรถม้าของนางสุชาดา โดยทีสองสามีภรรยาไม่รู้ตัว แล้วกลับมาถวายรายงานให้พระเจ้าพรหมทัตทรงทราบ พระเจ้าพรหมทัตรับสั่งให้ประกาศทันทีว่า
“ แก้วมณีของพระราชาหาย ”

พอข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นโดยเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร ฝ่ายพระเจ้าพรหมทัตหลังจากรับสั่งให้ประกาศออกไปอย่างนั้น แล้วก็สั่งปิดประตูเมืองห้ามคนเข้าออก และรับสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในที่ที่สงสัย
พวกเจ้าหน้าที่เที่ยวตรวจค้นตามบ้านเรือนของชาวเมืองกันจ้าละหวั่น มีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งถูกกำหนดให้ไปค้นที่รถม้าของสองสามีภรรยาซึ่งถูกกักไว้ไม่ให้ขับไปทางไหน ครั้นไปถึงแล้ว เจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นก็ตรวจค้นรถม้า
“ เฮ้ย... นี่ไงแก้วมณีของพระราชาของเรา ”
เจ้าหน้าที่คนที่ค้นเจอร้องบอกเพื่อน ๆ
“ ถ้าอย่างนั้นเราก็จับโจรได้แล้วนะซิ ” อีกคนหนึ่งร้องรับ
เมื่อพบหลักฐานเช่นนั้น เจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นก็ช่วยกันจับสามีของนางสุชาดามัดแขนไพล่หลังคุมตัวไปเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต นางสุชาดาเมื่อเห็นสามีถูกจับเช่นนั้น ก็ตกใจ ร้องไห้คร่ำครวญเดินตามสามีมาติด ๆ

พระเจ้าพรหมทัต ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำตัวของสามีของนางสุชาดามาเข้าเฝ้า ก็รับสั่งให้นำไปตัดศีรษะ โดยมิทันสอบสวน เจ้าหน้าที่ก็คุมตัวสามีของนางสุชาดาอย่างแน่นหนานำไปสู่ที่ประหาร ครั้นถึงแล้วก็ให้จับนอนหงาย นางสุชาดารู้แน่ว่าสามีจะถูกประหารชีวิตแน่เพราะถูกใส่ร้าย อันมีสาเหตุมาจากตน จึงตั้งจิตอธิฐาน พร้อมทั้งกล่าวเสียงดังว่า
“ สามีของดิฉันเป็นคนถือศีล ขอให้ทวยเทพมาช่วยคุ้มครองด้วย ”

ขณะที่นางสุชาดาคร่ำครวญอยู่อย่างนั้น พระแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ที่ประทับนั่งของพระอินทร์เกิดแสดงอาการร้อนขึ้นมา
“ มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นมาอีกแล้วหรือนี่ ที่นั่งของเราจึงรู้สึกร้อน หรือใครจะมาเกิดที่นี่แทนเรา ” พระอินทร์ทรงรำพึงพร้อมทั้งสอดส่องทิพยเนตรตรวจดูโลกมนุษย์ และได้ทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงทรงดำริว่า
“ พระเจ้าพรหมทัตกำลังทำกรรมหนัก ตรงที่มาเบียดเบียนหญิงผู้มีศิลอย่างนางสุชาดาให้ลำบาก เราควรไปช่วยเหลือเดี๋ยวนี้เลย ”

ทันใดนั้นเอง พระอินทร์ก็เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และมาปรากฏพระองค์อยู่เบื้องหน้าพระเจ้าพรหมทัต พระเจ้าพรหมทัตไม่ทราบว่านีคือพระอินทร์ จึงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ขับไล่ไปให้พ้นทางเสด็จ
“ ไป....หลีกไปอย่ามาเกะกะทางเสด็จ เดี๋ยวหัวจะขาดไม่รู้สึก ” เจ้าหน้าที่ส่งเสียงดังขับไล่ พระอินทร์ไม่ตรัสอะไร ได้แต่ยืนจ้องมองพระพักต์พระเจ้าพรหมทัต พระองค์ทอดพระเนตรเห็นนางคร่ำครวญปิ่มว่าใจแทบจะขาด และทอดพระเนตรเห็นสามีของนางสุชาดากำลังถูกจองจำเพื่อนำไปสู่ที่ประหาร
พระอินทร์ทรงใช้อำนาจฤทธิ์ของพระองค์สะกดจิตทุกคนในที่นั้น แล้วบันดาลให้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น นั่นคือทรงบันดาลให้พระเจ้าพรหมทัตผู้ชั่วร้ายลงมานอนหงายอยู่ข้างล่างพร้อมด้วยเครื่องจองจำและทรงบันดาลให้สามีของนางสุชาดาหลุดจากเครื่องจองจำ ขึ้นไปนั่งอยู่บนคอช้างแทนพระเจ้าพรหมทัต เพชณฆาตยืนถือขวานคอยจ้องจะฟันคอสามีของนางสุชาดา ก็เข้าใจผิดว่าเป็นนักโทษประหารจึงเงื้อขวานฟันลงไปที่คอของพระเจ้าพรหมทัตจนขาดกระเด็น

ทุกคนในที่นั่นตะลึงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าผู้ที่ถูกตัดคอขาดกระเด็นนั้นไม่ใช่นักโทษประหาร แต่กลับเป็นพระเจ้าพรหมทัตทันใดนั่นเอง พระอินทร์ก็ประกาศพระองค์ให้ทราบว่า พระองค์คือ พระอินทร์ และตรัสว่า
“ พระเจ้าพรหมทัตไม่ตั้งอยู่ในธรรม ข่มเหงผู้ที่ไม่มีความผิดอยากได้เมียของคนอื่น แล้วใส่ร้ายผัวเขาว่าทำผิด และคิดจะลงโทษประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์นั้น เรามาครั้งนี้ ก็เพื่อมาช่วยคนบริสุทธิ์ ”
ครั้นตรัสอย่างนี้แล้ว พระองค์ก็เสด็จไปหาสามีของนางสุชาดาซึ่งนั่งสง่าอยู่บนคอช้าง แล้วประกาศแต่งตั้งให้เป็นพระเจ้าพรหมทัตพระองค์ใหม่ พร้อมทั้งประกาศแต่งตั้งนางสุชาดาเป็นอัครมเหสี
ฝ่ายพวกอำมาตย์ของพระเจ้าพรหมทัตพระองค์เก่า และพวกชาวเมืองต่างรู้ดีว่า พระเจ้าพรหมทัตพระองค์เก่ามีพระอุปนิสัยชั่วร้ายเพียงใด ต่างก็ดีใจว่า

“ พระเจ้าแผ่นดินผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมถูกประหารชีวิตแล้ว พวกเราปลอดภัยแล้วจากพระเจ้าแผ่นดินผู้ชั่วร้ายนั้น บัดนี้เรามาได้พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่แล้ว เราเชื่อว่าพระองค์จะตั้งอยู่ในธรรม เพราะท้าวสักกะประทานมาให้ ”
ฝ่ายพระอินทร์ หลังจากอภิเษกพระเจ้าพรหมทัต พระองค์ใหม่แล้วก็เหาะขึ้นไปยืนอยู่ในอากาศ พร้อมทั้งให้โอวาทว่า
“ พระราชาพระองค์นี้ของพวกท่านจักปกครองแผ่นดินโดยธรรม และเมื่อใดที่พระองค์ไม่อยู่ในธรรม เมื่อนั้นฝนจะตกผิดเวลาคือ ถึงฤดูกาลที่ฝนจะตกกลับไม่ตก แต่กลับไปตกในฤดูกาลอื่น และจะเกิดภัย ๓ อย่าง คือ ภัยเกิดจากความหิว เกิดจากโรคภัย เกิดจากคมหอกคมดาบ ”
จากนั้นก็เสด็จกลับไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระองค์

ข้อควรสังเกต

คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ถึงคราวคับขันย่อมมีผู้ช่วยเหลือ เหมือนสามีของนางสุชาดา ถึงคราวคับขันมีพระอินทร์มาช่วย ฉะนั้น

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
   ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
       อยากจะได้...
   หรืออยากจะเติม
คำค้น: นิทาน นิทานธรรม พระราชา พระอินทร์ นางสุชาดา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.307 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 12 พฤศจิกายน 2567 06:29:35