[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 20:38:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กายทิพย์ และ กายธรรม  (อ่าน 3561 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2553 00:29:37 »






กายทิพย์ และ กายธรรม


1. จิตตัวรู้ คือ วิญญาณธาตุบริสุทธิ์ เป็นจิตประภัสสร แต่ก็ยังเป็นกายทิพย์อยู่ เพราะ กายทิพย์ เป็นกายที่เกิดจากจิตยึดถือความนึกคิดถึงอารมณ์ไว้ แม้แต่อารมณ์เมตตากรุณาก็เป็นเหตุให้เกิดกายทิพย์ได้ เช่น พระพรหมที่เป็นรูปพรหม แม้แต่มหาพรหม และอรูปพรหมต่างๆ

2. วิญญาณธาตุบริสุทธิ์ เปลี่ยนจากชื่อเรียกว่า กายทิพย์ เรียกชื่อใหม่ว่า ธรรมกาย หรือกายธรรม หรือวิญญาณเหล่าพรหมสุทธาวาสหรือ วิญญาณเหล่าอรหันต์

3. อย่างไรก็ตาม วิญญาณธาตุบริสุทธิ์ หรือ กายธรรม ก็ยังเป็นจิตสังขาร เป็นกายทิพย์ที่วนเวียนอยู่ใน 3 ภพ

4. เราต้องดับวิญญาณธาตุบริสุทธิ์ หรือวิญญาณเหล่าพรหมสุทธาวาส หรือวิญญาณเหล่าอรหันต์ของตนเองเสีย ครั้นดับวิญญาณธาตุแล้ว ไม่ไปก่อภพก่อชาติอีก นั่นแหละพระนิพพาน

5. พระมหากัสสปะ พระพาหิระ หลวงพ่อสด พระครูเทพโลกอุดร ฯลฯ เหล่านี้ท่านบรรลุอรหันต์แล้ว แต่ท่านคงกายธรรมที่เป็นกายทิพย์บริสุทธิ์ของพวกท่าน ไว้ โดยใช้จิตเข้าไปพอใจ หรือเข้าไปยึดถือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยอาร มณ์อันใดอันหนึ่งไว้ เพราะ ถ้าจิตยังคงมีความพอใจเข้าไปยึดถืออารมณ์อันใดเอาไว้ ตราบนั้นมันก็จะสร้าง กายทิพย์ ที่เปลี่ยนชื่อเป็น กายธรรม ให้มีอายุยืนยาวได้

พระมหากัสสปะ จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รอพระศรีอริยะเมตตรัย และเข้านิพพานพร้อมกับพระศรีอริยะเมตตรัย

หลวงพ่อสด จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะเดินวิชาปราบมารเพื่อช่วยงานพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม

พระครูเทพโลกอุดร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รักษาพุทธศาสนาให้ครบ 5000 ปี

พระอวโลกิเตศวร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาหรือปณิธานเอาไว้ว่า "หากยังมีสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ จักไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ"

การตั้งความปราถนาหรือปณิธานของพระอรหันต์เหล่านี้ ทำให้กายทิพย์ที่เป็นกายธรรมของท่าน ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ต่อไป

อนึ่ง พระพุทธเจ้าบางท่านก่อนจะเข้านิพพาน ก็ให้ตัวของท่านอยู่ช่วย 3 โลกต่อไป เช่น พระสัทธรรมวิทยาพุทธเจ้า ก่อนจะเข้านิพพาน ท่านยังทรงมีจิตเมตตาต่อสัตว์โลกจึงได้เนรมิตรพระโพธ ิสัตว์จำนวนมากมาโปรด สัตว์ แต่เกิดเป็นพระอวโลกิเตศวรองค์เดียว

แม้แต่โคตมะพุทธเจ้า เข้านิพพาน ทางมหายานก็เชื่อว่า ก่อนที่พระองค์ท่านจะเข้านิพพาน ท่านให้ตัวของท่านอยู่ช่วย 3 โลกต่อไปเช่นกัน จึงเกิดกายที่เรียกว่า สัมโภคกายขึ้นมา แต่ในพุทธเถรวาทเชื่อว่าพระองค์มีแต่กายธรรมหรือธรรม กายเท่านั้น

พระนาคเสน มหาเถระ ผู้ตอบปัญหาพระเจ้ามิลินทราชา

" .....พระพุทธเจ้ามีจริง แต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนเปลวไฟที่ดับแล้วก็ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน อาจชี้ได้เพียงพระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น....."

นี่แสดงว่า พระนิพพานไม่อยู่ใน 3 ภพแล้ว คงเหลือแต่ จิตบริสุทธิ์ อยู่ใน 3 ภพ ที่เรียกว่า กายธรรม หรือ พระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

พึงตะหนักว่า สัมโภคกาย คือกายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่มีการแตกดับ อยู่ในสภาวะที่เป็นทิพย์ อยู่ชั่วนิรันดร์กาล น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวพุทธเถรวาทเรียกว่า "ธรรมกาย"

เนื่องจาก ตำราของสมมุติสงฆ์เชื่อว่า "ธรรมกาย" หมายถึง สภาวะอันเป็นอมตะ เป็นสิ่งไร้รูป ไม่อาจรับรู้ด้วยอำนาจสัมผัสใดๆ ไม่มีเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด ซึ่งก็ตรงกับคำว่า "นิพพาน"

อนึ่ง นิรมาณกายหรือกายมนุษย์ของพระพุทธเจ้านั้น เป็นการนิรมิตมาจากสัมโภคกาย และสัมโภคกายเป็นการนิรมิตออกมาจากธรรมกาย หรือ พระธรรม

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า:

"ดู ก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็ผู้ใดแล มีศรัทธาตั้งมั่น ในตถาคต เกิดขึ้นแล้ว แต่รากแก้ว คืออริยมรรค ประดิษฐานมั่นคง อันสมณพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือผู้หนึ่งผู้ใดในโลก ไม่พรากไปได้ควรเรียกผู้นั้นว่าเป็นบุตร เกิดแต่พระอุระเกิดจากพระโอษฐ์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม อันธรรมนิรมิตขึ้น (เป็นผู้ที่พระธรรมเนรมิตขึ้น)"


ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ในอัคคัญญสูตร

 ยิ้ม  http://www.tairomdham.net/index.php?topic=100.msg0;boardseen#new

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2553 21:58:11 »

วิญญาณธาตุบริสุทธิ์ หรือ กายธรรม หรือธรรมกาย เป็นการเรียกแบบเถรวาท  เรียกแบบมหายาน คือ "สัมโภคกาย"

ดับวิญญาณธาตุบริสุทธิ์ หรือดับวิญญาณเหล่าพรหมสุทธาวาส หรือดับวิญญาณเหล่าอรหันต์ จะเข้าถึงนิพพาน เป็นการเรียกแบบเถรวาท  เรียกแบบมหายาน คือ เข้าสู่ธรรมกายหนึ่งเดียว  เรียกแบบศาสนาฮินดู คือ อาตมัน(อรหันต์)แต่ละดวง เข้าไปรวมกับปรมาตมัน(ธรรมกายต้นกำเนิด)

ธรรมกายหนึ่งเดียว =  พุทธภาวะหนึ่งเดียว หมายถึง แสงสุกใสสกาวในท้องฟ้าอันเวิ้งวาง ซึ่งเป็นพุทธภาวะต้นกำเนิด ซึ่งอยู่นอกเหนือการบรรยาย

ธรรมกายในความหมายของมหายาน = ธรรมกายดั้งเดิมที่เป็นพระพุทธเจ้า(หรือพุทธภาวะ)หนึ่งเดียวในจักรวาลอันว่างเปล่า

ธรรมกายในความหมายของเถรวาท = ธรรมกายแต่ละดวง หรือ อายตนะนิพพานแต่ละดวง  ธรรมกายแต่ละดวง ไปรวมกับ ธรรมกายหนึ่งเดียว(อาทิพุทธ) คือ นิพพาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 สิงหาคม 2553 22:05:12 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
คำค้น: กายทิพย์ กายธรรม ธาตุ จิตประภัสสร  
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.367 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 18 ธันวาคม 2567 17:10:31