22 ธันวาคม 2567 17:14:53
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
.:::
แปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นชีวิตที่เบิกบาน และ งดงาม
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: แปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นชีวิตที่เบิกบาน และ งดงาม (อ่าน 2118 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7866
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99
แปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นชีวิตที่เบิกบาน และ งดงาม
«
เมื่อ:
12 กรกฎาคม 2553 22:29:33 »
Tweet
[ บทความนี้เคยถูกโพสท์ในบอร์ดเก่าโดย อ.มดเอ็กซ์ ]
โดย
ปรีดา เรืองวิชาธร
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
23 พฤศจิกายน 2551
หากเราหวนระลึกนึกถึง สภาพจิตใจที่ถูกบีบคั้นกดดัน หรือเจ็บปวดเป็นแผลฉกรรจ์ในบางช่วงแห่งชีวิต เราต่างตระหนักดีถึงรสชาติของมันและพร้อมเสมอที่จะผลักไสหรือหลีกเลี่ยงที่ จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกดังกล่าว สภาพความทุกข์ทางจิตใจที่เราแต่ละคนประสบนั้นย่อมมีทั้งความคล้ายคลึงเป็น ประสบการณ์ร่วมและมีทั้งที่แตกต่าง เหตุปัจจัยแห่งความทุกข์นั้นก็เช่นเดียวกันมีทั้งที่คล้ายคลึงและที่แตกต่าง กัน หลายคนมีประสบการณ์ร่วมในเรื่องเดียวกัน เช่น ถูกกระทำจากครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง ถูกกดขี่หรือถูกทารุณกรรมในเรื่องเพศ ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมจากคนในองค์กรเดียวกัน เป็นต้น ในขณะที่อีกหลายคนกลับมีประสบการณ์อันเจ็บปวดในเรื่องอื่น เช่น ถูกกระทำย่ำยีจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ ซึ่งส่งผลให้ชีวิต ครอบครัวและชุมชนของเขาแทบสิ้นไร้ไม้ตรอก เป็นต้น
สภาพความเจ็บปวดทุกข์ทนดังที่กล่าวมานี้ ย่อมทำให้เรารู้สึกโกรธเกลียดต่อผู้ที่กระทำต่อเรา รู้สึกชิงชังและขยะแขยงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นหากคนผู้นั้นหรือเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับอดีตอันเจ็บปวดได้ว่าย เวียนเข้ามาในชีวิตเราอีก หรือแม้แต่เราเผลอคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงอดีตที่ขมขื่นนั้นก็อาจทำให้เรา สั่งสมพลังแห่งความโกรธเกลียดจนอาจแสดงพฤติกรรมอันก้าวร้าวรุนแรงออกไปโดย ที่เราเองก็อาจคาดไม่ถึงว่า เราแสดงออกไปได้อย่างไร หลายครั้งเราได้แต่นั่งสำนึกเสียใจในการกระทำของเรา และย้อนกลับมารู้สึกชิงชังรังเกียจอารมณ์ด้านร้ายของเรา แต่ผ่านไปสักช่วงหนึ่งเราก็แสดงอย่างนั้นอีกเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และดูเหมือนว่ามันจะมีพลังเข้มข้นและเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วด้วยกระมัง ใช่ไหมว่า ตอนนี้พลังที่ว่านี้ มันมีอิทธิพลครอบงำเหนือจิตใจของเราอย่างยากที่จะรู้เท่าทันแล้ว
อย่างไรก็ตามอารมณ์ความรู้สึกโกรธเกลียดก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา เป็นส่วนหนึ่งเช่นเดียวกับความเมตตากรุณา ความเบิกบานอันเป็นด้านดีของจิตใจเรา เราเองก็ไม่อยากให้ความโกรธเกลียดอันเนื่องจากความเจ็บปวดมันสำแดงพลังอำนาจ เหนือจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ครั้นเราจะผลักไสอารมณ์ด้านร้ายของเราออกไป ทำดังกับว่ามันเป็นศัตรูตัวฉกาจของเรากระนั้นหรือ จริงๆแล้วเราจะสามารถผลักไสอารมณ์ด้านร้ายดังที่ว่ามาได้จริงละหรือ กระทำเยี่ยงนี้แล้วมันจะให้ผลดีขึ้นจริงหรือ
ในทางพุทธศาสนานั้นอธิบายว่า ความทุกข์ทางจิตใจของมนุษย์เกิดจากรากเหง้าแห่งความไม่รู้จริงในสัจภาวะของ สรรพสิ่งทั้งปวง ว่ามันไม่ได้ดำรงตนอยู่อย่างโดดๆ หากแต่ประกอบกันขึ้นเป็นสิ่งนั้นเป็นสิ่งนี้ตามเหตุปัจจัย เป็นไปตามความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เป็นอยู่ในสภาพที่ไม่มีตัวตนแท้ถาวร แต่เพราะเรารับรู้อย่างผิดพลาดอยู่เกือบตลอดเวลาจนทำให้หลงยึดมั่นถือมั่น ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงดำรงอยู่อย่างไม่แปรเปลี่ยน ทุกสรรพสิ่งมีตัวตนแท้ดำรงอยู่อย่างอิสระ มองว่าตัวเราเองเป็นอิสระจากสิ่งอื่น คนอื่น แยกตัวเราออกจากสิ่งอื่นรอบตัวอย่างเด็ดขาด มองไม่เห็นว่าตัวเรานั้นสัมพันธ์เชื่อมโยงอย่างไรกับสิ่งอื่น คนอื่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราหลงยึดว่า มีตัวกูของกูที่เที่ยงแท้แน่นอน อันเป็นความเห็นที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีตัวกูที่กำลังทุกข์และมีความ ทุกข์ที่คงที่ตายตัวที่เรามักแช่แข็งไว้ในใจตลอดเวลาเป็นต้น
ท่านติช นัท ฮันห์ พระเซนชาวเวียดนามได้อธิบายกระบวนการเกิดทุกข์ และการแปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นชีวิตที่เบิกบานและงดงามไว้ ดังนี้
จิตใจของเรานี้เปรียบไปก็คล้ายกับผืนนาอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่พร้อมจะรองรับเมล็ดพันธ์ทุกชนิด ดังนั้นแต่ละขณะของชีวิตจิตใจของเราจะทำหน้าที่รับรู้ และเก็บเอาทุกสิ่งทั้งดี ร้าย และไม่ดีไม่ร้ายไว้ และหากเราหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ชนิดใดไว้ เมล็ดพันธุ์นั้นก็จะเติบโตงอกงามขึ้นมามีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา ด้วยเหตุนี้จิตใจที่ถูกกระทำให้เกิดความทุกข์ความเจ็บปวดดังกล่าวในข้างต้น แล้วนั้น จิตใจของเราก็จะรับรู้และเก็บเอาเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์นั้นไว้ และหากเราไม่มีสติรู้เท่าทันสรรพสิ่งตามที่เป็นจริง ปล่อยให้เกิดการรับรู้อย่างผิดพลาดเสมอๆ ก็เท่ากับเราได้รดน้ำพรวนดินหล่อเลี่ยงให้เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์นั้นเติบ โต ซึ่งมันจะออกโรงปรากฏให้เราเห็นดังที่กล่าวมา
ไม่เฉพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือความเคียดแค้นชิงชังเท่านั้น เมล็ดพันธุ์แห่งความละโมบ ความทะยานอยากทั้งหลาย เมล็ดพันธุ์แห่งความรู้สึกเปรียบเทียบแล้วถือตนว่า เหนือหรือต่ำกว่าคนอื่น ฯลฯ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน ยิ่งเมล็ดพันธุ์แห่งการติดยึดภาพลักษณ์แห่งความดีด้วยแล้ว ก็ยิ่งยากนักที่เราจะรับรู้อย่างเท่าทันตามที่เป็นจริง จึงง่ายที่จะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยากที่จะถ่ายถอนบรรเทาให้เบาบาง ลง
การพลิกเปลี่ยนจากพลังด้านร้ายของชีวิตให้เป็นพลังด้านดีนั้น กุญแจสำคัญอยู่ที่การหมั่นฝึกฝนสติให้แหลมคมมีพลังเพียงพอที่จะรู้เท่าทัน จิตใจ ทำให้เกิดการรับรู้อย่างตรงไปตรงมา ไม่รับรู้อย่างผิดพลาดหรือหลงติดในภาพสัญลักษณ์ที่เราสมมุติกันขึ้น หลงเข้าใจว่าสรรพสิ่งเป็นอิสระ ดำรงอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง ตัวเราเป็นอิสระดำรงอยู่อย่างไม่สัมพันธ์กับสิ่งอื่น คนอื่น สติที่ถูกฝึกมาดีแล้วย่อมเป็นเสมือนอุปกรณ์สำคัญสำหรับการแปรเปลี่ยนราก เหง้าแห่งอกุศลให้เป็นกุศล ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ชีวิตเกิดความเบิกบานและงดงาม ท่านติช นัท ฮันห์ กล่าวว่ามีอยู่ ๓ ทางที่เราจะแปรเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ให้ชีวิตพบกับความเบิกบานและ งดงาม ดังนี้
๑.พยายามใช้พลังแห่งสติสาดแสงเข้าไปในจิตใจ เพื่อหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความเบิกบานและงดงามที่มีอยู่ในตัวเราให้ เติบโตงอกงามอยู่เสมอ โดยเปิดโอกาสให้เมล็ดพันธุ์ด้านดีของเราปรากฏตัวออกทั้งทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เท่าที่จะทำได้ ปล่อยให้เมล็ดพันธุ์ที่ว่านี้ได้แปรสภาพเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์โดยทางอ้อม นับเป็นการแปรสภาพความทุกข์ให้อ่อนพลังลงเรื่อยๆ โดยเราไม่จำต้องจัดการโดยตรงกับเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ วิธีการนี้เหมาะควรกับบางคนที่มีปมแห่งความทุกข์ความเจ็บปวดลึกซึ้ง และทนได้ยากที่จะเผชิญหน้าตรงๆ กับความทุกข์ การใช้สติหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความเบิกบานและงดงาม จึงเป็นวิธีการทางอ้อมที่จะลดความเข้มข้นของเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ให้ เจือจางบรรเทาลงได้บ้าง จากนั้นจึงขยับไปใช้วิธีการในข้อต่อไป
๒. วันคืนแห่งการเจริญสติหากช่วงใดขณะใดที่เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ปรากฎตัวขึ้นมา ให้เราใช้พลังแห่งสติลูบไล้สัมผัสกับเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์นั้น เมื่อถูกสัมผัสด้วยพลังแห่งสติแล้วเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์นั้นย่อมอ่อน กำลังความเข้มข้นลง เพียงเราใช้สติเพื่อรู้เท่าทันเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์อย่างกล้าหาญเท่า นั้น ความทุกข์ที่มีอำนาจเหนือจิตใจเรามาโดยตลอดก็ย่อมอ่อนกำลังแปรเปลี่ยนสภาพไป ในที่สุด
๓.เชื้อเชิญเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์นั้นให้ปรากฎอยู่ในการรับรู้ของจิตใจเราไปเลย วิธีการนี้เหมาะกับบางคนที่มีสติและจิตใจเข้มแข็งมั่นคงระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องรอให้เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์มาปรากฏตัวอย่างมิได้คาดฝัน แต่เรากลับเป็นฝ่ายเชื้อเชิญมันมาสู่การรับรู้ของเรา ทำดังกับว่าเราพบกับเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานานแล้วเชื้อเชิญเขามาสู่การ พูดคุยกันอย่างลึกซึ้ง สติที่ถูกฝึกมามาดีระดับหนึ่งแล้ว ย่อมทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความทุกข์ได้อย่างกล้าหาญ ซึ่งจะนำไปสู่การประจักษ์แจ้งถึงความจริงของสรรพสิ่งตามที่มันเป็น อันจะเป็นการบั่นรอนห่วงโซ่แห่งความยึดมั่นถือมั่นให้ขาดลง แล้วเข้าถึงสภาวะแห่งความเบิกบานและงดงามในที่สุด เป็นการประจักษ์แจ้งในขณะที่เรายังเวียนว่ายในสังสาระนี้แล
วิธีการทั้ง ๓ ที่กล่าวมานี้ เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับตัวเรา หากเราริเริ่มใส่ใจฝึกฝนนับแต่บัดนี้ ความเบิกบานและงดงามแห่งชีวิตก็พลันจะปรากฏขึ้นในทุกขณะแห่งชีวิต ยิ่งอำนาจแห่งสติครอบครองจิตใจได้นานและบ่อยครั้งเพียงใด ความเบิกบานและงดงามในชีวิตยิ่งจะมั่นคงยั่งยืนมากขึ้นเท่านั้น
http://sph.thaissf.org/index.php?module=article&page=detail&id=79
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
คำค้น:
แปรเปลี่ยน
ความทุกข์
ชีวิต
เบิกบาน
งดงาม
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...