[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 พฤศจิกายน 2567 04:05:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มนต์คาถาของนกยูงทอง  (อ่าน 3979 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553 21:03:29 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/01.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/01.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/sec2/2buddhapower/01.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>


(:LOVE:)ถ่ายภาพโดย(บางครั้ง) รัก


พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนกยูง มีขนสีเหลืองเหมือนทอง จึงมีชื่อว่านกยูงทอง อาศัยอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ตามปรกตินกยูงทอง พอถึงเวลาเช้าก็จะไปจับบนยอดภูเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออก แลดูดงอาทิตย์ที่แรกขึ้น แล้วเจริญมนต์ว่า อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง ส่องพื้นภิภพให้สว่าง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการพระอาทิตย์ ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดวัน ข้าพเจ้าขอมนัสการผู้รู้ธรรม ขอให้รักษาข้าพเจ้า ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ จงมีแด่ท่านผู้พ้นทุกข์ ดังนี้ พอเจริญมนต์เสณ้จแล้วก็ไปหาอาหาร การเจริญมนต์ของนกยูงทองตอนนี้ เพื่อคุ้มครองป้องกันในเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นกลับมาจากหาอาหารแล้วก็ขึ้นไปจับบนยอดเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตก แลดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก เจริญมนต์ว่า อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีใจความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์อันเป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง กำลังจะตกไปแล้ว ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดคืน เป็นต้น การเจริญมนต์ของนกยูงตอนนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันตนในเวลากลางคืน จริยาวัตรดังกล่าวนี่ นกยูงได้ทำเป็นเนืองนิตย์ทุกวันทุกคืน จึงอยุ่เป็นสุขปราศจากอันตรายตลอดมา
อยู่มาวันหนึ่ง พระนางเขมาอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงสุบินเห็นนกยูงทองแสดงธรรมให้ฟังอย่างไพเราะจับใจ ครั้นตื่นขึ้นก็กราบทูลพระราชาสวามี และทูลประสงค์จะฟังธรรม ของนกยูงทองที่ทรงสุบินนั้น พระราชสามีเที่ยวสืบถามเหล่าพรานไพรก็ทรงทราบจากลูกชายของพรานคนหนึ่งซึ่ง พ่อของเขาได้บอกว่าก่อนตายว่า มีนกยูงสีทองตัวหนึ่งอาศัยที่ภูเขาโน้น จึงสั่งให้จับมาถวาย แต่อย่าทำให้ถึงตาย พรานไพรก็เอาบ่วงไปดักในที่ที่นกยูงทองเที่ยวหากิน เมื่อยกยูงทองเหยียบที่บ่วง บ่วงไม่สามารถทำอะไรนกยูงทองได้ ด้วยอำนาจมนต์ที่นกยูงทองเจริญอยู่เป็นนิตย์ นายพรานพยายามดักอยู่ถึงเจ็ดปีก็จับไม่ได้จนตัวตาย พระนางเขมาราชเทวเมื่อไม่ได้สมความปรารถนาก็เศร้าโศกซูบผอมตรอมพระทัยจนสิ้น พระชนม์ พระราชาพิโรธเป็นกำลังที่มเหสีต้องสิ้นพระชนม์ลงเพราะนกยูงทอง จึงทรงจองเวร ให้อาลักษณ์จารึกหนังสือไว้บนแผ่นทองว่า มีนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขา ถ้าใครได้กินเนื้อนกยูงทองตัวนี้จะอายุยืนไม่แก่ตาย จารึกแล้วบรรจุแผ่นทองลงในหีบเพื่อคนภายหลังจะได้อ่าน ต่อมาพระราชาก็สวรรคต
พระราชาองค์ต่อมาผู้สืบสันตติวงศ์ทรงอ่านแผ่นทองนั้น สำคัญว่าเป็นจริงจึงสั่งให้พรานไปดักจับก็ไม่สมพระราชประสงค์ จนคราวหนึ่งพรานคนหนึ่งสังเกตุว่า ทำไมหนอบ่วงจึงไม่รูดรัดเท้านกยูงทองตัวนี้ เมื่อสะกดรอยดูก็เห็นนกยูงทอเจริญมนต์ทุกเชาทุกเย็น จึแน่ใจว่าเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้นกยูงทองไม่ติดบ่วง นายพรานคิดอุบายขึ้นมาได้จึงไปจับนางนกยูงตัวหนึ่งมาฝึกให้รู้อาณัติสัญญาณ เช่นดีดนิ้วมือนกยูงก็ร้อง ถ้าปรบมือนางนกยูงก็ฟ้อนรำ เมื่อฝึกสอนจนชำนาญแล้ว จึงอุ้มนางนกยูงไปแต่มืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วดักบ่วงไว้ก่อนที่นกยูงทองจะเจริญมนต์ พอเสร็จดีดนิ้วมือขึ้น นางนกยูงจึงส่งเสียงด้วยสำเนียงไพเราะจำใจพอนกยูงทองได้ยิเสียงร้องของนางนก ยูง ก็รุ่มร้อนด้วยอำนาจกิเลสลืมเจริญมนต์รีบโผบินไปยังที่นางนกยูงอยู่ พอโผบินลงจากอากาศเท้าก็สอดเข้าในบ่วง นายพรานจึงนำนกยูงทองไปถวายพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินทรงพอพระราชหฤทัยมากที่จะได้เสวยเนื้อนกยูงทอง จะได้ไม่แก่ตายตามคำจารึกนั้น แต่ก่อนจะเสวยจึงใครจะสนทนากับนกยูงทองเสียก่อน จึงจัดที่ให้นกยูงทองจับ เมื่อนกยูงทองจับที่นั้นแล้ว จึงทรงทูลถามที่เหตุที่ทรงดักจับได้ พระเจ้าแผ่นดินก็ตรัสเล่าให้ตามที่ปรากฎในจารึกนั้น นกยูงทองจึงทูลว่า ทำไมพระองค์จึงเชื่อดังนั้น ถ้าเนื้อของข้าพเจ้าวิเศษจริงถึงกับทำให้คกินไม่แก่ไม่ตายจริง แต่นี่ไม่เป็นเช่นนั้น แม้ข้าพเจ้ายังต้องตาย ไฉนผู้กินเนื้อข้าพเจ้าจะไม่ตายเล่า ขอพระองค์ได้เชื่อตามนั้นเลย กรรมหนักจะตกแก่พระองค์ แล้วนกยูงทองก็แสดงอานิสงส์ของการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนพระเจ้าแผ่นดินทรงเลื่อมใส รับใส่ให้ปล่อยนกยูงทองไป แล้วออกหมายประกาศไม่ให้ผู้ใดทำร้ายสัตว์ทุกชนิดในพระราชอาณาเขตของพระองค์ มนต์บทนี้ถือกันว่า ทำให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวงฯ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 21:27:46 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553 21:08:29 »





พระคาถายูงทอง ป้องกันอันตราย ของหลวงปู่มั่นโมระปะริตตัง(คาถายูงทอง)



อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ
อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง
เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม
เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ

นะมัตถุ พุทธานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
นะมัตถุ โพธิยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่พระโพธิญาณ
นะโม วิมุตตานัง : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
นะโม วิมุตติยา : ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแด่วิมุตติธรรม
๑. พระอาทิตย์ เป็นดวงตาของโลก ป็นเอกราชา มีสีดั่งสีทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่างอุทัยขึ้นมา เพราะเหตุนั้น
ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้นซึ่งมีสีดั่งสีทอง ยังพื้นปฐพีให้สว่าง
ข้าพเจ้าทั้งหลายอันท่านปกครองแล้วในวันนี้
พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน

๒. พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าฯ
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักษาข้าพเจ้า
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรม
นกยูงนั้นได้กระทำพระปริตรบทนี้แล้ว จึงเที่ยวไปเพื่อแสวงหาอาหาร

๓ . พระอาทิตย์ เป็นดวงตาของโลก ป็นเอกราชา มีสีดั่งสีทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่าง ย่อมอัสดงคตไป เพราะเหตุนั้น
ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้นซึ่งมีสีดั่งสีทอง ยังพื้นปฐพีให้สว่าง
ข้าพเจ้าทั้งหลายอันท่านปกครองแล้วในวันนี้
พึงอยู่เป็นสุขตลอดคืน

๔ .พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น จงรักษาข้าพเจ้า
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรม
นกยูงนั้นได้กระทำพระปริตรบทนี้แล้ว จึงสำเร็จความอยู่แล ฯ



............................ตำนาโมระปริตร...........................


จาก..............................http://www.dhammajak.net/

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 21:26:59 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น: พุทธ ตำนาน บางครั้ง บารมี เป็นกลาง อุทาน กำหนด รู้แจ้ง สัทธรรม dhamma 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.332 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 14 พฤศจิกายน 2567 08:51:15