http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdOekkzTURnMU13PT0=§ionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBeE1DMHdPQzB5Tnc9PQรูปแบบของยันต์ในมีความคล้ายคลึงกัน โดยส่วนใหญ่จะใช้อักษร ขอม เป็นตัวเขียนซึ่งเป็นการใช้แทนภาษา บาลี ที่ไม่มีตัวเขียน และตัวเขียนในยันต์ล้วนเป็นอักษรย่อจากคาถาต่าง ๆ จากพระสูตรหรือคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นบันทึกไว้อีกทีหนึ่ง
พระครูปลัดสิทธิสังวร วัดราชสิทธาราม ผู้เชี่ยวชาญยันต์สายวัดพลับระบุ เลขยันต์ไม่ได้เป็นความเชื่อที่งมงาย แต่เป็นกุศโลบายในการดึงคนให้เข้าสู่ธรรมะเบื้องสูง อย่างยันต์ที่เขียนว่า อุ อา กะ สะ คือคาถาหัวใจเศรษฐีที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้
อุ ย่อมาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร อา ย่อมาจากคำว่า อารักขสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยการรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ กะ ย่อมาจากคำว่า กัลยาณมิตตตา แปลว่า การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว สะ ย่อมาจากคำว่า สมชีวิตา แปลว่า การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมทั้ง 4 ประการนี้ก็ไม่มีทางรวยได้ ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณท่านจะสอน
เพื่อให้คนได้เข้าถึงธรรมะ
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นพันธกิจหนึ่งของสพร ที่จะช่วยต่อยอดขยายองค์ความรู้ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาของคนไทย ให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในวงวิชาการและการศึกษาต่อไป.......................................จบข่าว....................................