ทำสมาธิมือใหม่ อย่าใช่บทแผ่เมตตาที่พระสอน...เจอผีแน่คุณtalasa แนะนำว่า:
โดยปรกติแล้ว หลายท่านเวลาที่แผ่เมตตา มักจะใช้บทแผ่เมตตาบทนี้
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้มีเวรให้แก่กันเลย
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้เบียดเบียนทำร้ายกันเลย
อะนีฆา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้มีความทุกข์ทางกายและความทุกข์
ทางใจใด ๆ เลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ - ขอให้มีความสุข รักษาตัวเองให้รอดพ้นไปได้ด้วยเถิด
ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อแผ่เมตตา หลายท่านจะกล่าวบทเหล่านี้ รวมกันไป ผมไม่แนะนำให้ใช้บทแผ่เมตตาใดๆของคุณทั้งนั้น
เพราะอะไรรู้ไหมครับ1. บทเหล่านั้นเป็นบทของพระภิกษุทั่วๆไป ประชาชนนำไปใช้ ผมรับประกันเลยครับ เจอ
ผีหลอกแน่นอน ผีที่ได้รับกุศลจากการแผ่เมตตาของคุณ พวกมันไม่หลอกคุณแน่ ไอ้ผีที่หลอกเป็นพวกที่ไม่ได้รับกุศลจากคุณ
สัพเพ สัตตา = ทั้งหมด หรือทุกดวง
แล้วคุณมีผลบุญขนาดไหนกัน จึงเรียกทุกสรรพชีวิตทั้งหมดมารับส่วนแบ่งกัน เหมือนคุณมีข้าวจานเดียว เสือกไปตะโกนว่า "พวกเราทั้งหมดมากินอาหารกัน" ...มันบ้าไหม
2. น้องผมเคยอยู่อิหร่าน มันทะลึ่งใช้บทสัพเพ สัตตา พอมันนอน นอนไม่ได้เลย ผีตัวนั้นตัวนี้มาอำ ไอ้ผีที่ได้รับส่วนบุญจากการแผ่เมตตา มันก็มาดี ขอบคุณใหญ่ บอกด้วยว่ามันอิ่มจากบทสวดนี้ ไอ้ผีที่ไม่ได้รับส่วนบุญจากการแผ่เมตตาน่ะซิ มันจะเอาตาย ขยี้พลังลงมาใส่
3. ผมแผ่เมตตาตอนที่อยู่ในฌานเลย จะหวะนั้นพลังจิตจะสูงที่สุด แผ่ระบุไปเลยว่าให้ใคร ญาติเราคนไหน อย่าไประบุทุกคนที่เป็นญาติเรานะ มันมีมากมายมหาศาล เดี๋ยวเจอดีแบบเดียวกัน
4. พอสมาธิเราแข็งแกร่งขึ้น วิญญาณที่เขาเดือดร้อนเขาจะมาให้เรารู้เองตอนอยู่ในสมาธิ บางทีมากันเป็นแสนดวง ก็พายุนากิสที่ฆ่าประชาชนพม่านั่นไง วิญญาณเหล่านั้นมาหาผม(รู้ในจิต) ผมเห็นแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นแสนดวง ผมเลยบอกพวกเขาว่า ช่วยไม่ไหวในวันเดียว ใครรับกุศลจากการแผ่เมตตาของผมแล้วก็ไปเลย ไม่ต้องมาขอบคุณ และไม่ต้องมาหาอีก มาเฉพาะที่ยังไม่ได้รับกุศล พวกเขาก็ทำตามนั้น
กว่าวิญญาณพวกพม่าจะรับผลบุญครบ ผมต้องแผ่เมตตา 6 วัน วันสุดท้ายผมขอให้เขาส่งตัวแทนมาคนหนึ่ง ให้ผมเห็นทางจิตเลย และให้มาสัมผัสตัวผมได้ ผมจะได้รู้ว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เพราะตอนที่พวกเขามา ผมเห็นแต่หัวในความมืด เยอะมากเหลือเกิน
วิญญาณพวกพม่าก็ส่งตัวแทนมาคนหนึ่งจริงๆ เป็นผู้ชายนุ่งสโร่งแบบพม่า อ้วนนิดๆพองาม มาจับมือขอบคุณผมใหญ่ ผมเห็นจะจะ วิญญาณของเขามาจับมือ สัมผัสตัวผม(กายทิพย์,วิญญาณ)ด้วย จึงรูว่าไม่ใช่ความฝัน
ครั้งนั้นผมประเมินว่า กระแสเมตตาของผม วิญญาณที่ได้รับประมาณ 20,000 ดวง ต่อครั้ง แล้วก็ต้องชาร์ตพลังใหม่5. เมื่อปีก่อนผมไปอุดร พอเข้าไปในโรงแรม ก็รู้ทันทีว่า โรงแรมนี้มีผี ผมก็คิดในใจว่า ผีพวกนี้โชคดีจริงๆที่ผมมานอนที่นี่ ตกดึกผมก็นั่งทำสมาธิ พอทำไปสักครึ่งชั่วโมง ก็แผ่เมตตาให้เหล่าผีทั้งหมดในโรงแรม หลังจากนั้นมาคิดดู เดี๋ยวผมนั่งสมาธิอีก 15 นาที และแผ่เมตตาออกไปให้บรรดาสรรพวิญญาณระบุไปว่าทั้งหมดในจังหวัดนั้นเลย ดูว่าเขาจะได้รับจำนวนสักกี่ดวง เพราผมบอกให้เขามาหาด้วย
ปรากฏว่าตอนผมนอน มีเทวดาคนหนึ่งมาปลุก บอกว่า
"ท่านมีวิญญาณมาหาท่านเยอะแยะเลย" ผมก็ถามว่าสักกี่ดวง เทวดาตอบ
"200,000 ดวง"ตอนนั้นผมง่วงมาก เลยให้เทวดาช่วยไปบอกพวกเขาว่า
"กลับไปได้แล้ว ผมไม่ไหวแล้ว ต้องนอน"เทวดากลับมาอีกทีบอกว่า
"เขาไม่ยอมกลับ ต้องมาขอบคุณท่าน"ผมก็สวนคำไปว่า
"วิธีขอบคุณผมที่ดีที่สุด คือ ให้ผมนอน พรุ่งนี้ผมจะไปธุระ"คราวนี้วิญญาณเหล่านี้ จะขอบคุณ หรือโกรธ หรืออย่างไงไม่รู้ เล่นดับไฟ ดับแอร์ ห้องผมหมดเลย ผมจึงต้องตื่น ไปเข้าห้องน้ำ ผมสังเกตดู ไฟข้างนอกห้องผมยังติดอยู่นี่หว่า
พอผมกลับมา ก็นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้วิญญาณเหล่านั้นอีกครั้ง บอกพวกเขาว่า
"เปิดไฟ เปิดแอร์ได้แล้ว ให้ผมอยู่ในความมืดสนิท ผมยังไม่บรรลุอรหันต์นะ ความกลัวยังมี แล้วไอ้ความกลัวนี่แหละ มันจะทำให้จิตเสียสมาธิ แผ่เมตตาให้พวกท่านไม่ได้"ทันทีที่ผมพูดในจิตเสร็จ ทั้งไฟทั้งแอร์ก็ติด แล้วผมก็นั่ง-นอนทำสมาธิแผ่เมตตาให้เหล่าวิญญาณที่มาหาอีกครั้งหนึ่ง ระบุก่อนเลยว่า
...ให้วิญญาณที่ยังไม่ได้รับผลบุญ รับไปก่อนเลย วิญญาณที่รับไปแล้ว รับทีหลังผมก็แค่เตือนและแนะนำเท่านั้นนะครับ เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกท่านถ้าทำสมาธิแล้วจิตอ่อนไสว ความกลัว ความโกรธ ความเกลียด ฯลฯ เบาบางลง เหมือนผมในทุกวันนี้ ผมใช้บทแผ่เมตตาอย่างที่ท่านtalasaและพวกพระสอนได้ครับ