ผู้เชี่ยวชาญชี้คลิปฟ้ามีตา อาจเกิดจากอิทธิพลของดาวศุกร์ หากถ่ายภาพมาก่อนเดือนพฤษภาคม 2553
ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาพไม่ฟันธงคลิปตัดต่อหรือไม่ เพราะเนียนกว่า 90%
หลังจากที่มีชาวบ้าน จ.พังงา ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพฟ้าแลบ และก้อนเมฆรวมตัวกัน คล้ายดวงตา
และจมูกของคน หรือที่เรียกกันว่าคลิป "ฟ้ามีตา" ไว้ได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มเมือง
จนระบาดมาในวงอินเทอร์เน็ต ว่าอาจจะเป็นอาเพศหรือลางบอกเหตุอะไรหรือไม่นั้น
อ.สิทธิชัย จันทรศิลปิน หัวหน้างาน และนักวิชาการท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ ได้กล่าวถึงเรื่องคลิป ฟ้ามีตา
นี้ว่า ตนกำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ว่า คลิปนี้ถูกถ่ายขึ้นตั้งแต่เมื่อใด หากถ่ายในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2553
ก็บอกได้ว่า คลิปฟ้ามีตา นี้น่าจะเกิดจากอิทธิพลของดาวศุกร์ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมฆจะไม่ได้มีความหนาเท่ากันทั้งก้อน
ดังนั้นเมื่อถูกพัดพาก็จะเห็นมีรูปร่างความหนาแตกต่างกันได้
ขณะที่ภาพน่ากลัวที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเมฆฝนถูกพัดพามาทับดาวศุกร์ที่มีความสว่างมาก ๆ ในทิศตะวันตก
ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ที่ตรงกลางตาอีกข้างแสงจะไม่สว่างจ้าเท่าตรงที่มีดาวศุกร์ อย่างไรก็ตาม หากคลิปนี้ไม่ได้ถ่ายขึ้น
ก่อนในเดือนพฤษภาคม 2553 ข้อสันนิษฐานเรื่องดาวศุกร์ก็ตกไป
ทั้งนี้ อ.สิทธิชัย ฝากเตือนไม่ให้ตื่นตระหนก เพราะในฐานะที่ทำงานเรื่องท้องฟ้ามานาน จะได้เห็น
ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่แปลก ๆ อยู่เสมอ
ขณะที่ ผศ.ดร.ชวาล คูร์พิพัฒน์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายและเทคโนโลยีทางการพิมพ์
คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงประเด็นว่าคลิปฟ้ามีตาจะเป็นการตัดต่อได้หรือไม่ ว่า
สมัยนี้กล้องดิจิตอลทำได้ทุกอย่าง หากคนทำเป็นมืออาชีพ ส่วนเรื่องคลิปฟ้ามีตานี้ ได้ลองตรวจพิสูจน์แล้ว
พบว่าสีของภาพค่อนข้างกลมกลืน เนียนกว่า 90% หากมีใครตัดต่อขึ้นมา ถือว่าเป็นมืออาชีพที่เก่งมาก
แต่ตนคงไม่สามารถระบุได้ว่า ภาพนี้เป็นการตัดต่อหรือไม่
ที่มา: กระปุก ดอทคอม