[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 พฤศจิกายน 2567 02:53:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อโต้แย้ง กรณี ดื่มน้ำเย็นเป็นอันตราย ทำให้เกิดมะเร็งได้  (อ่าน 4300 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7871


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 06 กันยายน 2553 12:19:10 »

จากกรณีฟอร์เวิร์ดเมลล์
ที่กระจายไปทั่ว บอกไว้ว่า
การดื่มน้ำเย็นเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ถึงขั้นทำให้เกิดมะเร็ง
ตามข้อความด้านล่าง



http://upic.me/i/3y/21untitled1.jpg
ข้อโต้แย้ง กรณี ดื่มน้ำเย็นเป็นอันตราย ทำให้เกิดมะเร็งได้


บทความนี้ สำหรับคนที่ชอบกินน้ำเย็น โดยเฉพาะ

เวลาได้กินน้ำเย็นๆ สักแก้ว หลังอาหาร   รู้สึกมันชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่า น้ำเย็นจะทำให้ไขมัน
ที่คุณเพิ่งกินเข้าไปเมื่อกี๊จับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันเหล่านี้
ไปทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วจะถูกดูดซึมไปที่ลำไส้   ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็ว
กว่าอาหารทั่วไป  แล้วก็จะเริ่มเคลือบลำไส้ของเราไว้  (ด้านใน) ในไม่ช้ามันก็จะแปรสภาพเป็น
ไขมันก้อนๆ  และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด     ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า   ขอเพิ่มเติม
เกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจ  เวลาที่เกิดอาการไม่จำเป็นว่าจะต้องเจ็บที่แขนซ้ายเสมอไป
ถ้าคุณมีอาการปวดกรามหรือขากรรไกรก็อาจจะเป็นสัญญาณของโรคหัวใจได้ แม้ว่าคุณจะเป็นโรคหัวใจ 
แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บหน้าอก    อาการเหงื่อออก คลื่นไส้ ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับ
โรคทั่วๆไป     60 %  ของคนที่โรคหัวใจกำเริบขณะหลับมันจะไม่ตื่น(อีกเลยรึเปล่าก็ไม่รู้) 
แต่อาการปวดกราม อาจจะทำให้คุณตื่นขึ้นมากลางดึกได้   ก็ให้ระวังดูและตัวเองถ้ามีอาการเหล่านี้






ดูน่ากลัวใช่ไม๊ครับ ถ้างั้นเราเลื่อนลงไปอ่านข้อเท็ริงกันดีกว่า


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7871


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 กันยายน 2553 12:19:59 »

          ผู้เขียนได้รับอีเมลฉบับหนึ่ง จั่วหัวว่า “ดื่มน้ำเย็น สดชื่นดี แต่อันตราย” พอเปิดอ่านตอนแรกก็ตกใจ เพราะปัจจุบันใคร ๆ ก็ดื่มน้ำเย็นกันทั้งนั้น โดยข้อความที่ส่งต่อ ๆ กันมามีใจความว่า “เวลาได้กินน้ำเย็น ๆ สักแก้ว หลังอาหารมันรู้สึกชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่าน้ำเย็น จะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปจับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วถูกดูดซึม  ไปที่ลำไส้ ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไปแล้วจะเคลือบลำไส้เราไว้ ในไม่ช้ามัน ก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อน ๆ และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหาร ดีกว่า”       
 
          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์  อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า ความจริงการดื่มน้ำเย็นหลังอาหารคงไม่เป็นอันตราย   ถึงขั้นทำให้ไขมันจับตัวเป็นไขเป็นก้อนขนาดนั้น เพราะปกติอุณหภูมิร่างกายคนเราอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส น้ำที่เราดื่มเข้าไปถึงจะเย็น แต่ร่างกายเราร้อนอยู่แล้ว ก็จะเปลี่ยนให้เป็นน้ำอุ่น ๆ อยู่ดี ไขมันกว่าจะจับกันเป็นก้อนแข็ง ต้องอาศัยอุณหภูมิเหมือนอยู่ในตู้เย็น 3-4 องศาเซลเซียส กรณีนี้จึงเป็นข้อความหลอก
 
          ถ้าถามว่า เราควรจะดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดี ก็ต้องขอเรียนว่า น้ำเย็นจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น เพราะว่าน้ำเย็นดูดซึมได้เร็วกว่า ตรงนี้เป็นข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ เขาบอกเลยว่า น้ำที่ควรจะดื่มถ้าอยากให้สดชื่น ออกกำลังกายได้อึดขึ้น อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส  หรือง่าย ๆ คือ ให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย
 
          ไม่มีงานวิจัยฉบับไหนเลย ที่บอกว่าดื่มน้ำเย็นแล้วจะเป็นมะเร็ง  อีเมลในลักษณะนี้มีการส่งต่อกันไปทั่ว แม้แต่ในต่างประเทศ ดูเหมือนจะเป็นวิชาการ แต่กลับไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มารับรอง ทำให้คนกลัวกันมาก ดังนั้นคนที่ได้รับอีเมลจะต้องใช้วิจารณญาณให้ดี
 
          การดื่มน้ำเย็นเป็นผลดีด้วยซ้ำเพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำอุ่นขึ้น โดยน้ำ 1 แก้ว จะช่วยเผาผลาญไขมันประมาณ 9 กิโลแคลอรี  ถ้าเราดื่มน้ำ 8 แก้วก็จะเผาผลาญไขมันได้ถึง 70 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว นั่นก็หมายความว่า ยิ่งดื่มน้ำมาก ก็จะยิ่งช่วยลดความอ้วน แต่ในคนที่กำลังลดความอ้วน ลดปริมาณอาหารแต่ลืมดื่มน้ำ ต้องระวัง เพราะน้ำหนักจะไม่ลง เพราะน้ำคือตัวช่วยทำให้ไขมันสลายเร็วขึ้นนั่นเอง
 
          ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าการดื่มน้ำมากๆไตจะทำงานหนักไปหรือไม่  ก็ต้องบอกว่าน้ำจะเป็นพิษต่อร่างกายนั้น ต้องดื่มมากเป็น 10 ลิตร อย่างเช่น กรณีการรับน้องแบบพิเรนทร์ ๆ ที่เราเห็นข่าวกัน ส่วนคนทั่วไปดื่มน้ำอย่างเก่งสัก 5 ลิตรก็ไม่เป็นอะไร
 
          ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน หรือน้ำอุณหภูมิปกติ ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร หลักการง่ายๆ คือน้ำเย็นควรดื่มเวลาออกกำลังกาย จะดูดซึมเร็ว แต่มีข้อห้ามในผู้หญิงที่มีประจำเดือน ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะจะยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้น ส่วนน้ำอุ่นควรดื่มเพื่อกระตุ้นลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวดี เช่นเวลาท้องเสีย เจ็บคอ เป็นหวัด
 
          นพ.กฤษดา บอกว่า ใครที่ไม่อยากแก่ ต้องดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น เนื่องจากผิวที่แก่เกิดจากการขาดน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ ยังช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย โดยเฉพาะในผู้ชายอาจทำให้น้ำไปเลี้ยงอสุจิไม่พอ ทำให้อสุจิไม่แข็งแรง และเซ็กซ์เสื่อมได้ 
   
          ในคนที่มีอาการคล้ายจะเป็นหวัด เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง อย่าเพิ่ง กินยา ให้ดื่มน้ำมาก ๆ สักพักจะหายได้ โดยไม่ต้องพึ่งยา ที่เป็นเคล็ดสำหรับคนดื่มเหล้า คือ ถ้ากลัวว่า จะแฮงก์ควรดื่มน้ำตามเข้าไปประมาณ 4 เท่าของเหล้าที่ดื่มก็จะช่วยได้
 
          แต่ละวันเราควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน? นพ.กฤษดา บอกว่าควรดื่มน้ำตามน้ำหนักตัวคือ ดื่มน้ำ 1 ออนซ์ ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.  ถ้าน้ำหนักตัว 60 กก.ก็ต้องดื่มน้ำ 60 ออนซ์  โดยน้ำ 1 ออนซ์ก็ประมาณ 30 ซีซี คนน้ำหนัก    60 กก. ก็ต้องดื่มน้ำประมาณ 1,800 ซีซี.

http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99/

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: ข้อโต้แย้ง มะเร็ง น้ำเย็น อันตราย สุขภาพ อนามัย วิทยาศาสตร์ ร่างกาย 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ข้อโต้แย้ง กรณี Forward Mail เกี่ยวกับ "โค้ก" ว่ามันมีฤทธิ์ถึงขั้นเอามาล้างห้องน้ำได้ ละลายกระด
สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
หมีงงในพงหญ้า 3 5902 กระทู้ล่าสุด 10 กรกฎาคม 2556 21:41:49
โดย หมีงงในพงหญ้า
ดูวิธีแก้ถูกทาสีทับ กรณี “หลวงพ่อดำ” วัดโกโรโกโส อยุธยา ถูกทาสีน้ำมันทั้งองค์!
ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
ใบบุญ 0 1877 กระทู้ล่าสุด 27 ตุลาคม 2561 15:34:00
โดย ใบบุญ
[ข่าวบันเทิง] - ชาวเน็ตเดือดหนัก! กรณี “แม่แตงโม” ส่งมือถือลูกให้ “บังแจ๊ค” ที่อเมริกา
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 307 กระทู้ล่าสุด 27 พฤษภาคม 2565 02:56:06
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - กลืนนำ้ลายตัวเอง “อินโดฯ” ไม่ออก “AFF” แม้ไม่พอใจ กรณี ไทย-เวียดนาม ยู-19
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 344 กระทู้ล่าสุด 26 กรกฎาคม 2565 22:21:13
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - มส.ให้ทุกวัดจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์เป็นขวัญและกำลังใจ กรณี รล.สุโขทัยอับปาง
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 354 กระทู้ล่าสุด 25 ธันวาคม 2565 00:44:06
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.327 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 24 ตุลาคม 2567 19:57:53