"นาฬิกาโลกาวินาศ"ถูกปรับให้เหลืออีก 5 นาที..สู่วันสิ้นโลก
นักวิทยาศาสตร์ร่วมแถลงปรับ "นาฬิกาวันสิ้นโลก" ให้เหลืออีก 5 นาทีจะถึงเที่ยงคืนอันเป็นเส้นตายแห่งหายนะ พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า จะเกิดการพัฒนาในการแก้ปัญหาอาวุธนิวเคลียร์และโลกร้อน
"นาฬิกาโลกาวินาศ" (Doomsday Clock) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้างของเหล่ามนุษย์ ได้ถูกปรับอยู๋ในตำแหน่งที่ 23.54 น. เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 นาทีก็จะถึงเที่ยงคืน ซึ่งเที่ยงคืนตรงหมายถึง "การทำลายอันมีผลหายนะใหญ่หลวง"
คณะกรรมการวารสารวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ "เดอะบูลเละทิน" (Bulletin of Atomic Scientists : BAS) ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างยิ่งในวงการ เป็นผู้ดูแลนาฬิกาวันสิ้นโลกนี้ ได้ตัดสินใจลดระยะเวลาอยู่รอดของโลกให้สั้นลง ก็เพื่อต้องการกระตุ้นให้เหล่าผู้นำโลก ลดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาภาวะภูมิอากาศผันผวน
คณะกรรมการเหล่านี้ ประกอบไปด้วย ผู้ได้รับรางวัลโนเบลจำนวน 19 คน ต่างร่วมกันแถลงเมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับการปรับนาฬิกาว่า อาวุธนิวเคลียร์ไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้ และไม่ใช่สิ่งที่ควรทำมาใช้เพื่อการทำลายล้าง เพราะไม่มีประสิทธิภาพในการชำระล้างผู้ใด
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังชี้ว่า ปัญหาโลกร้อนนั้นคุกคามยิ่งใหญ่กว่าปัญหานิวเคลียร์ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงเรียกร้องให้บรรดาผู้นำประเทศต่างให้ความร่วมมือแก้ปัญหาเหล่านี้
ทั้งนี้ นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกสร้างขึ้นมาในปี 1947 หลังสหรัฐฯ ทิ้งปรมาณูทำลายญี่ปุ่นไม่กี่เดือน เป็นแนวคิดของกลุ่มนักฟิสิกส์ในโครงการแมนฮันตัน (Manhattan Project) ที่พัฒนาอาวุธล้างโลกขึ้น จากนั้นพวกเขาได้เตือนให้ทำลายอาวุธนิวเคลียร์ก่อนที่จะสาย
แรกเริ่มนั้นตั้งเข็มไว้ห่างจากเที่ยงคืนถึง 7 นาที และจากนั้นมีการปรับเข็มมาแล้วเพียง 18 ครั้ง โดยก่อนที่จะปรับกันในวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมานี้ ปี 2007 คณะกรรมการก็ได้ปรับให้เหลืออีก 5 นาทีก่อนจะถึงเที่ยงคืน ด้วยปัญหาเกาหลีเหนือที่ได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งสถานการณ์ท่าทีของอิหร่านต่อนิวเคลียร์ในช่วงปีเดียวกัน
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ ข่าววิทยาศาสตร์