[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 12:08:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระเจ้า=พระพุทธเจ้า + วิธีการเข้าหาพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)ของพุทธและคริสต์  (อ่าน 3569 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2553 14:48:30 »

ทกท่านครับ รวมทั้งคริสตศาสนกชนด้วย


1. เหตุที่พระพุทธเจ้าไม่เรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระเจ้า?

องค์พระผู้เป็นเจ้าคือ จิตมหาบริสุทธิ์  พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า พระพุทธเจ้าองค์ปฐม หรืออาทิพุทธเจ้า หรือพระธรรม สาเหตุที่พระพุทธเจ้าไม่เรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระเจ้า? แต่เพิ่มคำว่า "พุทธ"ไว้ตรงกลางด้วย = พระ(พุทธ)เจ้า  เพราะพระองค์ท่านรู้ว่า ไม่มีการสร้างอะไรด้วยอัตตาของจริงเลย 

ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นความว่างเปล่าที่ถูกอัดแน่น มีความเข้มข้ม ความถี่และคลื่นต่างระดับกันเท่านั้น  แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากๆ และวิทยาการทางกายภาพของเรา ก็ก้าวหน้าไปได้แค่ขึ้นหนึ่งเท่านั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้ชัดเจนได้ว่า ความจริงเป็นอย่างไร  จึงต้องใช้จิตเท่านั้น  แล้วคนที่จะมีจิตรู้ถึงขั้นนั้นอย่างน้อยต้องบรรลุอรหันต์ ผมจึงขอผ่านเรื่องนี้ไปก่อน

เอาเป็นว่า...ทุกสรรพสิ่งที่ท่านรู้เห็นรอบตัวท่าน  ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ข้าวของ เงินทอง รถยนต์ ล้วนเป็นของปลอม ที่เกิดจากจิตของพวกท่านทำบุญกุศลเอาไว้ เลยต้องมีและได้สิ่งเหล่านี้  คนที่ไม่ค่อยทำบุญกุศล  ก็ไม่ค่อยมี และไม่ค่อยได้สิ่งเหล่านี้  ความตายและคนทุกข์ยากต่างๆล้วนเกิดจากเขาเคยทำบาปหรืออกุศลเอาไว้  จิตของเขาจึงโดนหลอกหลอนให้คิดปรุงแต่งว่า มีการเสียทรัพย์ เสียแขนขา ฯลฯ ซึ่งเป็นของเขา

พูดง่ายๆ...พวกเราทั้งหมดกำลังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ และโลกแห่งความฝันของจิตใต้สำนึกของท่าน  ซึ่งเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึกของคนอื่นๆ เหมือนกับระบบอินเตอร์เน็ต

สรุป

คนที่เรียกสิ่งสูงสุดว่า พระเจ้า เพราะเขาคิดว่า ทุกสรรพสิ่งเป็นของจริงของแท้  แต่คนที่รู้แล้วว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่ใช่ของจริง เป็นแค่สิ่งมายาเกิดจากกรรม จะเรียก "พระเจ้า ว่า พระพุทธเจ้า"


2. พระ(พุทธ)เจ้าอยู่ในจิตของพวกท่านทุกท่าน  แต่พวกท่านจะไปหาพระองค์ได้อย่างไร?

ตอบว่าเป็นการยากเหลือเกินที่มนุษย์ที่โดนปกคลุมด้วยกิเลสตัณหาจะหาพระ(พุทธ)เจ้าในตัวเองเจอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีมารในใจพวกท่านคอยล่อหลอกด้วย  มีแต่ผู้มีบารมีเท่านั้น จึงจะพ้นบ่วงมารที่คอยดักจับได้  อย่างไรก็ตาม ศาสนาพุทธเถรวาท ศาสนาพุทธมหายาน และศาสนาคริสต์ ก็มีวิธีการเข้าไปหาพระพุทธเจ้า  โดยไม่ต้องไปตกนรกและอบายภูมิที่ไหนให้เสียเวลา


--- วิธีการเข้าไปหาพระ(พุทธ)เจ้าของเถรวาท  โดยไม่ต้องไปตกนรกและอบายภูมิ


ศาสนาพุทธเถรวาท พระพุทธองค์สอนให้พึ่งพระรัตนตรัยและพระพุทธเจ้าเอาไว้ก่อน จะไม่ตกนรก ขึ้นสวรรค์อย่างเดียว แล้วก็ค่อยๆฝึกวิชาละกิเลสต่อไปเรื่อยๆในโลก

"ผู้ถือเอาพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้นั้น ชื่อว่าพ้นจากอบาย ทั้งยังจะได้เกิดในเทวโลก"

"ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว จักไม่เข้าสู่อบายภูมิ ครั้นละจากอัตภาพของมนุษย์แล้ว ย่อมยังกายของเทพให้บริบูรณ์"

"ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ"



--- วิธีการเข้าไปหาพระ(พุทธ)เจ้าของมหายาน  โดยไม่ต้องไปตกนรกและอบายภูมิ


คนในประเทศจีน ญี่ปุ่น และประเทศที่นับถือศาสนาพุทธมหายาน  พวกเขาซื้อประกันไว้แล้วว่า เมื่อเขาตายไปแล้วจะไม่ตกนรกในสังสารวัฎฎ์ โดยเข้าไปเกิดในแดนสุขาวดี

ในหลายพระสูตรมากทีเดียว  พระพุทธองค์สอนให้พึ่งพระพุทธเจ้านามพระอมิตาภพุทธเจ้า เพื่อเข้าไปเกิดในแดนสุขาวดี จะไม่ตกนรก แล้วก็ค่อยๆฝึกวิชาละกิเลสต่อไปเรื่อยในแดนสุขาวดี  ไม่ต้องไปเกิดในภูมิต่ำ และไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์   เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่าปณิธานข้อหนึ่ง ที่ภิกขุธรรมกรตั้งจิตปณิธานไว้ 48 ประการต่อพระพักตร์ของ พระโลเกศวรพุทธเจ้า ก่อนที่ภิกขุธรรมกรจะบรรลุธรรมกลายเป็นพระพุทธเจ้า นาม "อมิตา" มีว่า:

"ถ้าสรรพสัตว์ทั่วทุกทิศ มีจิตศรัทธาปราถนาจะบังเกิดในสุขาวดีแล้ว พึงมนสิการในใจอยู่ 1 ครั้ง หรือ 10 ครั้งก็ตาม หากมิได้อุบัติตามปราถนา ข้าพระบาท(ภิกขุธรรมกร) จักไม่ขอบรรลุโพธิญาณ"


--- วิธีการเข้าไปหาพระ(พุทธ)เจ้าของชาวคริสต์  โดยไม่ต้องไปตกนรกและอบายภูมิ


องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งพระโพธิสัตว์ต่างๆมาเพื่อจะช่วยมนุษย์  พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งชื่อ "เยซู"  องค์พระผู้เป็นเจ้าที่เรียกว่า พระบิดา ได้ประทานพุทธเกษตร หรือสวรรค์แบบหนึ่งให้ปกครอง  สวรรค์ของพระคริสต์นี้ จะเข้าไปได้ต้องทำตามกฎที่ท่านตั้งไว้ คือ ทานปังปอน และดื่มเหล้าองุ่น จากสาวกที่สืบต่อกันมาของพระองค์ เป็นตัวแทนของร่างกายและโลหิตของพระเยซู   วิญญาณของท่านก็จะไม่ต้องมาวนเวียนรับกรรมในโลกอีก ยกเว้นว่า ท่านต้องการ = เมื่อเข้าไปอยู่ในศาสนาคริสต์  เมื่อตายแล้ว วิญญาณจะไปอยู่ในสวรรค์ของพระคริสต์  และท่านจะอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป 

หลักความเชื่อและคำสอนของคริสเตียน

10.3 ผู้เชื่อจะได้อยู่ในสวรรค์ตลอดไป ไม่มีสิ้นสุด   จะได้อยู่กับพระเจ้า และไม่มีการลงโทษ น้ำตา ความเจ็บปวด ความมืด และความบาปอีกต่อไป เป็นสถานที่บริสุทธิ์ เฉพาะคนที่พระเจ้าทรงชำระแล้ว คือ ผู้ถูกไถ่ให้พ้นบาป ด้วยโลหิตขององค์พระเยซูคริสต์ พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ด้วยเหตุนี้ สวรรค์ของพระคริสต์ จึงไม่ใช่สวรรค์นิรันดรของพระบิดา หรือนิพพาน  แต่สวรรค์ของพระคริสต์เกิดขึ้นจากการไถ่บาปด้วยโลหิตขององค์พระเยซูคริสต์   ซึ่งเราจะอยู่ที่นั่นได้ตลอดไปเช่นกัน  แม้ว่าเราจะทำจิตให้บริสุทธิ์ระดับพระเยซูไม่ได้

อนึ่ง...พึงระลึกว่า  พระเยซูสร้างหลักประกันว่าจะไม่ตกนรกของศาสนาคริสต์

มัทธิว 7:13-14 พระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่า

13 "จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก"
14 "เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย"


“ประตูแคบ" = สรวงสวรรค์ที่พระบิดาประทานให้พระคริสต์ปกครอง
"ประตูใหญ่” = การเวียนว่ายตายเกิด

โรม 3:23 - การเข้าแผ่นดินสวรรค์ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าความดีของเรามีมากกว่าความชั่ว เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว คงไม่มีสักคนที่จะเข้าไปได้ “แต่ถ้าพวกเขาได้รับความรอดโดยทางพระคุณของพระเจ้า... "

.....ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ "ประตูใหญ่” = การเวียนว่ายตายเกิด ชาวพุทธเถรวาทมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะสมมุติสงฆ์ของไทยไม่ยอมสอนเรื่องการก้าวล่วงบาปกรรม และไม่สอนเรื่องให้ยึดเอาพระพุทธเจ้าและพระรัตนตรัยเป็นสรณะแบบจริงๆจังจัง  เพียงแต่พูดๆไปอย่างนั้นเอง

สรุป

 สวรรค์ของพระคริสต์ = พุทธเกษตร ชัดๆ   เพราะสวรรค์ของพระคริสต์มีอยู่สำหรับผู้เชื่อจะได้อยู่ในสวรรค์ตลอดไป ไม่มีสิ้นสุด  และมีกฎการรับเข้าไปในสวรรค์(พุทธเกษตร)แห่งนี้ด้วย ... เฉพาะคนที่พระเจ้าทรงชำระแล้ว คือ ผู้ถูกไถ่ให้พ้นบาป ด้วยโลหิตขององค์พระเยซูคริสต์ พระผู้เป็นเจ้าของเรา

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในปริเฉทที่ ๑ พระพุทธเกษตรวรรค พระสูตรวิมลเกียรตินิรเทศสูตร ว่า:

พระโพธิสัตว์ย่อมบำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์โปรดสรรพสัตว์ จึงอาจสามารถให้สำเร็จซึ่งพุทธเกษตรได้ อุปมาดังบุคคลผู้ปรารถนาจักสร้างปราสาทในแผ่นดินที่ว่าง เขาย่อมยังกิจที่ปรารถนาให้สำเร็จได้ แต่ถ้าเขาไม่อาศัยแผ่นดินกลับไปอาศัยอากาศเพื่อนสร้างปราสาทไซร้ ย่อมไม่มีหนทางสำเร็จฉันใด พระโพธิสัตว์ก็มีอุปไมยฉันนั้น กล่าวคือ ในการยังพระพุทธเกษตรให้สำเร็จบริบูรณ์ ก็เพื่อประโยชน์แห่งสรรพสัตว์นั้นเอง

ด้วยเหตุนี้ พระเยซูจึงสามารถสร้างพุทธเกษตร ที่ชื่อว่า สรวงสวรรค์ของพระคริสต์ได้ เพื่อประโยชน์แห่งสรรพสัตว์นั้นเอง โดยผู้ที่จะสามารถเข้าไปได้ต้องเชื่อและศรัทธาในพระเยซู และรับพิธีมิสซา ดื่มเหล้าองุ่น แทนโลหิตของพระเยซู ทานปังปอน แทน ร่างกายของพระเยซู

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
▄︻┻┳═一
SookJai.com
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 795


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2553 20:37:19 »

ตกลงคุณเป็นคริสต์ ที่มาล้างสมองชาวพุทธให้สับสน ?
บันทึกการเข้า

phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2553 21:10:37 »

ไปฝั่งชาวคริสต์ก็ถูกต่อว่า จะไปลบล้างความเชื่อและศรัทธาของเขาที่มีต่อพระเจ้า  มาฝั่งชาวพุทธก็โดนต่อว่า

ไม่มีใครรู้เลยว่า  พระเยซูเป็นอรหันต์โพธิสัตว์ของชาพุทธมหายาน  เดี๋ยวจะเอาหลักานมาลง
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.61 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 20 ธันวาคม 2567 00:50:06